สวัสดีปีใหม่คร้าบบ
อาจจะช้าไปหลายวันแต่ยังไงบ้านนี้ก็ขอสวัสดีปีใหม่ 2558 สำหรับเพื่อนๆพี่ป้าน้าอา ของปันทุกคนนะครับ ปีใหม่นี้ปันไม่มีอะไรให้ได้นอกจากความตั้งใจจะส่ง ความสุขใจ ความเพลิดเพลิน ที่ปันจะชวนกันไปเที่ยวเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา ครอบครัวปันสัญญาว่าจะเก็บเกี่ยวเรื่องราวท่องเที่ยวดีๆที่น่าสนใจ ขยันเอาที่เที่ยวสวยๆ ที่กินดีๆ ที่พักน่านอนมาฝากเช่นทุกๆปีที่ผ่านมานะครับ
ครอบครัวของเราขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้มีความสุขกาย สุขใจกันตลอดปีนี้ไปจนถึงปีหน้าเลยนะคร้าบบบ สาธุ
และ สำหรับทริปแรกของปีนี้ เป็นทริปใหม่หมาดๆของบ้านเรามาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่พึ่งไปกันมาเลย
กันไกลสุดของทะเลตะวันออกอย่าง เกาะกูด เกาะในฝันของใครหลายคนรวมทั้งของ (พ่อ)ปันด้วยเช่นกันนะครับ เพราะตั้งแต่เที่ยวมานี่คือเกาะที่ ยังไม่เคยได้มาสัมผัสเลยแม้แต่ครั้งเดียว เอาละไม่ให้เสียเวลาอารัมพบทไปมากกว่านี้เราไปเที่ยวกันดีกว่า
การเดินทาง
เนื่องจากช่วงวันที่เรามาเป็นวันสิ้นปีพอดี การมาหนนี้จึงตั้งใจจะออกให้เช้าสุดน่าจะปลอดภัยและหนีความคับคั่งบนท้องถนนได้ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ เราขับรถบึ่งกันมาโดยใช้เส้นมอเตอร์เวย์ และขับมาจนสุดทางออกมอเตอร์เวย์ จะสังเกตุเห็นป้ายบอกทางแยกซ้ายไป แกลง-ระยองและวิ่งยาวต่อไปผ่านจันทบุรีจนถึง ป้ายสุดท้ายที่จังหวัดตราดนั้นละครับ รวมระยะทางมากกว่า 380 กิโลเมตรใช้เวลาราวๆ 4-5 ชั่วโมงหากขับที่ 90-120 กิโลเมตร/ชั่วโมงครับ
รถบนท้องถนนค่อนข้างหนาตาแต่ไม่ถึงกับทำให้ติดเสียเวลาแต่อย่างใด มีก็คงเป็นถนนที่ไม่เรียบเลยตั้งแต่แยกออกซ้ายมาทางระยอง เป็นหลุมบ่อและเกลี่ยไม่เรียบ ทำให้กระเด้งกระดอน ในเวลาต้องทำความเร็ว เพราะฉะนั้นอย่าขับเร็วกันนะครับ กับเส้นนี้ ระมัดระวังให้มากครับ
ท่าขึ้นเรือไปเกาะกูดน่าจะอยู่ไกลสุดในบรรดาท่าเรือเกาะทั้งหลายของจังหวัดตราด และเนื่องจากมีผู้ให้บริการเรืออยู่หลายเจ้า ทำให้ทุกเจ้าจะมีท่าขึ้นเรือของตัวเอง ณ.ตอนนี้ (ปี2558) มีผู้ให้บริการหลากหลายเจ้ามาก ยิ่งคุณๆหาข้อมูลในเน็ตดู ก็จะพบเยอะมากๆ แต่จะขอแนะนำที่ตอนจะเดินทางมาทำการบ้านหามาอยู่ 3 เจ้าคือ 1.เกาะกูดเอ๊กเพรส จะต้องไปขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก, 2.เกาะกูดปริ๊นเซส และสุดท้าย 3.บุญศิริ นั้นจะต้องไปขึ้นที่ท่าเรือแหลมศอก อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดตราด 30 กิโลเมตร ซึ่งผมก็ใช้บริการเจ้าบุญศิรินี้ละครับ เนื่องจากเป็นช่วงหน้า High และเทศกาลทำให้ราคาโดดขึ้นไปเป็น ไป-กลับ คนละ 1,000 บาท!!! แพงมากกก
โชคดีที่เด็กอย่างปันไม่เสียหากต่ำกว่า 4 ขวบครับ อ่อแต่ถ้าจองผ่านเว็บราคาจะลดลงอย่างน้อย 100 บาท ยังไงใครจะไปลองจองไปก่อนผ่านเว็บอาจจะได้ราคาดีกว่าไปซื้อที่ท่าครับ ลองดูข้อมูลตาม link นี้นะครับ ในภาพปันกำลัง ลั๊นลาสุดๆ พอบอกจะขึ้นเรือถูกใจมากกก
http://www.boonsiriferry.com/en/service/ferry.html
นั่งเรือเฟอร์รี่ขนาดลำไม่ใหญ่เท่าที่ขนรถขึ้นได้ อย่างตอนไปเกาะสมุย แต่ก็ปลอดภัยและเรือค่อนข้างใหม่ใช้ได้ ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงก็ถึงโดยหากมีผู้โดยสารจะลงเกาะหมากก็แวะได้อาจจะเพิ่มเวลาขึ้นอีก 10นาที ถือว่าเร็วมาก เพราะหากเป็นเรือธรรมดาจะใช้เวลามากกว่านี้อีกเท่าตัว
หลังลงจากเรือ ราคาที่จ่ายมาจะรวมรถรับส่งไปยังรีสอร์ทโดยเราเพียงแจ้งกับรถว่าเราจะไปรีสอร์ทอะไรจะมีแบ่งสายกันวิ่งไปตามจุดและหาดต่างๆทั่วเกาะ อย่างหนนี้ผม มาใช้บริการ “สีฟ้า รีสอร์ท” ( Seafar Resort )รีสอร์ทเปิดใหม่กิ๊กๆแบบ ไม่เกิน 1 เดือนกันเลย ตัวรีสอร์ทจะอยู่ไม่ห่างจากทางเรือน้ำลึก เรียกว่าลงมาบนสะพานปั้บ มองขวาไปก็เห็นตัวรีสอร์ท สีฟ้าเด่นแต่ไกล
ดูจากท่าเรือมองไปที่รีสอร์ทเหมือนจะไม่ไกล แต่นั่งรถก็วนไปมาหลายรอบใช้ได้ ถนนบนเกาะจะเป็นถนนเล็กๆแคบๆวิ่งสวนกันด้านละเลน ใช้เวลาราวๆ 15 นาทีก็มาถึงแล้วละครับ
ตัวสีฟ้ารีสอร์ท จะแบ่งโซนห้องพักออกเป็น 2 โซนคือ ห้องที่อยู่ริมหาดทรายด้านหน้าจะเป็นบ้านแบบ ตู้คอนเทนเนอร์ และทาสีฟ้าโดดเด่นสมชื่อรีสอร์ท
และตัวด้านหลังที่ติดคลองจะเป็นสีน้ำตาลแบ่งกันชัดเจนมาก และห้องพักของเราก็เป็นโซนนี้ละครับ
เข้ามาในห้องก็ใหม่ดีนะครับ มีทุกอย่างประมาณครบในมาตรฐาน 3 ดาว
เตียงขนาด Queen size มีน้ำอุ่น ขนมและน้ำดื่มให้วันละ 2 ขวด ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไป ห้องขนาดไม่ใหญ่แต่ก็นอนกันได้ทั้งบ้าน
ห้องน้ำขนาดกำลังดีนะครับ อุปกรณ์มีให้ครบ ตัวน้ำร้อน น้ำอุ่นใช้เป็นรุ่นที่ใช้แก๊ส ทางรีสอร์ทแยกตัวเครื่องไว้นอกห้องก็ทำให้ดูปลอดภัยดี วันที่เราเข้าพัก น้ำร้อนต้องปิดๆเปิดๆเป็นระยะตัวควบคุมเหมือนจะทำงานควบคุมได้ไม่ดีนักเลยใช้วิธีปิดเปิดบ่อยๆจะทำให้น้ำร้อนได้สม่ำเสมออันนี้ต้องแจ้งกับทางพนักงานให้มาปรับให้ได้หากเจอแบบเรานะครับ
สำหรับที่พักบนเกาะกูดนี้ แทบทั้งเกาะจะเน้นขายเป็น Package / คน มากกว่าจะขายเป็นห้อง เพราะความที่เป็นเกาะที่ไกลเลยทำให้ราคาหากซื้อมาพักเป็นคืนๆไปก็ดูจะไม่คุ้มอยู่เหมือนกัน และราคาเฉลี่ยที่พักของที่นี่ดูจะสูงสมกับที่อยู่ไกลสุดของทะเลไทย อย่างที่นี่ราคา package จะอยู่ที่ 7,000/คน อาหาร ครบ3 วัน แต่ยังไงก่อนมา ราคาจะปรับเปลี่ยนไปตาม season และช่วงเวลา โปรดติดต่อรีสอร์ทก่อนไปนะครับกันเต็มครับ
มาถึงก็เล่นทรายสนุกกันหน่อย เวลาสนุกกับครอบครัวมีทันทีอย่างที่ตั้งใจกันไว้จะมาปิดท้ายปีกันที่เกาะกูดนี้
หาดทรายของตรงท่าเรือน้ำลึกทรายขาวใช้ได้
เล่นทรายเบาๆกันปัน มีความสุขในแบบครอบครัวเล็กๆ ของพวกเรา
หิวๆก็เลยสั่งอาหารมาทานกันดู รสชาติดีเชียวนะ อย่างข้าวผัดสับปะรด ผมเลยสั่งต้มยำซีฟู้ดมาคู่กันอร่อยทั้งคู่เลย
บรรยากาศตอนพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าช่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเวลาที่อากาศดีขนาดนี้ หน้าหนาวพระอาทิตย์เข้าใกล้โลกของเรามากกว่าทุกฤดูทำให้พระอาทิตย์ดวงโตกว่าที่เคย และวันนี้ก็ลับขอบฟ้าเราไปต่อหน้าต่อตากันเลย
หน้าหาดตอนนี้จึงเต็มไปด้วยโต๊ะตั้งเรียงรายเพื่อให้แขกทุกคนได้ฉลองเวลาพิเศษที่อบอวลไปด้วยความเร้าใจ
วิวยามอาทิตย์ลับขอบฟ้าช่างโรแมนติกมากก
หลายคู่ก็เลือกนั่งชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นกันแบบนี้…
รีสอร์ทก็มีมุมน่ารักๆจัดเป็นคู่ให้นั่งชิลล์ได้ยามเย็น
ยิ่งมีเปลผูกให้นอนมองลูกสีส้มๆค่อยๆหายไปในทะเลยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ
ช่วงเวลาดีๆกับครอบครัว เราจึงสามารถพบเห็นได้แม้แต่ในวันสิ้นปีแบบนี้
ทั้งโรแมนติกและดูอบอุ่นไปพร้อมๆกันเลย
บาร์ริมทะเลเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และในเวลาแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ฝรั่งที่มาต่างก็นั่งฝังตัวเองอยู่หน้าบาร์นั้นเอง
คืนนั้นผมไม่ได้อยู่ Count Down แบบที่ตั้งใจไว้ว่าจะฉลองปีใหม่ร่วมกันกับทุกคนที่มาเที่ยว กลายเป็นการหลับข้ามปีกันแทน (^__________^)
เช้าแรกปี2558 เช้าวันแรกของปีบรรยากาศทะเลหนาวเป็นยังไงเช้าวันนั้นทำให้ผมได้รู้ อากาศดีจนไม่คิดว่าเป็นทะเลเลย
ตัวรีสอร์ทเองจัดอาหารเป็นแบบบุปเฟต์รับรองแขก บอกเลยรสชาติถูกใจคนไทยแน่นอน confirm ด้วยการที่ผมเดินกลับไปเติมอีก 2 รอบแล้ว
อิ่มกันดีแล้วได้เวลาออกเที่ยวแล้ว เราเหมารถพาเที่ยว ให้ทางสีฟ้า รีสอร์ทเป็นคนติดต่อให้ ราคาตั้งแต่เช้าจนถึง บ่าย 2-3 โมงเหมากันที่ 1,000บาท ส่วนตัวคิดว่าไม่แพงนะครับ กับเกาะเล็กๆที่ถนนหนทางไม่ง่ายแบบนี้
ปันกับแม่ปันสนุกสนานกันใหญ่เลย
ทีแรกที่แวะมาเที่ยวคือ “เขาเรือรบ” เห็นชื่ออาจจะงงเล็กน้อย แต่ถ้าเราเดินเข้าไปจนเจอตัวเขาก็หายงง ทันที่เพราะตัวเขาหากมองจากด้านล่างขึ้นไป
เห็นเป็นเรือรบจริงๆด้วยครับ
ตัวเขาเหมือนแยกออกมาเป็น 3 ลูกเป็นทรงเรือทั้งหมด จะว่ายังไงดีล่ะมันช่างแปลกมากๆ ยิ่งพอมีการขึง เสาให้เป็นดูคล้ายหัวเรือจริงๆเพราะมีการวางห่วงยางจริงๆเข้าไปยิ่งเหมือนมากๆ
ด้านบนปีนขึ้นมาจะมีการอัญเชิญวางพระบรมฉายาลักษณ์ของ กรมหลวงชุมพรตั้งอยู่ เด่นเป็นสง่าราศี เสริมให้เขาทั้งสามลูกนี้ดูมีมนต์ขลังเข้าไปอีก
ข้างๆกันมีการศาลาและพระพุทธรูปวางติดกัน ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงปู่ศุข ให้กราบไหว้ขอพรกันด้วยนะครับ
ใช้เวลาไม่นานเราก็พาปันกลับมาที่รถ เพื่อไปเป้าหมายต่อไปคือ น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกชื่อดังประจำเกาะกูด
ช่วงที่เราไปเข้าเป็นหน้าหนาวทำให้น้ำในน้ำตกน้อยกว่าปรกติ
บรรยกาศน้ำตกก็สวยไปอีกแบบ สำหรับใครที่มีเวลาละก็ควรมาช่วงหน้าฝน ประมาณต้นฝนก็น่าจะดูชุมช่ำกว่าตอนเราไปแน่ๆ
ที่แวะต่อมาเป็นที่ๆประทับใจเรามากที่สุดของวันนี้เลย นั้นคือ “ชายหาดบางเบ้า”
เค้าว่าที่ๆหาดขาว น้ำใส สวยที่สุดของเกาะกูดคือที่นี่
และจากที่เห็นด้วยตาผมก็เชื่อเช่นนั้น ดูกันเองได้เลย บอกเลยว่าภาพที่นี่ผมแทบไม่ได้ตกแต่งอะไรพิเศษเลยครับ ทะเลกับหาดทรายมันใส และสวยแบบนี้เลย
เดินกันมาเรื่อยๆจนสุดหาด มีคลองเล็กคั่นกลาง น้ำก็สีเขียวมรกตดีเชียว
บริเวณรอบๆของที่นี่สวยมากๆ เห็นแล้วอยากจะบอกว่าลืมทะเลอันดามันไปพักใหญ่เลย
สมแล้วกับที่เคยได้ยินชื่อมานานว่าที่นี่คือเกาะที่สวยสุดของทะเลตะวันออก
หมดช่วงครึ่งเช้ามาแล้วท้องร้องกันดี ก็ต้องหาที่แวะกันแล้ว ที่เกาะแห่งนี้ ร้านอาหาร จะไม่ค่อยมีเปิดบริการ เวลาหาร้านอาหารจึงต้องไปหม่ำกันที่ร้านของรีสอร์ทมากกว่า และรีสอร์ทแรกที่ถือเป็นเป้าหมายของผมก่อนมาที่เกาะกูดเลยคือ ปีเตอร์แพน รีสอร์ท ได้ยินชื่อเสียงมานานได้เวลาเจอของจริงกันแล้ว
เดินเข้ามาก็ประทับใจใช่เล่นนะครับ แต่เพราะปีใหม่คนจึงเยอะมาก ตัวคนขับจริงๆเราจะสอบถามพูดคุยเรื่องกินอยู่ต่างๆเค้ารู้ดีมากๆเลย
อย่างร้านที่นี่ก็เป็นคำแนะนำของคนขับหมดเลย และก็ไม่ผิดหวังครับ
อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส แดดกำลังดีเลย
สวยมากๆ นั่งรอไม่นานพาเหรดอาหารก็ยกมาเสริฟ
รวมๆรสชาติอาหารอร่อยครับ เป็นรสชาติแบบคนไทยปรกติเลย คือไม่ได้ทำให้ฝรั่งกินได้เท่านั้น
บ่ายๆเรากลับมาที่รีสอร์ท กันวันนี้คือตั้งใจจะเล่นน้ำกันจนปิดท้ายวัน ปันสนุกสนานกับการเล่นทรายมาก ที่สำคัญหน้าหาดที่นี่ ค่อนข้างยาวใช้ได้ ตัวหาดปลอดภัยไร้กังวล แต่ด้วยความลาดเอียงของหาดบวกกับฤดูน้ำขึ้นน้ำลง หากผู้ปกครองทั้งหลายจะพาเด็กๆไปต้องสอดส่องและระมัดระวังให้ดีๆกันครับ
หลายคนจึงมาคอยชมตะวันลับขอบฟ้าสวยๆกันที่หน้าหาด ภาพตาหลานช่างดูน่ารักมากจริงๆ
ดวงตะวันกับผู้คน คงมีความหมายมากมาย เราจึงเห็นคนมีความสุขกับขอบฟ้า ดวงตะวัน และทะเลแบบต่างๆ
บรรยากาศวันนี้ดียิ่งกว่าเมื่อวานอีกนะครับ
มุมสวยๆก่อนตะวันจะลับขอบฟ้าอีกวัน…
ปิดท้ายด้วยภาพความประทับใจของวันแรกเริ่มต้นปีกันครับ ด้วยหมู่ดาวยามค่ำที่แข่งกันส่องแสงเป็นเหมือนหิ่งห้อยบนฟ้าแบบนี้
สรุปกันหน่อย
ทริปเกาะกูดเป็นความตั้งใจของพวกเราที่อยากสวนกระแสที่หน้าหนาวต้องไปทางเหนือ กันอย่างเดียว เพราะในความจริงแล้ว ทะเลตะวันออกก็สวนงามไม่แพ้ใครยิ่งหากมาฤดูนี้ พระอาทิตย์ดวงโตสวยงามกว่าทุกฤดูด้วยซ้ำไป และหากมาที่หาดท่าเรือน้ำลึก และพักที่ สีฟ้ารีสอร์ท ที่นี่น่าจะที่ๆเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงหน้าได้เลย วิวยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าโรแมนติกและน่าประทับใจมาก ตัวชายหาดเนื่องจากมีเวลาเที่ยวอยู่ค่อนวัน ไปได้ไม่กี่หาด หาดคลองพร้าวอันเป็นที่ตั้งของ ปีเตอร์แพน รีสอร์ท ทรายสวยหน้าหาดราบเรียบเหมาะแก่การเล่นน้ำดีมากๆ และที่ผมยกให้เลยคือหาดบางเบ้า ทั้งคนพาไปและผมเองนี่เรียกตกหลุมรักทันทีที่เห็น หาดขาดวนวลตา ทรายละเอียด น้ำทะเลที่ใสราวกระจก มันช่าง Amazing เหลือเกิน ผมต้องยกให้ที่นี่เป็น 1ใน 3 ชายหาดฝั่งอ่าวไทยที่สวยที่สุดที่ผมเคยไปมากันเลย
สำหรับตัวที่พัก “สีฟ้ารีสอร์ท” ตัวรีสอร์ทยังใหม่อยู่มากครับ และเป็นธุรกิจของครอบครัวบริหารกันเองทั้งหมด การบริการเองก็ใหม่ตามไปด้วย ยังไม่ครบถ้วนทุกอย่างเป๊ะๆแบบโรงแรมที่เปิดมานาน ส่วนตัวผมว่าด้วยราคาระดับ กลางๆหากเทียบกับรีสอร์ทอื่นๆ ไมไ่ด้ถูกสุด ไม่ได้แพงสุด หากคุณคาดหวังการบริการแบบเป๊ะๆคงจะไม่ได้แบบนั้น แต่ถ้ามองกันที่ความจริงใจ และเต็มใจบริการของเจ้าของ ผมก็ยังนับให้ว่าเป็นรีสอร์ทที่รอวันเติบโตตามเวลาครับ รวมๆถือว่าใช้ได้หากคุณรักแสงแดด สายลม และการบันทึกภาพพระอาทิตย์ดวงโตๆตกตรงหน้าหาด ที่นี่ก็ใช่เลย อาหารรสชาติถูกปากคนไทยแน่ๆ ห้องพักใช้ได้ ใหม่ทุกอย่าง อุปกรณ์ก็มีให้ ขาดเหลือสิ่งใดขอเพิ่มเติมที่ Couter ได้ตลอด ติดใจตรงหมอนนิดหน่อยที่นอนไม่สบายนักหากเปลี่ยนได้จะดีมากครับเพราะหมอนค่อนข้างหยวบเกินไปนิดนอนแล้วรู้สึกแบบนั้น
ท้ายนี้ทริปแรกของปีครั้งนี้สร้างความประทับใจเป็นอย่างยิ่งให้บ้านเรา หวังว่าทริปเล็กๆครั้งนี้คงกระตุ้นให้คุณได้เที่ยวทะเลไทยที่สวยที่สุดไม่แพ้ใครอย่างเกาะกูด นะครับ มีความสุขตลอดปี 2558 ได้เที่ยวได้กิน ได้ช้อป ในที่ๆอยากไปตลอดปีนะคร้าบบบบ
เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ
1 Comments
BuaBlink Prommool via Facebook
ตามๆๆๆ