
แจก #PlanTrip 3 วัน 2 คืน
และ 20+ Plan Trip Autumn Leaves : Nagano
มาแล้ว ภาค 2 ที่เป็นจุดกำเนิดของทริปนี้
รอบนี้ทำให้ดูง่ายขึ้นด้วยการ บอกเป็นวันๆ เลยว่าเที่ยวไหนได้บ้าง
และแถมข้อมูลแน่นๆ สำหรับคนชอบอ่านและชอบวางแผน จะเพิ่มเติมเนื้อหาให้มากกว่าที่ลงในเพจ
ให้สามารถอ่านกันมันส์ๆ ไปได้อีก
อย่างที่บอกไปในโพสต์ก่อนๆ เส้นทางทริปนี้ของแอดจะเป็นวงกลมแบบนี้
Tokyo> Gunma> Nagano> Fuji & 5 Lakes> Tokyo
เลยจะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ภาค โดยทั้งหมดเราเน้นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นหลักนะ
 Tokyo> Gunma
 Tokyo> Gunma 
Link Review > https://bit.ly/one22-gunma
 Tokyo>Nagano (รีวิวนี้ละครับ)
 Tokyo>Nagano (รีวิวนี้ละครับ)
 Tokyo> Fuji&  5Lake
 Tokyo> Fuji&  5Lake
Link Review > https://bit.ly/fujiautumnweb
***กรณีที่ไม่ได้บินลงที่โตเกียว เส้นทางนี้จะไม่แนะนำครับเพราะไกล และ เสียเวลาเดินทางมาก
Highlight Autumn leaves Nagano
  Karuizawa
 Karuizawa 
 Kumoba Pond
 Kumoba Pond 
 Karuizawa Shiraito Falls
 Karuizawa Shiraito Falls 
 Karuizawa Kogen Church
 Karuizawa Kogen Church
 Karuizawa St. Paul’s Catholic Church
 Karuizawa St. Paul’s Catholic Church
 Karuizawa Prince Shopping Plaza
 Karuizawa Prince Shopping Plaza
  Megane-bashi Bridge (Usui No. 3 Bridge)
 Megane-bashi Bridge (Usui No. 3 Bridge)
 Matsumoto
 Matsumoto
 Matsumoto Castel Park
 Matsumoto Castel Park
 Kamikochi
 Kamikochi
 Mt. Norikura Tatamidaira
 Mt. Norikura Tatamidaira
 Togakushi Ninja Museum
 Togakushi Ninja Museum
 Hakuba Iwatake Mountain
 Hakuba Iwatake Mountain
 Yudanaka Onsen
 Yudanaka Onsen
 Nozawa Onsen
 Nozawa Onsen
 Yamada Onsen
 Yamada Onsen
 Kagami-ike Pond
 Kagami-ike Pond
 Takai Bridge
 Takai Bridge
  Zenkō-ji temple
 Zenkō-ji temple
  Fudosawa Bridge
 Fudosawa Bridge
  Narai Juku
 Narai Juku 
  Senjōjiki Cirque
 Senjōjiki Cirque
  Akasawa Natural Recreational Forest
 Akasawa Natural Recreational Forest
จริงๆยังมีอีกเยอะมากเลยนะ สำหรับที่เที่ยวจังหวัดนี้ แต่มันอาจจะยังไม่ตรงกับฤดูเที่ยว
เช่น JIGOKUDANI MONKEY PARK สวนลิงหิมะ ซึ่งถ้ามาช่วงเดือน ตค.-พย.มันจะไม่เจอลิงลงแช่สิ
เพราะอากาศอาจจะยังไม่หนาวถูกใจลิงจนลงไปแช่ เพราะงั้นที่เลือกมาคือ สถานที่ๆ ไปแล้วมีสิทธิ์ลุ้นเจอใบไม้เปลี่ยนสีได้มากกว่านั้นเอง
มาถึงตัวอย่าง Plan Trip 3 วัน 2 คืนที่เที่ยวได้จริง ไม่เร่งรีบเกินไปเวลาประมาณนี้

ภาพประกอปจากเว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัด nagano https://www.go-nagano.net/th/
📆 Day 1 Tokyo > Matsumoto จากโตเกียวสู่ปราสาทไม้อายุเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ชมใบไม้เปลี่ยนสีในหมู่บ้านโบราณ
(นั่ง Shinkansen ที่ Shinjuku Station > Matsumoto Station(2.37 ชม. / ใช้ JR Pass ได้ /ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน/ ต่อรถไป Kamikochi จากสถานีปลายทางได้ )
วันแรกออกจากโตเกียวด้วยรถไฟเลียบริมฝั่งทะเล ขบวน Super Azusa วิวสวยมาก ถึงเมือง Matsumoto เข้าโรงแรม ฝากกระเป๋าแล้วออกมาเที่ยวต่อ หากมีบัตร JR East pass ใช้นั่งรถไฟเที่ยวได้ทุกที
 Matsumoto Castle   ( ช่วงเช้าเลือกไปชมปราสาท Matsumoto ก่อนคนน้อยคิวไม่ยาว)
 Matsumoto Castle   ( ช่วงเช้าเลือกไปชมปราสาท Matsumoto ก่อนคนน้อยคิวไม่ยาว)
 Matsumoto Castle Park (สวนรอบๆ ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังสวย เดินถ่ายรูปกันได้เลย)
 Matsumoto Castle Park (สวนรอบๆ ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังสวย เดินถ่ายรูปกันได้เลย) 
 Narai Juku ( บ่ายไปเที่ยวเมืองเก่าที่ยังคงรักษาบ้านเรือนยุคเอโดะไว้อย่างดี ถนนตลอดสองข้างเป็นแหล่งเดินเที่ยวถ่ายรูป ช้อปปิ้งได้ )
 Narai Juku ( บ่ายไปเที่ยวเมืองเก่าที่ยังคงรักษาบ้านเรือนยุคเอโดะไว้อย่างดี ถนนตลอดสองข้างเป็นแหล่งเดินเที่ยวถ่ายรูป ช้อปปิ้งได้ ) 
จากนั้นกลับมาเช็คอินที่พัก หากเวลาเหลือ เดินเที่ยวหาร้านอร่อยๆ ในเมือง Matsumoto กันต่อตามอัธยาศัยเตรียมพร้อมลุยวันถัดไป

📆 Day 2 Matsumoto > Kamikochi มีสองวิธีเดินทาง
วิธีที่ 1 นั่งบัสตรงจาก สถานีบัส Matsumoto Bus Terminal > Kamikochi ใช้เวลา 1.30 ชม. เท่านั้น นั่งยาวไม่ต้องเปลี่ยนขบวน มีข้อจำกัดคือ มีแค่ 2 เที่ยวต่อวันคือรอบ 05.30 น.และ 10.15 น.เท่านั้น
วิธีที่ 2 นั่งรถไฟต่อบัส จากสถานี Matsumoto Station ขึ้นสาย Matsumoto Dentetsu ใช้เวลา 30 นาที ลงที่สถานี Shin-Shimashima station เปลี่ยนไปขึ้นบัส จากหน้าสถานี สาย Kamikochi ใช้เวลาอีก 1 ชม.ถึง Kamikochi Bus
Terminal เลย (รถไฟใช้ JR Pass ไม่ได้ มีรถไฟและรถบัสออกทุกชั่วโมง) วันนี้เราจะเที่ยวกับธรรมชาติที่สวยงามที่สุกแห่งนึงของญี่ปุ่น หลังจากเลือกวิธีเดินทางได้แล้ว ออกแต่เช้าเท่าที่จะออกได้ จุดท่องเที่ยวบน Kamikochi เยอะมาก ควรใช้เวลาเต็มวันกับที่นี่สมกับที่อยากมา ไฮไลท์บนนั้นที่คนนิยมไปเที่ยวกันมีดังนี้ 
 Taisho Pond บึงตามธรรมชาติอยู่ไม่ไกลจากสถานีเดินไปไม่ถึง 20 นาที
 Taisho Pond บึงตามธรรมชาติอยู่ไม่ไกลจากสถานีเดินไปไม่ถึง 20 นาที
 Kappa Bridge สะพานไม้อันเป็นสัญลักษณ์ ที่มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่มากที่สุดแล้ว
 Kappa Bridge สะพานไม้อันเป็นสัญลักษณ์ ที่มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่มากที่สุดแล้ว
 Dakesawa หนองน้ำที่ไม่ไกลจากสะพาน Kappa นักวิวสวยมากน้ำใสตัดกับใบไม้เปลี่ยนสีจากต้นสนสวยสุดๆ
 Dakesawa หนองน้ำที่ไม่ไกลจากสะพาน Kappa นักวิวสวยมากน้ำใสตัดกับใบไม้เปลี่ยนสีจากต้นสนสวยสุดๆ
 Myojin Pond บึงตามธรรมชาติ สวยงามมากในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะเข้าชมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
 Myojin Pond บึงตามธรรมชาติ สวยงามมากในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะเข้าชมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
 Hotaka & Tashiro Bridges สะพานด้านใน ที่ถือเป็นอีกจุดชมวิวเขาและสายน้ำใสๆสีเทอควอยสวยงาม
 Hotaka & Tashiro Bridges สะพานด้านใน ที่ถือเป็นอีกจุดชมวิวเขาและสายน้ำใสๆสีเทอควอยสวยงาม
แน่นอนคนส่วนมากที่มาที่นี่มีเป้าหมายมาเดินเทรลกันทั้งนั้นเรายังสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ Information ของ Kamikochi จะอยู่ตรงบริเวณสถานีรถบัสนั้นเอง
เส้นทางที่แอดฯ ตั้งใจจะไปใช้เวลาสั้นๆ พาครอบครัวเดินเที่ยวกันคือ เส้นทางเดินเลาะเลียบริมฝั่งแม่น้ำ Azusa จากสถานีบัส Taisho Pond ผ่านบึงสวยๆ ผ่านสะพาน Kappa ไปจบที่ Tokusawa Campground and Lodge เส้นทางนี้ยาว 6 กม. ใช้เวลาเดิน 1-2 ชม.เท่านั้นแล้วแต่เรา
กรณีพักบนนั้นก็สามารถจะจัดสรรเวลาของตัวเองได้ตามสะดวก หากต้องการกลับเข้าเมือง Matsumoto จะต้องดูเที่ยวรถบัส+รถไฟให้ดี สามารถดูเวลารถทั้งสองได้ที่นี่เลย
https://www.alpico.co.jp/th/timetable/kamikochi/r-matsumoto-kamikochi/
*กรณีตั้งใจใช้เวลามากกว่า 1 วันเที่ยวในละแวกนี้ คือ Matsumoto , Kamikochi , Mt. Norikura หรือใช้ขึ้นรถไฟสาย alpico มา Kamikochi รวมถึงบัสจาก Matsumoto แนะนำให้ซื้อพาส 2 day Free Passport เป็นพาสที่รวมทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว เหมาะมากกับคนที่ใช้เที่ยวย่านนี้มากกว่า 1 วัน ใช้คู่กับการ JR East Pass ได้เพราะจากสถานี Matsumoto มาจนถึง Kamikochi JR East Pass จะใช้ไม่ได้แล้ว
สามารถหาข้อมูลเกี่ยวข้องกับพาสนี้ได้ที่นี่เลย https://www.alpico.co.jp/th/2day-free-passport/
วันสุดท้าย เราสามารถแตกออกเป็นสองเส้นทางแล้วแต่ชอบได้อีก แอดฯ ทำมาให้เลือกแล้ว เอาแล้วแต่สะดวกกัน

📆 Day 3.1 Matsumoto > Nagano > Tokyo (นั่งบัส หรือนั่ง JR East Pass ออกจาก Matsumoto Station มาที่ Nagano Station>Ueno Station 2.18 ชม./ ใช้ JR Pass ได้/เร็วที่สุด ) วันนี้เก็บตกเที่ยววัดและเดินสำรวจธรรมชาติชมใบไม้เปลี่ยนสี อยู่ที่เราบริหารเวลาได้ บางจุดเดินเยอะ บางจุดเดินน้อย แล้วกลับมานั่งรถไฟกลับโตเกียว ที่สถานี Nagano Station
 Zenkō-ji temple (วัดเซ็นโคจิ ต้นกำเนิดพุทธศาสนาเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี )
 Zenkō-ji temple (วัดเซ็นโคจิ ต้นกำเนิดพุทธศาสนาเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี )
  Togakushi Ninja Museum (หมู่บ้านนินจาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี เป็นทั้งสวนสนุก และพิพิธภัณฑ์มีกิจกรรมเหมาะกับครอบครัว )
 Togakushi Ninja Museum (หมู่บ้านนินจาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี เป็นทั้งสวนสนุก และพิพิธภัณฑ์มีกิจกรรมเหมาะกับครอบครัว )
 Togakushi Shrine Okusha (ชมต้นสนซีดาห์ยักษ์ อายุไม่ต่ำกว่า 400 ปีสูงท่วมหัว ที่ศาลเจ้า ใช้เวลาเดินไปกลับ 1.30 ชม. )
 Togakushi Shrine Okusha (ชมต้นสนซีดาห์ยักษ์ อายุไม่ต่ำกว่า 400 ปีสูงท่วมหัว ที่ศาลเจ้า ใช้เวลาเดินไปกลับ 1.30 ชม. )
  Kagami-ike Pond ( บึงน้ำที่ล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ขับรถมาเที่ยวสะดวกสุด บัสจะมีเที่ยวรถน้อยรอนาน)
 Kagami-ike Pond ( บึงน้ำที่ล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ขับรถมาเที่ยวสะดวกสุด บัสจะมีเที่ยวรถน้อยรอนาน)

Day 3.2 Matsumoto > Karuizawa > Tokyo  เที่ยวชมธรรมชาติใกล้โตเกียวและตบท้ายช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่สุดของจังหวัด เดินทางจาก Matsumoto > Karuizawa ด้วย JR East Pass: Nagano
( Matsumoto Station > Nagano Station > Karuizawa Station ใช้เวลาสั้นสุดคือ 1.46 ชม. เราจะเที่ยวแค่ใน Karuizawa เท่านั้น ที่เที่ยวก็ดังนี้เลย 
 Kumoba Pond (บึงธรรมชาติในสวนที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยสุดๆ ไปเลย ดูรีวิวแอดฯ ได้ที่นี่ https://bit.ly/karuizawaFB)
 Kumoba Pond (บึงธรรมชาติในสวนที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยสุดๆ ไปเลย ดูรีวิวแอดฯ ได้ที่นี่ https://bit.ly/karuizawaFB)
 Karuizawa Shiraito Falls (น้ำตกที่มีวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามด้านหลัง)
 Karuizawa Shiraito Falls (น้ำตกที่มีวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามด้านหลัง)
 Karuizawa Kogen Church (โบสถ์ไม้ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีเหมาะกับการถ่ายรูป)
 Karuizawa Kogen Church (โบสถ์ไม้ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีเหมาะกับการถ่ายรูป)
 Karuizawa St. Paul’s Catholic Church (โบสต์สีขาวสวยท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี)
 Karuizawa St. Paul’s Catholic Church (โบสต์สีขาวสวยท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี)
 Karuizawa Prince Shopping Plaza ( Shopping Mall ที่ใหญ่ที่สุดใกล้โตเกียวเน้น Brandname และ Brand Local ยอดนิยม ) จากนั้นนั่ง Shinkansen ตรงกลับโตเกียวได้เลยใช้เวลาเดินทางกลับ 1.30 ชม.เท่านั้น
 Karuizawa Prince Shopping Plaza ( Shopping Mall ที่ใหญ่ที่สุดใกล้โตเกียวเน้น Brandname และ Brand Local ยอดนิยม ) จากนั้นนั่ง Shinkansen ตรงกลับโตเกียวได้เลยใช้เวลาเดินทางกลับ 1.30 ชม.เท่านั้น 
ใครที่ยังไม่ได้อ่าน Part 1. Tokyo > gunma เชิญทางนี้
วิธีการเดินทางมา Nagano

Train: มีให้เลือกสองแบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวนจาก Tokyo และเราใช้ JR East Pass: Nagano ได้หมด 
ขบวนแรกคือ  Hokuriku Shinkansen มีสองสถานีให้เลือกขึ้นได้คือ 
Tokyo Station > Nagano Station (1.26 ชม./ ใช้ JR Pass ได้ /ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน)
Ueno Station > Nagano Station (1.18 ชม./ ใช้ JR Pass ได้/เร็วที่สุด /ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน )
ถ้าไปขึ้นที่ Shinjuku จะมีอีก 1 ขบวนที่เดินทางช้ากว่า แต่ว่ากันว่าเป็นเส้นทางที่เราสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้เลยในวันที่อากาศดีๆ และ วิวยังสวยกว่าขบวนแรกอีกด้วย แน่นอนยังใช้ JR Pass ได้เช่นกัน แต่ปลายทางจะเปลี่ยนจาก Nagano เมืองหลักของจังหวัดเป็น Matsumoto แทน เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจะไปเที่ยว Kamikochi เลย เพราะจาก Matsumoto จะมีรถบัสวิ่งจากในเมืองไปยัง สถานีรถบัสที่ต่อขึ้นไปยัง Kamikochi ได้เลย คือขบวน Super Azusa ออกจากที่
Shinjuku Station > Matsumoto Station
(2.37 ชม. / ใช้ JR Pass ได้ /ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน/ ต่อรถไป Kamikochi จากสถานีปลายทางได้ )

ภาพจากเว็บไซต์บัส https://www.alpico.co.jp/th/timetable/kamikochi/
Bus : ข้อดีอีกเช่นเคยถ้าเรานั่งบัสจาก สนามบิน Narita จะมีบัสวิ่งตรงไปยังจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดเกือบทั้งหมด หรือ จะมาขึ้นที่โตเกียวก็ยังได้ไล่ไปเลยนะ
Narita Airport Shuttle Bus Terminal 1 ,2,3 > Nagano Bus Terminal
(7,000 yen/ Night Bus/ 5.25 ชม. )
Shinjuku Expressway Bus Terminal > Nagano Bus terminal
(5,100 yen / Day Bus / 3.40 ชม.)
Shinjuku Expressway Bus Terminal > Matsumoto Bus Terminal
(4,500 yen / Day Bus / 3.21 ชม.)
แน่นอนที่ๆ เป็นเป้าหมายหลัก ก็ยังมี Bus วิ่งตรงมาถึง สถานีรถบัส kamikochi ได้เลย จาก โตเกียว
Shinjuku Expressway Bus Terminal > Kamikochi Bus Terminal
( 8,200 – 12,200 yen/4.47 ชม. )
ดูรายละเอียดรถบัสวิ่งตรงได้ทางนี้ครับ
https://www.alpico.co.jp/th/timetable/kamikochi/r-tokyo-kamikochi/
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยว อื่นๆ ไล่ไปดูแต่ละจุดดีกว่านะ
Highlight ที่เที่ยว
มาถึง จังหวัดที่เป็น ไฮไลท์ ที่ทำให้เกิดทริปนี้ขึ้นมาอย่าง จ.นากาโนะ จังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคโฮคุริคุ/ภูมิภาคชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu) ชื่อยาวเนอะ เป็น ไฮไลท์ในเส้นทาง JR East Pass ใช้เที่ยวได้
เป้าหมายหลักที่ทำให้เกิดทริป ใบไม้เปลี่ยนสีครั้งนี้ กว่าจะตัดใจเลือกได้สำหรับเวลาแค่ 3 วัน 2 คืนที่นี่แอดฯ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายวันมาก กว่าจะมาเล่าให้ฟังได้ เอาละ ไปไล่กันดีกว่า
Part 2. เน้นที่จังหวัด Nagano เส้นทางหลักที่มี Kamikochi อยู่นั้นเอง
Part 3.เน้นที่จังหวัด Yamanachi ( Fuji ) & 5 lakes
สำหรับ Fuji ณ.วันที่เราไปคือช่วงตุลาคม ยังไม่ใช่ช่วงเข้าสู่ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่
ซึ่งปรกติ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟูจิ จะเริ่มจริงคือ ประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของ พย. เป็นต้นไป
Nagano เที่ยวไหน

Kamikochi
อุทยานแห่งชาติที่สดชื่น และ สวยงามเต็มไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย โดยจะเปิดตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายนทุกปี ครอบคลุม 3 ฤดูตั้งแต่ช่วงใบไม้ผลิ ฤดูร้อน จนถึงใบไม้เปลี่ยนสี ด้วยความที่ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นสน เมเปิ้ล และไม้ยืนต้นที่จะเปลี่ยนผลัดใบเมื่อเปลี่ยนฤดู มันจึงจะออกสีสันสวยงามที่สุดในช่วงเดือน ตุลาคม ตรงกับช่วงเวลาแห่งการเดินทางของพวกเราพอดี เสน่ห์สำคัญที่เหมาะกับทุกคนที่อยากไปสัมผัสธรรมชาติ คือ ความหลากหลายของเส้นทางเดินชมป่าทั้งแบบง่าย และ ยาก และจากการเดินทางจากพื้นราบไปบนอุทยานสะดวก ด้วยรถบัสรับส่งจากสถานี Sawado Bus Terminal <-> Kamikochi Bus Terminal ใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น
วิธีการเดินทาง
Tokyo เป็นจุดตั้งต้นสำหรับพวกเรา สามารถมาได้ทั้ง รถไฟและบัส ตามนี้เลย ถ้าเน้นประหยัดเงินใช้รถไฟ กรณีมี JR Pass ถัาไม่ใช้ JR นั่งบัสไปสะดวกและประหยัดกว่าทอดเดียวถึงเลย
Train : Shinjuku Station > Matsumoto Station > Kamikochi Bus Trminal
( 8,200 yen / ใช้ JR Pass ได้ฟรี จนถึง Matsumoto station ต่อบัสมีค่าใช้จ่าย / 4.10 ชม.)
Bus : Shinjuku Expressway Bus Terminal > Kamikochi Bus Terminal
( 8,200 – 12,200 yen/ มีทั้ง Day bus & Night Bus ใช้เวลาเดินทางกลางวันสั้นกว่ากลางคืน / 4.47-7.00 ชม.)

Karuizawa 
เมืองตากอากาศ ที่ใกล้โตเกียวที่สุดของคนญี่ปุ่น (อารมณ์ประมาณ เขาใหญ่ประเทศไทยครับ )
ใครไม่รู้ว่าจะเริ่มเก็บ Landmark ใบไม้เปลี่ยนสีที่แรกที่ไหน ที่นี่ใช่เลย
เสน่ห์สำคัญของสายชิลต้องชอบคือ เดินทางสะดวกนั่งรถไฟต่อเดียวจากโตเกียวถึงเลย
การชมใบไม้เปลี่ยนสีแสนง่าย ที่นี่เหมาะมากจะเช่าจักรยานปั่น เส้นทางเริ่มจากสถานีรถไฟ ไปจนทั่วได้เลย เลนจักรยานดีมากแยกฝั่งซ้ายขวา ตอนเราไปครั้งแรกก็เลือกวิธีนี้ในการเที่ยว หรือหากจะเลือกเดินเที่ยวก็ยังได้ เป็นการออกกำลังเบาๆ จุดที่ต้องไปสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีคือ

Kumoba Pond บึงขนาดไม่ใหญ่ เดินประมาณ 1-2 ชม.ก็ทั่วแล้ว ที่นี่ต้นไม้ต่างๆ หลากสีสันมาก เรียกว่ามาแล้วแทบจะครบทุกประเภทของต้นไม้ในช่วงฤดูนี้เลย แนะนำมากๆครับ 
พิกัด: https://goo.gl/maps/PhNTqjX2BYdZ3d8P6
Karuizawa Shiraito Falls
น้ำตกเล็กๆ ไม่ใหญ่มากแต่เสน่ห์สำคัญเลยคือ ใบไม้เปลี่ยนสีที่ถ้ามาถูกช่วงเวลามันจะสวยแข่งกับน้ำตกเลยทีเดียว
การเดินทางก็ง่ายจากทางเข้าเดินเข้ามาไม่นานเจอเลย
พิกัด: https://goo.gl/maps/DrDEBstDwUAgh14A8
Karuizawa Kogen Church
โบสถ์คริสตจักรไม้สีไม้เน่้ออ่อนที่ออกแบบได้เท่มากๆ และยิ่งถ้าไปถูกเวลาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้นไม้รอบๆสีสันแดงยิ่งขับให้โบสถ์เด่นขึ้นไป ตอนแอดฯไปโบสถ์เข้าปิดไม่ให้เข้าพอดี ยังไงตอนไปอย่าลืมเช็ค google Map กันด้วยนะว่าเปิดไหม
พิกัด: https://goo.gl/maps/wHPpEv7eFm7PiwDD8
Karuizawa St. Paul’s Catholic Church
โบสถ์ของคริสต์นิกายคาทอลิก ที่สวยเช่นกัน แวดรอบด้วยต้นไม้แข่งกันออกสีสันในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แนะนำว่าไปแล้วอย่าพลาด เป็นอีกจุดที่สวยงามและอย่างลืมเช็คเวลาเปิดปิดให้ดีๆ ด้วยนะ
พิกัด: https://goo.gl/maps/q5hB26uFGXk4PYQX6
Megane-bashi Bridge
สะพานอิฐแดงโบราณ เป็นสะพานที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคสงครามเพื่อลำเลียงเสเบียงอาหารทางรถไฟ
ความสวยงามของสะพานว่าสวยคลาสิกแล้ว แต่มันจะยิ่งสวยขึ้นไปอีกเมื่อเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีด้านหลังสะพานแข่งกันออกสีสันทั่วทั้งหุบเขา บริเวณด้านล่างเป็นอุโมงค์คนเดิน ได้มุมมองการถ่ายรูปที่แปลกตาออกไปอีกด้วย ด้านบนก็สวยมากเดินขึ้นมาแป๊บเดียวเท่านั้น วิวใบไม้เปลียนสีเหลืองตัดกับแดงอลังการหากมาถูกเวลา
ที่นี่จริงๆ ไม่ได้อยู่ใน จ.นากาโนะ แต่อยู่ใน จ.กุนมะ แต่ที่นำมาแนะนำในการมาเที่ยวฝั่งนี้ เพราะมันใกล้ Karuizawa มากกว่าหากมาจากทาง กุนมะตรงๆ นอกจากว่าเราจะเที่ยวกุนมะแล้วตัดเข้า นากาโนะ จากทางนี้ก็จะสามารถผ่านพอดี ตรงจุดนี้เป็นอีกจุดที่ต้องใช้รถเช่าขับมาเท่านั้น เพราะอยู่บนเขา
พิกัด: https://goo.gl/maps/RvGxCqg9c4mropTE9

ภาพประกอปจากเว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัด nagano https://www.go-nagano.net/th/
Matsumoto
หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวหลักของ จ.นากาโนะ และเป็นศูนย์กลางเดินทางฝั่งซ้ายของจ.นี้ ที่นี่มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันเป็นไฮไลท์ที่สุด เพราะหาได้ยากไม่ใช่ทุกจ.จะมีให้ชม เพราะเป็น..
Matsumoto Castel Park 
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีรอบปราสาทมัตสึโมโตะ ที่เราจะได้ชมไปพร้อมๆกันกับตัวปราสาทเลย มันสวยงามและอลังการสุดๆ
ที่แรกที่แอดฯ เคยไปเจอในช่วงเดียวกันจนจำติดตาคือที่ Wakayama Castle เลยติดใจจนตามเก็บสวนรอบปราสาทแบบนี้เท่าที่จะไปเจอได้ รอบนี้ ที่นี่คือใช่มาก และตัวปราสาทเองก็สวยงาม สมบูรณ์ที่สุดแห่งนึงของญี่ปุ่นก็ว่าได้
พิกัด: https://goo.gl/maps/sgmCv47LhGryJwh7A
จุดเที่ยวอื่นๆ
Kagami-ike Pond บึงกระจกแสนสวยที่ใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนลงบึงสวยสุดๆ ไปเลย 
พิกัด: https://goo.gl/maps/4nfrZA3SMsYwRYLk6 
Zenkō-ji temple วัดเซ็นโคจิ นิกายเซ็นทีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งนึงในญี่ปุ่น ถ้าไปถูกช่วงสวนด้านหลังจะมีใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับวัดสวยสุดๆ
พิกัด :https://goo.gl/maps/sskoQf1p2uggdsJr7
Togakushi Ninja Museum・Ninja Trick Mansion
หมู่บ้านนินจาที่เหมาะกับเด็กๆ จะมาเล่นและทำกิจกรรม เป็นสวนสนุกผสมโชว์ ท่ามกลางใบไม้เปลียนสีในหุบเขาถ้าไปถูกเวลา 
พิกัด : https://goo.gl/maps/c97ZNpXK2e9s2ujo8
จริงๆ ยังมีอีกเยอะมากเลยครับ ที่แอดฯอยากแนะนำ แต่เท่านี้ก็ยาวมากๆแล้ว
อย่างท่ีบอกเลย ธรรมชาติของประเทศนี้อลังการสุดๆ ถ้าต้องเที่ยวให้หมดทุกจุดมันคงใช้เวลาเท่าๆ กับที่คนญี่ปุ่นเค้าเที่ยวกันทั้งปี เพราะงั้นลองทำการบ้านกันดูเองต่อกันนะ ใครที่อ่านจนถึงตรงนี้แสดงว่าสิ่งที่แอดฯ พยายามทำมาตลอดหลายสัปดาห์ สำริดผลเรียบร้อย อย่างที่บอกอยากให้ทุกคนวางแผนการเดินทางด้วยตัวเองได้ หากสงสัยก็แวะมาสอบถามกันได้ หากตอบได้ยินดีเลย หวังว่าทุกคนจะชอบ Plan trip นี้กันนะ โพสต์ถัดไปจะเป็นการหยิบเรื่องราวการเดินทางมาเล่าต่อ เป็นจุดๆ ให้ทุกคนสามารถหยิบมาต่อเป็นจิ๊กซอ ของตัวเองได้กันนะ ส่วน Part 2 Fuji & 5 Lakes จะตามมาในไม่ช้า

ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนพาสองคนในภาพไปเที่ยวกันครั้งแรกเป็นความประทับใจจนถึงวันนี้ และถ้ามีโอกาสก็จะพาสองคนนี้กลับไปถ่ายรูปมุมนี้กันอีกสักครั้ง
แล้วพบกันครับ
==============================
สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีแบบขับรถเที่ยว อ่านรีวิวผมได้ที่นี่เลย กับ
” 13 วัน 5 จังหวัด 1,300 กิโลเมตรขับรถไล่ล่าใบไม้เปลี่ยนสี Japan”
https://blog.one22.com/archives/19226
รวมการเดินทางทุกทริปในญี่ปุ่นของพวกเรา
https://blog.one22.com/?s=japan&category=&year=&month=&format=
 
                                                                     
                        		                    





