Hong Kong 360 In the Air พาปีนเขาถ่ายรูปในฮ่องกง
พูดถึงฮ่องกง เราก็คงนึกถึงประเทศที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า และแออัด (ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ)
แต่ในความแออัดนั้นมันก็ซ่อนความสวยงามความคลาสิคไว้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
แต่ด้วยความที่ประเทศนี้เป็นเกาะเลยทำให้ฮ่องกงมีพื้นที่ที่เป็นภูเขา และมีจุดถ่ายภาพมุมสูงสวยๆอยู่ไม่น้อยเลยครับ
ซึ่งแน่นอนว่าเรามักจะนึกถึง The Peak หรือ Victoria Peak กันเป็นส่วนมากเพราะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปไปเที่ยวกัน
แต่ๆๆๆๆ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปเดินเล่นถ่ายภาพในจุดอื่นที่ต่างออกไปบ้างครับ
โดยทริปนี้ผมได้เดินทางไปตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2014 ที่ผ่านมาครับ ซึ่งจริงๆเป็นหน้าฝนครับ
แต่ผมถือว่าโชคดีไม่น้อยกับการไป 8 วัน 7 คืน ผมเจอฝนที่ทำให้ออกไปถ่ายภาพไม่ได้เพียงแต่วันเดียวเท่านั้นเองครับ
ทริปนี้ถือเป็นอีกทริปที่จัดขึ้นเพื่อไปเก็บภาพมาเพื่อนำมาขายโดยเฉพาะครับ ดังนั้นรีวิวนี้จะไม่ได้มีที่กินที่เที่ยวนะครับ
แต่จะเน้นไปที่จุดสำหรับการถ่ายภาพเป็นหลักครับ โดยผมจะพยายามลงพิกัด และวิธีการเดินทาง
เพื่อว่าเพื่อนๆอยากจะตามรอยไปเก็บภาพบ้างนั่นเองครับ
และอย่างที่บอกในหลายๆจุดที่ผมไปถ่ายภาพเป็นมุมสูงจากภูเขา
ผมเลยขอตั้งชื่อตอนเกร๋ๆ ว่า Hong Kong 360 In the Air ครับ
ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปด้วยกันเลยครับ
ว่าด้วยการเดินทาง
ปัจจุบันการเดินทางไปยังฮ่องกงมีมากมายหลายสายการบินครับทั้งสายการบิน Low cost หรือสายการบินแบบ Full Service ครับ
ซึ่งแต่ละช่วงเวลาก็ล้วนมีราคาที่แตกต่างกันไป ของแต่ละสายการบิน แล้วแต่ว่าช่วงไหนสายการบินใดมีโปรอะไรออกมาบ้าง
และหากจะต้องไปเช็คราคาจากหน้าเว็บทุกเว็บก็คงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ครับ เพราะค่อนข้างเสียเวลา
ปัจจุบันก็มี Search Engine สำหรับการหาตั๋วเครื่องบินมากมาย เช่น www.expedia.co.th เป็นต้นครับ
แต่สำหรับทริปนี้ผมเป็นทริปที่ผมแพลนล่วงหน้ามาตั้งแต่ปีก่อน (จริงๆไม่ได้แพลนอะไร แต่เห็นตั๋วถูกเลยบินไปครับ)
ซึ่งตอนนั้นผมจองตรงกับโปรของ Air Asia ไว้ครับไปกลับราคาเพียงคนละประมาณ 3,700 บาทเท่านั้นครับ
ว่าด้วยเรื่องการจองที่พัก
ก่อนหน้านี้ผมได้ไปฮ่องกงมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองครั้งผมเลือกที่จะนอนพัก Hostel ครับ โดย Hostel ดังๆ
ที่คนไทยนิยมก็มีอยู่ทั้งแถว Mong Kok และย่าน Tsim Sha Tsui ครับ สำหรับคนที่มีงบจำกัดการพัก Hostel ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีครับ
เพราะราคามันถูกจริงๆตกคืนละประมาณ 300-700 บาทเท่านั้นครับ แต่ครั้งล่าสุดผมมีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีกับการพักที่ Hostel ย่าน Tsim Sha Tsui ครับ
มีความรู้สึกว่าที่นอนไม่สะอาดเลยครับ นอนแล้วพอกลับมาขาขึ้นตุ่มเต็มไปหมด เหมือนว่ามีตัวเหลือบ ตัวไร มากัดครับ ซึ่งกว่าจะหายก็ใช้เวลาไป 2-3 เดือนเลยทีเดียวครับ (จริงๆเพราะไปเกามันด้วยหล่ะครับ)
ครั้งต่อมาผมจึงเลือกที่จะลองหาโรงแรมในการพักแทนครับโดยผมเลือกที่จะพักย่าน Tsim Sha Tsui
เพราะใกล้กับจุดถ่ายรูปตรง Avenue of Star ครับ และการข้ามไปฝั่งฮ่องกงก็สามารถเดินไปขึ้น Ferry ที่ราคาถูกกว่าการใช้ MTR ด้วยครับ
(แต่ก็ช้ากว่านะครับ แต่ผมมีเวลาค่อนข้างมากอยู่แล้วครับ เลยไม่เป็นประเด็น)
แต่ด้วยความที่ว่าผมไม่เคยจองและพักโรงแรมที่ฮ่องกง เลยไม่แน่ใจว่าจะจองที่ไหนดีผมเลยใช้บริการของ www.expedia.co.th ในการหาโรงแรมครับ
ซึ่งที่หน้า Expedia เราสามารถใส่ว่าเราต้องการหาโรงแรมย่าน Tsim Sha Tsui ได้เลยครับ
ไม่ต้องใส่ Hong Kong แล้วไปเลือกทีหลังครับ จากนั้นใส่วันที่เข้าพักและจำนวนคนไปได้เลยครับ
หลังจากนั้นระบบจะดึงข้อมูลขึ้นมาครับ.. ซึ่งแน่นอนผมกดให้เรียงตามราคาครับ 5555
ซึ่งจากที่ดูถ้าโรงแรมเป็น 2 ดาวจะเป็นพวก Hostel หรือ Guest House ครับ
ซึ่งผมไม่เอาผมจึงไปคลิป Filter ตรงว่า 3 Stars ครับ ก็จะได้ List โรงแรมออกมาครับตามนี้ครับ
แต่ส่วนใหญ่เวลาจองผมจะชอบดูจากแผนที่ครับ เพื่อดูว่าโรงแรมไหนอยู่ตรงไหนซึ่ง Expedia ก็มีให้ดูครับ
โดยเรากดที่ View Map ได้ครับ ซึ่งเราจะได้หน้าจอที่เป็นแผนที่ แล้วจะมีโรงแรมแต่ละแห่งปรากฎลงบนแผนที่เลยครับ
เราสามารถกดตรงจุดเพื่อดูว่าจุดไหนเป็นโรงแรมไหน และราคาเท่าไหร่ครับ
เมื่อเจอโรงแรมที่ถูกใจทั้งราคาและสถานที่แล้วก็สามารถคลิกเพื่อจองได้เลยครับ
หลังจากนั้นก็เข้าหน้าจอรายละเอียดของห้องพักที่เราจะจองครับ ซึ่งจะมีราคาหลายแบบ รวมทั้งเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
เช่นบางห้องราคาถูกแต่ยกเลิกไม่ได้ หรือบางห้องแพงขึ้นมาเล็กน้อยแต่สามารถยกเลิกได้เป็นต้นครับ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนครับ
และด้านล่างของจอจะมีข้อมูลทั่วไปของโรงแรมให้ครับ
รวมไปถึง Guest Review ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างมีประโยชน์ในการเลือกโรงแรมไม่น้อยครับ
จากนั้นก็จะเป็นการกรอกข้อมูลส่วนตัวและชำระเงินครับ
และเมื่อจองเสร็จก็จะมีเมล์ Confirm ส่งมายัง อีเมล์ของเราครับ
เพียงเท่านี้เราก็ได้โรงแรมเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
การเดินทางเข้าเมือง
สำหรับการเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนั้น มีหลายวิธีครับ
วิธีที่เร็วที่สุดคือ การนั่ง Airport Express ครับ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่พักในย่าน Central Hong Kong ครับ
แต่ผมพักอยู่ที่ย่าน Tsim Sha Tsui การนั่ง Airport Express จะไม่ค่อยสะดวก
เพราะเมื่อมาลงที่ Hong Kong แล้วจะต้องเดินต่อไปประมาณ ครึ่งกิโลเมตร เพื่อต่อ MTR จาก Central ย้อนกลับไปยังฝั่งเกาลูนครับ
ดังนั้นการเดินทางไปที่พักของผม ผมจึงเลือกเดินทางเข้าเมืองด้วย รถเมล์ครับ
(ที่สนามบินนั้น MTR ไปไม่ถึงครับ ต้องนั่ง Bus ออกมานิดนึงก่อนครับ ซึ่งผมว่ามันก็ไม่สะดวกอยู่ดีครับ)
เมื่อเราออกจาก Terminal มาแล้ว หากเราเดินตรงต่อไปอีกฝั่งหนึ่งของ Terminal จะเป็นสถานี Airport Express (ทางขวาของรูป)
ให้เราเลี้ยวขวามา (ทางด้านล่างของรูป) จะเจอป้ายรถเมล์เต็มไปหมดครับ
ให้เราหาป้ายที่เป็นสาย A21 ครับ รถเมล์สายนี้จะวิ่งมาที่ฝั่งเกาลูนวิ่งบนถนนนาธาน
ผ่านตั้งแต่ย่าน Mong Kok ไล่มาจนย่าน Tsim Sha Tsui เลยครับ
สำหรับเรื่องบัตร MTR ผมขอไม่พูดแล้วล่ะกันนะครับ เพราะทุกรีวิวมีแนะนำไว้หมดแล้วครับ
การติดต่อสื่อสาร
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือดูจะเป็น สิ่งที่ขาดไม่ได้เสียแล้ว รวมถึงเวลาเดินทางไปต่างประเทศด้วย
ที่ฮ่องกงนั้นสามารถหาซื้อ ซิมโทรศัพท์มือถือได้จากร้าน IT และพวกร้านสะดวกซื้อทั่วไปครับ
แต่ว่า แต่ละร้านจะมีขั้นต่ำในการเติมเงินที่ไม่เท่ากันครับ (ซึ่งบางร้านที่ผมเจอคิดขั้นต่ำถึง 300 HKD) ซึ่งผมว่ามันมากไปครับ
ช่วงที่ผมไปผมเลยใช้บริการของ Discover Hong Kong Tourist SIM Card ครับ
สามารถดูรายละเอียดได้จาก Link นี้ครับ
โดยผมไปซื้อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรง Victoria Harbour ครับ
ตอนที่ผมไปผมใช้แบบ 8 Day Pass เฉพาะฮ่องกงราคา 96 HKD ใช้ได้ 5 GB ครับ
แต่ล่าสุดเหมือนมันจะขึ้นราคา แต่ซิมสามารถนำไปใช่ที่มาเก๊าได้ด้วยแทนครับ ก็ลองดูกันนะครับ
เรื่องสัญญาณของเจ้านี้ ผมให้แค่พอใช้ได้ครับ ในที่หลักๆมีสัญญาณโอเคเฉยๆครับ
เอาหล่ะครับทั้ง ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การเดินทาง การติดต่อสื่อสารครบถ้วนแล้ว ก็ออกเที่ยวกันเลยครับ 🙂
Victoria Harbour, Avenue of Star and Symphony of Light
จุดแรกเป็นจุดที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วเพราะถือว่าเป็นหนึ่งใน Landmark ของฮ่องกงเลยทีเดียวครับ
ซึ่งใครที่เดินทางมาฮ่องกงครั้งแรกล้วนต้องมากันทั้งนั้นครับ นั้นคือบริเวณ Victoria Harbour ครับ
การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Tsim Sha Tsui ออกที่ทางออก L6 แล้วเดินลอดอุโมงค์ข้าม Salisbury Road มาครับ
พิกัด GPS : 22.292974, 114.169603 / N22°17.57844,E114°10.17618
ตรงนี้ในการเลือกมุมถ่ายภาพต้องดูดีๆนะครับ เพราะมันเป็นท่าเทียบเรือด้วย ผมถ่ายๆภาพอยู่ดีๆ
เจอเรือวนมาจอดส่งคนโดนบังมุมหมดเลยครับ 555
หรือทางเลือกอีกทางหนึ่งคือให้ขึ้นไปชั้นสองครับ
แต่วันที่ผมไปมีฝนปรอยๆลงมาผมเลยเลือกที่จะถ่ายภาพจากด้านล่างแทนครับ
สำหรับการแสดง Symphony of Light จะแสดงตอน 2 ทุ่มนะครับระยะเวลาแสดงประมาณ 15 นาทีครับ
The Victoria Peak
จุดต่อมาก็ยังคงเป็นจุดที่เป็นที่นักท่องเที่ยวรู้จักดีครับ นั่นก็คือ The Peak หรือ Victoria Peak นั่นเองครับ
จุดนี้ถือว่าเป็นจุดมุมสูงหลักของฮ่องกงที่นักท่องเที่ยวทั่วไปจะขึ้นไปเที่ยวและเก็บภาพกันมากที่สุดครับ
การเดินทาง : การเดินทางที่ง่ายและเร็วที่สุดคือการนั่ง Tram ขึ้นไปครับ โดยสามารถนั่งรถเมล์สาย 15C จาก บริเวณท่าเรือ Central Ferry ไปได้ครับ
ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็จะถึงสถานี Peak Tram ครับ แต่ถ้าไปในช่วงเวลาเย็นๆ จะต้องรอคิวขึ้น Tram ค่อนข้างนานครับ
อีกวิธีที่ผมใช้คือนั่งรถเมล์สาย 15 ยาวขึ้นไปที่ The Peak เลยครับ โดยขึ้นรถเมล์จาก Central Ferry ได้เช่นกันครับ
หรือใครที่นั่ง MTR มาก็สามารถนั่งจากสถานี Central ไปได้เช่นกันครับ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีในการขึ้นไปถึง The Peak ครับ
วิธีนี้จะประหยัดกว่า นั่ง Tram ขึ้นไปครับ
สำหรับวิธีที่ผมเดินทาง เนื่องจากผมพักที่ย่าน Tsim Sha Tsui
ผมเลยเลือกที่จะนั่งเรือข้ามฝากจากฝั่งเกาลูนไปฝั่งฮ่องกงครับ (ถูกกว่านั่ง MTR ไป นืดนึง) และถือว่าได้นั่งเรือชมวิวด้วย
อ้อเรือ Ferry ที่นั่งข้ามไปจะมีชั้นบนชั้นล่างนะครับ ชั้นล่างจะถูกลงไปอีก แต่ไม่แนะนำนะครับ เพราะเหม็นน้ำมันมากครับ
หลังจากนั่งรถเมล์สาย 15 ขึ้นไปแล้วจุดแรกที่ผมไปเดินเล่นคือ Sky Terrace ครับ
เป็นจุดที่ผมไม่ได้ขึ้นมาในสองครั้งที่แล้ว ครั้งนี้เลยแวะขึ้นไปชมวิวครับ ค่าขึ้น 45 HKD หรือไม่ถึง 200 บาทครับ
ในมุมของคนชอบถ่ายรูป ส่วนตัวผมว่าคุ้มนะสำหรับวิวที่สวยขึ้นอีกเยอะครับ
แถมภาพพาโนรามาให้ครับ
ที่ Sky Terrace ปัจจุบันห้ามใช้ขาตั้งกล้องนะครับ จะขาเล็กขาใหญ่ห้ามหมดครับ (เมื่อก่อนให้ใช้ครับ)
แต่ว่าที่ผมไปตอนแรกใช้ไม่มีใครมาว่าครับ แต่ผ่านไปซักพักนึงมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าห้ามใช้ครับ
จากตอนแรกที่ผมว่าจะเก็บภาพ Twilight ที่จุดนี้เลยต้องพับโครงการไปครับ
แต่ผมไปพบว่ามีอีกจุดหนึ่งเป็นมุมที่สวยไม่น้อยเลยครับ แต่จุดนี้จะต้องเดินจาก The Peak ไปอีกประมาณ 15 นาทีครับ
ตามแผนที่นี่เลยครับ พิกัดจะอยู่ประมาณนี้ครับ 22.278526, 114.146334 ซึ่งทางเดินไปเป็นทางเดินง่ายมากครับ
คนพิการที่นั่งรถเข็นก็สามารถไปได้ครับ เพราะเป็นทาง Slope พื้นปูนอย่างดีตลอดทางครับ
ตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่อยู่มุมเขา และด้านหน้าเปิดเป็นหน้าผาพอดีจึงไม่มีต้นไม้มาบังมุมครับ
ผมเลยมาตั้งกล้องถ่ายภาพตรงนี้ครับ รวมถึงตั้งกล้องสำหรับถ่าย Day to night Timelpase มาด้วยครับ
มุมค่อนข้างกว้าง ไม่มีต้นไม้ไหล่เขามาบังเหมือนตรง Sky Terrace ด้วยครับ
ฟ้าเริ่มมืดหล่ะครับ สังเกตดีๆว่าจริงๆแล้วมุมนี้เป็นมุมฝั่งตรงข้ามพระอาทิตย์ตกนะครับ
คุยกับคนที่อยู่ที่ฮ่องกง เค้าบอกว่าจริงๆแล้วที่ The Peak นั้นเป็นมุมที่ช่างภาพที่นี่จะมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นกันครับ
เรียกว่าเป็นจุดเดียวสำหรับการถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นในมุมสูงของฮ่องกงเลยครับ
แต่ว่าการเดินทางขึ้นมาค่อนข้างลำบากนิดนึง เพราะช่วงเช้าต้องนั่ง Taxi อย่างเดียวเลยครับ
ตึก Transformer
ตึกนี้เป็นตึกที่อยู่มานอกเมืองนิดนึงครับ ซึ่งเป็นตึกที่ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมากมายครับ
แต่เป็นฉากที่เรื่อง Transformer ภาคล่าสุดใช้เป็นจุดถ่ายทำครับ ผมเลยบรรจุตึกนี้ลงโปรแกรมในการไปเยี่ยมชมซักหน่อยครับ
พิกัด GPS : 22.284506, 114.212476 / N22°17.07036, E114°12.74856
การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Tai Koo ออกที่ทางออก B แล้วเดินตามถนน King’s Road ประมาณ 230 เมตรเท่านั้นครับ
แต่เนื่องจากที่นี่เป็นตึกพักอาศัยนะครับ ดังนั้นใครอยากจะไปเก็บภาพคงต้องให้ความเคารพสถานที่นิดนึงครับอย่าไปรบกวนเค้ามากครับ
เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะโดนไล่ออกจากตึกออกมาได้ครับ อย่างขาตั้งกล้องถ้าจะใช้ก็อย่าไปเกะกะคนที่เดินไปเดินมาแถวนั้นครับ
Braemar Hill
Braemar Hill เป็นอีกจุดที่เหมาะในการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกครับ พิกัดที่ผมให้ไว้จะเป็นสุดสายของรถเมล์เท่านั้นนะครับ
ซึ่งจากจุดนั้นเราจะต้อง Trekking ขึ้นเขาไปอีกครับ ทางจะต้องมุดกิ่งไม้ มีปีนเขาเล็กน้อยครับ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีในการขึ้นไปครับ
ซึ่งทางขึ้นผมอธิบายไม่ถูกจริงๆครับ 5555 แต่มันจะมีทางที่ Trekking ขึ้นไปได้ครับ ทีคนทำสัญลักษณ์ลูกศรบอกไว้ครับ
พิกัด GPS : 22.283387, 114.198732 / N22°17.00322, E114°11.92392
การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Causeway Bay ออกที่ทางออก E แล้วนั่งรถเมล์สาย 25 (จะเป็นรถเมล์เล็ก) ไปจนสุดสายครับ
ค่ารถ 9.6 HKD ผมไม่ชัวร์ว่า ไปกลับ หรือ เที่ยวเดียวครับ จากนั้นก็ Trekking ขึ้นไปต่อครับ
สำหรับจุดนี้เป็นจุดสำหรับถ่ายพระอาทิตย์ตกครับ ดังนั้นใครมีอุปกรณ์อะไรก็ขนไปได้เลยครับไม่ว่าจะเป็น ND หรืออะไรก็แล้วแต่ถ้าฟ้าเป็นใจได้ใช้แน่นอนครับ
แต่ผมไม่มี 5555 ผมเลยรอให้แสงอ่อนลงมาหน่อยแล้วถ่ายมาครับ ภาพนี้ถ่ายมาตรงๆเลยครับ ไม่ได้ทำ HDR แต่อย่างใด
ภาพนี้ลองใช้ฟังก์ชั่น HDR ของกล้องดูครับได้เป็น JPG มาแล้วเอามาปรับพวก Contrast เล็กน้อยครับ
จากนั้นก็รอจนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกครับ
Mong Kok Shopping Street
ย่าน Mong Kok เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าสนใจของฮ่องกง เพราะเป็นจุดที่มีร้านค้าให้เลือกชมและช๊อปปิ้งมากมายครับ
ผมเองก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บบรรยากาศมาให้เพื่อนๆชมกันครับ
พิกัด GPS : 22.319281, 114.169994 / N22°19.15686, E114°10.19964
การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Mong Kok ออกทางออก D3 ครับ
จุดเด่นของย่านมงก๊กคือป้ายโฆษณาจำนวนมากี่ยื่นออกมาอยู่กลางถนนครับ
ผมว่ามันคลาสสิคดีครับ ผมมีโอกาสไปถ่ายที่นี่ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยครับ
ผมไปเดินที่นี่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์มาคนเยอะมากครับ
ช่วงที่ผมไปเริ่มมีกลุ่มประท้วงออกมาบ้างแล้วครับ แต่ช่วงนั้นยังไม่เป็นข่าวที่เมืองไทยเท่าไหร่
ไม่เหมือนช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่การประท้วงรุนแรงขึ้นมากครับ
ที่มงก๊กนี้ผมได้มีโอกาสมาแวะตอนช่วงกลางคืนอีกครั้งนึงครับ ก็สวยงามคลาสสิคไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
ผมว่ามันก็คงประมาณเดียวกับเราไปเดินเล่นที่ย่าน Dotonbori ที่เมือง Osaka นั่นหล่ะครับ
ที่ย่านมงก๊กมีอีกจุดที่ขาช๊อปปิ้งชอบมาเดินกันคือ Lady Market ครับอยู่ติดอยู่บนถนน Tung Choi Street ซึ่งขนานกับรูปข้างบนครับ
แล้วแถวๆย่านนี้ จะมีร้านบะหมี่ถูกๆอยู่ครับ สมัย 9 ปีก่อนที่ผมมาจำได้ว่าบะหมี่น้ำชามใหญ่มากแค่ 10 HKD เท่านั้น รอบนี้ผมไปทานราคาอยู่ราวๅ 18-25 HKD ครับ
ซึ่งก็ถือว่าถูกกว่าย่าน Tsim Sha Tsui ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 HKD++ ครับ
Fei Ngo Shan
ที่ฝั่งเกาลูนเองก็จะมีภูเขาแห่งหนึ่งครับที่สามารถขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงของฮ่องกงได้ครับ
เขาแห่งนี้ชื่อว่า Fei Ngo Shan ครับ ซึ่งที่นี่เองบางครั้งคนฮ่องกงเองยังไม่ค่อยรู้จักเลยครับ
แต่บรรดาขาถ่ายภาพที่นี่เค้าไม่พลาดครับ
พิกัด GPS : 22.353237, 114.221117 / N22°21.19422, E114°13.26702
การเดินทาง : นั่ง MTR มาลงที่สถานี Diamond Hill ที่สถานีจะมีท่ารถ Taxi อยู่ครับ แล้วต่อ Taxi ขึ้นมาระยะทางประมาณ 7-8 กม.ครับ
ค่ารถ Taxi ประมาณ 70 HKD หรือ 300 บาทครับ จริงๆสามารถนั่งจากที่อื่นมาก็ได้นะครับ แต่ตอนผมเรียกจากมงก๊กผมพยายามเอาแผนที่ให้ Taxi ดูเค้าไม่ยอมไปครับ
ส่วนหนึ่งก็เพราะพูดจีนกับเค้าไม่รู้เรื่องด้วยหล่ะครับ แต่ตรง Diamond Hill มันเป็นท่ารถดังนั้นเค้าต้องไปอยู่แล้วครับ เพราะรถมันจอดเรียงหนึ่งกันอยู่ครับ
แต่ที่นี่ตอนขาลงจะต้องเดินลงเข้าเอานะครับระยะทางประมาณ 4 กม.ครับ
เห็นว่าทางลงอาจจะไม่เหนื่อยนัก แต่การเดินลงเข้าก็ทำเอาเมื่อยเข่าไม่น้อยหล่ะครับ
Fei Ngo Shan นั้นก็เป็นจุดสำหรับถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกเช่นเดียวกันครับ
แต่จะไม่ได้เป็นมุมย้อนแสงเต็มๆเหมือนที่ Braemar Hill ครับ
ที่ Fei Ngo Shan นั้นจุดถ่ายรูปจะเป็นริมหน้าผาซึ่งจะมีลมตีขึ้นจากหน้าผามาเรื่อยๆครับ
ดังนั้นอาจจะต้องหามุมตั้งกล้องดีๆครับ เพราะบางทีแค่เราถอยมา 2-3 ก้าวก็จะพ้นลมแล้วครับ
และที่นี่จะอยู่ค่อนข้างไกลดังนั้นเราต้องใช้เลนส์เทเล ซึ่งมีโอกาสที่เจอลมแล้วภาพจะสั่นได้ง่ายครับ
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าหล่ะครับ
ฝั่งเกาลูนเองนั้นเป็นฝั่งที่เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ครับ
ซูมเข้าไปจะเห็นว่าที่ฮ่องกงนี้ถือเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรมากทีเดียวครับ
Hong Kong Central
บางครั้งการถ่ายภาพเมือง การถ่ายจากมุมในเมืองเลยก็สวยไม่แพ้การถ่ายภาพมุมสูงเลยครับ
ทริปนี้นอกจากการปีนเขาแล้วผมเองก็ได้มีโอกาสไปถ่ายภาพเมืองฮ่องกงจากพื้นถนนมาไม่น้อยเช่นกันครับ
ซึ่งย่านที่สามารถไปเดินเล่นถ่ายภาพได้อย่างชิวๆ ก็คือย่าน Central , Hong Kong และ Admiralty นั่นเองครับ
Bank of China – Landmark of Hong Kong
พูดถึงฮ่องกงตึกที่คนพูดถึงกันมากที่สุดก็คือตึก Bank of China นี่แหละครับ
ที่มีทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ผมมีโอกาสเดินใต้ตึกแล้วถ่ายภาพนี้มากครับ
พิกัด GPS : 22.279143, 114.161034 / N22°16.74858, E114°9.66204
Hong Kong Central
กลางเมืองฮ่องกงจะมี Sky Walk ให้เดินเล่นได้ครับซึ่งจุดต่างๆแถวนี้ก็ล้วนเป็นจุดถ่ายรูปที่ดีทั้งนั้นเลยครับ
พิกัด GPS : 22.285807, 114.155638 / N22°17.14842 , E114°9.33828
เดินมาไม่ไกลก็มีอีกจุดให้ถ่ายครับ ผมให้เวลาแถวนี้หลายวันเลยครับ ในการค่อยๆเดินเก็บภาพแต่ละมุมให้ครบ
Hong Kong Admiralty
ถัดจากสถานี Hong Kong เดินมาอีกหน่อยจะเป็นสถานี Admiralty ซึ่งก็เป็นจุดที่สวยในการถ่ายรูปเช่นกันครับ
จริงๆแล้วตรงจุดนี้ผมตั้งใจจะมาถ่ายช่วง Twilight เช่นกันครับ แต่ว่าวันที่ผมจะไปถ่ายนั้นฝมดันตกครับเลยอดถ่ายเลย
ภาพที่ถ่ายมาเป็นภาพของวันก่อนหน้าที่ผมมา Survey สถานที่ครับ
พิกัด GPS : 22.279830, 114.165158 / N22°16.7898 , E114°9.90948
เป็นยังไงบ้างครับกับภาพจากฮ่องกงชุดนี้
จริงๆแล้วทริปนี้ ผมมีไปเดินเล่นที่วัดหวังต้าเซียน วัดนางชี และนั่งกระเช้าไปไหว้พระใหญ่ที่หมู่บ้านหนองปิงด้วยครับ
แต่ผมเห็นว่าเกือบทุกรีวิวมีเขียนถึงที่เหล่านี้อยู่แล้วเพื่อไม่ให้รีวิวนี้ยาวไปผมเลยขอตัดออกไปนะครับ
ผมว่าที่ฮ่องกงยังมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปอีกมากเลยครับ ไว้มีโอกาสผมจะไปเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆกันอีกนะครับ
และหวังว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆที่ผมเอามาให้ชมในวันนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ ให้เพื่อนๆสามารถเลือกได้ในการไปเที่ยวฮ่องกงนะครับ
สำหรับวันนี้ผมคงต้องลาไปแต่เพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมครับ
3 Comments
Thiti Wiwatthanathorn via Facebook
สวยมากน่าไปสุดๆเลย
BuaBlink Prommool via Facebook
สวัสดีค่ะแอดมิน..
Pingback: ชีวิตที่เป็นไปในดินแดนปลายด้ามขวาน | Blogท่องเที่ยว(บล็อกท่องเที่ยว) ที่รวม ที่เที่ยว ที่กิน