จั่วหัวแบบนี้ “Around Trip Taipei : ไต้หวันกี่ครั้งก็ไม่พอ ภาคเริ่มต้นการเดินทาง ” เอาจริงๆแล้วหลังจากที่ผมไปมา 3 ครั้ง แต่ทุกครั้งที่ไปเหมือนตัวเองไปไต้หวันครั้งแรกเสมอ(เกาะๆเค้าไปไม่เคยได้วางแผนเองเต็มๆสักที ฮ่า ฮ่า) ผมเคยรีวิวรวมที่กินเที่ยวไต้หวันกับการเที่ยวในเมืองไว้แล้ว พร้อมกับแนะนำจุดท่องเที่ยวห้ามพลาดหากคุณไปครั้งแรกไว้แล้วกับรีวิว “12 ที่เที่ยวไทเป ไต้หวันห้ามพลาด” หนนี้เลขอหยิบที่กินเที่ยวรอบๆเมืองหลวงของไต้หวันอย่าง ไทเป พาออกไปนอกเมืองบ้าน เอาประสบการณ์ทั้งสามครั้งมาขมวดเป็นเรื่องเดียว เอาว่ามาลองดูกันดีกว่า ว่าบทความนี้ช่วยอะไรคุณได้มั่งเชิญตามผมมาเลยครับ
เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง
ไต้หวันพศ.นี้ไปสะดวกมากเพราะฟรีวีซ่าแล้ว ทำให้การไปเที่ยวง่ายขึ้นเพราะเค้าอนุญาติให้เราเที่ยวได้ถึง 30 วันต่อครั้งทีเดียวละครับ (ใจดีกับคนไทยมาก) แต่จะไปให้หนุกหนานควรเตรียมตัวเองก่อนไประดับนึงนะ มะมาไล่ดูกันควรมีอะไรบ้างผมจะแยกไว้เป็นเรื่องๆเลยนะ
ก่อนเดินทางเราเตรียมอะไรไปกันประมาณนี้
อุปกรณ์ชารจ์สารพัด
ผมเป็นคนพกพาอุปกรณ์เยอะมาก นอกจากกล้องแล้วยังมี ขาตั้งกล้อง, Notebook , มือถือ 2 เครื่อง (บางรอบเอา ipad ไปอีกไม่รู้จะขนไปไหมเนอะ 555)เรียกง่ายๆ ว่า เต็มกำลังรบล่ะ เพราะงั้นถ้าจะเอาไปแนะนำพกปลั้กไปด้วยจะได้ชารจ์ทุกอย่างได้ครบไม่ต้องพึ่งพารูปลั้กไฟในสถานที่เยอะ ในภาพผมซื้อกลับมาจากทริปญี่ปุ่น (เค้าใช้เหมือนกันเลย) คุ้ม ประหยัดและเบามาก พกสะดวกจริงๆ
อ่อไฟเค้าเป็น 110 V60 H. เพราะงั้นบ้านเราใช้ได้ (บ้านเรา 110-250 V) แต่แนะนำให้ดูอุปกรณ์ทุกอย่างให้ดีครับกันพลาด หัวปลั้กเค้าจะเป็นแบบ 2 ขาแบนๆ เหมือนกันกับประเทศญี่ปุ่นนะครับ ดูตามภาพเลยนะ เพราะงั้นใครใช้ปลั๊กแบบ 3 ขากับอุปกรณ์พวก Notebook แนะนำให้หา Universal Plug ไปด้วยปลอดภัยชัวร์
การแลกเงิน
ค่าเงินไต้หวันกับค่าเงินของไทยเราถือว่าโชคดีที่ใกล้ๆกันมาก ปัจจุบัน (12/2016) เรทอยู่ที่ 1.1 Baht/1 NTD ซึ่งก็คือมากกว่าเรา 10% นั้นคือเท่ากับง่ายมากในการคำนวน ที่สำคัญของกินของใช้เค้าก็ราคาใกล้ๆกัน อย่างเราซื้อของกินใน 7-11 เค้าก็ไม่ต่าง นะ ส่วนตัวเรื่องแลกเงินนี้แล้วแต่คนจริงๆ ว่าควรแลกเท่าไหร่ ยิ่งหากไปทางช้อปปิ้งนี่ไร้พรมแดนกันเลย
แต่ถ้าเน้นเที่ยวจริงๆอันนี้ก็ว่ากันอีกทีเพราะมันก็ขึ้นอยู่กับการเดินทางและที่พักที่เราเลือกอีกนั้นล่ะ อย่างผมไปมาสามครั้งค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันเลยขึ้นอยู่กับสมาชิกที่ไป และระยะเวลาที่เราไปนั้นเอง รอบนี้ผมแลกไป 10,000 Twd เท่านั้น ขากลับตังเหลือด้วยซ้ำไป เพราะไปกันหลายคนแชร์ค่าใช้จ่ายกันช่วยได้มากเลย
Internet
สำหรับ เน็ต มีทางเลือกหลายทางมาก เช่น เช่า Pocket wifi / Roaming / Local Sim ส่วนตัวมีโอกาสลองหมดแล้วทุกแบบ อยากจะบอกว่าแต่ละแบบมีวิธีคิดไม่เหมือนกันในการเลือกใช้งานในรอบนี้ผมเปลี่ยนมาใช้เป็น Roaming แทนและเลือกใช้ TruemoveH เหตุผลง่ายมากเลยครับ
กรณีจะซื้อชิมแบบ Local แนะนำให้ซื้อจากสนามบินตอนลงเครื่องเอาเลยเท่านั้นครับ การออกไปซื้อข้างนอกไม่สะดวกเลย ผมเคยลองไปทำตอนทริปครั้งก่อน เสียเวลาในการเปิดซิมและรอเจ้าหน้าทีใน Shop นั้นๆกรอกข้อมูลต่างๆเป็นชั่วโมงทีเดียวนับว่ายุ่งยากมาก แม้ราคาซิมดาต้าที่นู้นจะไม่แพงแต่เอาจริงๆเค้ามักจะคิดเป็นจำนวน GB เหมือนบ้านเรานั้นเองทำให้ถ้าเราซื้อถูกไปก็อาจจะไม่พอใช้ (หนก่อนติด The Voice ครับ ดูจนหมดเน็ตอืดเลย ฮ่า ฮ่า) เพราะงั้นไม่อยากแนะนำนักสู้ใช้ Pocket Wifi ไปเลยดูจะดีกว่านะ
มาดูแบบ Roaming บ้างเนื่องจากตัวผมใช้ของ TruemoveH ดูๆมีโปรให้เราเลือก Roamingกับค่ายมือถือในไต้หวัน ได้หลายค่ายดี และเราค้นจนเจอโปรนี้เข้าไป ราคามันดีงามมากหากเทียบกับการซื้อซิมแบบ Local เน็ตที่ได้เป็นแบบ None Stop เล่นไม่จำกัดเพราะงั้น
แค่วันที่เราไปถึงและเปิด Data Roaming เป็นเครือข่าย Far east Tone ในราคาวันละ 150 บาทถูกที่สุด กับโปรใหม่ที่พึ่งออกมาพอดีคือ โปร Non-stop แบบ 3,5 และ 7 วัน นั้นแปลว่าถ้าเราไปแบบนี้กำหนดวันชัดเจนคือ 3-5-7 วัน เราจะจ่ายคุ้มมาก เพราะเฉลี่ยเท่ากับเราจ่ายแค่ 2-5 วันเท่านั้น แต่ถ้าเป็นค่ายอื่นๆในไต้หวันก็ทำได้เช่นกัน
คือเค้ามีโปรวันละ 333 บาท เช่น
เป็นกลุ่มประเทศในทวีปเอเชีย วันละ 333บาท หากใช้งาน 7 วัน
จะมีค่าบริการรวมสูงสุดไม่เกิน 2,331บาท
แต่ถ้าซื้อแพ็กเกจแบบ 7 วัน จะมีค่าบริการเพียง 1,610บาท เฉลี่ยวันละ 230บาท
(ประหยัดไป 721บาท) เช่นของเครือข่าย Taiwan Mobile หรือเครือข่าย Chungwan Mobile สองค่ายนี้ดีอย่าง เราสามารถสลับไปมาระหว่างวันถ้าเห็นว่าสัญญานจากอีกค่ายไม่ดี โดยไม่ต้องเสียตังเพิ่ม เพราะอะไรที่บอกแบบนี้นะเหรอครับ คืองี้
ปรกติเวลาที่เราเลือก Roaming Data ไปแล้วถ้าค่ายมือถือนั้นๆจะส่ง Message มาแจ้งกับเราว่าใช้การเชื่อมต่อสัญญานกับค่ายไหน และบอกเรทไว้ให้เราทราบ แบบนี้คือเราจะเริ่มนับชั่วโมงวันนั้นไปจนถึง จบวันตอน 24.00น.นั้นเอง พ้นวันใหม่ก็จะถูกคิดเป็นวันถัดไป เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเลือกค่ายใดๆในการใช้งานไปแล้ว ไม่ควรเปลี่ยนเครือข่ายในระหว่างวันเป็นอันขาดนั้นจะกลายเป็นเราถูกคิดเงินท็อบอับทันทีกลายเป็นคิดเงินเพิ่มไป แต่กับสองค่ายนี้ไม่เป็นไร เพราะเราได้รับ Message แจ้งมาจาก TruemoveH ว่าสามารถสลับระหว่างวันได้ ทดลองแล้วไม่มี Message แจ้งว่ามีการเรียบเก็บเงินสองรอบครับ ปลอดภัยได้ แต่จะให้ดีเพื่อความปลอดภัยต่อการโดนชารจ์ แนะนำให้พ้น 24.00 น ของแต่ละวันแล้วสลับค่ายดีที่สุดครับ ปลอดภัยไร้กังวล
ดูรายละเอียดทั้งหมดที่นี่เลยครับ http://truemoveh.truecorp.co.th/upgrade_option/category/international_service/postpaid
วิธีการสมัคร
ง่ายมากเพียงกด *118# โทรออก ควรตรจสอบโซนประเทศที่ไปว่าเร็วหรือช้ากว่าประเทศไทย เพื่อการสมัครเราควรสมัครก่อนเดินทาง 1 วันเพื่อการเปิดใช้เพราะฉะนั้นควรเช็คประเทศที่ไปว่าช้าหรือเร็วกว่านะฮะ ดูกันได้ที่นี่เลย
วิธีการเปิด Data roaming บนมือถือ
IOS : Setting > Mobile Data > Mobile Data Options > Data Roaming เลือกเป็น ON
Android: Setting > Mobile Network > Data Roaming เลือกเป็น ON
ส่วนวิธีการ Set up นั้นก็ตามนี้เลยครับ
จะต้องทำการเปิดบริการโรมมิ่งก่อนการไปใช้งาน ด้วยการกด *112*1# โทรออก เพื่อเปิดแบบอัตโนมัติ หรือ ดาวโหลด Truemove H Roaming application ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นการเปิดบริการโรมมิ่งในแอพได้เช่นกัน
วิธีการเลือกเครือข่ายทั้งจากมือถือในระบบ IOS& Android
IOS : Setting > Carrier > Automatic เลือกเป็น OFF > เลือกเครือข่ายที่เข้าร่
(การตั้งค่า > ผู้ให้บริการ> Automatic เลือกเป็น OFF > เลือกเครือข่ายที่เข้าร่
Android: Setting > Mobile Network > Network Operators >เลือกเครือข่ายที่เข้าร่
( การตั้งค่า > เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ > ผู้ให้บริการ > ค้นหาเครือข่าย)
เท่านี้ก็ใช้งานได้แล้วครับ
สายการบิน
รอบนี้ผมยังคงใช้บริการ Tiger Air อีกเช่นเคย ไปมาสามครั้งยังไม่เคยบินกับเจ้าอื่นเลยเหตุผลนั้นก็เพราะเวลาครับ เวลาของ Tiger ถูกจริตผมสุดแล้วคือมีเวลาบินทั้งแบบไปถึงยังไม่ดึกจนหารถวิ่งเข้าเมืองไม่ได้ หรือหากจะเลือกบินไปถึงเช้าๆก็มีเช่นกัน ส่วนตัวหลังจากลองมาทั้งสองแบบแล้ว ผมคิดว่าบินไปถึงดึกดีกว่าเพราะไม่เพลียมากสามารถพักผ่อนแล้วตื่นนอนเที่ยวจะดีกว่า ส่วนบางคนอยากไปถึงเช้าเพื่อประหยัดค่าที่พักก็ได้เช่นกัน เลือกเอาตามสะดวกเลย
นอกจาก Tiger Air แล้วยังมี Nokscoot , Eva Air ที่ยังมีเที่ยวบินๆไปอยู่ก็เลือกเอาตามที่เงินและเวลาถูกใจเราครับ
การเดินทางในประเทศ
โคตรสะดวก ! คือคำนิยามที่ให้กับประเทศนี้ ผมไปมาสามครั้งมีโอกาสและประสบการณ์เดินทางครบหมดแถมมีแบบเฉพาะๆมาแนะนำอีกด้วย
รถไฟ
มีด้วยกัน 3 แบบ คือ รถไฟธรรมดา(TRA) รถไฟความเร็วสูง(THSR) รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ทั้งสามแบบอยู่ที่เราเลือกใช้งาน
ปัจจุบันทางไต้หวันเปิดเส้นทางรถไฟตรงจากสนามบินเข้าเมืองเลย โดยใช้ Airport Express Train ราคา 160 NT วิ่งยาวๆมาถึงสถานี Taipei Main Station ได้ในเวลา 35 นาที ออกจาก Gate เดินมาต่อรถรากรณีคุณมาลง Terminal 2 ให้มาต่อที่ Terminal 1 มองป้าย Airport Express Train ไว้เลย หรือวิธีเดิมกรณีอยากแวะช้อปปิ้งตรง Mitsui ก่อนแล้วค่อยเดินทางเข้าเมือง ก็ขึ้นรถบัส (UBUS)เชื่อมต่อจากสนามบินมาลงที่สถานีรถไฟความเร็วสูง Taoyoun ไป Taipei Main Station ได้เช่นกัน
การใช้รถไฟธรรมดา (TRA) เหมาะมากในเมืองไทเป และเมืองใกล้เคียงแถมเดินทางง่ายมากหากเราพกพาบัตร Easy Card ไปด้วยนะ
ส่วนรถไฟที่เหลือใช้เดินทางระหว่างเมืองได้ก็ TRA หรือ ไประหว่างป้ายตามจุดท่องเที่ยวหลักๆก็ MRT นั้นเลย ไม่ต่างจากบ้านเราแต่อย่างใด แถมสถานีเค้าแยกตามเส้นสีต่างๆทำให้เข้าใจง่ายมากอะ
รถบัส
นี่ก็สะดวกไม่แพ้กัน สามารถใช้นั่งจากสนามบินเข้าเมืองได้เลยตั้งแต่เท้าแตะลงสนามบินเราสามารถ เดินออกมาจากGate แล้วเจอป้ายรถที่ด้านหน้าเลยหาไม่ยาก แถมถ้ากรณีอยู่ในเมืองก็มีป้ายบอกแม้จะไม่ตัวใหญ่ๆนักแต่ก็อ่านง่าย สำหรับคนที่ต้องการเดินทางจากไทเปไปรอบๆเมืองหรือไปเมืองอื่นๆ ไปที่สถานีรถไฟไทเป ด้านข้างก็คือเซ็นเตอร์ของทุกสายรถบัสไปได้หมดสะดวกดีมากจ๊ะ
บัตรเบ่งสารพัดจ่าย Easy Card
หาซื้อได้ง่ายตั้งแต่ในร้านสะดวกซื้อในสนามบินซื้อปุ๊บใช้ได้หมดทั้งรถไฟธรรมดา,ใต้ดิน (MRT,TRA) เลยไปถึงการซื้อของใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อทั้งหลายเค้าก็รับหมด เวลาเติมเงินก็ไม่ยากจะเติมที่เครื่องเติมตามสถานีรถไฟ หรือเติมจากร้าน 7-11 หรือร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ก็ได้เอาแต่ใจเราเลย เติมครั้งแรกจะมีค่าบัตรหักเก็บไว้ 100 NTD หลังจากนั้นเติมได้เรื่อยๆสะดวกดีมาก และบางร้านยังมีโปรลดราคาของร่วมกับบัตรอีกด้วยเพราะงั้นถึงบอกไปแล้วก็ซื้อไว้เหอะคุ้มและสะดวกยิ่งเวลาเร่งด่วนคนไต้หวันเค้าใช้รถไฟกันมากๆคิวยาวเราไม่ต้องเข้าคิวใดๆเดินเข้ามาได้เลยฮะ
รถเช่ากับเว็บถู๊กถูก KKDAY เว็บรวมดีลสำหรับที่เที่ยว รถ รถไฟ ฯลฯ
มาถึงแบบExclusive สุดๆบ้าง ฮ่า ฮ่า อันนี้คือเป็นทางเลือกในการเดินทางอีกแบบที่พึ่งรู้จักก็ตอนหาข้อมูลการเดินทางพอดีเลยฮะ
KKDAY คืออะไร? หลายคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก kkday คือเว็บไซต์สัญชาติไต้หวัน ที่รวบรวมดีลสารพัดอย่างในประเทศไต้หวันและประเทศที่คนไทยนิยมไปอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ และแน่นอนไต้หวันซึ่งเราก็เลยลองใช้บริการกับทริปนี้
วิธีการง่ายมากฮะ หลังจากเข้าไปเว็บไซต์สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนคือการสมัครสมาชิกด้วย E-mail จากนั้นเว็บไซต์จะส่งเมล์กลับมาให้เรา Verify ตัวตน เท่านี้เป็นอันจบ
อันนี้เป็นส่วนนึงของ ดีลที่เราซื้อจาก kkday.com เป็นครั้งแรก จะเห็นว่าเราเลือกได้จะแสดงราคาแบบไหน แต่การจ่ายยังไงก็ต้องตัดบัตรเครดิตหรือไม่ก็บัญชี paypal เลือกเอาตามสะดวก
จากนั้นก็เริ่มช้อปกันได้เลย หลักๆถ้าเป็นที่ไต้หวันเว็บนี้ค่อนข้างจะครบครันมาก ทั้งตั๋วรถไฟเข้าเมืองจากสนามบินจะเห็นว่าซื้อจากเว็บเค้าได้ราคาถูกกว่าซื้อเอง 20% เลยแล้วไหมจะไม่ซื้อละจริงไหมฮะประหยัดกันไปตั้งเยอะ ตั๋วเข้าพิพิทธภันฑ์ และที่เรามีโอกาสลองใช้ดู้เพราะหาที่อื่นมันก็ยากจะกล้าลองและเชื่อใจได้ คือทัวร์นั้นเองฮะ หนนี้เรามีหลายที่ๆจะไปและเพราะไปกันเยอะการจองทัวรแบบรถเช่าพาเที่ยวเค้าก็มี เลยเลือกแบบ 1 Day Trip แล้วมาหารค่าใช้จ่ายกันอีกทีฮะ อย่างที่วันแรกเราไปจะขึ้นเขาไปที่อุทยาน ที่ไถจง 1-day tour around Caodi Wetland in Nantou เป็นวันแรกที่เราเดินทางกันไปถึง
หลังจากลงรถไฟที่สานีรถไฟความเร็วสูง ไถจง รถจะมารอรับพวกเราทั้งคณะเลย คนขับจะมารยาทดีมากเลย ยิ้มแย้มและอัธยาศัยดี สำหรับรถเช่าแบบนี้เค้าจะเหมาเป็นเวลานะครับ ชัดเจนคือจะไม่เกิน 8 ชม.ต่อวัน หากเกินกว่านั้นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่แรกครับ หรือไม่ก็ต้องตกลงตั้งแต่ตอนมารับกันให้เค้าทราบคนไต้หวันจริงๆไม่ได้เคร่งครัดเท่าญี่ปุ่นแต่เหมือนเป็นกติกามากกว่า ยังไงคุยกันก่อนเดินทางสบายใจสุดครับ
บรรยากาศแบบนี้ละฮะ รถจะเป็นแบบรถ van ตามที่เรา Request ไปในเว็บตอนจอง คนขับจะพูดภาษาอังกฤษได้นะฮะ แต่โชคดีรอบนี้ในคณะมีคนพูดจีนได้คือคุณ 1000miles กูรูไต้หวันพาไปเอง เลยสบายในการสื่อสารเลย บทสรุปนะเหรอทริปนี้เราขอให้เค้าช่วยแวะจอดตลอดเส้นทางไม่มีเสียงบ่นแต่อย่างใดแถมเค้าเหมือนเป็นไกด์ให้เราไปพร้อมๆกันฮะ เส้นทางขึ้นอุทยานจะผ่านจุดท่องเที่ยวหลายจุดเค้าก็แวะให้ได้เลย เหมือนที่เราเหมารถตู้เที่ยวบ้านเราแบบนั้นเลยฮะเพียงแต่เส้นทางขอให้อยู่ในเส้นที่เราซื้อมาอย่าแตกแถวไปทางอื่นๆเค้าโอเคหมดฮะ
ส่วนตอนเรากลับจากไทเปเพื่อมาที่สนามบินเดิมตั้งใจจะใช้ Taxi แน่ๆแล้วเพระขากลับงอกของมาอีกเพียบเลย เลยลองค้นหาดูเค้าก็มีบริการรถรับส่งสนามบินเช่นกันดูแล้วไม่ได้ต่างกันนักข้อดีคือมารับถึงที่และมบริการน้ำดื่มในรถด้วยนะฮะ เริ่ดอ่ะ
สรุปรวมๆประสบการณ์ใช้งานกับเว็บรวมดีล KKDAY โอมาก นอกจากนี้เรายังซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงขาไปและกลับจากไทเป-ไถจง-ไทเป กับเว็บด้วยและได้ส่วนลดอีก 20% ทีเดียวถือว่าเริ่ดของดี ราคาถูกฮะ ลองใช้บริการกันดูที่นี่เลยนะ (มีบางอันที่มันจะเป็นภาษาจีนบ้างแม้เราจะเลือกเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็ตาม ลองใช้ Google Translate ดูพอกล่อมแกล่มช่วยได้บ้างครับ)
การผ่านตม.
จริงๆแล้วไต้หวันถือเป็นประเทศผ่านง่ายมากฮะ ไม่ต้องกังวลเราไม่ทำตัวหลุกหลิกระหว่างเข้าแถวก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ผมไปสามครั้งเค้าไม่เคยถามใดๆเลย ยื่น Passportให้ก็จบแล้ว ไม่ต้องกลัวเข้าห้องเย็นนะฮะ แค่เอกสารครบตามที่เค้าระบุผ่านชัวร์
มาถึงที่พักบ้าง
สำหรับเราแล้วอันนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมล้วนๆเลย เช่นถ้ากรณีไปกับครอบครัวอาจจะต้องคำนึงเรื่องข้าวของมากขึ้นสักหน่อย ควรเป็นห้องที่มีเตียงคู่ หรือ Kingsize บางครั้งก็อาจจะถามถึงเตียงเสริมเลย อย่างบ้านเราไปครั้งแรกก็เลือกห้องที่มีเตียงเสริมได้
กรณีอย่างรอบนี้เราไปกับเพื่อนก็เน้นประหยัดไว้ก่อนขอให้มีเน็ตดีๆใช้ ที่นอนสะอาดใกล้สถานีรถไฟไปมาสะดวกก็ได้แล้ว แบบนี้ Hostel ดูเหมาะเพราะเน้นนอนแล้วเช้าก็ออกเดินทางเที่ยวได้เลย และสำหรับที่ไทเปเราพักสองที่คือที่ MUIU Capsule inn และ อีกที่ Mr.lobstersecret ทั้งสองที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟไทเป ระดับเดินง่าย มาดูที่แรกเป็นน้ำจิ้มก่อนhttp://www.taipeimuiuinn.com/ ตั้งใจจะรีวิวเต็มๆอีกทีนะ
ห้องนอนแม้จะเป็น Hostel ก็ยังถือว่าทำได้ดีมากสะอาดสะอ้านแบ่งห้องเป็นแบบ 2,4,6 มีประตูปิดมิดชิด เรียกว่าเหมือนโรงแรมประมาณนั้นเลย แต่แค่ห้องน้ำจะเป็นแบบรวม แน่นอนเน้นนอนพักห้องจะแคบแต่ได้อารมณ์ความเป็นส่วนตัวดีเลยละฮะ
ห้องน้ำสะอาดและมีหลายชั้นสามารถเลือกชั้นได้โดยการแจ้งตอนมา Checkin ได้เลย
เดี๋ยวจะรีวิวละเอียดๆกันอีกทีนะสนใจตอนนี้กด LINK ไปดูได้เลย
มาถึง http://www.mrlobstersecret.com อันนี้เป็นส่วนผสมระหว่างโรงแรมและHostel หรือจะเรียกว่า Hostel แบบมีห้องส่วนตัวด้วยก็ได้
อยู่ไม่ห่างจากสถานีนัก เดินลากกระเป๋าได้แต่ถ้าเทียบกับที่แรกถือว่าเดินห่างมาหน่อย แต่ข้อดีคือ ห้องพักแบบ 4 คนที่เราเลือกพักเลิศมาก ปลั้กไฟเยอะ
มีห้องน้ำในตัว ขนาดห้องไม่เล็กเลย วางกระเป๋าลากกันได้สบายๆ แม้จะดูเก่าไปสักหน่อยเพราะก็เปิดมาหลายปีแล้วแต่ความสะอาดโอเค ประทับที่สุดตรงทุกเตียงมีปลั้กแยกให้เหมือนเวลาเราพัก Hotel เลยสะดวกมากฮะ
เส้นทาง
รอบนี้เหมือนเราแบ่งทริปออกเป็น 2 แบบคือ ออกไปหาธรรมชาติ ก่อนจะกลับเข้าเมืองมาตะลุยแสงสีกัน พวกเราตั้งใจจะไปหามุมถ่ายภาพในสายธรรมชาติ เข้าป่าเข้าเขาไปนู้นเส้นทางในแถวๆไทจงจึงเป็นตัวเลือก ก่อนจะกลับมาลุยไทเปต่ออีก 3 วันสุดท้าย
เพราะงั้นรีวิวหน้าจะพาไปตะลุยกันละนะ
ส่วนเข้าเมืองไปอับเดตจุดท่องเที่ยวในกรุงไทเปกันดีกว่า ใครว่าไทเปเล็กๆ คอยชมได้เลยฮะ
ตอนแรกนี้ขอจบตรงนี้ก่อนละ ตอนหน้าจะพาลุยธรรมชาติกันให้เต็มเหนี่ยวละนะ โปรดติดตามฮะ