รีวิว First Time In Tokyo…วางแผนง่ายๆ ..เที่ยวได้ทั้งบ้าน

ชอบช่วยเราแชร์นะคะ

รีวิว First Time In Tokyo…วางแผนง่ายๆ ..เที่ยวได้ทั้งบ้าน สำหรับมือใหม่หัดเที่ยว หลังจากจบทริปกับการไปประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกของเรามาแล้วนั้น ก็ขอหยิบยก 10 ตัวช่วยของเราที่ใช้ในทริปนี้มารีวิวกันหน่อยค่า พิกัดของทริปคือ โตเกียว ไปญี่ปุ่นครั้งแรกก็ต้องไปโตเกียวสิ เที่ยวโตเกียวก่อน แล้วครั้งต่อๆ ไปค่อยกระเถิบออกไปยังโซนอื่นๆ

เอ้า…มาดูกัยว่า ที่ยิบยกมาเล่าเอามารีวิวตรงใจใครที่กำลังจะไปญี่ปุ่นครั้งแรกบ้าง หรือถ้ายังไม่มีในลิสต์ ก็เอาจากรีวิวไปเพิ่มไว้ในลิสต์ First time in Tokyo ของคุณกันเล้ยยยยย

เหตุผลทำไมต้องไปโตเกียวก่อนเมืองอื่น….ก็เพราะเราว่ามันคือเมืองหลวง ความสะดวกสบายและการเริ่มต้นทำความรู้จักกับญี่ปุ่นก็น่าจะง่ายกว่า ยิ่งเป็นครั้งแรกด้วยแล้วล่ะก็หลายๆ ความน่าสนใจอยู่ในโตเกียว รายการที่ต้องไปของทั้งบ้านพ่อ แม่ ลูก ก็อยู่ที่โตเกียว เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นเหตุผลที่ลงตัวว่า…ไปโตเกียวก่อนละกัน

การเดินทาง

1. สายการบิน

โปรโมชั่นไปญี่ปุ่นตลอดปีนั้นถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำสงครามกันหนักหน่วงม๊ากกกกก จะซื้อจะจองทีก็หารีวิวบวกเพจโปรฯ กันวนไป ครั้งแรกของเราเราเลือก Nokscoot ค่ะ เพราะ

>เวลามันลงตัว เพราะวันเดินทางสามารถไปได้ไฟลท์ดึกๆ เลยเพราะมีงานที่ต้องจัดการให้เสร็จ เวลาเดินทางของสายการบินนี้คือ 02.45 ถึงนาริตะ 10.25 ไปถึงก็เข้าที่พัก แล้วเดินเที่ยวใกล้ๆ พอได้

>>ทริปนี้คุณพ่ออายุ 62 ติดสอยห้อยตามไป First time ด้วย ก็เลยจอง ScootinSilence (พื้นที่งดใช้เสียง) เพิ่มเงิน 1,000 บาท ให้นอนสบายๆ ไปเลย

>>ที่นั่ง มีหลายรีวิวบอกกว้างดี หลังจากใช้บริการแล้ว ยอมรับว่ากว้างจริงค่ะ ลูกลงไปเล่นสร้างบ้านสบายเลย 555

เราสั่งอาหารบนเครื่องด้วยนะ มีกระเพราไก่สับ ข้าวไก่เทอริยากิ บะหมี่เนื้อ ชี้เป้าว่าข้าวไก่เทอริยากิ แซ่บเว่อร์ใช้ได้ บะหมี่เนื้อก็อร่อย แต่กระเพราะไก่เนื้อไก่ละเอียดไปนิสสสสนึง

ส่วนขาไปเลือกนั่งฝั่งขวาตามธรรมเนียม เพราะอยากเห็นฟูจิซัง แต่ๆๆๆๆๆๆ ปรากฏว่าหลับค่ะ สำหรับใครที่สนใจเข้าไปจับจองตั๋วโปรฯ ของเค้าได้ทางนี้เลย https://www.nokscoot.com

2. Pass ไหนใช้คุ้ม

ความคุ้มค่าของการเลือกใช้ JR Pass  เราเลือกใช้ JR TOKYO Wide Pass แบบ 3 วันนะ เพราะอยู่โตเกียวตลอดไม่ได้ไปพักที่อื่นและใช้คู่กับบัตร Subway อันนี้เลยคุ้มสุด และตอบโจทย์ทั้งบ้านกับทั้ง 3 Trip ที่ได้ไป ถูกใจทั้งพ่อแม่ลูก คือ Naeba-YuZawa , Nikko, Odaiba

สำหรับบัตรมีขายผ่านหลายเว็บนาจาาา บ้านเราเลือกซื้อผ่าน Kkday KKday ค่ะ
มีโค้ดส่วนลดให้ด้วย และช่วงนี้มีขายยกแพ็คนะ  ราคา JR TOKYO Wide Pass ตามนี้นะคะ
>>ผู้ใหญ่ 10,000 เยน  เป็นเงินไทยประมาณ 3,000 บาท
>>เด็ก 5,000 เยน เป็นเงินไทยประมาณ 2,500 บาท

JR TOKYO Wide Pass+GALA Yuzawa Snow Resort
เป็นแพ็คเกจสุดคุ้ม สำหรับใครที่จะไปตามรอยบ้านเราที่ Yuzawa ค่ะ

ลองกดเข้าไปดูรายละเอียดตามนี้เลย One day trip แพ็คเกจสุดคุ้ม เล่นสกีที่ Yuzawa+JR TOKYO WIDE PASS

ที่เที่ยว

3. Naeba-YuZawa

เดินทางด้วยรถบัสท้องถิ่นไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์กันค่าาาาา
ซึ่งป้ายรถบัสก็อยู่ที่หน้าสถานีเลยค่ะ จากสถานีรถไฟ Echigo-Yuzawa ให้เดินออกจากประตูสถานีรถไฟ ฝั่ง East สังเกตุจะมีบรรไดเลื่อน ให้ลงมาชั้นล่าง จะเจอ Bus Terminal
หน้าตาป้ายรถบัสก็เป็นตามในภาพ ให้เรารอที่ป้ายหมายเลข 1 นะ อย่ารอผิดหมายเลขนะคะ ไปยาววววววเลยนะ ไปไหนไม่รู้ด้วย…..

ในป้ายก็จะมีเวลาบอกชัดเจนค่ะ ว่ารถจะมาถึงกี่โมง ซึ่งมาตรงเวลาเป๊ะเว่อร์มากตามสไตล์อนดีงามของคนญี่ปุ่น
นั่งบัสไปอีกประมาณ 40 นาที ก็จะถึงป้ายสถานีขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ถามว่าป้ายไหน ไม่ต้องดูป้ายค่ะ เพราะมันคือป้ายสุดท้ายของเส้นทางพอดีเลย รถบัสจะวนลงมาจอดที่ป้ายหน้าโรงแรม Prince ค่ะ
ขากลับก็มารอที่ป้ายเดิมนะคะ รถหมดประมาณ 17.00 น.

ใครอยากลุยแบบคุ้มๆ ตามนี้เลย แพ็คเกจสุดคุ้ม เล่นสกีที่ Yuzawa+JR TOKYO WIDE PASS

มาถึงด้านบน โอ้ยยยยยยยบรรยากาศดีม๊ากกกกก เค้าจัดโซนให้นั่งเหมือนมาแคมป์ปิ้งกลางป่าเลยทีเดียว มีซุ้มขายโซบะ ปิ้งย่าง กาแฟ เครป ไอศครีม พร้อมเก้าอี้ให้นั่งชมบรรยากาศกันชิลล์ๆ มีของเล่นของส่วนกลางให้เด็กๆ ได้เล่นด้วยนะคะ บนนี้ก็จะมีกระเช้าแบบนั่งห้อยขาอีกต่อนึงด้วยนะ วนเข้าไปในป่าตามรูปเลย

เมนูอาหารในโซน Indoor อูด้งอร่อยมากกก ถ้วยเบ้อเริ่มเลย ใครไปแนะนำให้สั่งอูด้งเต้าหู้นะคะ ของเค้าอร่อยๆ จริงๆ

สรุปการเดินทางจากโตเกียวไป Naeba-YuZawa

จากโตเกียวใช้ JR TOKYO Wide Pass ขึ้นชินคังเซ็นมาลงสถานี Echigo Yuzawa จากสถานีรถไฟ Echigo-Yuzawa ให้เดินออกจากประตูสถานีรถไฟ ฝั่ง East สังเกตุจะมีบรรไดเลื่อน ให้ลงมาชั้นล่าง จะเจอ Bus Terminal เป็นบัสท้องถิ่นรอที่หมายเลข 1 ต่อบัสไปประมาณ 40 นาที ลงป้ายสุดท้ายของเส้นทางที่ป้ายหน้าโรงแรม Prince แล้วเดินไปที่สถานีซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ห่างจากหน้าโรงแรมประมาณ 500 เมตร

 

4. Nikko

เส้นทางที่สองของการใช้ JR TOKYO Wide Pass แบบคุ้มค่าก็คือเส้นทางนี้แหละค่ะท้านผู้ชม เมืองมรดกโลกขนาดนี้ไม่มาได้เยี่ยงไร

การเดินทางก็เริ่มจากสถานี Ueno เหมือนเดิมค่ะ ขึ้นชินคังเซ็นจาก Ueno ลงที่สถานี UTSUNOMIYA แล้วเปลี่ยนขบวนไป JR Nikko ได้เลย ไปง่ายมากนะคะ ป้ายเด่นชัดเจน แค่ดูเวลาจากเว็บ Hyperdia.com เช่นเคย ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียว ประมาณ 1.30 ชม  ลงจากชินคังเซ็นที่สถานี Utsuomiya ก็ถือพาสไปต่อ JR Nikko Line ได้เลยค่ะ เป็นรถไฟขวบนท้องถิ่น แต่น่ารักมากๆ นั่งต่อไปอีกไม่เกินชั่วโมง ก็ถึงที่ Nikko ค่า

One day trip ของเราแพลนมาแบบนี้นะคะ ครบทั้งโซนธรรมชาติและโซนมรดกโลก
ครึ่งวันแรก โซนธรรมชาติ
– โซนน้ำตกเคกอน (Kegon)
– ทะเลสาปชูเซนจิ (Chuzenji)
ครึ่งวันหลัง โซนมรดกโลก
– วัดไทยูนอิน
– ศาลเจ้าฟุตะระซัง
– ศาลเจ้าโทโชกุ
– วัดรินโนจิ (ตอนเราไปกำลังสร้างเพิ่มเติม)
– สะพานชินเคียว

การเดินทางใน Nikko ต้องซื้อ Pass สำหรับเดินทางใน Nikko เพิ่ม สำหรับทริปเราก็แนะนำเป็น
Chuzenji Onsen Pass 2,000 เยน ใช้ได้ 2 วัน สามารถใช้นั่งรถบัสสาย 2A,2B ถึงป้าย 25 และ 2C เข้า โซนมรดกโลกได้ค่ะ
สำหรับคนที่จะไปแค่โซนมรดกโลกอย่างเดียว สามารถซื้อพาส World Herritage ราคา 500 เยน สำหรับเดินทางเที่ยวในโซนมรดกโลกได้นะคะ ใช้ได้ 1 วันค่ะ

เดินมาที่บริเวณทางเข้าน้ำตกเคกอน จะมีร้านที่ขายปลาย่างด้วยเตาถ่านค่ะ หอมกรุ่นส่งกลิ่นยั่วน้ำลายมาก และเป็นการย่างแบบพิถีพิถันค่อยๆ รมควันไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ให้ปลาได้รับความร้อน สนนราคาตัวละประมาณ 600 เยน ไปถึงต้องนะคะ อาหาศหนาวๆ กินปลาย่างร้อนๆ ดีอย่าบอกใคร

ทะเลสาบขูเซนจิ
จากน้ำตกก็เดินเรื่อยๆ มาที่ทะเลสาปได้เลย ขอบอกว่าสวยมากกกกกก สวยวัวตายควายล้มเลย ยิ่งมาช่วงเย็นๆ พระอาทิตย์ตกดินด้วยแล้วนะ นั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเลสาปได้แบบไม่อย่ากลุกเลยค่ะ
ที่นี่มีเรือให้ถีบ มีร้านอาหารริมทะเลสาป มีจักรยานให้เช่าด้วยนะ

สรุปการเดินทางจากโตเกียวไป Nikko

การเดินทางจากโตเกียวใช้ JR TOKYO Wide Pass ขึ้นชินคังเซ็นมาลงที่สถานี UTSUNOMIYA แล้วเปลี่ยนขบวนไป JR Nikko ได้เลย ไปง่ายมากนะคะ ป้ายเด่นชัดเจน แค่ดูเวลาจากเว็บ Hyperdia.com เช่นเคย ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียว ประมาณ 1.30 ชม  ลงจากชินคังเซ็นที่สถานี Utsuomiya ก็ถือพาสไปต่อ JR Nikko Line เป็นรถไฟท้องถิ่นลงที่ Nikko เลยค่ะ

5.Odaiba

Odaiba เกาะขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของชาวญี่ปุ่น บนเกาะมีแหล่งช้อปปิ้งและสะพานสีรุ้งอันน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ค่ะ เป็นที่โปรดปรานของเด็กน้อย
JR tokyo wide pass ตัวใหม่นี้สามารถ นั่งสาย Rinkai ไปโอไดบะได้สบายๆ ค่ะ ลงที่สถานี Tokyo Teleport ได้เลยจ้า 

มาถึงก็กาชาปองลย กดมันเข้าไป ได้ไปไม่รู้กี่ลูก ตอนแรกลูกกดเล่นเราว่าโอ๊ยยยจะเอาไปทำไม หลังๆ ลองกดด้วย เฮ้ยยยสนุกดี

ที่โอไดบะมีที่เที่ยวเยอะนะคะ แต่ราปักหมุดที่ห้างโอไดบะกับกันดั้มคาเฟ่เลย มาถึงตอนบ่ายๆ หน่อยเพราะช่วงเช้าไปเที่ยวที่อื่นก่อน แล้วก็เที่ยวยาวยันค่ำเลยค่ะ เพราะอยากเดินเล่นไปดูรูปปั้นนเทพีสันติภาพตอนค่ำๆ

สรุปการเดินทางจากโตเกียวไป Odaiba

การเดินทางจากโตเกียวใช้ JR TOKYO Wide Pass ขึ้นสาย Rinkai Line นั่งไปจนผ่านสถานี Tennozu Isle แล้ว จะขึ้น Odaiba ที่สถานี Tokyo Teleport Station เดินขึ้นไปแล้ว จะเป็นลานจอดรถบัส และตึก Pallette Town – Mega Web – Venus Fort อยู่ตรงหน้า คือใจกลางเกาะโอไดบะเลยค่ะ

6. ล่องเรือ Hagone กับทัวร์ท้องถิ่น

เราไปครั้งนี้รวมวันเดินทางไป-กลับคือ 8 วัน ตามแพลนที่วางไว้จะมีวันเหลือหนึ่งวันหลังจากใช้ Pass ติดต่อกันจนหมดแล้ว ก็เลยลองเลือกดูใช้บริการทัวร์ท้องถิ่นค่ะ ซันซันอยากนั่งเรือโจรสลัดเพราะไปเห็นในยูทูปมา แม่จัดให้จองทัวร์ One day trip โลด พาล่องเรือทะเลสาบอาชิซะเลย จองง่ายๆ ผ่าน KKday เช่นเคย คอนเฟิร์มว่าสนุกมาก

ลองเที่ยวทัวร์ดูนะคะ รายละเอียดตามนี้จ้า One day trip ล่องเรือฮาโกเน่+ดูภูเขาไฟฟูจิ แบบคุ้มๆ

โฉมหน้าเรือโจรสลัดกำลังเข้าเทียบท่า ขนาดแม่ยังตื่นเต้นเลยค่ะ เด็กๆ จะเหลือหรอ ใหญ่โตอลังการมากๆ

มื้อกลางวันเป็นชาบู อยากจะบอกว่า เป็นชาบูมื้อแรกในญี่ปุ่นที่อร่อยม๊ากกกก เป็นร้ารแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ รวมค่าอาหารอยู่ในเพ็คเกจทัวร์แล้ว เติมไม่อั้นจ้าาาาา

วันเดินทางอากาศดี ไกด์เป็นคนท้องถิ่นค่ะ การบริการดีม๊ากก ทั้งไกด์และคนขับรถ

ตามโปรแกรมคือล่องเรือฮาโกเน่ กินมื้อเที่ยงเป็นชาบูสุดอร่อย ก่อนไปดูฟูจิซัง และตบท้ายด้วยการช้อปปิ้งที่ Gotemba Premium Outlets

สำหรับเรากับราคา 2,800++ บาท  เราว่าคุ้มดีนะ

7. วัด Senso-ji

ถ้าอยู่เมืองไทยต้องไปวัดพระแก้ว มาโตเกียวก็ต้องวัดนี้แหละ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ที่มีหลายๆชื่อที่คนนิยมเรียกขานกันทั้งวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง (Asakusa Kannon Temple) เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะและเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว และพอดีเราจองโรงแรมให้ใกล้กับวัดนี้เอาไว้ ตอนเช้าเราก็เลยเดินไปเที่ยววัดแบบสบายๆ (ดูข้อมูลที่พักที่ข้อ 10 นะคะ)

ที่นี่กว้างมากค่ะ ต้องแพลนเวลาเผื่อๆ เลยนะถึงจะเดินชมได้ครบทุกซอกทุกมุมของวัด ยิ่งถ้าใครชอบถ่ายรูป ด้านหน้าวัดจะมีเป็นเหมือนถนนคนเดิน มีของขายมากมาย และมีร้านให้เช่าชุดกิโมโนให้ถ่ายรูปกันด้วย หรือนึกสนุกก็มีบริการรถลากโบราณให้นั่งชมบริเวณรอบๆ กันด้วย

สรุปการเดินทางไปวัดเซ็นโซจิ  

สถานีที่อยู่ใกล้วัดเซ็นโซจิมากที่สุดคือสถานี Asakusa จาก Tokyo Metro Ginza Line, Toei Subway Asakusa Line, Tobu Sky Tree Line, Tsukuba Express

วิธีเดินทางจากโตเกียว, อุเอโนะไปสถานีอาซากุสะ ในการเดินทางจากสถานี Tokyo ไปสถานี Asakusa ก่อนอื่นให้ไปที่สถานี Ueno สาย Yamanote และให้ขึ้นรถ Tokyo Metro Ginza Line ที่สถานี Ueno เมื่อรถไฟออกจากสถานี Ueno สถานนี Asakusa  ที่ใกล้วัดจะอยู่ลำดับที่ 3

8. GUNDAM Cafe’+ห้าง Yodobashi-Akiba

อาหารของที่นี่จะเป็นอาหารฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งชื่อและสื่อถึงตัวละครแต่ละตัวของกันดั้ม เช่น ข้าวราดซอสเนื้อของคิระ (Kira no Hayashi Rice) สนนราคา 848 เยน ที่เป็นข้าวราดซอสเนื้อตุ๋นคล้ายๆแกงกะหรี่รสเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกับไข่ออนเซ็นและชีส แต่เนื่องจากอิ่มอาหารจากอูด้งชามโตมาแล้ว เราก็เลยสั่งเครื่องดื่มอุ่นๆ แก้หนาวมาดื่มกันค่ะ

วันและเวลาที่เปิดให้บริการ

วันจันทร์ – ศุกร์ เปิดบริการ 10.00 – 23.00 น.

วันเสาร์ เปิดบริการ 08.30 – 23.00 น.

วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดบริการ 08.30 – 21.30 น.

(อาหารกลางวันเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 11.00 – 16.30 น. และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เริ่มเสิร์ฟตอน 17.00 น.)

ซันซันคลั่งกันดั้มมากค่ะ ก็ต้องมาอย่าให้ตกแทรนด์ที่โอไดบะไปแล้วก็ต้องมาที่นี่ด้วย ที่นี่อยู่ในย่านแหล่งจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Akihabara คาเฟ่ไม่ได้ใหญ่มากค่ะ แต่ก็ทำให้เด็กน้อยตื่นเต้นได้ โดยเฉพาะเมนูเครื่องดื่มที่ทำอาร์ทบนฟองนมเป็นตัวการ์ตูนในเรื่องกันดั้มได้นี่แหละ

จากกันดั้มคาเฟ่ เดินย้อนออกมาหน้าร้านแล้วอ้อมไปทางถนนเส้นหลัง ก็จะเจอกับห้าง Yodobashi-Akiba ด้านบนนี่ถือเป็นขุมทรัพย์ของคนรักกันดั้มเลยนะ อลังการ ละลานตา นอกจากโมเดลกันดั้มแล้วก็ยังมีอีกสารพัดให้คนรักการต่อโมเดลมาเลือกซื้อกัน ถามถึงราคาก็ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็ถูกกว่าแน่นอน ตีเป็นเงินไทยก็ตกเริ่มต้นที่หลักร้อย ถ้าหลักพันก็ได้กล่องเบ้อเริ่มหอบกลับบ้านเลยทีเดียว

สรุปการเดินทางจากโตเกียวไปย่าน Akihabara

ใช้ JR ออกจากสถานี JR Akihabara ทาง Electric Town Exit เดินไปอีกประมาณ 50 เมตรจะอยู่ตรงขวามือค่ะ

ที่พัก

9. Grand NishiNippori

Guesthouse ย่าน Nippori ราคาคืนละ 4,000++ ที่พักคือดีย์ พัก 4 คน ตกคนละ 1,000 ++ เราจองผ่าน Booking.com ค่ะ

#ส่วนลด1000บาทจากบุ๊กกิ้งดอทคอม
เอ้า เร่เข้ามา!!! แอดฯ ไปหาส่วนลดมาให้อีกแล้วนะ สำหรับคนที่กังวลว่าเอ ชั้นจะใช้ได้ไหม สิทธิ์เต็มรึยัง มะ มาเพิ่มอีกแล้ว เพราะงั้นใครอยากใช้ก็กดรับสิทธิ์ไปได้เลย

หนึ่งร้อยสิทธิ์ –> https://booki.ng/2PsOP4H

มาดูในห้องพักกันบ้าง มีทุกสิ่งตามนี้ค่า

– 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องสุขา พร้อมทิชชู ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมนวด (ขวดจัมโบ้)
– ครัว โต๊ะกินข้าว และอุปกรณ์ครัว
– กาต้มน้ำ กระทะ ไมโครเวฟ ตู้เย็น กาน้ำร้อนไฟฟ้า
– เครื่องซักผ้า ไม้แขวน ผงซักฟอก ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว (10 ผืนใหญ่ 10 ผืนเล็ก)
– คอมฯ ตั้งโต๊ะ พร้อม wifi เต็มสปีด

10. Gajyun Asakusa Hotel & ZEN cafe

ที่เลือกที่นี่ เพราะดูจาก map แล้วมันไม่ไกลจากวัดอาซากุซะ เดินแค่ประมาณ 700 เมตรเอง และราคาก็ไม่แพงมาก แต่ห้องจะเล็กหน่อยค่ะ เป็นเตียง 2 ชั้น กับอีก 2 เตียงแยก แต่ว่าเรานอนแค่ 2 คืนก็ลับเมืองไทยแล้วเลยไม่ซีเรียสมาก ราคาราวๆ คืนละ 3,000++ ค่ะ

อันนี้เป็นวิวจากที่พักนะคะ มองเห็นโตเกียวทาวน์เว่อร์ด้วยล่ะ

ปิดท้ายด้วยร้านอูด้งสุดโปรดที่สถานีรถไฟ UENO ค่ะ อันนี้ขอแถมเอาไว้สำหรับคนชอบกินนะคะ ถ้าไปสถานีนี้เวลาแวะเปลี่ยนรถไฟ อย่าลืมแวะกินกันนะคะ อร่อยม๊ากกกกกก

แบบคนไทยสไตล์เราก็สาดพริกลงไปเลย ถือเป็นมื้อประหยัดได้เลย เพราะกินกัน 4 คน รวมของทอด ก็ราวๆ ไม่เกิน 1,500 เยนเลย อิ่มจนจุก

จบแล้วค่า สำหรับ รีวิว First Time In Tokyo…วางแผนง่ายๆ ..เที่ยวได้ทั้งบ้าน ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้เขียนลงในรีวิวนี้นะคะ เอาไว้ไปคัดสรรมาเล่าให้ฟังกันอีก

เจอกันรีวิวหน้า…..สำหรับคนรักญี่ปุ่น

Comments