เอ่ยชื่อเขาใหญ่ คงไม่มีใครไม่เคยไป จริงไหม สำหรับ รีวิวนี้ Toscana Valley Khaoyai งดงาม เรียบ หรู ในบรรยากาศชนบทตอนเหนืออิตาลี
จะพาทุกคนไปเที่ยวเแคว้นชนบททางตอนเหนือของอิตาลี ที่เขาใหญ่… เอ๊ะ ใช่เหรอ ฮ่า ฮ่า
รีวิว Toscana Valley Khaoyai จะพาไปรู้จัก
เอางี้ เคยขับรถเที่ยวเข้าไปในเส้นทาง ถนนธนรัตน์-วังน้ำเขียว กันไหม หรือถ้าใครอีกหลายๆคนคงเคยไปเที่ยวช้อปปิ้งมอลล์สไตล์อิตาลีกลางเขาใหญ่ที่ชื่อ Palio มาแล้วแน่นอน
แต่ถ้าเป็นโครงการ Toscana Valley Khaoyai ละ คงมีคนที่อาจจะเข้าใจว่ามันคือชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์สุดหรูหรา ที่จำลองบรรยากาศแคว้น Toscana (หรือ Tuscany ในภาษาอิตาลีใช้กัน)มาไว้ที่เขาใหญ่ ถ้ายังไม่เคยไปกัน หรือแค่เคยเห็นแว๊บๆ ละก็รีวิวนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวข้างในกันจนถึงห้องนอนหรูๆ หลายสิบล้าน หรือบางทีก็หลักหลายร้อยล้านของเศรษฐีทั้งไทยและเทศมาจับจองกันฮะ ที่สำคัญเอาจริงๆ คนทั่วไปก็สามารถมาเที่ยวและพักผ่อนกันได้ไม่ยากเลยฮะตามเรามาเลย
เดินทางกันยังไง
จากปากทางถนนธนรัตน์ มุ่งหน้ามาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ วิ่งยาวมาเรื่อยๆจนเจอทางแยกป้ายบอกทางไปวังน้ำเขียว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยฮะ วิ่งต่อไปไม่ไกลจนเราสังเกตุขวามือไว้จะสังเกตุป้ายทางเขา พร้อมๆกับอาคารสีปูนสีส้ม สีเหลืองสลับเป็นชั้นซ้อนกันไปมา
ความเนี๊ยบและความเรียบง่ายพลัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติเขาใหญ่
ที่ Toscana Vally Khaoyai มีความอลัง ความเนี๊ยบ และเห็นถึงความตั้งใจแบบที่จะทำให้ป่าดงพญาเย็นแห่งนี้สวยงามในแบบยก Tuscany หรือ Toscana แควันสุดแสนธรรมชาติของอิตาลีมาไว้ที่นี้ หลายๆคนไม่เคยรู้ว่าเค้าอนุญาติให้คนทั่วไปนักท่องเที่ยว ที่ไม่ใช่เจ้าของคอนโดหรือบ้านพักหรูๆพวกนี้เข้าไปพัก ไปเที่ยวข้างในกันได้นานแล้วด้วยฮะ
ถ้าคุณจะเข้าไปต้องผ่านด่านประตูทางเข้าที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างเข้มงวดสักหน่อย เจ้าหน้าที่จะสอบถามเราว่ามาทำไม ถ้าคุณตอบซื่อๆว่ามาถ่ายภาพเฉยๆ หมดสิทธิ์นะ แต่ถ้าเป็นแขกมาพัก หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาทานอาหารที่ Club House ด้านในจึงจะผ่านเข้ามาได้ อันนี้ละมั้งที่คนทั่วไปเลยไม่คิดว่าเค้าเปิดให้เข้ากันได้แล้ว ส่วนตัวผมว่าเพราะที่นี่ไม่ได้เป็นบ้านพักหรือโรงแรมตรงๆเท่านั้น แต่มันยังเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยด้วย จึงค่อนข้างต้องระมัดระวังพอควร เอาจริงๆผมว่ามันก็ดีนะ คนไม่เยอะดี
หลังเข้ามาข้างใน ผมเองต้องประหลาดใจมาก คืองี้ผมเองพึ่งกลับมาจากอิตาลีทริปเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ หนึ่งในเมืองที่เป็นเป้าหมายสำคัญที่ทำให้ผมจองตั๋วบินไปอิตาลี นั้นก็คือต้นแบบของที่นี่ Toscana นั้นล่ะฮะ และที่นี่ก็ถือว่าทำการบ้านมาดีมาก อิฐทุกก้อน หลังคาดินเผา และต้นไม้ทุกต้นดูจัดวางมาอย่างดี
อ่อด้านหน้าริมถนนเลยจะเจอ หอเอนปิซ่า ที่เรานอนได้ เอ้าจริงๆนะ นอนได้จริงๆคือที่นี่ก็จำลองหอเอนมาวางไว้เหมือนกัน สร้างให้เอนๆใกล้ๆกันแต่พักได้จริงนะเออ เห็นว่าจะสร้างให้ทันก่อนสิ้นปีนี้ให้ได้ มาหนหน้าผมอาจจะได้ขึ้นหอเอนนี้สักครั้งละนะ
ขับมาถึงข้างใน หลัง Checkin ที่สโมสร บอกก่อนว่าที่พักที่นี่จะเรียกว่า Town Square Suite ทั้งหมด เป็นห้องพักแบบ Apartment หรือ Condo แบบ Suite ทั้งหมด นั้นคือในทุกห้องพักจะมี Facility ครบถ้วน โต๊ะทานข้าว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน แล้วแต่จะตกแต่งดีไซน์ต่างๆกันออกไป แต่ที่เหมือนกันคือทุกห้องตกแต่งเนี๊ยบมาก ถือเป็น First Impression แรกเลย ก็ยิ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของที่นี่ฮะ
ผมขอพาไปดูบรรยากาศรอบๆ ก่อนเข้าห้องพักนะ หลักๆโซนที่เราเข้าพักได้เค้าทำเป็น Walking Street ในแบบเมืองเก๋ๆในอิตาลีเค้ามีกัน ที่นี่เรียกว่า “Town Square Sweet by Toscana” ที่นี่ทุกห้องเป็นห้อง Suite นั้นหมายความว่าในหนึ่งห้องมีมากกว่าแค่วางเตียงกับห้องน้ำ การตกแต่งทุกห้องสำคัญมาก และยิ่งมาในสไตล์อิตาลีจัดเต็มแบบนี้ด้วย
สองข้างทางจะมีทั้งที่พัก ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ การตกแต่งสวยงาม
ของในร้านส่วนใหญ่ก็คือของที่ตกแต่งในร้านนั้นละฮะ ของราคาไม่เบาทีเดียว
ผมพามาดูห้องพักที่เราเข้าพักกันฮะ ห้องพักที่นี่แต่ละห้องจะตกแต่งต่างกันออกไป โดยจะแยกเป็น ห้องวิวหุบเขา หรือ วิวเมือง ขนาดก็ไม่เท่ากันด้วย ห้องนี้ถือเป็นห้อง Type ที่ดีสุดของที่นี่ มีขนาดกว้างขวางมากและเป็นวิวหุบเขา เด็กน้อยนี่สนุกกันสุดๆเลยฮะ
มีโซฟาขนาดใหญ่วางตรงโซนรับแขก ทุกอย่างใช้ของดีทั้งหมด
จุดเด่นสุดของห้องนี้คือความสูง และมีชั้นลอยเป็นชั้นที่สองอยู่ข้างในห้อง จึงมีเตียงขนาด King Size ถึงสองเตียง ทำให้ห้องนี้สามารถพักได้ถึง 4 คน
เรื่องกว้างก็จัดว่าใช่เลย ยาววมากกก ห้องพักใช้วัสดุและการตกแต่งใน Theme ยกอิตาลีมาให้ ตามภาพเลย เด็กๆสนุกกับการเด้งไปมา
แถมจะว่าไป ห้องนี้มีชุดโซฟาให้สองชุด แยกส่วนกันง่ายๆระหว่างโซนรับแขก กับโซนที่นอนที่วางเตียงขนาดใหญ่กว่า 6 ฟุตไปอีกนะพร้อมกับโซฟาแยกมาต่างหากไว้นั่งเล่น สันทนาการกันได้อีก ที่สำคัญมันนอนสบาย หมอนและเครื่องนอนทุกอย่างมันดูดวิญาญานสุดๆเลยยยย
อุปกรณ์เครื่องใช้ทุกอย่างเริ่ด อย่างไม่ต้องสงสัยใดๆ เลย มาดูห้องน้ำกันต่อ
ห้องน้ำกว้างขวาง ใช้วัสดุชั้นดีในการตกแต่ง คือมันเริ่ดมากอ่ะ
มาดูอีกห้องนะฮะ ห้องน้ีเป็นห้อง วิวหุบเขาเช่นกัน ที่ครอบครัวเพื่อนผมเองเข้าพัก อยู่ชั้นสูงสุดในมุมที่ดีมากเช่นกัน เปิดเข้ามาเจอโต๊ะทานข้าวก่อนเลย
ห้องพักโต๊ะกินข้าวขนาดยาวนั่งได้ 4 คนกำลังดี
เตียงนอนดีมากไม่ต่างกัน ขนาดอาจจะมินิ กว่าห้องแรกแต่ลงตัวกับขนาดของครอบครัวขนาดเล็ก ไม่เกิน 3-4 คนกำลังดีฮะ
ห้องน้ำก็กว้างขวางตกแต่งไม่แพ้ห้องใหญ่สุดเลย
ยิ่งตื่นเช้าๆมาดูหมอกยามเช้าลอยเอื่อยๆ เลาะขอบเขา ตรงหน้ายิ่งเพลิดเพลิน แม่เราเป็นคนตื่นเช้าๆ นั่งดูวิวสีขียวของป่าเขามีความสุขมากฮะ
มาดูอาหารเช้าไม๊ เริ่ดไม่แพ้กันนะ
อาหารเช้าที่นี่จะใช้ห้องอาหารในโซน Town Square รองรับแขกทุกคน
ไลน์อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกทั้งคาวหวาน เชิญดูกันตามอัธยาศัยฮะ
อาหารเน้นไปทาง อินเตอร์ซะเยอะ อร่อยดี ของที่ใช้ดีมาก ผมทานที่นี่ตลอด 2 วันมีสลับสับเปลี่ยนอาหารหลักๆไม่ให้ซ้ำกันเกินไปด้วย
ของหวานขนมก็ดีมาก รวมๆประทับใจนะ
เดินเลยมาดูสปาเค้ากันฮะ “Tuscan Senses Spa” สปาที่มีจุดเด่นในเรื่องการจำลองบรรยากาศห้องสปาแต่ละห้อง ให้เข้ากับเมืองท่องเที่ยวสวยงามของชนบทอิตาลี
แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกันมี Concept Design เมืองหลายๆเมืองผมก็เพิ่งไปมาอย่างที่บอกก็พอจะนึกภาพตามไม่ยาก
มาได้ครึ่งทางแล้วสำหรับ รีวิว Toscana Valley Khaoyai ตามอ่านกันต่อเลยครับ
มาสำรวจรอบๆกันต่อ บริเวณด้านในจะทำเป็นลานให้เด็กๆเข้ามาวิ่งเล่นกันได้ มีเครื่องเล่นทำจากไม้ ดูเข้ากันดีกับบรรยากาศสีเขียวๆรอบ
เด็กๆไม่ต้องพูดถึง สนุกสุดใจ โดยเฉพาะที่เป็นเชือกโหนตัวลงมา โอ้ยยยย เล่นวนไปสิคะ เป็นสิบๆรอบ ไม่เชื่อดูเอา
เดินเลยมาด้านในอีกนิดนี่ยิ่งเลิศเลอมากฮะ เป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinite Edge วิวนี่สุดแสนอลังการ คือเล่นน้ำบนตึกสูงๆมองเห็นวิวตึกเราเคยแล้ว
แต่เล่นน้ำมองเจอวิวทะเลหมอก เจอหมู่เขาสุดลูกหูลูกตาแบบนี้เพิ่งเคยเจอ คิดแล้วมันฟินมาก
มานั่งๆนอนๆนี้คือดีงามอ่ะนะ
บรรยากาศโดยรอบบางส่วนเค้ายังสร้างไม่เสร็จนะฮะ แต่ก็มีรั้วรอบขอบบังไว้หมด
มาดูห้องอาหาร ที่สโมสรของโรงแรมกันมั่ง ผมว่าข้างในตกแต่งระดับนึงนะ สวยเข้ามาตรฐานล่ะ แต่ที่มันดีจนประทับใจผมคือข้างนอกมากกว่า
ยิ่งเป็นเวลา Dinner ด้วยนะ มัน LOVE ไปนะฮะ ดูเอาๆ
เวลายามเย็นโดยเฉพาะตรง Time Square โรแมนติกมาก บรรยากาศร้านรวงเปิดไฟกันสวยงามมาก
เดินชิลๆ ยามเย็นอากาศดีๆ มันฟินเลย
ร้านอาหารที่นี่มีดนตรีขับกล่อมด้วย ร้านก็น่ารักดีเลย “Caffe’ Del Museo”
เราทานอาหารค่ำกันที่นี่เป็นสลัดง่ายๆอร่อยดีฮะ ราคาก็ตามสถานที่นะ ไม่ต่างจากร้านดีๆในกรุงเทพฯหรอก
ร้านมีมุมขายของให้เดินดูเพลินๆด้วย ใครสนใจอะไรก็ช้อปฯกันได้
สรุปก่อนจะไปต่อ
เอาโดยรวมที่นี่มีความสวยงามยิ่งใหญ่ในแบบผสมกลมกล่อมไปกับการกินวิวธรรมชาติ ตัวบ้านทุกหลัง ห้องพักทั้งหมดได้รับการดูแลดีงามมาก พนักงานไม่อิดออดในการจะเข้ามาช่วยเหลือใดๆ อย่างแม่เราที่พามาพักผ่อนทริปนี้ด้วยกัน ยังเอ่ยชม แม่เราเป็นนักบวช อายุเลข 7 นำหน้าแล้ว ไปไหนมาไหนก็ต้องพึ่งพาไม้เท้าหรือรถวีลแชร์ พนักงานที่นี่ก็จะกุลีกุจอมาช่วยประคอง ไม่ให้ต้องเอ่ยเรียกเลย จนแม่ต้องให้พร กันทั้งวันเลยฮะ
ความสุขในครอบครัวก็ดี…
ความงามในธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ บ้านพักในสไตล์อิตาลี องค์ประกอปทุกอย่างที่บอกมา มันมาบรรจบลงที่นี่พอดี ผมชอบมาก
ถ้าคิดว่าอิตาลีมันไกลไป แพงไป เกินจะไปกันได้ตอนนี้ แวะมาละลายความคิดนั้นกับที่นี่ผมว่ามันโอนะ โอมากด้วย และถ้ารักเขาใหญ่อยากอยู่ที่พักที่มันดีๆ นอนหรูสักคืนนึง ที่นี่ก็เป็นอีกที่ๆให้คำตอบนั้นได้
รีวิวนี้ยังไม่จบเพราะเราไม่ได้นอนแค่คืนเดียว อีกคืนเราย้ายบ้านกันไปนอนที่ La Casetta กันต่อ อันนี้ก็เด็ดๆไม่แพ้กันจ๊ะ
จบแล้วนะครับสำหรับ รีวิว Toscana Valley Khaoyai
แล้วพบกันฮะ
รวมรีวิวที่พักสไตล์ครอบครัวของเรามาที่นี่เลย >>> https://blog.one22.com/archives/category/lifestyle_trip
แนะนำว่าถ้าจะจองที่นี่อยากทราบราคา อยากแนะนำเว็บเหล่านี้เลย
เว็บของโรงแรมเองครับ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย —-> http://toscanavalley.com/
หากใครกำลังมองหาดีลที่พั
ตามlink ไปเลยครับ