แล้วผมก็ได้กลับมาเล่าต่อใน รีวิว 13 วันขับรถเที่ยวเกาะใต้นิวซีแลนด์แบบครอบครัวภาค Akaroa เมืองทะเลสาบสไตล์ฝรั่งเศส ผมเว้นจากรีวิวตอนแรกไปนานมาก(เกินปีกันเลย) ต้องบอกว่าถ้าไม่เป็นเพราะสถานะการณ์การติดไวรัสโควิดที่ทำให้ ผมมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้นเยอะ เรียกว่า มากจนน่าจะเขียน รีวิวทริปนี้จบสมดั่งใจตามที่ตั้งใจไว้มาตลอด
นิวซีแลนด์ เป็น 1 ในประเทศในฝัน เป็น Buget List ของผมมาหลายปีดีดัก เรียกว่า ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตาคงเสียใจ นอนตายตาไม่หลับเลยก็ว่าได้ ผมจึงรอตั๋วราคาดี ๆ เพื่อทำฝันนี้ให้เป็นจริง จนกระทั่งทำมันสำเร็จจนได้และเก็บมาเป็นรีวิวนี้ เอาล่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่ 2 ในซีรีย์ New Zealand ของผม และหากนับเป็นตอนแรกที่เราจะเริ่มพาทุกคนเที่ยวจริงจังกันสักที เรามา มาเที่ยวนิวซีแลนด์กันต่อดีกว่านะครับ
สำหรับคนที่อยากอ่านตอนแรก สามารถไปอ่านกันได้ที่นี่เลย รีวิว 13 วันขับรถเที่ยวเกาะใต้นิวซีแลนด์แบบครอบครัว Plan ก่อนเดินทาง
วิธีการอ่านรีวิว
เพื่อให้ทุกคนสามารถ อ่านตอนไหนก่อนหรือหลัง ก่อนได้ ผมตั้งใจจะเขียนจบในตอนเป็นเมือง+สถานที่เที่ยวรอบ ๆ ไว้ให้ เพระฉะนั้นหากไม่นับการเรียงเวลาแบบ Time line แล้ว ทุกคนสามารถอ่านตอนไหนก่อนก็ได้หมด โดยผมจะเรียงทุกตอนไว้ในตอนท้ายของรีวิวให้เราได้อ่านกัน แต่อยากแนะนำสำหรับการอ่านต่อเนื่อง จะไล่ลำดับไว้ เพื่อจะได้เที่ยวไปพร้อม ๆ กันได้ครับ
ตอนนี้จะพาไปยังเมืองแรกที่เรามาถึงเกาะใต้กัน Akaroa Town เมืองนี้เดิมแทบจะไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก แต่เพราะลงเครื่องที่สนามบินไครซ์เชิรต์ ช่วงสาย แล้วลองหาเมืองที่น่าจะอยู่ไม่ไกลจากสนามบินจนมาเจอเมืองนี้เข้า หลังจากหาข้อมูลอยู่พักนึงก็ตัดสินใจเลยว่า เราจะมาเริ่มต้นทริปกับที่นี่เลยดีกว่า
Plan Trip เราไปไหนกันบ้าง
พอรู้ว่าจะไปแน่ ๆ เส้นทางของพวกเราเลยปักหมุดกันที่เกาะใต้เป็นหลัก เราตัดเกาะเหนือ ออกทั้งหมด (ที่เครื่องลงคือ สนามบิน AUCKLAND )ตั้งใจว่าจะขับรถเที่ยวเกาะใต้( ต่อเครื่องมาลงสนามบิน Christchurch)ให้ทั่วให้หมด แต่หลังจากนั่งทำแผนออกมาเราเหลือเวลาเที่ยวจริง แค่ 11 วันหักวันแรกที่มาถึง ตอนราว 17.30 น ออกและขากลับ อีก 1 วันออกก็เลยได้แผนการเดินทางออกมาหน้าตาประมาณนี้เลย หากดูตามรูปทรงแผนที่ของเกาะแล้ว จะดูคล้ายตัวอักษร J ให้ดูลักษระตัวอักษรเป็นตามรูป คือเราออกเดินทางจากทางเหนือของเกาะ ตามตำแหน่งของสนามบิน Christchurch อยู่ด้านบนของเกาะ แล้วเราขับรถลงมาเรื่อยๆ จบที่ QueenTown ทรงมันก็เลยออกมาทรงคล้ายตัวอักษร J นั้นเองครับ (สำหรับแผนละเอียดสำหรับคนสนใจอยากได้ เรามีนะ ทักมาที่เพจเราได้เลย จะแจกให้อีกทีจ๊ะ )
บินมาด้วย Malaysia Airlines ดีไหม
เราขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯ เพื่อมาต่อเครื่องที่ มาเลเซีย บินกับ Malaysia Airlines การบริการดีมากครับ อาหารใช้ได้ ขามานั่งเครื่องใหญ่มาลง KL รอไม่นานมาก ก็ต่อเครื่องอีก 10 ชม.มาลงที่ Auckland จากนั้น ผมจองตั๋วของ Jetstar เพื่อมาลงที่ Christchurch ต่อ รวมเวลาทั้งหมดเกือบ 15 ชม. อาจจะดูนานกว่าบินตรงแต่ด้วยความที่แต่ละขา ตรงเวลาทุกอย่าง ทำให้เราไม่ได้ลำบากมากนัก ก็มายืนกันที่สนามบินในตอนเย็นได้แล้ว
รับรถที่นี่ยากไหม
ผมขอสรุปสั้น ๆ แล้วกันนะครับเพราะเขียนเรื่องการเตรียมตัวไว้แล้วจากตอนแรก ยังไงไปอ่านกันตรงนั้นได้ แต่จะบอกว่าที่นี่ปัญหาการใช้รถเอกสารต่าง ๆ น้อยกว่าฝั่งยุโรปมากครับ ไม่วุ่นวายอะไร ใช้เวลาไม่นานสำหรับบ้านเราราว 20 นาทีเสร็จ อาจจะเพราะคิวไม่ยาวมากด้วย ข้อดีการขับรถที่นี่คือพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเราทุกอย่าง ตัวรถเองก็คุ้นเคยดี ยี่ห้อญี่ปุ่นเยอะกว่ายุโรป ทำให้ยิ่งคุ้นเข้าไปอีกครับ
ที่พักวันแรก
วันแรกเราเข้าพักที่โรงแรมใกล้ ๆ สนามบินเพราะไม่อยากขับไกลเพราะบินมาไกลหลายชั่วโมงแล้ว ที่พักค่อนข้างดีใช้ได้ เรามากัน 4 คน สำหรับ ช่วงแรกของทริป ก่อนที่สมาชิกอีก 1 คนจะบินตามมาในอีก 6 วัน เพราะงั้นที่พักเราจึง เลือกแบบ 2 ห้องนอน และนี่คือที่ Airport Gateway Motor Lodge ถือว่าใช้ได้ มีครัวด้วย และใกล้ ๆ กับที่พักมีซุปเปอร์มาร์เก็ต เดินถึงได้เลย อีกเหตุผลนึงคือที่นี่มีรถรับส่งจาก โรงแรมไปสนามบินฟรีครับ เราเลยเลือกเลย เพราะรถเรายังไม่รับในวันนี้ตั้งใจจะไปรับในวันรุ่งขึ้นเพราะ กว่าจะมาถึงก็เย็นมากแล้วด้วย ประหยัดได้อีก 1 วัน
วิวระหว่างทาง
ปลายทางวันนี้หลังจากรับรถที่สนามบินเรียบร้อยแต่เช้า เราตั้งใจไปยังเมืองทางตะวันตกของเกาะใต้เป็นที่แรก นั้นคือ Akaroa Town เมืองริมทะเลสาบสวย ๆ ภูมิประเทศอยู่ในหุบเขาสีเขียวล้อมรอบ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศสไตล์ชนบทฝรั่งเศส ทำให้ผมอยากเห็นขึ้นมาทันที อีกเหตุผลนึงด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองและแผนการเดินทางแบบตัว J นั้นคือผมจะไม่กลับมาขึ้นเครื่องที่นี่อีกแล้ว โดยเลือกจะบินกลับจากเกาะใต้ที่เมือง Queentown แทนนั้นเอง
เราตื่นกันแต่เช้า จัดการอาหารเช้าเรียบร้อย ก็เคลื่อนพลกันเลยออกมาเจอฝนโปรยรับแต่เช้าเลยจ้า
วิวทิวทัศน์สองข้างทางสวยงาม แปลกตากว่าที่เคยเจอ แม้จะเป็นวันที่แดดไม่สดใสนัก เพราะฝนมาเยือนตั้งแต่เมื่อวานที่เรามาถึง แต่ก็ยังสวยมากสำหรับวันแรกของ Road Trip ของเรา
ขับไป สักพักฝนเทไม่ว่า ลูกเห็บก็มาด้วย เออ รับน้องตั้งแต่วันแรกของ Road Trip เลย
เราถือโอกาสแวะที่แรก ก่อนจะเข้าเมือง ก็ที่นี่เลย ฟาร์ม Shamara Alpaca ฟาร์มน้องปาก้า น่ารัก จินตนาการไว้ก่อนมาว่า
เราจะได้วิ่งในทุ่งหญ้า ให้อาหาร เล่นกันกับหนู ๆ เหล่านี้ได้อิสระกว่าที่ไทย ที่ต้องอยู่ในกรงอย่างเดียว เพราะอ่านในเว็บเค้ามีเป็นรอบ ๆ ในการจะได้เจอกับน้องๆ อัลปาก้าทั้งหลาย
แต่… มาวันฝนตกระดับลูกเห็บ ก็จบหมดจ๊ะ ยืนจ้องหน้ากันแบบมีรั้วกั้นชัดเจน โอ้วววลูกกก อดเล่นกันใกล้ ๆ เลย
ไหน ๆ เล่นกัน ไม่ได้เราแวะเข้าไปอุดหนุนของเค้าหน่อยกันดู ผลิตภัณฑ์จากขน อัลปาก้า ทั้งหมด และมีน้องแกะด้วย
แต่เมื่อเห็นราคาเราก็ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกับลูบไล้ให้สาแก่ใจ แล้วจากมาข้างนอกโดยไว เก็บไว้โอกาสหน้ามีโอกาสมาใหม่ จะตัดสินใจกันอีกทีแล้วกันนะ เพราะรอบนี้มาเจออากาศไม่เป็นใจเลย
Akaroa เมืองทะเลสาบสไตล์ฝรั่งเศส
ขับชมวิวเขาแปลกตา ราว 1.30 ชม. ผมก็เข้าเขต Akaroa Town แล้ว เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ บรรยากาศสุดชิลล์ แม้จะเป็นวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็ตาม เมืองนี้ตามประวัติที่ค้นมาฝากกันสั้น ๆ คือ Akaroa เป็นเมืองเล็ก ๆ บนคาบสมุทร Banks ในพื้นที่ Canterbury ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ตั้งอยู่ภายในท่าเรือที่มีชื่อเดียวกัน ชื่อ Akaroa คือKāi Tahu Māoriสำหรับ “Long Harbour” ซึ่งจะสะกดว่า “Whangaroa” ในภาษาพื้นฐิ่น Māori (อ่านมาเมารี เมาโรอี) เป็นเมืองที่แรกของนิวซีแลนด์ที่ชาวฝรั่งเศสเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ส่วนใหญ่คนมักมาชมปลาโลมา เพนกวิน และแมวน้ำว่าย ผลุบโผล่โชว์อยู่ในทะเลสาบสีฟ้าใส
แต่เรามาวันที่อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็ไม่เป็นไร เพราะเมืองนี้เล็กมาก ใช้เวลาขับรถราว ๆ 1-2 ชั่วโมงก็ทั่วแล้ว
กองทัพเดินด้วยท้อง เป้าหมายของเรามื้อกลางวันแรก เป็นอาหารที่ขึ้นชื่ออันนึงของเกาะใต้ Fish & Ships และเมืองนี้มีร้านดังอยู่ด้วย
ราคาไม่ได้แพงเลย ถ้าเทียบกับปริมาณที่เราได้ ไม่เชื่อดูตามภาพเลยครับ เรียกว่ากินกันไม่หมดสำหรับ 3 ผู้ใหญ่ 1 เด็กก็ว่าได้ รสชาติรวม ๆ จัดว่ามาแล้วต้องชิม เสียดายแค่ถ้ามีน้ำจิ้มเด็ด ๆ จะอร่อยยิ่งกว่านี้ครับ
ในเมืองนี้เดินเล่นแป๊บ ๆ ก็ทั่วแล้วละครับ มีสวนที่ตกแต่งน่ารัก ๆ ด้วย
อิ่มกันดีเราตั้งใจจะไปเดินเล่นริมทะเลสาบกันขับรถต่ออีกนิดก็ถึงแล้ว
บรรยากาศดีมากทีเดียวครับ แป๊บ ๆ ฟ้าเปิดให้แดดส่องลงมากระทบผิวน้ำ สวยทีเดียว
เดินเล่นถ่ายรูปกันอีกสักพักก่อนจะมาแวะที่สวน The Giants House เป็นทั้งสวนสวย ๆ ประกอบรวมตัวกันงานเซรามิค ที่เจ้าของนำมาร้อยเรียงต่อกันเป็นงานประติมากรรมรูปทรงต่าง ๆ
ตอนมาถึงมันใกล้ปิดอีกแล้ว โอ้วว ดวงไม่ดีเลย อย่างว่าครับ ที่นี่เมืองเล็ก ๆ เค้าปิดค่อนข้างเร็ว เพราะงั้นจะมาเที่ยวควรเช็คให้ดีก่อนมากันด้วย
แม้จะเข้าไม่ได้เจ้าของแกก็น่ารักจะอนุญาติให้เราถ่ายรูปด้านหน้าได้ เราก็เลยมีภาพมากันนิดหน่อย
ไม่ได้เข้าไม่เป็นไร เดินเล่นชมเมืองกันหน่อยดีกว่า ถ่ายรูปกันได้ง่ายมากนะครับที่นี่ คนน้อยมาก
ด้วยความน่ารักของบ้านเรือนละแวกนี้ สไตล์บ้านเป็นแบบ English Cottage เล็ก ๆ ปลูกติดต่อกัน ที่ทำให้ความวินเทจของที่นี่ยิ่งโดดเด่น คือ ทุกหลังมีสีสันสวยงามตัดกันสวยมาก
ทีเด็ดที่นับว่าเป็นโชคดีของเราคือมาช่วงที่ดอกไม้กำลังผลิบานพอดี เราได้ภาพดอกไม้สวยๆ หลายสายพันธุ์
เจอซากุระ สวย ๆจากบ้านเรือนที่เค้าปลูกไว้ เรียงราย เราก็ต้องขอเก็บภาพหน่อยล่ะ มันเหนือความคาดหมายมาก ที่มาเจอซากุระที่เกาะใต้นิวซีแลนด์
อากาศวันนั้นราว 15 องศาในบรรยากาศดี ๆ โชคดีที่มีแสงสุดท้ายของแดดยามเย็น กำลังส่องแสงพาให้เราได้ รีบเก็บภาพก่อนจะลับลากันไป
บรรยากาศที่ยากจะลืมของวันแรกที่เราได้ทักทายเกาะใต้แห่งนี้ ช่างน่าประทับใจ
ที่พักแห่งเมืองริทะเลสาบ
คืนนี้เราจอง อพารท์เม็นท์แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องครัว 1 ห้องรับแขก 2 ห้องน้ำ แค่ขับรถเข้ามาจอดก็ประทับใจแล้ว เป็นบ้านสไตล์ริมน้ำสวย ๆ ที่เค้าแยกเป็นโซนชั้นบน ชั้นล่าง เราได้ห้องชั้นล่าง ตามมี่จองมา
ห้องมีแยกอีกเป็นแบบเตียง 2 ชั้น ปันเข้ามาทีแรกนี่จะขอนอนเลย
กับแยกเป็นห้องเตียง Queen Size + เตียงเสริม
รวม ๆ นอนได้ถึง 6 คนทีเดียว
มีห้องรับแขกกว้างใช้ได้เลย
แยกโซนกับห้องครัวที่อยู่ใกล้กัน เหมาะมากกับการทำอาหารซึ่งก็คืออาหารทั้งหมดที่เราขนกันมาเพื่อทำกิน ได้ทั้งแก้ปัญหาเรื่องงบอาหารและมีอาหารไทยจากฝีมือแม่ปันให้หายคิดถึงไปพร้อมกันด้วย
สรุปกันนิด
ถือเป็นอีกเมืองที่เหมาะจะแวะเป็นจุดแรก ๆ ของทริป เพราะไม่อยากบอกเลยว่า หลังจากนี้ทุกเมืองที่ไป อลังการ สวยงามกว่านี้หลายเท่าสำหรับผมเลย เพราะงั้นสำหรับ 13 วันขับรถเที่ยวเกาะใต้นิวซีแลนด์แบบครอบครัวภาค Akaroa เมืองทะเลสาบสไตล์ฝรั่งเศส จึงเหมาะกับการเรียกน้ำย่อยก่อนออกไปเจอความเป็น เกาะใต้นิวซีแลนด์ ของจริงครับ
ขอลาด้วยภาพที่น้องเก็บให้เราทั้งครอบครัว ช่างแสนสุขใจสำหรับเรา
ตอนหน้าจะพาไปชมทะเลสาบที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบติดอับดับ สวยที่สุดในโลกกันเลย โปรดติดตามนะครับ
สวัสดีครับ
==================================
สำหรับเพื่อนใหม่ที่พึ่งเจอกัน
ถ้าชอบรีวิวของเรา ฝากกด Like
เพจ อยากรู้จักโลกกว้าง
http://bit.ly/2G06JVD
และอย่าลืมเปลี่ยนสถานะ follow (ติดตาม)
เป็นSee first (เห็นก่อน) ไว้เลย