รีวิวแบบเรียลๆกับ รีวิว บัตร KTB TRAVEL CARD ประสบการณ์เอาไปใช้จริงที่ญี่ปุ่น ผมพกพาบัตรนี้ไปเพราะเหตุผลง่ายๆ คือน้องที่สนิทกันเค้าเล่าให้ฟังว่าเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นน่าจะ work เพราะตัวบัตรไม่เสียค่ารูด และสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราผ่าน App ได้เลย โดยที่เราไม่ต้องถอนเงินมา จะแลกก่อน หรือ ระหว่างเดินทางก็ได้ ฟังๆทีแรกยังงงๆอยู่ เพราะไม่เข้าใจ Concept แต่สุดท้ายก็ไปทำนะ เพราะอยากลอง ตอนไปทำบัตรที่ธนาคารเลยได้ทำความเข้าใจกับบัตรมากขึ้น ขอสรุปย่อๆ ตรงนี้ดีกว่า เผื่อคนที่สนใจจะได้เข้าใจก่อนทำครับ
ตัวบัตร KTB TRAVEL CARD เป็นบัตรประเภทเดียวกันกับ Debit Visa ออกมาเพื่อเจาะผู้ใช้ที่ชอบเดินทางต่างประเทศที่ไม่อยากจะพกเงินสด หรือ
แลกเงินไปเยอะๆ ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งของบัตรมากครับ หลักๆหยิบข้อดีที่ไปใช้ที่ญี่ปุ่นมานะครับ
อ่อฝากรีวิวล่าสุดกับ รีวิวเที่ยวคันไซใช้ pass ไหนดี กันได้ครับ สำหรับคนจะไปเที่ยวย่านนี้ช่วยได้แน่นอนครับ มะ ต่อกันดีกว่าเนอะ
ประสบการณ์จริง จ่ายเองรูดเองหมด มาดูกัน
สามารถรูดจากเครื่องรูดบัตรที่ใช้ในญี่ปุ่นได้หมดทุกครั้ง ผมใช้ประมาณ 5 ครั้งจาก 5 เหตุการณ์และระหว่างทริป ก็มีการแลกเงินเข้าบัตรเรื่อยๆ ไม่ได้แลกทีเดียว ดังนี้
ครั้งที่1 รูดที่คาวากูจิโกะ รูดตอนจ่ายตังร้านสะดวกซื้อข้างทาง เค้ามีเครื่องรูดบัตรปรกติเราก็ยื่นไป ผลลัพธ์ก็จ่ายได้เลยครับตามภาพที่เห็นครับ ไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดแต่อย่างใด ดีงามจริงๆ
ครั้งที่ 2 ผมรูดตอนเติมน้ำมันที่ปั้มในโอซาก้า ทีแรกก็ลังเลเพราะไม่แน่ใจว่าที่ปั้มเค้าจะรับไหม สุดท้ายก็ลองดู ปรากฎได้นะ จ่ายผ่านและไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดแต่อย่างใดเช่นกัน
ครั้งที่ 3 ผมรูดตอนจ่ายค่าเช่ารถที่ขับมาโดยต้องมาจ่ายที่ปลายทางที่เราคืนรถ ผมรับรถเช่าจากโตเกียว เราใช้รถยาวๆ หลายวัน มีทั้งค่าบัตรทางด่วน ETC CARD ที่เช่ามาติดรถ รวมกันกับค่ารถเช่ารถด้วย
ผมมาคืนที่ Toyota สาขาโอซาก้า ก็ลองใช้อีกครั้ง ผ่านด้วยดี จ่ายได้ และไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดอีกเช่นกัน ดีงามครับ
ครั้งที่ 4 ใช้ซื้อของที่ Outet ใกล้สนามบินคันไซ ซื้อรองเท้า Adidas ที่นี่เค้าจะสอบถามเราด้วยว่าให้เค้ารูดเป็นเรทเงินเยน หรือให้ Convert เป็นเงินไทยไปเลย ผมเลยให้รูดเป็นเยน ก็ทำให้ไม่ต้องเสียเงินค่า Convert อีกรอบประหยัดได้อีก ชอบมาก
ครั้งที่ 5 ที่สนามบิน Kansai International Airport ถือว่าเป็นการจ่ายที่พลิกแพลงที่สุดและยังจ่ายได้อีกต่างหาก เลิฟสุดๆ ไปเลย เล่ายาวหน่อยนะครับ
หลังผ่าน ตม.เข้าไปแล้ว ด้วยความที่เงินเยนยังเหลือ ก็เลยหาที่ใช้ จนไปเจอร้านซื้อของฝากมาฝากให้คนที่เมืองไทยได้ ก็จะจ่ายตังแล้ว
ตอนจ่ายเงิน ผมก็นึกได้ว่าเงินเยนในบัตรยังเหลือนี่น่า ไหนๆ แล้วขอจ่ายผ่านบัตรได้ไหม พนักงานก็รับบัตรไปเช็คแล้วก็บอกว่ารูดได้ไม่มีปัญหา แต่เงินในบัตรไม่พอ
ผมเลยสอบถามต่อว่า ถ้าผมจ่ายเงินผสมระหว่างบัตรกับเงินสดที่เป็น yen ล่ะ หลังสื่อสารกันพักนึง เจ้าหน้าที่มองหน้าผมแบบงงๆ แต่สุดท้ายก็ตอบกลับมาว่า ได้!!
จากนั้นเค้าก็เริ่มที่การรูดวงเงินในบัตรนี้ก่อนจนหมด (บัตรผมมีเศษทศนิยมอยู่ด้วยนะ เช่น เหลืออยู่ 3100.50 Yen เค้าก็ถามว่าจะให้ตัดหมดเลยไหม แน่นอนผมก็อยากรู้ว่าทำได้ไหม แน่นอน ได้สิครับ เลิฟมาก) จากนั้นก็มาจ่ายเป็นเงินสดที่ขาดอยู่ได้ จนสุดท้ายผมก็เคลียเงินในบัตรจนหมด สะดวกดีมาก จริงๆ เราจะเหลือเงินที่แลกใส่บัตรเก็บไว้ก็ได้แต่ส่วนตัวอยากรูดให้หมด จะมาคราวหน้าค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า
สรุปทั้ง 5 ครั้งผมใช้ได้โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายที่มีการพลิกแพลงก็ยังสามารถอยู่ดี ถือว่าบัตรทำการบ้านมาดีมากครับ ลองดูราคาวันนี้(18/01/2019)ที่ผมกำลังเขียนรีวิวจะเห็นว่าตรงญี่ปุ่นนี้ใกล้เคียงกันเลย ประเทศอื่นๆ อาจไม่ได้ถูกกว่าเจ้าสีเขียวที่ผมใช้บ่อยๆ แต่ก็ใกล้เคียงกันกว่าไปแลกที่ bankเองมากนัก แต่ญี่ปุ่นนี้คุ้มจริงๆครับ
สรุปข้อดีของบัตรดังนี้
- บัตร KTB TRAVEL CARD ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเดินทางไปในประเทศที่เค้าใช้ 10 สกุลเงินดังนี้ USD, GBP, EUR, HKD, JPY, AUD, SGD, NZD, CAD และ CHF โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศยุโรป EUR ที่มีความเสี่ยงเรื่องคนไทยเราไปโดยล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า ขโมยเงินบ้าง ลดลงได้เลย แต่นะ ถ้าเราเก็บบัตรไว้ในกระเป๋าตังก็เสี่ยงเหมือนเดิมเพราะถ้าโดนล้วงไปก็จบอยู่ดี เพราะงั้นให้ดีถ้าไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง ก็แยกต่างหากกับที่เก็บเงินสดจะดีกว่าครับ
- อัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่าเวลาเราแลกกับธนาคารเองโดยตรงครับ และต่ำระดับเดียวกันกับ ตามตู้แลกเงินดังๆ อย่าง Superrich ทั้งสีเขียวและสีส้มบางทีผมว่ามันต่ำกว่าด้วยซ้ำในบางช่วงเวลาอันนี้เรา เช็คผ่าน แอฟได้เลย แลกได้ตลอด 24 ชม.
- การใช้งานง่าย สามารถแลกเงินเข้าบัตรได้ผ่าน แอฟ KRUNGTHAI NEXT มีให้โหลดทั้ง Ios & Android วันไหนเงินลดลงมาต่ำๆ เราแลกเก็บไว้ก่อนได้เลย แลกเท่าไหร่ในแอพก็โชว์เท่านั้น วันไหนอยากขายก็ทำได้ง่ายขายผ่านแอพได้เลย
- สมัครง่ายดี ไม่ต้องใช้เครดิตใดๆ เพราะไม่ใช่บัตรเครดิต จึงไม่ต้องยื่นเอกสารเยอะแยะ แค่ไปเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย พร้อมฝากเงินขั้นต่ำ 500 บาท จากนั้นก็ยื่นบัตรประชาชน สมัครใช้แค่นี้เลยครับ ง่ายมาก ระยะเวลาราวๆ 1-3 อาทิตย์บัตรก็ถูกจัดส่งมาที่บ้านครับ
- ฟรีค่าธรรมเนียมออกบัตรอยู่ในตอนนี้ (01/2019) ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- เวลารูดจ่ายไม่ต้องมีการทำธุรกรรมใดๆที่ใช้ OTP เพราะงั้นไม่ต้องกังวลว่าเราจะต้องรับรหัสผ่านมือถือระหว่างการรูดแต่อย่างใดครับ
- ตอนนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดที่ต่างประเทศทั้ง 10 สกุลเงิน จากปรกติจะคิดครั้งละ 100 บาท อันนี้เริ่ดขึ้นไปอีก อ่อตอนกดให้เลือกเป็น ประเภทบัญชีกระแสรายวัน (Current หรือ Checking Account) เท่านั้นนะครับอย่าเลือก Saving นะครับ
- ใช้ซื้อของที่รับสกุลเงินทั้ง 10 ในเว็บไซต์ต่างประเทศหรือในแอพได้ เช่น aliexpress ตอนเลือกจ่ายให้เลือกเป็นสกุลเงินใดเงินนึงใน 10 สกุลนี้นะครับ ถึงจะจ่ายได้
- สามารถแลกเงินเก็บไว้ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด ตามสกุลเงินที่เปิดให้แลกครับ เราเลือกทยอยแลก หรือ ทยอยขายได้เอง
- เปิดปิดบัตรผ่านแอพได้เองเลย
ข้อเสียบ้าง
- จริงๆ ผมว่ามันก็ไม่เชิงเป็นข้อเสียนักนะครับ เพราะมันน่าจะเป็นเรื่องปรกติ คือตัวบัตรถูกออกแบบมาให้เรารูด หรือ กดเงินในต่างประเทศเท่านั้นจึงไม่สามารถกดเงินหรือรูดเงินสดในไทยได้ครับ
- บัตรมีอายุน้อยไปหน่อย สำหรับผม แค่ 2 ปีเอง น่าจะนานกว่านี้หน่อย และก็เลยทำให้เงินที่เราแลกเก็บไว้ในแอพหรือในบัตรก็มีอายุเท่านี้ด้วยเช่นกัน เพราะงั้นอย่าลืมแลกกลับถ้าใช้ไปจนจะครบสองปีนะครับ
- ต้องลงแอพเพื่อการใช้งานเท่านั้น ไม่งั้นใช้ไม่ได้เพราะตัวบัตรไม่มีเงินถ้าไม่เติมเข้าไป วิธีเติมก็คือเอาเงินเข้าบัญชีที่ผูกกับบัตรจากนั้นก็มาแลกในแอพอีกที
มาถึงวิธีการบ้างจะไปเปิดบัตรต้องมีอะไรบ้าง
- ต้องเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทยเพื่อให้ผูกบัญชีเงินฝากเข้ากับตัวแอพและบัตรได้ ไม่งั้นเราก็ไม่มีที่แลกเปลี่ยนเงินเข้าบัตรสิจริงไหมครับ จำเป็นทั้ง ตอนซื้อ และตอนขาย
- ใช้บัตรประชาชนพร้อมกำเงินไป 500 บาท (เงินยังอยู่ในบัญชีปรกติ) จากนั้นก็รอครับบัตรจะเดินทางมาถึงบ้านเราในเวลา 1-2 อาทิตย์ กรณีอยากให้พิมพชื่อตัวเองลงไปก็ทำได้อาจจะใช้เวลามากขึ้นอีก 1 สัปดาห์
- ตอนสมัครเค้าจะให้เรากดพิน 6 หลัก เหมือนเวลาสมัครบัตร ATM ปรกติเพราะฉะนั้นห้ามลืมเป็นอันขาดเพราะต้องไปกดเวลาจ่ายตังหรือกดตังในตู้ที่ต่างประเทศนั้นเอง
จบแล้วคับเป็นรีวิวสั้นๆ ที่หยิบเอาเรื่องใกล้ๆตัวอย่างการแลกเงินที่คุ้มค่าสุดมาฝากกัน ผมเองคงใช้บัตรนี้ยาวๆ ไปตราบใดที่ยังเดินทางต่างประเทศอยู่บ่อยๆ และตัวธนาคารไม่เรียกเก็บค่าบัตร ค่าธรรมเนียมแบบนี้ต่อๆไป ก็ยิ่งดีครับ สำหรับคนสนใจ สามารถเข้าไป กดไปดูรายละเอียดกันได้ที่นี่นะครับ บอกทุกอย่างครบหมดแล้ว
หากมีคำถามเพิ่มเติมทิ้งไว้ใต้รีวิวเลยครับยินดีตอบตามจริงทุกอย่างเลย ส่วนตัวผมชอบที่เราไม่ต้องไปเป็นหนี้บัตรทั้งหลายนัก หลายๆทริป เรามักจะรูดแล้วกลับมานั่งจ่ายค่าเที่ยวหลังจากกลับมา วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดและยังไม่ฟุ่มเฟื่อยการใช้จ่ายได้อีกด้วย ใช้เท่าไหร่จ่ายจริง ตัดจริงตามนั้นครับ
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้เราได้มีวิธีประหยัดจากบัตรเครดิตทั้งหลายกันนะครับ
สวัสดีครับ