สวัสดีครับ
ทริป เที่ยวพักชิลเชียงใหม่-เชียงรายในเหมันต์ฤดู พร้อมจุดชมซากุระใหม่ ในเวลาที่ผมว่ามันสวยที่สุดของปี คือช่วง ธค-กุมภาพันธ์ ของทุกปี มี 2 นางเอกที่สวยงามที่สุดในฤดูนี้คือ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” และ “แม่คะนิ้ง” พร้อมๆกับที่พาไปพักเก๋ๆ กับโรงแรมเปิดใหม่ยังไม่นาน หยิบร้านระหว่างการเดินทางจากเชียงใหม่ไปเชียงราย
พร้อมแล้วไม่ต้องเสียเวลากันมาก เพราะเชียงใหม่ใครๆก็ไปกันทั้งนั้น พาไปชมเลยดีกว่า สำหรับใครที่สนใจเส้นทางนี้ต้นปีหน้าจะได้เตรียมกันให้พร้อมครับ จะได้ไม่พลาดล่าเสือกันนะครับ
เริ่มที่เป้าหมายแรกของการเดินทางตั้งใจจะไปล่าเสือ (ดอกนางพญาเสือโคร่ง) คาดกันว่าปีนี้ความหนาวเย็นดูจะมาทันและตรงพอสมควรทำให้แหล่งดูดอกไม้ บานในเวลาที่ตรงกันเช่นทุกๆปี แต่ทริปที่ผมเอามาเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้เอง และเป็นทริปปุ๊บปั้บมาก ทำให้ผมเองที่เลือกจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ก็ต้องวิ่งไปหากันล่ะ และดันมีเวลาแค่ 2 วัน 1คืนเท่านั้นที่เชียงใหม่ก่อนจะไปเชียงรายต่อ ก็เลยเลือกที่ๆไปแล้วครบทุกอย่างคือ บริเวณดอยอินททนนท์
เริ่มกันจากยอดดอยแล้วค่อยแวะเที่ยวไล่ลงมาจนถึงด้านล่าง ไล่ตั้งแต่เช้ามืดจรดค่ำนะครับ พวกเรามีแผนการที่จะขึ้นเขาไปให้ถึงยอดดอยก่อน ตีห้าครึ่งให้ได้ และแน่นอนพูดถึงดอยอินทนนท์แล้วบนสุดจะเป็นที่ไหนไม่ได้ก็คือ การได้เก็บภาพพระธาตุนภเมทนีดล และพระธาตุนภพลภูมิสิริ นั้นเอง ปีนป่ายหาจุดถ่ายภาพกันพอสมควรสุดท้ายก็มาปักมุดรอถ่ายภาพแสงเช้า กันในมุมที่คิดว่าดีสุด ไม่ช้าฟ้าก็เปิดให้ภาพที่รอคอยก็ปรากฎตรงหน้า…
ฟ้าก็ดูเหมือนเป็นใจเลยครับ เมฆเป็นริ้วพุ่งเป็นสายนำสายตายิ่งสวยเข้าไปใหญ่ หลายๆ คนบอกว่าฟ้าแบบนี้ไม่ได้มีกันทุกวัน เพราะงั้นแค่เริ่มต้นก็โชคดีแล้วสิ
ได้แสงเช้ายิ่งทำให้องค์พระธาตุทั้งสองงดงามรับอรุณจริงๆครับ กดภาพกันอีกพักใหญ่ คนก็เริ่มทยอยขึ้นมาเยอะแล้ว แม้จะผ่านปีใหม่มาแล้วก็ตาม และเหมือนนางฟ้าแห่งโชคมาอวยพรพวกเราทำให้ก่อนจะลงมาจากยอดดอยเพื่อไปแวะดูดอกไม้ฯกันต่อ เราเห็นผู้คนจอดรถเลียบข้างทางตลอดแนว ก้มๆเงยๆเพื่อถ่ายอะไรข้างทาง เดากันไม่ยากก็รีบจอดทันที ใช่แล้วครับ…
น้ำค้างแข็งที่จับบนยอดหญ้าดูใกล้ๆสวยงามราวเกล็ดหิมะ
ผมตื่นเต้นมากๆเพราะนี่คือ แม่คะนิ้งแรกที่เคยเห็นด้วยตาจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันพบง่ายจริงๆหากจังหวะมันใช่
หลายคนในทริปนี้ไปเห็นจากที่อื่นมาก็ยังบอกว่าสำหรับแม่คะนิ้งวันนี้สวยงามจริงๆ เพราะงั้นหากขึ้นไปยอดดอยอินทนนท์แล้วอย่าพึ่งรีบลงเขากันมานะครับ สังเกตุข้างทางให้ดี แต่ทั้งนี้แม่คะนิ้งจะเกิดได้ต้องประกอปทั้งความเย็นและความชื้นที่มากพอ ปีหน้าขอให้โชคดีไปแล้วเจอกันทุกคนนะครับ
หลังจากลงเขามาแล้ว เวลาของดอกไม้ก็มาถึง และหลังจากเช็คกันมาดีแล้ว ทุกคนลงความเห็นที่จะมายัง “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์” ที่นี่เป็นศูนย์อนุรักษ์พันธ์ดอกไม้หายากโดยเฉพาะกล้วยไม้หลากหลายพันธ์ แต่ที่เน้นคือรองเท้านารีที่ใกล้จะสูญพันธ์เข้าไปทุกทีผลพลอยได้ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ก็จะแปรงร่างกลายเป็นแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่งเช่นกัน
สำหรับที่นี่แล้วเรามาถึงช่วงเวลาที่ดอกบานเต็มที่ และใบเริ่มจะแทงยอดออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คือมาช้าไปนิดหน่อยแต่ในช่วงเวลานี้ก็ถือว่างดงามสำหรับผมมากแล้วทีเดียว
จุดที่สวยอีกจุดก็คือบริเวณทะเลสาบภายในที่เราจะเห็นต้นนางพญาฯขึ้นอยู่สวยงามทีเดียว
ต้นใกล้ๆก็สามารถถ่ายภาพกันได้ ที่สำคัญกฎเหล็กที่ห้ามสำหรับทุกคนๆคือ อย่าโน้มกิ่งก้านใบหรือปีนป่ายไปบนต้นเด็ดขาดนะครับ ช่วยๆกันนะ
ที่พักดี๊ดีระหว่างทางในราคาไม่เกินเอื้อมสำหรับคู่รักและครอบครัว
หลังจากเก็บภาพสมใจ ก็ได้เวลาแยกย้ายไปตามเส้นทางกันต่อ ผมเลือกมาเชียงรายต่อเพื่อไปยังจุดชมดอกพญาเสือโคร่งแหล่งใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นานเลย แต่ไหนๆแล้วไปถึงมืดค่ำก็ควรหาที่พักสักหน่อย และที่นี่ผมเคยมาแล้วครั้งนึงเมื่อปีก่อนติดใจจนต้องกลับมาอีก ก็คือที่นี่เลยครับ “Katiliya Mountain Resort & Spa Chiangrai”
เข้าไปพักครั้งนี้ใน TYPE “Duplex Suite” ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ห้องเท่านั้น ที่สำคัญคืออยู่ใกล้กับร้านอาหารของโรงแรมและ Counter Checkin ด้วย ทำให้สะดวกดีทุกอย่าง
จุดขายสำคัญที่สุดของที่นี่มีอยู่ 2 จุดสำคัญคือ 1. ขนาดห้องพักครับ ต่อให้เป็น Type เล็กสุดๆก็ยังแสนจะกว้างเริ่มต้นก็ 90 ตรม.แล้วสำหรับ TYPE Mountain Suite ซึ่งผมเคยรีวิวห้อง Type นี้ไปแล้วในรีวิวก่อน ตามไปชมได้ที่นี่เลยครับ
วิวช่วงเช้าๆและเย็นๆสวยงามมาก อบอุ่นและประทับใจยังไงก็ยังเหมือนเมื่อครั้งแรกที่ได้มาเยือน
ยามเย็นแดดอุ่นๆในอากาศหนาว…
แวะกินหนมกินไรกันบ้าง
ระหว่างการเดินทางแวะร้านน่ารักๆอยู่หลายร้านแต่ร้านนี้เก๋ดีดูตั้งใจตกแต่งให้แตกต่างจากร้านอื่นๆ”สถานีกาแฟ”
ร้านตกแต่งด้วยตู้รถไฟแบบโบราณอยู่ที่อำเภอ ให้บรรยากาศน่ารักดีมากครับ เลยลองแวะเข้าไปนั่งกันดู ส่วนตัวรสชาติชาที่ตัวเองสั่งใช้ได้เลยไม่แพงไม่ถูก แก้วละ 40-50 บาท รสชาติส่วนตัวชามะนาวโอเคเลย
มาถึงเชียงรายบ้าง ขอแนะนำจุดชมดอกไม้ของเชียงรายแหล่งใหม่สุดเป็นจุดที่ผมว่ามันจะมาแน่ๆปีใหม่นี้เลยและยังไม่มีคนรู้จักมากนักคือที่นี่ สถานีเกษตรที่สูงชุมชนบ้านปางขอน
ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธ์ อาราปิก้าพันธ์ดีและนำมาเพาะพันธ์กันเองจนกลายเป็นกาแฟเฉพาะ ที่เรียกขานกันว่า กาแฟปางขอน และยังมีร้านนำไปขายกันในเมืองด้วย และผมก็มีโอกาสได้ชิมกาแฟนี้ที่ร้านกาแฟปางขอนตรงแถวๆ วงเวียนหอนาฬิกาครับ ใครสนใจอยากชิมดูไปลองกันได้เลย
เข้ามาก็ต้องบอกเลยว่าแปลกใจมาก เพราะที่นี่มีดอกพญาเสือโคร่งที่ใหม่สด หรือจะเรียกว่ายังดิบๆอยู่เลยก็ได้ เพราะที่นี่ปลูกและดูแลกันเองโดยอบต.ห้วยชมภู
นอกจากกาแฟยังมีผลไม้เมืองหนาวอย่างสตอเบอร์รี่ หรือพวกเบอร์รี่ปลูกไว้ด้วยเราสามารถจ่ายเงินแล้วเดินชิมเก็บได้เลย
ภายในเป็นเส้นทางเดินลัดเลาะรอบเขา เดินชมทั้งดอกไม้และไร่กาแฟไปด้วยกันได้ ธรรมชาติดีมาก
ผมว่าปีใหม่นี้ที่นี่จะตกแต่งดีขึ้นสวยงามมากขึ้น และเดินทางสะดวกขึ้นแน่นอน
วิธีการไปที่นี่ติดต่อกับทาง อบต.ห้วยชมภู คุณเสรี ได้ที่เบอร์ นี่นะครับ 085-7158521
จบแล้วครับรีวิวนี้ไม่สั้นไม่ยาว แต่รวมมิตรประสบการณ์เที่ยวในช่วงสั้นๆของตัวเองในช่วงหนาวที่กำลังจะมาถึง สำหรับดอกนางพญาเสือโคร่งยังมีอีกแหล่งที่กำลังบานเต็มที่รับฤดูหนาวและแต่ละจุดก็ไปกันง่ายไม่ยากคือที่ภูลมโล เพชรบูรณ์
ใครสนใจจะไปชมกันแนะนำเสาร์-อาทิตย์นี้รีบไปกันด่วนๆเลย อากาศกำลังหนาวได้ใจอยู่นะครับ
ขอบคุณมากครับ