รีวิวเที่ยว Macao แบบครอบครัว เที่ยวมาเก๊าฝั่งไทปาจนถึงโคโลอาน

มาถึง รีวิวเที่ยว Macao แบบครอบครัว เที่ยวมาเก๊าฝั่งไทปาจนถึงโคโลอาน ตอนนี้เป็นตอนที่สองต่อจากตอนแรก

ที่เราพาเที่ยวกับ รีวิวเที่ยว Macao 15 ที่ครอบครัวเที่ยวมาเก๊าเองได้ สนุก มันส์ทั้งบ้าน

ตอนนี้จะข้ามฝั่งพาทุกคนมาเที่ยวที่ไฮไลท์ทั้งหมดของมาเก๊ากันต่อ รวบรวมมาให้ถึง 13 ที่เที่ยวมันส์สนุกไม่แพ้ฝั่งมาเก๊า และจะบอกว่าที่เที่ยวฝั่งไทปา จนถึง โคโลอาน สนุกจนคุณลืมเวลากันเลยทีเดียวละครับ ไม่ต้องเสียเวลา มาต่อกันเลยดีกว่าครับ

ที่เที่ยวฝั่งไทปา (Taipa)&โคไท(cotai) สวนสนุก ช้อปปิ้ง โรงแรมแสนสะดวกสบาย ต้องย่านนี้เลย

มาเที่ยวกันต่อกับ ที่เที่ยวฝั่งที่เน้นความสนุกสนานในแบบครอบครัว และยังเป็นฝั่งที่มีสนามบิน ทำให้การลงเครื่องและไปเที่ยวที่ต่างๆ สะดวกมาก

อย่างเช่น การเดินทางต่อไปยังฮ่องกง รวมถึงไปยังแผ่นดินใหญ่ของจีน(จูไห่)ก็จะอยู่ฝั่งนี้แทบทั้งหมด

เอาตั้งแต่เราเลือกโรงแรมเพื่อพักเลยดีกว่า เราเลือกพักทั้งหมด 2 โรงแรมในทริปนี้

การเลือกพักโรงแรมในฝั่งไทปา จะมีโรงแรม 4-5 ดาวที่พร้อมจะให้ลูกค้าใช้เวลาเที่ยวพักผ่อนในโรงแรม มากกว่าออกไปเที่ยวข้างนอก

และนี่คือ ที่เที่ยวทั้งหมดของเราฝั่งนี้

1. Galaxy Macau ที่สุดของความบันเทิงสำหรับครอบครัว

เราเลือกที่นี่เพราะเค้ามี สวนน้ำสุดอลังการงานสร้างที่สุดในมาเก๊า เค้าเรียกกันว่า GRAND RESORT DECK เป็นโซนพื้นที่สวนน้ำที่เป็นโซนที่แชร์พื้นที่ร่วมกันของทุกโรงแรมในเครือ Galaxy ทั้งหมด

ข้อดีอยู่ตรงนี้. เราสามารถเลือกที่จะพักโรงแรมไหนก็ตาม, สามารถจะเข้าสวนน้ำทั้งหมดได้ฟรี!!!!.

โรงแรมทั้งหมดประกอบด้วย (JW MARIOTT, OKURA, BANYANTREE และ BROADWAY MACAU นั้นเอง)

ทีแรกเราตั้งใจจะพักโรงแรม Broadway Macau แต่พอเช็คราคาจากโปรโมชั่นในงานที่ การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยมาออกบู๊ท ทำโปรลดราคาที่พักลดจริงถึง 50% ซึ่งเป็นโปรพิเศษที่ดีที่สุดของปีเลยครับ (ใครอยากได้ราคาแบบนี้ ไปติดตามที่หน้าเพจการท่องเที่ยวมาเก๊าได้เลยนะที่นี่ https://www.facebook.com/th.macaotourism/ )

ไปดูกันเลยดีกว่า ว่ามันเด็ดขนาดไหน

ยังเดินไม่ถึง Lobby สำหรับช็คอิน เข้ามาด้านเจ้าหน้าที่จะเอากระเป๋าเรามาส่งที่ห้องให้เราเอง ตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าตัวโรงแรมเลย อะไรจะเริ่ดปานนั้น

เข้ามาด้านในเจอจุดเช็คอินก็ประทับใจแล้ว เจอน้อง Reservation สูง ขายาวมาก เอ้ย ไม่ใช่ๆแหะ แหะ ผมหมายถึง ภายในสูง กว้าง ดูอลังการ และแสงสีสวยงามมากต่างหาก

เดินเข้ามาเจอโซนห้างสรรพสินค้า. แค่ทางเดินก็ใหญ่โตเว่อร์วังอลังการ, ร้านรวงมีเยอะแยะมากมาย, คือว่ากันจริงๆ มันก็ห้างดีๆ นี่เองล่ะครับ.

ในภาพคือโชว์น้ำพุด้านหน้าตรงบริเวณ จุด Check in ตรงหน้า Lobby ที่จะโชว์น้ำพุสวยๆ ทุกๆ 15 นาที ระหว่างรอเช็คอิน ยืนรอชมกันนะ

เราพากันมาเดินเล่นกันที่ชั้น 1 กับ ชั้น 2 เราจะเจอนักท่องเที่ยวกันเยอะมาก ร้านรวงมีครบเสมือนห้างใหญ่ๆในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เค้าทำทางเดินให้มีลักษณะเป็นวงกลม ถ้าเดินเพลินๆ ก็วนจะวนครบกลับมาที่เดิมนั้นเอง ทำให้โซนนี้ละ ละลายทรัพย์พ่อและแม่อย่างดีเลยจ้า

ห้องอาหาร Festiva ของโรงแรม ถือเป็นห้องอาหาร เช้า สาย บ่าย เย็น บริการแบบ บุพเฟ่ต์ที่อลังการงานสร้าง สุดๆ จนเราจะขอแยกรีวิวมาอีกตัวดีกว่ารอชมนะ

ส่วนตัวประทับใจทั้งบริการ และ ห้องพักของ Galaxy Macau ที่ตอบโจทย์การเที่ยวแบบครอบครัวจริง อันนี้ไม่ได้อวยนะ เพราะก็จ่ายเต็มทุกบาท ไม่เชื่อไปดูกันต่อ

ห้องพักType เริ่มต้นของโรงแรม ก็กว้างมากแล้ว 35 ตรม. เราได้ห้องพักวิวดีมาก อยู่บนชั้น 22 เป็นวิวเมืองของมาเก๊า

เตียงจะเป็นขนาด King Size นอนสามคนไม่เบียดกัน ดีงามมากครับ

ที่ดีมากอีกอย่างคือ ห้องน้ำ มีครบทุกอย่างเลยก็ว่าได้

ของกินทุกอย่างในห้อง ชา กาแฟ มีเสิร์ฟ และเติมให้ทุกวัน ของกินในตู้เย็น ก็มีขนม และเครื่องดื่ม สามารถกินได้หมดเลย สมกับความเป็น 5 ดาวของโรงแรม

อันนี้คือดี Amenities ที่ต่อตัวกันเป็นรูปโรงแรม เท่มาก จัดเซ็ทน่าเก็บดี

2. GRAND RESORT DECK สวนน้ำความบันเทิงของมาเก๊า

ขอเปิดภาพสวนน้ำด้วยหน้าตาเด็กชาย ตอนมีความสุขม๊ากกก มาก

ปันเป็นเด็กชอบว่ายน้ำ และที่นี่ก็ตอบโจทย์ของเค้าและครอบครัวเรามาก สนุกสนานกันสุดๆ ไปเลย

ในโซนของสวนน้ำ GRAND RESORT DECK ปรกติถ้าเราไม่ใช่แขกโรงแรม จะเสียค่าเข้า 330 mop (1,300 บาทโดยประมาณ)ซึ่งแพงงงง มากกกก แต่พอเข้าพักแล้ว แขกของโรงแรมทั้งหมดในเครืออย่างที่บอกไปสามารถจะเข้าฟรีทุกคนได้เลย คุ้มมากกว่าเยอะ

หาดเทียมที่นี่ทำดีมากเลยครับ เราเพิ่งเคยเจอแบบนี้ เพราะตรงพื้นในโซนของทะเลเทียม เค้าจะปูเป็นพื้นยางทั้งหมด นิ่มมาก เด็กลื่นก็ไม่เป็นอันตราย เล่นน้ำกันได้สบายใจพ่อแม่ทุกคน ที่สำคัญ มี LIFE GUARD ประจำแทบทุกจุดเลย ปลอดภัยหายห่วง

อีก HILIGHT ที่สุดของ Grand Resort Desk คือ SKYTOP ADVENTURE RAPIDS และถือเป็นรางน้ำวนที่ขึ้นชื่อว่ายาวที่สุดในโลกด้วยแถมเค้าทำเป็นท่อใสๆ ถ่ายรูปออกมาสวยเลย

ชายหาดก็มีนะเออ อย่างที่บอกไปครับ เค้าทำดี พื้นจะเป็นพื้นยางเด็กเล็กเล่นได้หกล้มก็ไม่เจ็บ

มีมีเครื่องเล่นเป็นสไลด์เดอร์ 3 ระดับ WATERSLIDE MOUNTAIN สนุกดีปันเล่นหลายรอบมาก

ถ้าต้องเลือกที่เที่ยวที่อยากกลับมามาเก๊า เราก็อยากกลับมาพักที่นี่อีก มันคุ้มตรงสวนน้ำนี่ละครับ แนะนำสำหรับทุกครอบครัวที่อยากมาเที่ยวมาพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนของที่นี่ มันเริ่ดจริงจังครับ

การเดินทาง

จากสนามบิน ท่าเรือ และจุดเชื่อมต่อทางรถยนต์ โรงแรมนี้ล้วนมีรถบริการรับส่งฟรีถึงโรงแรมหมด สะดวกมากกก แต่ถ้ามาลงเครื่องหลัง เที่ยงคืนก็ต้องนั่งแท็กซี่อย่างเดียวเลย สะดวกสุดครับ

ค่าใช้จ่าย

สวนน้ำเข้าฟรีถ้าพักกับโรงแรมที่ว่าไป แต่ถ้าไม่ใช่ จะเสียค่าเข้าหัวละ 330 mop/คนนะ เพราะฉะนั้นไปพักเถอะคุ้มกว่าเยอะ เลือกสักโรงแรมนึงในกลุ่มที่บอกไปนะ

3. Studio City Macau สวรรค์ของเด็กช่างเล่น เล่นได้เช้ายันค่ำเลย

มาต่อกันต่อเลยกับ รีวิวเที่ยว Macao แบบครอบครัว เที่ยวมาเก๊าฝั่งไทปาจนถึงโคโลอาน

ยังอยู่ที่ไทปากับอีกโรงแรม และยังเป็นสวนสนุกที่สำคัญของฝั่งนี้ เราไปเที่ยวด้วยกันต่อเลย

มาถึงสวนสนุกอีกแห่ง เป็นที่รวบรวมของเล่น และการเล่นในแนวผจญภัยไว้เยอะมาก ถ้าที่ Galaxy คือการพาตัวเองไปเล่นกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหลาย

ที่นี่ก็คือการพาตัวเองและครอบครัว เล่นกิจกรรมในร่มที่ท้าทายทั้งหมด เหมือนเค้าจะทำออกมาเพื่อแข่งกันแต่ก็เหมือนเป็น Partner กันกลายๆ

เพราะสุดท้ายเราก็เลือกจะเล่นทั้งสองที่เลยจ้า มาที่นี่เราจะเจออะไรบ้าง ไล่ไปทีละอย่างเลย

4.Warner Brother Fun Zone สวนสนุกของเหล่าฮีโร่ทั้งหลาย มันส์กับเด็กๆมากเลย

เป็นสวนสนุกในร่มที่รวมเครื่องเล่นหลายๆ อย่างไว้ด้วยกันเหมาะกับเด็กเล็ก เด็กโตทั้งคู่ เราขอเน้นที่ชอบๆ ก่อนเลยนะ

อันแรก ยกให้เจ้าตัวโยกขึ้นลงแบบนี้ ที่ดิสนี่ย์ก็มีนะในโซนของ Toy Story มันโยกกำลังดีเห็นเด็กผู้หญิงเล่นเยอะกว่าผู้ชายอีก ปันบอกมันมาก แม่ก็ฮาสนุกสนานกันไป เครื่องเล่นตัวนี้ต้องสูงเกิน 110 ซม.ขึ้นไปนะครับ

ถัดมาต้องเป็นโซน ACTION ARENA มีทั้งรถแข่ง มีทั้งบ้านบอล วิ่งกันอุดตลุด ผมนี่ตามปันเข้าไปเล่นวิ่งลอด มุดตามแทบไม่ทันเลย โอ้ยแค่คิดก็หอบเหนื่อยแล้ว

ส่วนที่สนุกสุดของโซนนี้คือ Hyper Cade ถ้าเคยเล่น Buzzlight Year ในดิสนีย์มาก่อน สำหรับเครื่องเล่นนี้ก็ใช่แล้วเหมือนกันเลย

หลังเล่นเสร็จรอบแรก ปันกับเราเห็นตรงกันเลยว่า อันนี้มันส์กว่า แม้กราฟฟิคจะสวยน้อยกว่าก็ตามนะ เราก็เล่นวนไปสิ 4-5 รอบแค่นี้ก็คุ้มแล้ว

เสียดายมากที่เราให้เวลาตรงนี้น้อยไปหน่อย ใครพาเด็กๆ มาก็ ให้เล่นไปเลยทั้งวันยังไหว

เด็กก็คือเด็ก สนุกสุดๆกันน่าดูครับ

และแน่นอนมีโซนหนูๆ เด็กเล็กด้วย ไม่ใช่มีแต่แนวปีนป่ายอย่างเดียว บ้านบอลขวัญใจเด็กหญิงและเด็กชายเลยไปถึงเด็กเล็กก็มี ผู้ใหญ่ก็นั่งเฝ้าวนไปนะคุณแม่ คุณพ่อทั้งหลาย

ราคา

ราคาเต็มคือ 100 mop (380-400 บาท/คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่) เด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบต้องมีผู้ปกครองเข้าไปดูแลด้วยเท่านั้นนะครับ
และถ้าสำหรับคนอ่านเว็บเราทุกคนเราซื้อบัตรเข้าจากที่นี่ http://bit.ly/32eygNv

ทุกคนสามารถรับส่วนลดโดยการกรอกรหัส one22 ตอนจะจ่ายตัง ก็จะได้ลดอีก 5% นะครับ

การเดินทาง

ทางเข้าจะอยู่ชั้น 3 ในstudio City นะครับ

5 Batman Dark Flight เที่ยวบินกู้เมืองก็อตแธม ไปกับแบทแมนมาแล้ว

อันนี้ก็อลังมากกับ 4D เลย ทีแรกก็คิดว่าธรรมดามั้ง แต่เค้าทำดีมากไล่ตั้งแต่การสร้างสถานการณ์กับผู้เล่นเลย

เข้ามาก็เจอการรับภารกิจก่อน เริ่มเรื่องราวได้จริงจังมาก

จากนั้นก็ค่อยเข้าสู่การมีส่วนร่วมกับแบทแมนในการไล่ตามหาเหล่าวายร้าย ไปในโลก 4D

ส่วนตัวเราว่าสนุกดีนะ จัดเต็มทั้งแสงสีและตัวที่นั่งที่ขยับไปตามภาพที่เห็นตรงหน้า ปันชอบมาก ร้องจะเอาอีกรอบแต่เราซื้อมาแค่รอบเดียว (มันมีอย่างอื่นให้เล่นอีกลู๊กกกก ) ข้างในถ่ายรูปไม่ได้นะครับ รูปเราจึงมีแต่ข้างนอกล้วนๆ เลย

ถ้าชอบแบทแมน ถ้าชอบความโลดโผน เเนะนำเลยครับ

ราคา

100 mop ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่จ๊ะ เราซื้อจาก KKDAY มาพร้อมกันกับตั๋วอื่นๆ http://bit.ly/32dyEvD
จะได้ราคาลดลงเหลือ 330 บาทเท่านั้น (ซื้อด้านหน้าจะจ่ายราคาเต็มครับ) และถ้าใส่ Code one22 เข้าในในช่อง Coupon จะสามารถลดได้อีก 5% ครับประหยัดลงได้อีก

การเดินทาง

ตัวโรงหนังจะอยู่ชั้น 2 ฝั่ง West Wing

6. Legend Heros Park สุดยอด นวัตกรรมการผจญภัยในโลก VR เลย

มาถึงโลก VR กันบ้าง กับสารพัดเกมส์ที่ เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดี มันก็คือการสวมบทบาทเป็นใครในเกมส์ หรือเราได้มี ACTION ผ่านการสวมแว่น VR แล้วเข้าไปเล่นกับสิ่งตรงหน้า

เด็กๆชอบมากเลยนะ รวมถึง Robot VR เครื่องโยกไปตามเหตุการณ์ในแว่นตา VR ที่เราว่ามันส์มาก Interactive กับผู้เล่นดีมากเลย คิวยาวสุดๆ

โยกกันสุดเหวี่ยงเลยจ้า เสียงมาเต็ม …..เสียงคนเล่นนะ

ปันเล่นตรงขับรถ ก็มันส์จ๊ะ เสียดายสั้นไป เด็กบ่นเบาๆ

โดยรวมเป็นอีกเครื่องเล่นที่ปันชอบเว่อร์ๆ แต่พ่อซื้อแบบ Package 2 Game มาเท่านั้นเลยเล่นได้แค่รอบเดียว โดยรวมแล้วก็ควรจะต้องลองกันครับ

มันดีจ๊ะ

ราคา
เค้าขายเป็น Package ตามจำนวนเกมส์ที่เราเล่น มีหลายราคามาก แนะนำให้ซื้อแบบ Combo จะคุ้มกว่า เริ่มตั้งแต่ 230 mop ไปจ๊ะ ได้เล่น 2 เกมส์เกมส์ตัวนี้เรามาซื้อหน้างานเพราะดูในเว็บแล้วอยากมาเลือกเกมส์กันเองมากกว่าครับ

การเดินทาง

อยู่ที่ชั่้น L1 เลยนะหาไม่ยากเลย

7. Eleckron สุดยอดโชว์อลังการงานสร้างที่เคยชมกันมาสุดตื่นเต้นประทับใจตลอด 75 นาที

ก่อนจะเข้าไปชมผมคาดหวังแค่โชว์แสงสีเสียงธรรมดา แต่หลังจากที่เริ่มเข้าไปแล้ว ก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ และมันก็เป็นจริงอย่างที่คาดไว้

มันคือการจำลองโลกในอนาคต หลังเกิดพายุอิเล็กทริคสร้างความเสียหายทั่วโลก จนทำลายล้างเทคโนโลยีของมนุษย์ไปจนหมด จนผู้คนต้องอาศัยดิ้นรนแก่งแย่งทั้งหาอาหารและสู้กันแบบอารมณ์หนังหลังสงครามโลกในอนาคต อารมณ์แบบหนัง MADMAX ยังงั้นเลย

เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็ม โชว์จะค่อยๆไล่ความตื่นเต้นขึ้นไปทีละนิดจนพีคเลย โดยใช้ดนตรี Rock เป็นตัวพาไป มันส์ไปกับแสงสีดนตรีกันเลยทีเดียว

เริ่มตั้งแต่เค้าจะปล่อยมุขให้ตัวตลกมาวิ่งแกล้งผู้ชมไปมา (หยิบของบ้าง กระเป๋าบ้าง แต่สุดท้ายมีทีมงานเอามาคืนหมดนะครับไม่ต้องกลัว) ออกแนวแก็งค์เด็กเกเร

แต่หลังจากโชว์เริ่มแล้วนี่สิ โอ้ย ทั้งกายกรรม ทั้งโชว์รถ

ทั้งโชว์แสงสีเสียง สุดๆเลย เล่นเอาพ่อแม่ปากค้างกันหมด

ปันนี้กุมมือแม่ กุมมือพ่อนิ่งเลย บางครั้งตกใจกับภาพ ที่เห็น

บางครั้งก็ขำไปกับมุขฮาๆ

การเอายานพาหนะทุกรูปแบบ มาเล่นกับคนดูนี่ยกให้เลย เรียกว่ามาครบหมด ตลอด 1.15 ชม. ไม่มีพักให้เห็นเลย

แสงสีเสียงจัดเต็ม นับเป็นโชว์ที่ดีที่สุดโชว์นึงที่บ้านเราเคยชมกันมาเลยครับ

ใครมามาเก๊าและอยากดูโชว์ที่แสง สี เสียง อลังการที่สุด มาที่นี่เลยนะ

ราคา

โชว์เค้าจะขายแยกตามพื้นที่นั่งชม จะเริ่มตั้งแต่ 280-980 mop แต่เราเลือกซื้อออนไลน์มาครับ ที่นี่เลย http://bit.ly/2Xzjm5O

ซึ่งถูกกว่ากันลงไปอีกพอสมควร ที่นั่งเบี่ยงมุมมานิดนึง จาก 1,000 กว่าบาทถ้ามาซื้อที่หน้าช่องขายบัตร จะลดลงเหลือแค่ 664 บาทเองครับ

และถ้า ตอนจ่ายเงินกรอกcode one22 เข้าไปก็จะลดลงอีก 5% นะ ลองใช้ดูครับ

โชว์จะอยู่ตรง Studio City Event Center ชั้น 1 นะหาไม่ยากเลย

8. Golden Reel ชิงช้าสวรรค์เลขแปด

เราตั้งใจเก็บอันนี้ไว้หลังสุดเพราะอยากขึ้นมาดูวิวยามเย็นของมาเก๊าฝั่งไทปานั้นเอง ตัวทางขึ้นจะอยู่ชั้น 3 ฝั่ง East Wing อันนี้คือทางขึ้นไป Golden Reel นะ

เดินขึ้นมาเรื่อยๆ จะเจอเจ้าหน้าทีคอยแสกนตั๋วที่เรา Print มาจากเว็บ KKDAY แบบนี้ หรือจริงๆ จาก App ก็ได้เช่นกัน เจ้าหน้าที่สแกนได้ ดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย http://bit.ly/2RZK29Q

ตัว Golden Reel เค้าเคลมว่าเป็นวงล้อรูปเลข 8 ที่สูงที่สุดในโลก(ก็น่าจะจริงจะมีกี่อันกันในโลกนี้เนอะ) ตัวมันเองจะมีทั้งหมด 17 หลัง แต่ละหลังจะขึ้นได้ไม่เกิน 10 คนเท่านั้น

เราขึ้นมาตรงชั้นเตรียมรอขึ้น ก็เจอวิวสวยๆ ของตึกก่อน วิวแบบนี้ประทับใจดีครับ

เก็บภาพปันกับแม่ปันสักหน่อย

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาเรียกขึ้นทีละกลุ่ม เอาจริงก็ไม่ถึง 10 คนนะครับต่อ 1 หลัง เข้าไปแล้วมันจะค่อยๆลอยขึ้นไป

เราผลัดกันเก็บภาพกับชาวจีน ที่อยู่รวมกระเช้าเดียวกัน เป็นครอบครัวเหมือนเราเนี่ยล่ะ ดีเลยเข้าใจกันดี

มองลงไปเป็นพื้นกระจกด้วย เสียวเล็กๆ

ใช้เวลาราวๆ 15 นาทีเท่านั้นก็หมดแล้ว แต่โดยรวมก็เป็นกระเช้าที่วิวสวยจริงจังมากเลย เหมาะกับเด็กเล็ก เด็กโตที่อยากดูวิวสวยๆ แนะนำมาเวลาใกล้ค่ำ แดดไม่แรงและได้เห็นพระอาทิตย์ตกด้วย

ราคา
100 mop เราซื้อจากเว็บจะเหลือ 296 บาทเท่านั้นจากราคาปรกติ 380 บาท http://bit.ly/2RZK29Q

และใช้ Code: one22 จะได้ส่วนลดอีก 5% นะ ถูกอยู่แล้ว ก็จะถูกลงอีก

วันนี้เราใช้เวลาอยู่ในนี้แทบทั้งวันเหมือนวันที่ไป Galaxy Macau และชั้นสองจะเป็นชั้นอาหารนะครับ ใครหิวเดินขึ้นมาได้เลย อาหารก็ผสมกันหมดทั้งจีน ทั้งสากล ใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตซื้อได้เลย รวมๆประทับใจมากกับ Studio City เหมาะกับครอบครัว อย่างที่บอกไปเหมือนเป็นคู่แฝดคนละมุมกันกับ Galaxy Macau ในภาคเที่ยวในร่มได้อย่างดี

ก่อนจากเราออกมาเดินเล่นชิลๆ เก็บภาพกลางคืนแห่งแสงสีหน้าตึกด้วย ก็สวยไปอีกแบบ

การเดินทาง

เช่นเดียวกันกับ Galaxy Macau เลย จากสนามบิน ท่าเรือ และจุดเชื่อมต่อทางรถยนต์ โรงแรมนี้ล้วนมีรถบริการรับส่งฟรีถึงโรงแรมหมด สะดวกมากกก แต่ถ้ามาลงเครื่องหลัง เที่ยงคืนก็ต้องนั่งแท็กซี่อย่างเดียวเลย สะดวกสุดครับ

9.Open Top Bus Night Tour in Macau นั่งรถเปิดหลังคาชมแสงสียามเย็นของเมืองที่ไม่เคยหลับไหลอย่างมาเก๊า

เป็นอีกกิจกรรมที่ประทับใจที่สุดอย่างนึงของทริปนี้เลยก็ว่าได้ เดิมเราลังเลกันว่าจะนั่งบัสกลางวันหรือกลางคืนดี แต่หลังจากดูเวลาแล้วแต่ละวันช่วงเย็นถึงค่ำอากาศช่วงที่เราไปอากาศดีไม่มีฝนเลย เราก็เลยเลือกเป็นช่วงกลางคืนดีกว่า

เรามาถึงตอนราวๆ 18.45 น. ตัวรถบัสจะจอดรอตรงท่ารถฝั่งเดียวกันกับรถบัสจากโรงแรมที่มาจอดรอรับคนตรงท่าเรือ Macau Ferry นะครับ (Macau Outer Harbour Ferry Pier) คนละฝั่งกันกับฝั่งสนามบินนะอย่าสับสนครับ

เส้นทางพาเที่ยว จะเริ่มต้นจากท่าเรื่องเฟอร์รี่ฝั่งมาเก๊าก่อนจะพาเราข้ามมาฝั่งไทปา และลงมาสุดที่โคไทนั้นเอง ก่อนจะพานักท่องเที่ยวจอดลงตรง The Venetian แล้วถึงจะพาเรานั่งรถกลับมาฝั่งมาเก๊า เหมือนเดิมอีกครั้ง

จุดจอดรถ จะอยู่ตรงบันไดทางลงอุโมงค์ที่จะให้คนข้ามไปที่ท่าเรือ จะมีป้ายมาตั้งแบบนี้ไว้เลย มองหาดีๆเจอเลย

พร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับ รถจะพาเรานั่งจากตรงนี้วิ่งพาเราชมโรงแรมต่างๆ ฝั่งนี้ก่อน

Macau Tower ตอนเปิดไฟสวยมาก

Grand Lisboa

Wynn Hotel เค้าจะพาหยุดชมน้ำพุหน้าโรงแรมด้วยนะ

ข้อดีของการนั่งรถบัสชมในเวลานี้คือ ทุกโรงแรมจะมีโชว์แสงสีหน้าโรงแรมแทบทั้งนั้น เพื่อเรียกให้แขกและนั่งท่องเที่ยวหยุดดูกัน ถ้าเป็นปกติเราต้องเดินเที่ยวเอา และโรงแรมแต่ละที่ก็ไม่ใกล้กันนัก เวลาเดินชมโชว์นึงก็จะเสียเวลาชมของอีกโรงแรมไปด้วยเพราะเดินไปดูไม่ทัน

แต่พอใช้บริการทัวร์นี้จะพาเราชมจนเกือบครบทุกโชว์เลย ซึ่งดีมาก ไม่เสียเวลาเพราะรถย่อมเร็วกว่าเดินอยู่แล้ว ไม่เหนื่อยและได้ชมจากมุมสูงกว่าชาวบ้านเค้าด้วยซ้ำไป ดีงามมาก

รถจะพาวนชมแทบทุกโรงแรมเลยที่เค้ามีแสงสีไฟต่างๆ อย่างนี้ก็ Studio City ก็สวยดีครับ

โดยรวมต้องบอกเลยว่าคิดถูกที่เลือกมานั่งตอนกลางคืน เพราะวิวแบบนี้เดินเที่ยวยังไงก็ไม่ครบภายในคืนเดียวแน่นอน

แม่ปันก็เก็บภาพไปด้วย

ยิ่งตอนคนลงไปแล้วรถโล่งๆ นี้ถ่ายรูปกันบนรถบัสสนุกมากครับ ไม่ต้องแย่งมุมกับใครทั้งนั้น

อ่อ เจ้าหน้าที่บรรยายเก่งมาก สลับไปมาทั้งภาษาจีน อังกฤษ แต้จิ๋ว ครบเลย

ประทับใจกันทั้งบ้านเลยก็ว่าได้นะ

สอบถามหาข้อมูลกันได้ที่นี่เลย http://bit.ly/2LNBAsW

ราคา

150 mop ก็ตก 580 บาท ไทย เอาจริงๆนะ คุ้มนะบอกเลยแนะนำ

การเดินทาง

มาขึ้นที่ ท่าเรือ ท่าเรือ Macau Ferry นะครับ(Macau Outer Harbour Ferry Pier) จะอยู่ตรงบันไดทางลงอุโมงค์ที่จะให้คนข้ามไปที่ท่าเรือ จะมีป้ายมาตั้งบอกไว้เลย มองหาดีๆ เจอเลย ไม่ได้อยู่ในท่าเรือนะครับ ไม่ต้องเดินข้ามไปนะ เดี๋ยวจะหลง ดูแผนที่ก็ได้นะ

ที่เที่ยวฝั่ง โคโลอาน (Coloane) สายชิล สายธรรมชาติ ก็ต้องย่านนี้ล่ะนะ

มาถึงสุดท้ายกันแล้วกับฝั่งใต้สุดของเกาะ เราให้เวลาที่นี่ เที่ยวค่อนวัน ทีแรกเราคิดกันว่าอยากมานอนที่นี่ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ให้น้ำหนักที่เที่ยวฝั่งในเมืองเยอะกว่า ทั้งที่ย่านนี้น่ารักมาก มีมุมถ่ายรูปธรรมชาติสีเขียวๆเยอะมาก

เราเริ่มต้นนั่งรถบัสจากฝั่งมาเก๊า นั่งสาย 26A รถเมล์มาแบบสุดสายจะใช้เวลาราว 1.30 นาทีนะจากเหนือสุดมาใต้สุด ที่เที่ยวฝั่งนี้จะเน้นป่าเขา ชายหาด เราเลยหาร้านเก๋ๆ คาเฟ่น่ารักไว้นั่งไปด้วย ไล่ดูไปเลยนะ เริ่ม!

10. หาด Hac sa Beach ชายทะเลในฝั่งใต้สุดของ มาเก๊า

ที่จริงครอบครัวเรามา ฝั่งนี้หลายครั้งแล้ว เรารู้ว่าที่เที่ยวฝั่งใต้สุดของเกาะมีชายหาด แต่เราสงสัยมาตลอดว่ามันมีหาดที่สามารถเดินเที่ยวเล่นจริงๆได้บ้างไหม และคำตอบก็อยู่ที่การนั่งรถเมล์ สาย 26A จนสุดสาย นั้นเอง

หลังจากรถวิ่งข้ามมาฝั่งโคโลอานจนถึงวงเวียนที่มีร้านขนมชื่อดังอย่าง Lord Stow’s มาแป๊บเดียว วิวระหว่างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นธรรมชาติสีเขียวมากขึ้นเรื่อยๆ

จนสุดท้ายมาจอดที่ป้ายหาดนี้

ต้องบอกก่อนว่า หาดไม่สวยเท่าไหร่ถ้าเอามาตรฐานทะเลไทยทางใต้ของบ้านเรามาตั้งนะ เพราะเป็นหาดทรายสีเข้มๆ และเพึ่งฝนตกหนักช่วงหลายวันที่ผ่านมา

แต่ที่เราชอบมากคือ บรรยากาศของคนมาเก๊า พาครอบครัวมาเที่ยว และเล่นทรายต่างหาก

เราเจอเจ้าหน้าที่คอยกวดขัน ตรวจตรา มองไปจะเห็นหอสังเกตุการณ์ กระจายตัวอยู่ตามแนวหาดยาวตลอดแนว

มีอุปกรณ์ช่วยเหลือครบอยู่นะ อันนี้บอร์ดสำหรับเจ้าหน้าที่สีมันสวยดีเนอะเด่นมาก แม่ปันเลยขอถ่ายรูปด้วยเลย

บรรยากาศชาวบ้านมาเล่นน้ำมีให้เห็น เอาจริงๆเราสัมผัสได้ถึงความสุขแบบครอบครัวที่กระจายตัวไปตามแนวชายหาดเป็นเสน่ห์ที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอ ในฝั่งอื่นๆ ของเมืองนี้

ถ้าขี้สงสัยแบบเรา ลองนั่งรถบัสลงมาเที่ยวให้เห็นสักครั้ง นั่งรถเล่นเพลินๆ ก็สนุกดีครับ มารับลมกันแบบบ้านเราเนี่ยละครับ ^_^

การเดินทาง

นั่งรถเมล์สาย 26A มาจนสุดสายเลย ปลายทางอยู่ที่หาดนี้

11. Coloane Village และที่เที่ยวกินลมชมวิวรอบๆ

มาถึงย่านสุดชิลที่สุดของฝั่งนี้แล้วหลังจากนั่งสาย 26A ย้อนกลับออกมาจากชายหาด ที่วงเวียนนี้เราเคยมาเดินเล่นแล้วครั้งนึง รอบนี้ตั้งใจจะมาแวะซื้อขนมร้านสุดฮิตสาขาดั่งเดิมอย่าง Lord Stow’s Bekery กัน และถือโอกาสเดินชิลๆ ยามเย็นกันที่หมู่บ้านสีสวยน่ารักๆ ของที่นี่

มาก็เดินเข้าคิวไปสั่งกันได้เลย กับสาขาแรกที่ทำให้ขนม ทารต์ไข่โด่งดังที่สุดในมาเก๊า

ตัวร้านเล็กนิดเดียว จนแปลกใจว่า ทำไมคนถึงติดใจถึงขั้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาเที่ยวมาเก๊า แล้วที่นี่คือหนึ่งในจุดหมายต้องมาให้ได้ (แม้แต่ตัวเราเองก็มา ฮ่า ฮ่า)

ขนมยังคงอร่อย และทำใหม่สดทุกวันรองรับคนที่แวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย

ขนมหน้าตาดี น่ากินเช่นเคย

เดินถัดมาไม่ไกล เราตั้งใจจะเดินเลียบเลาะถ่ายรูปกัน แต่ครั้งก่อนตอนมาอากาศไม่ดีเลย เจอฝน รอบนี้แดดเปรี้ยงสะใจครับ

รอบๆย่านนี้ เราเจอร้านกาแฟ ร้านขนมหลายร้านอยู่นะ น่ารักดีด้วย เดินก็ชิลๆ เลย

อย่างร้านนี้ขายขนม และนมพวกมิลค์เชค น่ารักดีร้อนๆแบบนี้ คือดีงามมากครับ

12. Chapel of St. Francis Xavier โบสถ์สำคัญเป็นโบสถ์สีสวยสะดุดตาของที่นี่เลยก็ว่าได้ครับ

โบสถ์สวยมาก เราเก็บภาพตอนแดดดีๆไว้กันครับ

จังหวะปันบ่นร้อนๆ ชักเริ่มงอแงแล้ว พ่อกับแม่ต้องปลอบไปด้วยหาน้ำให้กินคลายร้อน เด็กก็เป็นธรรมชาติของเค้า จะให้อดทนเดินร้อนๆ นานๆ ไม่ได้ ผมเห็นแม่กำลังปลอบไปพร้อมๆ กับผูกเชือกรองเท้าให้ปันไป มันรู้สึกดีกับภาพตรงหน้ามาก นี่ละหน้าที่พ่อแม่ ไม่มีขอบเขตใดๆ ทั้งนั้น

ถ่ายรูปกันอีกนิดนึง ก็รู้ว่าชักร้อนมากแล้ว ทำให้เราต้องรีบหาร้านนั่งพักสักหน่อย เดินต่อมาจนเจอร้านคาเฟ่น่ารักมาก อ้อในภาพนี่กำลังวิ่งหนีพ่อนะ 555 ไม่ไหวแล้วพ่อ ร้อนคร้าบบ

13.Cafe Dos Amigos

ถ่ายรูปเล่นกันจนเจอร้าน คาเฟ่น่ารักๆ ร้านนี้ ปันนี้เดินดิ่งเข้าไปทันที เดิมตั้งใจจะไปร้าน Lord Stow’s แต่คนแน่นมาก จนขี้เกียจรอ เดินกันต่อมาเจอร้านนี้เข้า เปิดประตูเข้าไปหน้ากับตัวปะทะแอร์ มันคือสวรรค์ชัดๆ อารมณ์ประมาณเหมือนเดินอยู่กลางทะเลทรายและเจอโอเอซิสเลยครับ

ร้านนี้ตอนมาคราวก่อน เราไม่เคยเจอเลยนะ เราเลยขอเดาว่าเปิดได้ไม่นานแน่ๆ เข้ามาบรรยากาศให้อารมณ์คาเฟ่ที่ตกแต่งให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในห้องสมุด

ตรงฝั่งเรานั่งจะมีมุมหนังสือให้หยิบอ่านได้ ผมเลยได้ภาพของตัวเองก็ตรงนี้ เพราะแม่ปันเค้าถ่ายให้

บรรยากาศในร้านแลดูชิลๆในยามเย็นแบบนี้

เราสั่งชามะนาวมาชิม และแม่ปันก็สั่งกาแฟมาพร้อมกับของปันเป็นช็อคโกแลตเย็นๆ

ชิมจนชื่นใจพักใหญ่ๆ เราก็ได้เวลากลับกันแล้ว

ถือเป็นการมาเที่ยวใต้สุดของมาเก๊าแบบชิลๆ ด้วยรถเมล์สายเดิมที่เรานั่งมากัน ยามเย็นของที่นี่ มีคนมานั่งเล่น เดินเล่นกันเยอะเลยนะ เราก็เลยได้เก็บภาพสุดท้ายกันที่นี่ เป็นการส่งท้ายทริปก่อนจะกลับบ้านกันแล้วละครับ

กลับกันแล้วนะมาเก๊าเลิฟสุดๆเลย แล้วจะมาอีกนะ

ขากลับเราใช้เวลาไม่เดินทางไม่นานก็ถึงสนามบิน บินกลับด้วยสายการบินเดียวกันกับขามาคือ AirMacau รอบนี้ไม่พลาดจะเข้า Loung อีกครั้งเพราะได้จองเป็น Business Class ไว้ ขอเอาภาพภายในจากทริปก่อนมาฝากกันนะครับ เพราะเข้าไปคนเยอะมากเลยไม่กล้าถ่ายเกรงใจแขกของเค้า