ชอบช่วยเราแชร์นะคะ
เที่ยววิถีแม่ จดหมายถึงลูก ฉบับ สงขลา-พัทลุง เมืองแห่งการเติมเต็มแรงบันดาลใจ
หวัดดีลูกรัก..
ลูกอยู่ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
คราวนี้ แม่มีเรื่องสงขลา-พัทลุง มาเล่าให้ลูกฟังแหละ
ความที่แม่ไม่เคยมาเยือนสองจังหวัดนี้มาก่อน ไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดี แต่ถ้า สงขลา-พัทลุง เป็นหนังสือ ก็คงเป็นหนังสือที่แม่ไม่เคยคิดจะเปิดอ่าน ไม่รู้สิ.. อ่านชื่อปกแล้วมันไม่เร้าใจเท่ากับการได้ยินชื่อภูเก็ต-กระบี่ แล้วคิดถึงน้ำทะเลสีฟ้าใสอะไรแบบนี้เลย แต่ตั้งแต่นี้ แม่เชื่อแน่ๆ และเชื่ออย่างสุดหัวใจด้วยว่า ถ้าลูกได้ลองอ่านเหมือนแม่แล้ว ลูกจะวางไม่ลง และคงต้องหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำๆ อีกแน่นอน
เที่ยววิถีแม่สองจังหวัดนี้แล้ว แม่มานั่งทบทวนดูนะ แม่ขอยกให้สองจังหวัดนี้เป็นเขตพื้นที่พิเศษส่วนตัวของแม่ สำหรับการเติมเต็มแรงบันดาลใจเลยทีเดียว แม่ได้ไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานอีกโข ได้กลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิม ได้เห็นวิถีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ได้ยิ้มแบบเต็มที่ โดยไม่สนใจใคร ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่า…
แม่จะเล่าให้ฟัง..
ครั้งนี้ แม่ไป และกลับด้วยสายการบินนกแอร์ ..ผู้คนที่สนามบินดอนเมืองยังคงขวักไขว่วุ่นวายเช่นเดิม
ระหว่างนั่งนกบนท้องฟ้านั้น.. แม่เจอทั้งพระอาทิตย์
..เจอพระจันทร์
..และรุ้งกินน้ำ..
สุดจะบรรยายความรู้สึก ก็ฟ้าแผ่นเดียวมันช่างมีหลายอารมณ์อะ
และแล้ว นกก็พาแม่บินไปลงที่หาดใหญ่ ในเวลาก่อนกำหนดอีกด้วยนะ
แม่แวะไปทานอาหารเช้าที่ โชคดีแต่เตี๊ยม
เดินไปเลือกตามใจชอบ เข่งละ 20 บาท ถูกกว่า 7-11 อิ๊กกกกก
แต่เตี๊ยม คือ ติ่มซำ
ติ่มซำ มีความหมายว่า ตามใจ ตามสั่ง เป็นอาหารว่าง หรืออาหารเรียกน้ำย่อย ของจีน
ที่ร้านนี้ได้บรรยากาศมาก
โดยเฉพาะตอนที่พนักงานเสิร์ฟบะกุ๊ดเต๋เดือดปุดๆ และติ่มซำควันโขมง
จะว่าไป ที่จริงการได้มานั่งที่ร้านก็สนุกแล้ว
เราคุยกันถึงเข่งนั้นเข่งนี้ วิจารณ์ติ่มซำกัน
เข่งนี้อร่อย เข่งนู้นเจ๋ง ถ่ายรูปไปพลาง
แล้วแบ่งกันกินคนละหนุบหนับ ความสุขอยู่ตรงนี้
บะกุดเต๋ชามเล็ก 120 บาท ประทับใจตรงที่ทางร้านเขาบริการเติมน้ำซุปฟรีด้วยน๊า
รอไม่นาน ติ่มซำนึ่งร้อนๆ ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ
ชิมทุกอย่าง อร่อยทุกอย่าง…
ป่ะ.. เริ่มเที่ยวกันนะ
…
..ที่นี่มีสเน่ห์ประหลาด ดึงให้แม่หลงคิดว่าตัวเองเป็นแม่เมนี่ หรือมณีจันทร์ในเรื่องทวิภพ เพียงแต่แม่ย้อนอดีตไปดูสถาปัตยกรรมสมัยชิโนโปรตุกีสที่เคยรุ่งเรืองที่นี่ หลายจุดมีการบูรณะดัดแปลงตามยุคสมัย แต่ยังคงมีกลิ่นเก่าๆ อยู่ อาจจะต้องหลับตา แล้วจินตนาการว่าแม่เป็นมณีจันทร์นะ จุดเดียวที่แม่ไม่เหมือนแม่มณีจันทร์ คือไม่มีใครเดือดร้อนออกตามหาแม่เท่านั้นเอง 555
…
..หับ โห้ หิ้น
ที่นี่เคยเป็นโรงสีเก่ามาก่อนที่จะกลายเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า
มีร้านเก๋ๆ แฝงตัวอยู่ตามแบบอย่างวิถีฮิปเตอร์
มีสถาปัตยกรรมแบบเดิมๆ ให้เดินดู
แถมสตรีทอาร์ตอีกนะเออ
..ยามพระอาทิตย์ตกนั้น ลูกเอ๋ย… ที่นี่สวยดั่งต้องมนต์สะกด มัสยิดกลางสงขลาช่างสง่างามสวยจริงๆ สวยจนอยากวางกล้องลง แล้วแค่นั่งมองเฉยๆ แม่มองตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มตกจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตลอดเวลาช่วงนั้นท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ แต่ใจแม่กลับสงบ อิ่มเอม อย่างบอกไม่ถูก ^^
ด้านในก็สวยมากอะลูก พื้นปูด้วยหินอ่อน
เท้าเปล่าที่สัมผัสกับพื้น ให้ความรู้สึกเย็น เบาสบาย ประดับกระจกรอบอาคาร บอกเลยว่าสวยมาก
…
หาดสมิหลา
..ที่นี่เป็นเหมือนห้องรับแขกของจังหวัดสงขลา ลืมภาพทะเลไทยติดเมืองที่คุ้นตาได้เลย ก็แม่ไม่เห็นว่าหาดนี้จะมีร่มกับเตียงผ้าใบสักอัน
บรรยากาศตอนเช้าที่หน้าหาด เป็นจุดรวมของผู้คนมาพักผ่อน ออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน รวมไปถึงออกมาหาปลา และ.. จูงวัวแข่งมาเดินออกกำลังกาย ดูแล้วเก๋า เท่ องค์ประกอบผู้คนทั้งหมดทำให้แม่ตื่นเต้นสุดๆ
ปล. ที่นี่มีรูปปั้นนางเงือกทองตั้งเด่น สง่างานอยู่หน้าหาด และเขาว่ากันว่าถ้าได้จับนมรูปปั้นนางเงือกทองแล้วจะโชคดี แต่แม่ไม่ได้จับหรอกนะ มันเขินอยู่หรอก แค่ได้มาเห็นวิถีริมเลปักษ์ใต้ นี่ก็นับว่าโชคดีมากนักแล้ว
…
นี่.. วิวหาดสมิหลาเมื่อมองออกจากห้องพัก
…
เกาะยอ : สำนักสงฆ์เขากุฏิ
..หลังจากกลับบ้านมาค้นข้อมูล (เออ.. แม่ค้นเป็นด้วยนะ) เลยได้รู้ว่า เกาะยอ เป็นตำบล แล้วยังเป็นเกาะอยู่กลางทะเลสาบสงขลา
ที่นี่แปลกตาดีมีวิวทั้งภูเขา ทะเล อ่าว มีทั้งชาวสวน ชาวประมง โฮมสเตย์ ปะปนกันไป เพิ่งได้เห็นกระชังที่เขาเลี้ยงปลากระพงขาว เขาเลี้ยงธรรมชาติแบบนี้เอง
สำนักสงฆ์เขากุฏิ เป็นสำนักสงฆ์ที่อยู่บนเขา แน่นอนว่า ต้องเห็นวิวเมืองจากบนนั้น ลมเย็นดีจัง พอได้ขึ้นมาจะเห็นภาพรวมของเกาะได้ชัดเจนขึ้น เห็นสะพานจากบนนี้ด้วย…
วัดพระนอนแหลมพ้อ
พระนอนองค์ใหญ่ตั้งอยู่เชิงสะพานติณสูลานนท์ แม่สะดุดตามาก กับองค์พระสีทองอร่ามตา ตัดกับสีฟ้าเข้มๆ ในวันนั้น
ที่เกาะยอ มีวัดอยู่หลายแห่ง ซึ่งเรื่องวัดวานี่เที่ยววิถีแม่ไม่สันทัดเท่าไรนัก บอกตรงเลย 555 แต่แม่ก็ไม่พลาดที่จะไหว้พระทำบุญ มีวัดนึงที่แม่ชอบมาก คือ วัดท้ายยอ เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี มีกุฏิเรือนไทยปั้นหยา เป็นเรือนไทยพุทธแบบทางใต้ สร้างด้วยไม้จริงหลังคาทรงจั่ว มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบทางใต้แท้ๆ และภายในวัดยังรักษาสภาพเดิมๆ ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
…
วัดท้ายยอ
แก๊งค์เด็กฮิปสเตอร์นั่งชิลล์ท้ายวัด
วิวท้ายวัดท้ายยอ
…
ตลาดริมน้ำคลองแดน
เปิดเฉพาะตอนเย็นวันเสาร์เท่านั้นอะ หูยยยย โชคดีสุดๆ สำหรับเที่ยววิถีแม่ผู้ชอบเดินตลาดนัด
แล้วที่นี่ ก็มีแต่ของกินทางใต้แบบหรอยๆ ทั้งนั้น สมใจอยากแม่เลย ที่เรียกคลองแดน เนื่องจากคลองแดนนี้กั้นสองดินแดน ระหว่างสงขลากับนครศรีธรรมราช กระโดดข้ามไปมาระหว่างสองจังหวัดได้ทั้งวัน สบายใจ เก๋ป๊ะล่ะ อิ อิ
อ่อ มีการแสดงหนังตะลุง โนราห์ให้ชมด้วยนะ น่ารักมากมาย เด็กๆ ช่างกล้าหาญ แสดงต่อตัวกันกลางสะพานไม้โยกเยกเลย ได้ใจแม่ไปเต็มๆ
…
ปากประ
แม่ชอบปากประที่สุด มันทั้งสวย ทั้งมีชีวิต ที่จริงอยากจะอยู่ที่นี่นานๆ อยากพูดคุยกับผู้คนที่นี่ อยากเรียนรู้วิถีชีวิตพวกเค้า เอาไว้เรามากันอีกนะ โอเคป่ะ
…
หลาดใต้โหนด
หลาด = ตลาด ตลาดใต้โหนดอยู่ที่จังหวัดพัทลุง ที่นี่เป็นตลาดนัดสีเขียวโดยแท้ แนะนำว่าลูกไม่ควรกินข้าวมาก่อน จะให้ดีลูกควรอดข้าวมาสักสามมื้อนะ
คนเยอะใช้ได้เลยทีเดียว
จัดเต็มกับอาหาร และขนมปักษ์ใต้กัน หรอยแรงจริงๆ
แม่ค้ายิ้มแย้มแจ่มใส ปิ๊งๆ
หลาดนี้มีห้องเรียนศิลปะด้วยอะ
มีห้องสมุด มีมุมวรรณกรรมดีๆ
นั่งอ่านหนังสือดีๆในร้านกาแฟได้เลย เห้ยยย ฟินสุดๆ
มุมเงียบๆ ก็มี
มุมพักผ่อนก็มีนะ
พอรู้อีกที อ๋ออออ ที่นี่เป็นบ้านของกวีซีไรท์นี่เอง คุณกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว แต่มีพี่ยุทธคนในภาพ ซึ่งเป็นพี่ชายเป็นคนดูแลตลาด และร้านกาแฟนี้
แกเห็นแม่ไปด้อมๆ มองๆ สนใจแอบซุ่มเมียงมองดูเตาต้มกาแฟแบบใช้ฟืน แกก็เรียก และบอกเป็นภาษาใต้ที่แม่ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่แม่อ่านจากภาษาตาและมือเอา เดาได้ประมาณว่าเข้ามาถ่ายรูปข้างในได้นะฮะ 555 เออ..มันเก๋ไก๋สไลเดอร์มาก
…
สรุปว่า รัก
จบละ//
ขอบคุณ ที่อ่านจนจบ
ขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานหาดใหญ่ ที่ดูแลอย่างดีมากๆ
ขอบคุณสายการบินนกแอร์ ที่สนับสนุนการเดินทาง
ขอบคุณลูกที่เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนและเชียร์ให้แม่ออกเดินทาง รักนะ
ดูวีดีโอจาก แม่วิถีเที่ยวไปก่อนนะ แล้วเจอกัลล
Comments