รีวิว Huahin Marriott Resort & Spa หนึ่งในที่พักครอบครัวที่ดีที่สุดของหัวหิน
หัวหินรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่เป็นอีกครั้งที่เรามีโอกาสเข้าพักผ่อน 3 วัน 2 คืนใน โรงแรมที่ เหมาะกับครอบครัวสุด ๆ อย่างเครือ Marriott ไม่อยากบอกว่าเรายังไม่เคยพักโรงแรมในเครือนี้เลย แถมเราขับรถผ่านที่นี่บ่อยครั้งมาก เล็งไปมาจนได้มาพักสำเร็จจนได้ และนี้คืออีกรีวิวที่เราแสนภูมิใจนำเสนอให้ได้สัมผัสกัน
จั่วหัวแบบมั่นมาก เพราะเราพึ่งไปและกลับมาหมาดๆ ได้รับประสบการณ์ประทับใจหลายอย่างจนหยิบมาบอกกันไว ๆ เผื่อวันหยุดที่ใกล้จะถึงนี้ จะเป็นอีกตัวเลือกนึงของครอบครัวทุกคน
มาเริ่มกันเลยดีกว่ากับที่นี่ ตามผมเข้าไปดูกันเลย
#HuaHinMarriott #MarriottHotels #MPassport #อยากรู้จักโลกกว้าง
สำหรับรีวิวโรงแรมทั้งหมดตามไป อ่านกันได้ที่นี่เลยนะครับ
อยู่ที่ไหนกัน Huahin Marriott Resort & Spa ?
ตัวโรงแรมอยู่กลางเมืองหัวหิน จากหน้าถนนหลักเพชรเกษมไปจนติดริมหาดอีกต่างหาก เรียกว่าอยู่ในตำแหน่งที่ไปมาสะดวก ฝั่งตรงข้ามเป็นห้าง Market Village เลย ผ่านไปผ่านมาจนครั้งนี้ได้ฤกษ์สักทีครับ 😉
ขับรถเข้ามาประทับใจกันตั้งแต่ตัวตึกและล็อบบี้แล้ว ตัวตึกด้านหน้าเป็นสีน้ำตาลของโครงไม้ฉลุวางโครงสลับกับสีเขียวของต้นไม้ ดูมีดีไซน์ทันสมัยดี
เดินเข้ามาตรงหน้าล็อบบี้กว้างมาก ประทับใจตั้งแต่ที่วางโต๊ะยาวๆ ให้แขกนั่งเช็คอินอันนี้ดี เพราะหลายโรงแรมให้แขกยืนเช็คอินนะ มองเห็นความใส่ใจเข้าไปในดีไซน์ ของโรงแรม
เจอมาสคอตเจ้า จอลลี่ ออกมาเล่นกับเด็ก ๆ น่ารักมาก
ที่นั่งพักเยอะ สว่างทั้งกลางวันและกลางคืน สบายตาให้ความรู้สึกพักผ่อนดีเลย เวลคัมดริ๊งค์ดีมาก เป็นน้ำดอกพิกุลสีเหลืองรสชาติดีทีเดียว (ไม่รู้จักกันละซี่ ^_^)เสียดายไม่ได้ถ่ายมาให้ดูกันนะ
อย่างที่บอกทำเลที่ตั้งดี การจัดเลย์เอาท์ของโรงแรมวางสระว่ายน้ำล้อมรอบด้านในตัวรีสอร์ท หากมองจากวิวด้านบนโดยเฉพาะจากตึกหลักลงไปเราจะมองเห็นเป็นสีฟ้าของสระว่ายน้ำล้อมตรงกลางด้วยสีเขียวของต้นไม้ สนามหญ้าไปจนสุดขอบทะเลกันเลย มองแล้วสบายตาตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วละครับ ตรงนี้ชอบมาก
ห้องที่เราพัก เป็น Deluxe Pool Terrace แบบ Poolside view ข้อดีของห้องนี้ มีอยู่สองอย่างที่เราชอบ 1.คือ ห้องขนาด 39 ตรม. ถือว่ากว้างมาก มีสวนเล็กๆ อยู่ด้านในสุดของห้อง มีรั้วกั้นขอบเขตเข้าออกได้ดี มีความเป็นส่วนตัวดีมาก 2. อยู่ใกล้กับบริเวณสระว่ายน้ำหลักๆ อย่าง Family Pool ที่เราเล่นกันเป็นหลักกับปันทำให้สะดวก และเดินไปริมหาด Kids Club ได้ง่าย
อย่างที่บอกไปห้องขนาดนี้เราสามารถเพิ่มเตียงเสริมเข้าไปอีกยังได้ด้วย ในห้องมีทุกอย่างในแบบที่ครอบครัวต้องการครบหมด หมอนเยอะ และเช่นเคยหมอนโรงแรมแบบนี้ดูดวิญญานดีมาก ชอบที่มันนอนแล้วจมโอบรับหัวเราดี หลับยาวดีจัง เตียงใหญ่ King Size สะใจแม่และปันน้องกลิ้งไปมาหลังๆ ปันไม่ค่อยดิ้นเหมือนสมัยเด็กๆ แล้วช่วยให้พ่อหลับยาวๆ ดีมากจ๊ะ
ห้องน้ำสีขาวสะอาดตา ข้าวของเครื่องใช้ Amenities ของ Than ทั้งหมด ดีสมกับความเป็นห้าดาวของโรงแรมจริงๆ
มีของเด็กแยกมาใส่ถุงผ้าน่ารักแบบนี้ให้ด้วยนะครับ ใส่ใจดีมาก
มีขนมเสริฟพร้อมกับเวลคัมฟรุต น่ารักมาก ขนมไม่ไก่กาด้วยนะ ทั้งโดนัท บราวน์นี่ อร่อยมาก
รวมๆประทับใจห้องพักมากครับ ชอบที่สุดของห้องนี้คือมีระเบียงออกมานั่งรับลม และยังสะดวก ปลอดภัย ให้ความเป็นส่วนตัวอย่างที่เกริ่นไป ดีครับ
M Passport บัตรกิจกรรมของปันตลอดการพักทริปนี้
สมุดนี้คือบัตรสะสมแต้มของเด็ก ๆ เวลาที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงแรมที่เค้าจัดไว้ให้เด็กเพื่อนำมาใช้แลกของรางวัลที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ได้ เด็กทุกคนจะได้เล่มแบบนี้มา
ไอเดียของการทำกิจกรรมเท่าที่อ่านดูไม่เลวทีเดียวนะมีแนวคิดให้เข้ากับครอบครัวโดยเฉพาะเด็ก ๆ แยกแนวคิดเป็นแบบนี้นะครับ
Brilliant Heart :เสริมสร้างพัฒนาการทางอารมณ์และพัฒนาการของเด็ก
Brilliant Mind: เสริมสร้างไอเดียดีๆ ให้เด็ก
Brillient Body: เสริมสร้างการออกกำลังให้เด็ก
ทุกกิจกรรมดูจะมาจาก 3 แนวคิดนี้เป็นหลัก ก็ทำให้แต่ละอย่างมีหลักการคิดที่ดีในการให้เด็กทำหมดนะ
กิจกรรมเองก็มีทั้งแบบ ฟรี และเสียเงินเพิ่ม ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ และลูกเลือกจะ ทำอะไร เราว่าดีกับปัน เค้ามีอะไรให้ทำระหว่างที่พักไปด้วยเยอะเลย ขณะที่พ่อแม่อาจจะมีแว็บๆ ไปสปาบ้างไรบ้าง ฮ่า ฮา แล้วก็คิดถูกจริงๆ ปันก็เลือกจทำหลายอย่างเลย จนขนาดตอนจะกลับ เราสามารถแลกเป็นไอศครีม ได้ 3 scoop แบบนี้ได้ด้วยนะ นี้คือผลงานตลอดทริปนี้ของปันเค้าเลยจ๊ะ
M Passport Package เหมาะกับครอบครัวไหม?
ตอนมาพักที่นี่เราเจอโปรโมชั่นตัวนี้ M Passport Family Package เอาแบบนี้ ถ้า Lifestyle การมาเที่ยวหัวหินของคุณเป็นแบบท่ีเลือกที่นี่แล้ว และเราคงไม่อยากออกไปไหนทั้งนั้นล่ะก็ แนะนำให้เลือก Package นี้ไปเลยก็ได้นะมันรวมที่พักกับกิจกรรมของลูกเช่น Cooking Class แบบที่ปันทำ (ที่เสียเงิน)ทำได้ และยังมีเมนูอาหาร ให้เด็กอายุ ต่ำกว่า 12 ปีทานฟรีกับเมนูเด็กด้วย โดยที่ผู้ปกครองต้องนั่งทานเมนูปรกติด้วย
ส่วนของที่พักที่เพิ่มมาอีกก็คือ Early Checkin 10.00 – Late Checkout 15.00น. ไปด้วย อันนี้ดีมาก ขณะที่ห้องพักก็อยู่ที่เราเลือกเองว่าจะพัก Type ไหนได้ ก็คุ้มดีครับ เพราะยังไงเราก็จองที่พักอยู่แล้ว แต่คุ้มตรง Benefit ที่เราจะได้เพิ่มขึ้นมา อ่อ ใช้ได้กับเด็ก 2 คนเลยทีเดียวทั้งหมด
สำหรับคนที่สนใจเข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมดที่นี่เลยครับ http://bit.ly/34nkLM3
สระว่ายน้ำ 5 สระ สะใจคนรักน้ำ
ด้วยความใหญ่ของโรงแรม เลยทำสระว่ายน้ำให้เราเลือกเล่นกันสะใจไปเลย ไล่ตั้งแต่ สระหลักที่เราทั้งบ้านเล่นกันตลอด Family pool สระที่เล่นกันได้ทั้งครอบครัว
มีแป้นบาสให้เด็กฝึกความแม่นยำมีความลึกเหมาะกับผู้ใหญ่ (เด็กเล็กต้องมีผู้ใหญ่ด้วยนะ ) มีฝรั่งนั่งๆนอนๆ อาบแดดกันเยอะตรง Cabana Bed
สระต่อมาคือ Outdoor Pool สระที่เหมาะกับเด็กจริงเพราะมี สไลเดอร์ด้วย อันนี้ปันกับเพื่อน (ที่พึ่งมาเจอกันเนี่ยละนะ) เล่นกันสนุกสนานมาก มีทั้งแบบของหนูจิ๋ว ๆ ทั้งหลาย เล่นได้และแบบเด็กโตขึ้นมาอย่างปันก็ได้
เล่น Slider กันมันส์เลย สำหรับ Teen Pool ทั้งแม่ ทั้งลูก เด็ก ๆ สนุกสะใจกันทั่วหน้า แบบเด็กเล็กเล่นอันนี้ได้เลย และวัยรุ่นก็เล่นได้
อีกอันเล่นกันได้ทั้งบ้านจ๊ะะ
เป็นสระที่เราชอบกันที่สุดทั้งบ้านก็ว่าได้เลย
สระถัดมากับ Loop pool จะอยู่ชิดติดกันกับห้อง แบบ Pool Access เลย ข้อดีสำหรับคนที่ชอบเล่นน้ำ เหมาะมาก ตื่นนอนเช้า พากันจูงลงเล่นน้ำได้เลย สระแบบนี้ถ้าเลือกพักได้ทั้งสองฝั่งจะเชื่อมกันกับ Outdoor Pool นะครับ ว่ายมาเล่นด้วยกันได้เลยเหมาะมาก
ปันสนุกตรงวิ่งขึ้นวิ่งลงเนี่ยล่ะ พ่อวิ่งไม่ทันแล้วจ้า
มาถึง Kids Pool กันบ้าง
สระเด็กบ้าง Kids Pool สำหรับหนูจิ๋วทั้งหลายสระนี้เหมาะกับหนูๆ ทุกวัย เล่นได้หมด ข้อดีของสระนี้คือมีสไลเดอร์ อยู่ในเรือลำใหญ่จำลองมา มีน้ำพุเต้นระบำ ถังน้ำตกเอาให้สนุกสุดๆ ไปเลย
ปิดท้ายกันที่ Adult Pool สระสำหรับผู้ใหญ่ที่ชอบความเป็นส่วนตัว เงียบกว่า ก็เหมาะกับสระนี้ เรียกว่าครบทุก Lifestyle สำหรับครอบครัวทุกแบบกันทีเดียว
เอาว่าหมดเวลาไปค่อนวันกับการเล่นน้ำ ตื่นเช้าก็วนเวียนอยู่ในสระกับปัน ยันมืดเลย ถือว่าเป็นโรงแรมสำหรับคนรักการว่ายน้ำ เล่นน้ำกันในครอบครัวที่สุดเลยก็ว่าได้
บุฟเฟ่ต์สุดอลังการ เช้าจรดค่ำกัน
เล่นกันจนหิวแล้วมาหาของกินกันบ้าง อย่างที่บอกไป เราใช้เวลากับโรงแรมมากกว่าจะออกไปไหน กับห้องอาหารของโรงแรม ที่มีความหลากหลายให้เลือกเยอะอยู่
เริ่มกันที่ Amber Kitchen เป็นห้องอาหารสายบุฟเฟ่ต์ เพราะเสริฟกันตั้งแต่ เช้าจรดค่ำ มาดูไลน์อาหารกันดีกว่า เรียกว่ามาครบหมดเลยทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง และไม่มาเล่นๆ มาแบบจัดเต็มกันเลย
อย่างมื้อเช้าของเรา มีทุกอย่างเหล่านี้เลย ขอให้ดูภาพกันเองดีกว่าครับ
ชอบสุดก็ตรงมีน้ำเต้าหู้เสริฟกับ ปาท่องโก๋ เมนูเบสิกแบบนี้ล่ะ แต่เรากับชอบมากเลยนะ
มุมขนมเจอ โดนัทด้วย และยังมีฟองดูแบบหลากหลายให้เลือกจิ้มกันตามอัธยาศัยด้วยนะ
ที่เราว่าเด่นสุดๆ จนต้องขอชมคือ อาหารแบบ Vegan หรือก็คือ Vegetarian นั้นเอง คือบางโรงแรมเค้าจะมีมุมนี้ให้แบบไม่จัดเต็มเท่านี้ นี่มีทั้งผัก ทั้งขนมปัง ตัวขนมยังเลือกแบบไร้ไขมันทรานส์ ได้อีกด้วยนะ อันนี้ชมจริงครับ
ไหนๆแล้วก็มาดูต่อกันที่อาหารค่ำกันเลยสำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำ จะเป็นแบบ Seafood and Grill ราคาต่อคนก็ 1650+ บาท
ตัวอาหารทะเลจัดเต็มมาก มาทั้งกุ้ง หอยนางรม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปูก็หยิบได้ไม่อั้น และยังมีแบบทั้งเสริฟเย็นและแบบกริลส์ ให้เลือกเอาที่ชอบได้ตามอัธยาศัย
อาหารอื่นๆ ขอให้ดูภาพกันเอาเองนะครับ อลังการไม่แพ้อาหารเช้าเลย
จัดเต็มสุดๆ เลย เรากินกันอิ่มมาก เรียกว่าคืนนั้นเล่น กิน สะใจกันทั้งบ้านก่อนจะมานอนสลบกันในห้องยาวๆ
ยามเช้ากับพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาดหัวหิน
ตื่นเช้ามีอะไรดีหลายอย่างเวลามาเที่ยว หลาย ๆ คนมักจะเลือกตื่นสายเพราะไหนจะมาเพื่อพักผ่อนแล้ว ย่อมไม่อยากตื่นเช้ากันทั้งนั้น บ้านเราเอาจริงก็ไม่ต่างกันนะ แต่ถ้าเรามาพักมากกว่า 1 คืนแบบนี้ เราจะเลือกเช้านึงเสมอสำหรับออกมาดูวิวเช้าแถมถ้าเป็นหัวหินด้วยแล้ว
เช้าวันนี้เรามีนัดกันพระอาทิตย์ขึ้นริมหาด ยามเช้าของหัวหินมีเสน่ห์มากมาย ยิ่งหากเป็นวันที่อากาศดีแบบวันนี้ด้วยแล้ว เราจะได้รูปสวย ๆ ของที่นี่เยอะเลย
ไม่ใช่แค่เราที่ตื่นมาเท่านั้นนะ ยังมีแขกคนอื่นเค้าก็ตื่นมาแบบเราเช่นกัน เราจึงเห็นผู้คนออกมาวิ่งยามเช้า เดินเล่น นั่งสงบๆ ชมวิวกันไป
พระอาทิตย์ยามเช้า ริมหาดสวยมาก วันนี้ออกมาเป็นสีส้มเลย ให้เราได้เก็บภาพสวย ประทับใจกันไป
ตื่นเช้าเราจะได้เจอ พระออกมาบิณฑบาตรเดินผ่านหน้าโรงแรมเลยถือเป็นอีกภาพจำที่เราคุ้นเคยในยามเช้าของชายหาดหัวหิน
มีม้าบริการให้เราขี่ได้สนนราคาก็ว่ากันไป แต่เราจ่ายที่ 400 บาทสำหรับการขี่ม้าแบบมีคนดูแลจูงไปจูงกลับ ปันก็สนุกมากด้วย เค้าเคยขี่ม้ามาแล้วเลยติดใจ
ลูกมีความสุขพ่อแม่ก็พอใจแล้ว แสงยามเช้าสวยงาม กิจกรรมขี่ม้าอยู่คู่กับหัวหินมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนตัวเราว่ามันเป็นภาพชินตาของหาดแห่งนี้ ถ้าไม่มีคงดูเหงาไปเยอะเลย
กิจกรรมที่ดีต่อใจกับทั้งบ้านของเรา
หลังมื้อเช้าแบบจัดเต็มเรามีโอกาสเดินไปที่ front desk เพื่อถามหากิจกรรมที่โรงแรมมีจัดไว้สำหรับ M Passport จนไปเจอกับ กิจกรรมนึงที่ต้องออกไปทำข้างนอก ในแนวสันธนาการอีกแห่งที่เราว่ามันดีมาก หลังจากสอบถามไปมาแล้วเราเลยตัดสินใจไปกันเลยกับที่นี่ครับ ที่สำคัญสามารถเอามาเป็น 1 แสตมป์ใน M Passport ของปันได้ด้วยนะ ^_^
ปางช้างหัสดินทร์ ปางช้างแนวอนุรักษ์ ของหัวหิน
เราขับรถออกมาราวๆ 20 นาทีมาทางเขาหินเหล็กไฟ จะเจอกับปางช้างนี้ความตั้งใจคืออยากให้ปันได้เจอกับช้างตัวจริงเป็น ๆ ที่เค้าอนุรักษ์ด้วยการนำมาเลี้ยงมาดูแล ที่นี่คือมูลนิธิช้างหัสดินทร์ จะไถ่ชีวิตช้าง ที่บาดเจ็บ หรือ อาจจะผ่านความลำบากในการถูกควานช้างเอาไปเดินขออาหารในเมืองกรุงฯ มาแล้ว หรือถูกใช้งานมาหนัก ๆ ให้กลับมารักษาตัว มาเลี้ยงดู เพราะแนวคิดของเจ้าของปางแห่งนี้มองเห็นว่าช้างไทยเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองกับพระมาหากษัตริย์เราแต่โบราณ กลับถูกนำไปใช้งาน หรือเลี้ยงดูแบบผิด ๆ ก็เยอะ ก็เลยมาทำปางช้างแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวก็ดี หรือ คนไทยได้มาแวะเที่ยว สัมผัสกับช้างที่เราไม่ทำร้ายเค้า เรียกง่าย ๆ คืนช้างให้อยู่กับธรรมชาติที่ดีสุดเท่าที่จะทำได้
ช้างที่นี่มีหลายเชือก เรามาถึงในปางแล้ว เค้าจะมีกิจกรรมให้เลือกว่าทำอะไรกับช้างได้บ้าง แบบที่ไม่ใช่ต้องขี่คอมันอย่างเดียว ซึ่งที่นี่ไม่มีนะครับ เราเลยเลือกมาสองอย่าง 1 ใน 2 คือ การเดินให้อาหารช้าง
เอาจริง เมื่อก่อนเรากลัวช้างมาก เพราะความใหญ่โตของมันทำให้ไม่กล้าเข้าไปใกล้ แต่พอมีปันแล้วกลับคิดใหม่ อยากพาเด็กน้อยไปสัมผัสสัตว์ให้เค้ามีความเข้าใจไม่ผิดแบบเรา และมันก็ได้ผลเพราะปันกลายเป็นเด็กรักสัตว์มาก แม้แต่สัตว์แปลกๆ (สำหรับเรานะ) อย่าง งู กิ้งก่า แมลงแปลก ๆ เค้าก็กล้าที่จะจับและสัมผัสมัน โอ้ยยย พ่อนี่ทึ่งหนูมากจ๊ะ
การให้อาหารของที่นี่คือการพาช้างออกไปเดินเล่นสัมผัสธรรมชาติไปด้วยกันกับเรา ช้างจะมีความกันเองมาก ตลอดเวลาจะมีควานช้างไปกับเราด้วยไม่ต้องห่วงนะ
ให้อาหารกันไปเดินกันไป น่ารักมาก มันแสนรู้ ขอกล้วยเราไปตลอดทางเลย
พอสัมผัสกันจริง ๆ ช้างเป็นสัตว์ที่น่ารักและน่าสงสาร ถูกมนุษย์ใช้งานยังพาไปที่ ๆ ไม่เหมาะกับเค้าด้วย แตโชคดีมาก ที่มีที่นี่ อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้จะสัมผัสเค้าในแบบ ที่ไม่ทำให้เค้าลำบาก
อีกกิจกรรมคือการอาบน้ำช้าง อันนี้ตรง ๆ เลยคือการฉีดน้ำให้ช้าง มันดูชอบมากนะ คนฉีดก็สนุก ปันฉีดใหญ่เลย
ช้างที่นี่สัมผัสได้แต่ต้องอยู่ในการดูแลของควานไปด้วยนะครับ ดูสิดูมัน กอดกับเราน่ารักมากเนอะ
หลังจากกลับมาเราแวะทานอาหารกันที่โรงแรมกับคาเฟ่+ร้านอาหารของที่นี่ กับ Siam Bakery อยู่ติดริมถนนด้านหน้าโรงแรมเลย
บรรยากาศตกแต่งเท่ดีครับ ขนมดูเยอะอยู่นะ แถมราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิดมันพอๆ หรือถูกกว่าร้านคาเฟ่เก๋ ๆ ในกรุงหลาย ๆ ร้านด้วยซ้ำ เดิมตั้งใจจะแค่แวะจิบชา กินขนมกันแต่พอไป ๆ มา ๆ เลยสั่งอาหารกันจริงจังเลย
อาหารก็มีหลายอย่าง คล้ายกันกับใน Amber Kitchen แต่ไม่ได้เยอะเท่า เราสั่งเป็นกินง่าย อาหารสไตล์ฝรั่งมา 2-3 อย่าง สปาเก็ตตี้,เบอร์เกอร์ , สลัด
บอกจากใจเลยนะ อันนี้ไม่ได้อวยเค้า อร่อยมาก โดยเฉพาะ แซลมอลสลัด ดีเลย
ตบท้ายด้วยของหวานกันครับเค้กที่เราชอบจนห่อกลับบ้านด้วย ยกให้ แครอทเค้กอันนี้เลย ไม่หวานเกินไป กำลังดีเลย
พักท้องกันได้ที่ พาปันเล่นเกมส์ วิ่งไปมา เล่นน้ำกันได้อีกยก เราก็พาปันมาทำกิจกรรมอีกอย่างที่ปันจะได้โชว์ฝีมือทำอาหารระดับเชฟกันบ้างแล้ว เค้ามีกิจกรรมเป็น เชพตัวน้อยให้เด็กลองทำอาหาร
ที่สำคัญอาหารนี่ไม่ใช่แบบเด็กๆด้วยนะ ปันจะได้ทำ ส้มตำกุ้งย่าง ผัดไทยกุ้งสด และตบท้ายด้วยแพนเค้ก โห้ยย พ่อยังทำไม่เป็นเลยเนี่ย 555 พร้อมแล้วเชพก็ลุยกันเลย
แลดูตั้งใจฟังเชพมากครับ ส้มตำต้องอร่อยแน่ๆ
เห็นไหมบอกแล้วหน้าตาดีเชียวล่ะ ออกมาก็ชิมกันทั้งบ้าน รสชาติใช้ได้อาจจะไม่เผ็ดเพราะปันกินไม่ได้ แต่ดูเค้าแฮ้ปปี้มากทีเดียว
ต่อกันด้วยผัดไทย ความยากอยู่ตรงที่ต้อใช้มีด แม่กับพ่อนี่เสียวเลย แต่ดูตั้งใจค่อยๆทำ มีสมาธิดีเชียวละครับ
ออกมาเป็นผัดไทยที่อร่อยเลยนะ ปรบมือจ้า
ก่อนจะมาปิดท้ายที่แพนเค้ก
ราดซอสช็อคโกแล็ต เจ้าตัวดูปลื้มมาก
นับเป็นกิจกรรมที่เด็กทำได้จริง และดูเค้าภูมิใจเพราะมีใบประกาศออกให้จากเชพกันทีเดียวเลย
หลังจากนั้นเราก็ปล่อย เอ้ย ให้ปันเล่นต่อใน Kid Club ข้อดีคือ เค้ามีพี่เลี้ยงคอยดูแลให้พ่อแม่ได้ด้วยนะ เราเลยขอเวลามาทำสปากันสองคนบ้าง
ที่ Quan Spa จะมีให้เราเลือกหลายอย่าง สุดท้ายเราทั้งคู่เลยเลยแบบ Thai Fusion Massage คือสปาแบบน้ำมันผสมกับนวดไทย
เข้ามาด้านในให้บรรยากาศ รีแล็กซ์ดีทีเดียวสมกับที่เป็นสปาระดับห้าดาว
ห้องตกแต่งดี น่านอนดูผ่อนคลายดีครับ เค้ามีห้องแบบคู่รักให้ด้วยนะ เราใช้เวลากัน ราว 1 ชม. ต้องชมเลยว่าดีมาก ดีสุดๆ เราไม่ได้นวดดี แบบหลับไปเลยมานานแล้ว ตอนทำหันไปมองแม่ปันนี่ก็ไม่ต่างกัน ขอชมจากใจเลย แนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่ไม่ค่อยมีเวลานวด ทำสปา ไหน ๆ มาพักผ่อนแล้วอย่าพลาดนะ จากนั้นเราก็กลับไปรับปัน และกลับมาห้องพักแล้วครับ ปันเองวันนี้เหนื่อย แต่สนุกมาก หลับไปโดยง่ายมาก
วันสุดท้ายแล้ว วันนี้เราตื่นสายๆ ลงไปเล่นน้ำกันเหมือนเดิม จนไปจบที่บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอลังการงานสร้างเช่นเดิม
อิ่มกันดีแล้วจนปันขอกลับมาที่ Kids Club อีกรอบ
พาเด็กไปปล่อย เอ้ย พาไปเล่นกันต่อ และยังมีกิจกรรมให้ปันทำด้วยนะ ที่ Kids Club ของที่นี่มีอะไรให้เด็กทำเยอะ ภายในเค้าจะมีเครื่องเล่นเกมส์ Play 4 วางไว้ให้ นอกจากนั้นก็มีหนังสือ มีตุ๊กตาเหมาะกับเด็กเล็กๆ มุมวาดรูป ระบายสี ฯลฯ
ปันก็เล่นกับเพื่อน(ใหม่ๆ เพิ่งรู้จักกันในนี้ละ) ข้อดีของเด็กคือ การรู้จักกันผ่านการเล่น มันไร้กำแพงทั้งภาษา และ ความสนุกจริง ๆ ครับ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เลือกได้ อย่างทำผ้ามัดย้อม (อันนี้เสียเงินเพิ่มนะครับ) เค้าจะเตรียมอุปกรณ์ให้เราทำได้เลย พี่ ๆ เค้าจะสอนให้ปันได้ลงมือทำเอง แบบนี้เราจะได้เสื้อ ฝีมือของเราเองด้วย เริ่ดมาก ปันดูภูมิใจอยู่นะ แถมเสื้อออกมาสวยมากด้วย เป็นลายมัดย้อมแบบที่อยากได้เลย
และปิดท้ายที่ทำกระเป๋าผ้ารักษ์โลกกัน เค้าจะมีกระเป๋าผ้าทีีมีลวดลายการ์ตูนให้เด็กระบายสีได้ จากนั้นก็เอากลับมาบ้านได้เช่นกัน
ก่อนจะมาปิดท้ายทริปกันที่ ร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศดีมาก กับ Big Fish ร้านที่เอาวิวสวยของหาดหัวหินมาใส่ไว้ในห้องอาหารเต็มๆ เพราะผนังโดยรอบเป็นกระจกโล่งโปร่งตาสุด ๆ ไปเลย เห็นวิวหาดหัวหินเต็ม ๆ
มุมถ่ายรูปเยอะด้วยนะ บรรยากาศทะเลวันนี้ก็สวยงามเป็นใจกับการถ่ายรูปด้วย
อาหารที่สั่งมานี่ถึงกับตกใจมาก ทีแรกเราจินตนาการไว้อีกแบบ มาเสริฟกันจริง โอ้วนี้ยกทะเลมาหมดเลยต่างหากกับเมนู Seafood Tower มาเลย
ยังมีสปาเก็ตตี้ของปัน และอีกหลายอย่างผมจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่แนะนำห้องอาหารนี้เลย วิวสวยมาก ถ้ามาตอนเย็น พระอาทิตย์ตก ต้องสวยมากแน่นอน
บรรยากาศดีจนนั่งชิลล์กันเลย เรา ร้านนี้เหมาะกับความโรแมนติก มาเป็นคู่นี่เลิฟแน่ๆ
ปิดท้ายกันที่นี่แล้วละครับ ก่อนจะกลับบ้านกัน
อ่อ สุดท้ายเราเอา M Passport ที่ทำสะสมมาแลกเป็นไอศครีม ได้ 3 scoop (ถือไม่ไหวอีกอันปันกินแล้วจ้า)เลยละ แบ่งกันสามคนพอดีเลย ถือเป็นกิจกรรมที่ได้ประโยชน์ ได้ของฝาก ได้ประสบการณ์ดีกับลูกของเราไปด้วย
มาสรุปกันหน่อยดีกว่า
หวังว่า รีวิว Huahin Marriott Resort & Spa หนึ่งในที่พักครอบครัวที่ดีที่สุดของหัวหิน นี้จะพอเป็นอีกทางเลือกสำหรับทุกครอบครัวนะครับ ส่วนตัวเราสรุปสั้นๆตามนี้เลยนะ
ห้องพักดีมาก สมราคาความเป็น Marriott ของใช้ในห้องดีใช้ของ Than คุณภาพสมความเป็น 5 ดาว เตียงนี้นอนหลับสบายสุด ๆ ติดใจมาก
สระว่ายน้ำคือไฮไลท์ที่สุดเลยครับสำหรับที่นี่ถ้าเป็นครอบครัวที่ชอบว่ายน้ำ เล่นน้ำ ที่นี่มี 5 สระให้ตอบโจทย์ทุกข้อได้หมด เด็ก ๆ ชอบมาก ประทับใจเราสุดกับสระแบบ Family Pool เล่นกันได้หมดทั้งบ้าน
ห้องอาหารดีเริ่ดโดยเฉพาะ Amber Kitchen บุฟเฟต์ มื้อเช้าอลังการสุดจริง และมีให้เลือกทั้งเช้าและค่ำ มื้อกลางวันเป็น Alacart มื้อค่ำเป็น Seafood and Grill มีทุกวันเสาร์ ราคา 1,650++ บาทต่อคนเด็ก 6-12 ปีจ่ายครึ่ง ราคา และ เด็กต่ำกว่า 6 ปี ทานฟรีจ้า คุ้มมาก จัดเต็ม ทั้ง กุ้ง หอยนารม ปู และประเภทเนื้อย่าง ก็เป็นแกะ เน้ือ รวมถึงซีฟู้ดทั้งหมด
ตัวกิจกรรมที่อยู่ใน M Passport ดีทีเดียว ลองเลือกอันที่ลูกเราชอบแล้วทำดู ไม่ทำให้การมาเที่ยวของลูก หมดไปเปล่าประโยชน์แน่ ตัว Package ที่พักรวมกับกิจกรรมถ้าชอบก็เลือกกันได้เลยครับ ถือว่าคุ้มค่าเพราะใช้กับเด็กได้ 2 คนเลย ลองดูกันที่นี่เลยครับ
ข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย
อาหารเช้าถ้าเรามากินสาย จะเจอแขกเยอะทำให้ต้องเข้าคิวเพราะงั้นแนะนำให้มาอย่าเกิน 8 โมงเช้าจะดีที่สุด กินเสร็จกลับไปอาบน้ำ เล่นน้ำต่อยังได้
จนกว่าจะพบกันใหม่นะหัวหิน
ก่อนจากครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เราแทบจะไม่ออกไปไหนเลยเพราะเสียดายเวลาที่จะได้พักผ่อน ใช้ทุกอย่างในโรงแรม และเราก็คิดถูกจริงๆ หวังว่ารีวิวนี้จะถูกใจครอบครัวใครบ้างนะครับ
จนกว่าจะพบกันใหม่ในโลกสีฟ้าแห่งนี้ ฝากติดตามพวกเราได้ใกล้ชิดมากขึ้นในเพจของครอบครัวเราครับ อยากรู้จักโลกกว้าง
สวัสดีครับ