“เอ็กซ์เปกโต พาโตนุม” คาถาถูกร่ายออกไปพร้อมกับมือที่ถือ ไม้กายสิทธิ์
เหล่าพ่อมดแม่มดทั้งหลายต่างพากันร่ายเวทฯ กันส่งเสียงดังทั้งร้าน
พร้อมๆ กับภาพเคลื่อนไหวใบหน้าแฟนๆทั่วโลกปรากฎขึ้น ก็ดึงอารมณ์ให้ตื่นเต้นไปด้วย
มันช่างทำให้พวกเราตื่นตาตื่นใจไปกับ ฉาก แสง สี เสียงเพลงของ
รีวิว Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter
ธีมพารค์ที่ทำให้แอดฯ พี่ปัน และ แม่เย่น เหมือนหลุดเข้าไปในโลกของภาพยนตร์
แฮร์รี่ พอร์ตเตอร์ทุกภาค รวมถึงหนังภาคแยกอย่าง Fantastic Beats ไปพร้อมๆ กัน
เอาแค่แตะเท้าออกจากประตูรถไฟลงที่สถานี Toshimaen Station
จากขบวนของ Toei-Oedo line
ก็เสมือนเข้าสู่โลกของแฮร์รี่กันตั้งแต่ตรงนี้แล้ว
โดยเฉพาะสาวกเหล่ามัคเกิ้ล อย่างพวกเราที่ต้องปรบมือให้
ฉากจำลองทั้งหลายด้านใน คือการจำลองฉากใน ฮอกวอตส์ จริงๆ
จำลองเป็นฉากการถ่ายทำสำคัญๆ ที่คนดูประทับใจในหนังแต่ละภาค
เรียกว่า มาแล้วก็เหมือนหลุดเข้าไปในโลกของแฮร์รี่เหมือนในหนังที่เราดูกัน
แอดฯขอหยิบไฮไลท์ที่ตัวเองชอบมาเล่าให้ทุกคนมีโอกาสได้เที่ยวไปด้วยกันนะ
พร้อมแล้วก็ตามเราเข้ามาเลยดีกว่า
รีวิว Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter ธีมพาร์คของเหล่ามักเกิลทั้งหลาย
เดินจากสถานีรถไฟมาที่นี่ไม่ถึง 10 นาทีนะ ชิลๆเลย
ด้วยเพราะเราซื้อตั๋วล่วงหน้ามาก่อนแล้วกับแอป kkday
สะดวกทุกอย่างเลย ราคาก็ประหยัดกว่านิดหน่อยด้วย เพราะจะขึ้นอยู่กับค่าเงินและช่วงนี้ค่าเงินเยนตกมากทำให้เราจ่ายถูกลงไปอีก แถมมี code ลดราคาพอดีช่วงนี้ ลดไปอีก 5% ด้วยลองดูกันได้
สำหรับคนสนใจแอดฯ ใส่Link ไว้ให้กดไปซื้อ หรือดูรายละเอียดก่อนได้เลย https://bit.ly/4aud3lAhttps://bit.ly/4aud3lA
เข้ามาก็จะเจอห้องแรก The Great Wall เป็นกำแพงที่ติดภาพของนักแสดง และมีนักพากย์ที่พากย์เสียงของแฮร์รี่ทุกภาคของญี่ปุ่น
มาเป็นคนเล่าเรื่องราวและเกริ่นนำเข้าสู่โลกของพ่อมตฯ ให้พวกเราเข้าใจและ รู้วิธีการชมห้องต่างๆได้
ตัวWarner Bros. Studio Tour Tokyo มีอยู่สองที่ในโลกตอนนี้ แห่งแรกที่ลอนดอนบ้านเกิดของเจ.เค. โรว์ลิ่ง และ ที่ญี่ปุ่นที่พึ่งเปิดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2023 นี้เอง และกลายเป็น The making Of Harry Potter ที่ใหญ่ที่สุดในโลกทันที
เปิดห้องแรกเจอห้องโถงที่เป็นห้องอาหาร ฉากหลักๆ ที่ตัวละครรู้จักกันก็ที่นี่ ก่อนเลย ต้องบอกว่ามันอลังการมาก
โต๊ะนั่งจะเหมือนในหนังที่แยกหนังกันไปตามบ้านต่างๆ เช่นบ้านสลิทเธอรีน บ้านกริฟฟินดอร์ ฯ ชุดเสื้อผ้า ห้องต่างๆ รวมถึงจานชามจัดวางเหมือนในหนังจริงๆเลย ทำให้อินจัดๆเลยแอดฯ
มีหุ่นขี้ผึ้งของเหล่าศาสตร์จารย์ ทั้งหลายจัดวาง ให้เราเดินไปเก็บภาพด้วยได้ทำเนี๊ยบดีนะ
พร็อบต่างๆในห้องนี้เนียนกริ๊บ
ถัดมาที่ ห้อง The Marble Staircase ผมชอบบรรยากาศการเซ็ทติ้งไฟ ฉากห้องนี้สุดๆ มันใช่มากเวลาที่บันไดมันขยับไปมาเหมือนในหนัง นึกถึงตอนแฮร์รี่ต้องเดินบันไดเหล่านี้ในหนังก็มันส์แล้ว ไหนจะภาพเขียนที่ขยับไปมาเหมือนเป๊ะๆในหนังเลย
ถัดมากับ Living at Hogwarts
โซนที่เค้ารวบตึงห้องสำคัญๆ ในแต่ละบ้าน ที่เป็นฉากของหนังแทบทุกภาคมาไว้ด้วยกัน แถมพร็อบต่างๆของเค้าที่ทำให้เราเหมือนมาเดินอยู่ในกองถ่ายทำจริงๆ
ตื่นเต้นมากๆครับ
และยังมีห้องต้องประสงค์ (Room of Requirement) กับห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ ทั้งสองห้องที่ถือเป็นฉากสำคัญๆ ในหนังในช่วงภาคต้นๆ ของแฮร์รี่ และแน่นอนในฉากสุดท้ายของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ก็เกิดขึ้นที่ห้องนี้เช่นกัน ที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นเสมอ ด้วย เข้ามาแล้วลึกลับตื่นเต้นมาก
ถัดมาเป็นห้องที่รวบรวมชุดเครื่องแต่งกายของหนังแสดงจากทั้งแฮร์รี่และ Fantastic Beats ทุกภาคเอาไว้อีก จะมีพร็อบต่างๆ ที่ใช้ในหนังรวบรวมไว้ด้วย
จะขาดห้องเรียนสำคัญของแฮร์รี่ไม่ได้เลยกับห้องปรุงยา (Learning at Hogwarts) ห้องที่สอนการเวทย์มนต์กับการปรุงยา เป็นอีกฉากที่น่าตื่นเต้นเช่นกันแถมเค้าจะมีโชว์สาธิตการปรุงยาแบบในหนังให้เราได้ชมด้วยนะ
อีกนิดที่พามาเจอแล้วตื่นเต้นเบาๆ ก็คือมุมของลอร์ดโวลเดอมอร์ คือจะเป็นมุมส่วนตัวที่อธิบายเกี่ยวกับที่มาและพร็อบต่างๆ
ที่น่ากลัวขึงขังเป็นพิเศษก็ยกให้สัตว์เลี้ยงของเค้ากับงูนากินี ที่ทำได้เหมือนจริงสุด อย่าว่าแต่พี่ปันเลย ตัวแอดฯ เองก็ไม่ค่อยจะเข้าใกล้นักแต่ต้องถือว่าเค้าทำได้ถึงบมาก มีอาวุธ และรายละเอียดเกี่ยวกับท่านลอร์ดไว้ครบเลย
และโซนที่แอดฯกับพี่ปันชอบสุดๆ ชอบตั้งแต่ในหนังแล้ว พอมาเจอฉากของจริงยิ่งชอบเข้าไปอีกกับ ป่าต้องห้าม (Forbidden Forest)คือ มันลึกลับมาพร้อมกับซาวน์ประกอป
ส่วนที่ชอบมากๆคือการจำลองฉากตอนเจอแมงมุมยักษ์ เจ้าอาโคแมนทูล่า อันนี้ได้ฟีลเหมือนในหนังเป๊ะๆเลย ไหนจะฉากตอนภาคสองที่รอนขับรถไปรับแฮร์รี่ที่บ้านแล้วขับรถบินมาตกที่ป่าแห่งนี้ โอ้โห้ยยย เลยทีเดียว
มาถึงโซนเอ็าท์ดอร์แรกคือ ฉาก กระท่อมแฮกริด (Hagrid’s Hut)
จะเหมือนเป็นการพักหายใจไปกลายๆเพราะโซนนี้จะเน้นถ่ายรูปกับตัวบ้านของแฮร์กริด มีพร็อบต่างๆ
รถเมล์ราตรีจากภาคแรกที่แฮร์รี่นั่งมาที่สถานีรถไฟ ตรงนี้เลยได้ถ่ายรูปกันเยอะ
และใกล้ๆก็มี ร้าน Butter Beer เป็นโซนอาหารให้เราจับจ่ายของกินกันได้
มาถึงไฮไลท์ที่สุดแล้วกับที่ ชานชาลา 9 ¾ ที่เรียกว่าใครมาแล้วต้องไม่พลาดฉากนี้ แค่เห็นตัวรถไฟ The Hogwarts Express ที่เหล่าพ่อมดใช้นั่งไปยังโรงเรียน
เรียกว่านอกจากจะเหมือนจริงแล้ว ยังใหญ่โตอลังการ มีมุมให้ถ่ายรูปสนุกจริงๆและ คิวก็ยาวทีเดียวกว่าจะได้ถ่ายรูปกับรถไฟและพร็อบต่างๆครับ
มาถึงอีกฉากที่เค้าทำดี๊ดีๆ กับกระทรวงเวทย์มนต์สาขาลอนดอน (London Ministry of Magic)
หากทุกคนยังจำกันได้ กระทรวงนี้ปรากฎในฉากสำคัญๆ ที่การจะมาที่นี่ได้ต้องโรยผงฟลูเป็นตัวพาทุกคนเข้ามาที่นี่ตรงเตาผิง และเค้าก็ทำได้ดีทีเดียวมีเล่นแสงสีแบบเดียวกัน
และฉากที่แอดฯรอคอยก็มาถึงกับ ตรอกไดอากอน(Diagon Alley) ที่แอดฯเจอครั้งแรกใน Universal Studio ที่ญี่ปุ่นเช่นกัน ตอนเห็นครั้งนั้นว่าอลังแล้วนะ
มาเจอที่นี่มันใหญ่โตเหมือนจริงกว่าเยอะ เรียกว่าเสียเวลาถ่ายรูปตรงนี้กันเยอะเลย น่าเสียดายที่ร้านค้าสองข้างทางเข้าไปไม่ได้ถ้าเหมือนในหนังนี้จะปลื้มกว่านี้อีกนะ
และมาถึงฉากสุดท้ายแล้วกับ โรงเรียนฮอกวอตส์ หรือจะเรียกปราสาทฮอกวอตส์ ที่เค้าทำสเกลให้เล็กลงมาราวๆตึกสักสองชั้นให้เราเดินดูรอบๆ มีการจัดแสงสีเป็นกลางวันและกลางคืนให้เราได้เห็นความสวยงามในเวลที่ต่างกันไป สวยมากดีเทล์ดีจริง
และแน่นอนต้องออกมาปิดท้ายที่ ฉากสุดท้ายจริงๆ ไม่น่าเรียกฉากแต่มันคือร้านของที่ระลึก ที่ขายของทุกสิ่งที่เกี่ยวกับหนังให้เราซื้อกลับมาบ้านได้ แน่นอน
พี่ปันกับแม่เย่นก็เสียตังค์กันไปตามระเบียบ บรรยากาศมันชวนเสียตังค์มาก จริงๆ
ทั้งหมดนี้คือความประทับใจและเราตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ใช้เวลาค่อนวันกับที่นี่ สำหรับคนที่สนใจแนะนำให้ซื้อบัตรกันก่อนไปจะดีกว่าไม่เสียเวลาเข้าคิดด้วย อย่างเราซื้อผ่านเว็บ kkday ไป พอถึงเวลาเดินไปที่จุดสแกนตั๋วเข้าได้เลยสะดวกมาก
ใครที่สนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่นี่ครับ https://bit.ly/4aud3lAhttps://bit.ly/4aud3lA
สำหรับรีวิวนี้คงจบเท่านี้สำหรับคนที่สนใจญี่ปุ่น สามารถเข้าไปดูรีวิวเราทั้งหมดได้ที่นี่เลย
https://blog.one22.com/?s=japan&category=&year=&month=&format=
แล้วพบกันที่ไหนสักแห่งใต้ท้องฟ้าสดใสครับ