หน้าร้อน … แสงแดด…. ทะเล… สาวๆในชุดบิกินี่…อุ๊บ 555
เข้าสู่เดือนที่ไอแดด แผดเผากันแล้ว ช่วงเวลานี้ ใครๆก็อยากไปทะเลกันทั้งนั้น
ถือว่าโชคดีมากครับ เดือนที่ผ่านมา ครอบครัว one22 ได้กลับไปสมุยอีกครั้งในรอบ 2 ปี
มี โอกาสได้รับเชิญเข้าพักรีสอร์ทในเครือ Boutique Hotel Management Asia ถึง 2 ที่ ในฐานะเป็นสื่อคนนึง และ 1 ในสองนั้นคือ THE SEA KOH SAMUI ที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังตอนนี้
ส่วนอีกที่คือ X2 SAMUI รีสอร์ท 2 สไตล์ที่มี Concept ต่างกัน แต่พักแล้วประทับใจทั้งคู่ สำหรับ X2 ขอยกไป Entry หน้านะครับ
และทริบนี้ถือเป็นการพาปันปัน ขึ้นเกาะแรกครั้งแรกของหนูเลย
ทั้งๆที่พึ่งกลับมาจาก Hard Rock Hotel พัทยายังไม่ถึงเดือนดี
หนนี้จึงอยากเชิญ พี่ๆ น้าๆ ป้าๆ ลุงๆ เข้ามาเที่ยวกับปันปัน กันอีกนะฮับบ ( ^___^ )
ภาพเยอะๆเช่นเคยตามชมได้ที่นี้ครับ
http://blog.one22.com/pics/relax/south/the-sea-samui
เช่นเคยครับการเดินทางหนนี้ได้ Package ดีๆจาก airasia อีกครั้ง บินบ่ายๆแต่แดดยังกับตอนกลางวันเลยสมกับเป็นหน้าร้อนจริงๆ
หนนี้ไม่ได้มาแค่ 2 คนเหมือนครั้งก่อนอีกแล้วครับ
เพราะ มีปัน ปัน สุดดวงใจพ่อจ๋าแม่จ๋ามาด้วย สำหรับหนนี้การพาเหนูน้อยขึ้นเครื่อง มีการเตรียมพร้อมมาอย่างดีเพราะไม่อยากให็ปันปัน มีปัญหาเวลาขึ้นเครื่อง จัดนมให้จนหลับปุ๋ยตลอดทาง
หลังจากลงเครื่องที่สนามบินสุราษร์ฯ รับรถที่จองมาที่สนามบินปุ๊บ ก็ต้องเร่งมาที่ท่าเรือดอนสักให้ทันขึ้นเรือเฟอร์รี่ ใครที่จอง Air asia เอาไว้และต้องมาลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางอีกอย่างน้อย 1ชั่วโมงครึ่งจากสนามบินนะครับ ไม่งั้นตกเรือกันได้ง่ายๆเชียวล่ะครับ เรือจะออกทุกๆชั่วโมงและเรือเที่ยวสุดท้ายจะออกจากท่า ตอน 1 ทุ่มตรงครับ
บรรยากาศบนเรือก็ชิวเหลือหลาย ทันได้เก็บแสงสุดท้ายปลายขอบฟ้าที่กำลังค่อยๆบอกลา…
พระอาทิตย์ตอน Sunset งดงามและดูกี่ครั้งไม่เบื่อจริงๆใช่ไหมครับ
ผมเองชอบเก็บภาพยามอาทิตย์อัสดง แบบนี้เหมือนกัน
บางคนโดยเฉพาะชาวต่างชาติเองก็มีเวลาได้สัมผัสบรรยากาศงดงามในเวลานี้เช่นกัน
ใครจะรู้ว่า บางทีสิ่งที่เค้าสนทนาอาจจะอยู่ที่การชื่นชมบรรยากาศงามๆของบ้านเราอยู่ก็เป็นได้นะครับ ^___^
มีเวลาให้ละเลียดนานๆแบบนี้ ก็เลยลองเฝ้าสังเกตุผู้คนบนเรื่อลำเดียวกัน
บางคนก็ดูมีบทสนทนาที่ได้รสได้ชาติกันดีทีเดียว
ส่วนตัวผมนั้นนี้คือเวลาดีๆทีได้ฝึกฝนฝีมือการถ่ายภาพของตนเอง เพราะแสงก็ค่อยๆหมดลงเรื่อยๆเร่งให้หามุมในการถ่ายให้ได้เช่นกัน
และภาพนี้ืคือภาพสุดท้ายก่อนจะกลับไปใช้เวลาบนเรือทั้งหมดกับครอบครัวต่อ
ติดอยู่บนเรือได้ ชั่วโมงครึ่ง ถึงฝั่งพ้นจากท่าเรือมามุ่งลงทิศใต้ของเกาะไม่ถึง15 นาทีผมก็มายืนที่ THE SEA koh samui
รีสอร์ทตั้งอยู่ที่หาดบางปอ เป็นหาดเงียบๆและดูสงบอีกแห่งนึงของสมุย แม้หาดทรายจะสีออกแดงๆแต่น้ำทะเลใสมากๆ เหมาะกับการลงเล่นน้ำไม่แพ้หาดอื่นๆ ของสมุยเช่นกัน
เริ่มต้นที่บรรยากาศริมทะเล ของรีสอร์ทกับร้าน Cafe’ Lebay ติดริมสระน้ำครับ พอตกเย็นแขกจะมานั่งทานอาหารกัน แถวๆนี้ทั้งนั้น บรรยากาศยามพลบค่ำรับลมทะเลเย็นๆสุดแสนจะสบาย
ใน วันอากาศดีๆปราศจากเมฆ สามารถนั่งชมดาวไปทานอาหารไปได้เลย บรรยากาศยามค่ำแบบนี้ก็โรแมนติกดีเชียวครับ ใครมาเป็นคู่ยิ่งจะน่าถูกใจเข้าไปใหญ่
มุมนั่งชิลล์อีกมุมนึงของ Cafe’ Lebay มุมนี้อยู่ติดใกล้บาร์ ตกแต่ง่ายๆใช้แสงสีสวยดีทีเดียว
มาดูห้องที่เราได้เข้าพักกันบ้างครับเป็น Type 3 Bedroom Pool Villa ถือโชคดีมากครับเพราะเป็น Villa ติดชายหาด มีพื้นที่กว้างถึง 335 sqm ทีเดียว
ทั้งรีสอร์ทมีอยู่แค่ 2 หลังเท่านั้นคือ ห้อง No.1 และ No.06 ห้อง Type นี้อยู่ติดชายหาด แยกเป็นปีกซ้ายและขวา ตกแต่งคล้ายๆกัน
ผมมีโอกาสเข้าไปเก็บภาพมาทั้ง 2 หลัง อย่างหลังนี้ no. 06 อยู่ปีกขวาถ้าคุณหันหน้ามองจากทะเลเข้ามา
หลังนี้ No.01 อยู่ปีกซ้ายครับ
ในบ้านพักยังแยกออกมาเป็น 2 หลังในรั้วเดียวกัน เหมาะมากๆกับครอบครัวใหญ่ๆ6-7 คนที่อยากมีเวลาส่วนตัวในการพักผ่อนร่วมกัน
คืนที่เราเข้าพักอากาศแจ่มใส ฟ้าโล่งจนผมเก็บภาพดาวบนฟ้ามาได้เลย โชคดีมากๆ
วิวตอนใกล้ๆค่ำโรแมนติกได้อีก ผมเก็บภาพด้วยความเพลิดเพลินใจมาก จำได้ว่าคืนที่ไปเป็นคืนเดือนแรมใกล้จะพระจันทร์เต็มดวงพอดี วิวจึงสวยมากๆ
หน้าบ้านเปิดรับลม ชมทะเลงาม…
เถิบเข้ามาด้านในจะเจอชุดรับแขกน่านั่งน่านอนเล่น ให้พักผ่อนชมทิวทัศน์ตรงหน้าได้
เดินออกมาไม่กี่ก้าว… สามารถลงสระ ว่ายชมจันทร์ได้สบาย
มองกลับเข้าไปให้ห้องพักมองคนที่เรารัก 2 คนกำลังเล่นกันอยู่ แบบนี้ละมั้งที่เค้าว่าๆที่ๆมีเรา ที่นั้นก็คือบ้านเสมอ จริงไหมครับ
ตอนถ่ายเค้าทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่าเป็นแบบให้ผมอยู่ แม่ลูกสนุกกันน่าดู
เราเองก็ใช้พื้นที่โซนนี้กันเป็นส่วนใหญ่ ในการนั่งเล่นกัน
ต่อไปพาไปชม Master Bedroom ห้องนอนใหญ่สุดกันบ้างครับ ห้องนอนจะยกระดับขึ้นไปครึ่งชั้นครับ สามารถมองวิวทะเลจากห้องนอนได้เลย
เรียกว่าตื่นมาก็ได้พบบรรยากาศทะเลกันโดยไม่ต้องลุกไปไหนเลยด้วยซ้ำไป
ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดของห้อง
เปิดประตูห้องน้ำออกไป ก็ถึงกับเเปลกใจในความกว้างขวาง เรียกว่ากว้างพอๆกับห้องนอนเลยทีเดียวครับ ส่วน Shower จะแยกออกอยู่ด้านซ้ายและตรงกลางจะเป็นอ่างอาบน้ำจากุซชี่ อุปกรณ์ต่างๆครบครันดี
มีอ่างล้างหน้าแยกเป็นซ้ายขวาไม่ต้องแย่งกันใช้เลย
มองจากในห้องน้ำ สามารถเปิดประตูมองทะลุออกไปเห็นทะเลยังได้เลย แต่ถ้าแช่อ่างอยู่คงไม่เหมาะจะเปิดซักเท่าไหร่จริงไหมครับ ^ ^
มาดูหลังที่ 2 กันบ้าง หลังนี้แยกออกมาเป็น 2 ชั้น ห้องด้านบนกว้างมากแบ่งออกมาเป็นสัดเป็นส่วน แม้จะอยู่ติดกันกับหลังใหญ่แต่ก็ถอยห่างออกมาอีกหน่อย จะว่าไป บ้าน TYPE นี้เป็น Villa ที่กว้างได้ใจผมจริงๆ
เปิดเข้ามาจะเจอเตียง King Size เช่นกันกับหลังแรก มีข้อความต้อนรับแขกวางอยู่ตรงเตียงถือเป็นการบริการดีที่พบเห็นได้บ่อยกับโรงแรมที่พักช่วงหลัง
มองถัดไปโซนด้านหน้าจะเป็นห้องรับแขกมีโซฟาน่านั่งน่านอนไม่แพ้หลังใหญ่ด้านหน้า
เป็นห้องในแบบ Seaview เช่นกันครับ
หมอนมีให้มาทุกๆขนาดเลยครับ เยอะดีทีเดียว ดูๆไปจะหลังไหนผมว่าก็บรรยากาศดีทีเดียว มองกลับมาอีกมุมจะเห็นห้องน้ำครับ
ห้องน้ำก็มีพื้นที่กว้างใช้ได้ แม้จะไม่เท่าหลังใหญ่แต่ก็มีทุกอย่างครบครัน มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ได้ การตกแต่งและรายละเอียดในงานบริการมีควาใส่ใจสูง ดูได้ตั้งแต่การวางข้าวของเครื่องใข้ยันไปถึงการพับผ้าเช็ดเท้าได้เลย รวมๆผมว่าขนาดของห้องนี้กำลังดีทีเดียวเหมาะกับคนมาเป็นคู่พักผ่อนได้สบายๆ
มาดูห้องด้านล่างบ้าง จะเป็นแบบ Twin Bed ขนาดจะเล็กสุดแต่ก็ยังสามารถเห็นทะเลจากในห้องได้สบายๆ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องน้ำก่อน แม้จะเล็กสุดก็ตาม แต่นั้นหมายถึงทุกๆห้องพักจะมีห้องน้ำส่วนตัวหมดนะครับ นับเป็นข้อดีอีกข้อ
อ่อห้องนี้จะไม่มี TV LCD เหมือนห้องด้านบนเค้านะครับ
จึงเหมาะจะนอนพักผ่อนหลังสรวลเสเฮฮากันแล้วแยกย้ายประมาณนั้นเลย
มาดูภาคกลางวันบ้าง ตอนสายๆผมไม่ได้ออกไปไหน มีโอกาสเก็บภาพรอบๆรีสอร์ท เริ่มที่สระของ Villa คุณแม่คุณลูกเค้ามีโอกาสได้ใช้ กันตอนเล่นน้ำ
ดูเจ้าหนูก็สนุกสนานหัวเราะร่วนกันน่าดู ความสุขเล็กๆของครอบครัวนี้ เพราะตั้งแต่มีเธอ เธอจึงเหมือนเป็นศูนย์กลางครอบครัว… ลูกรักของพ่อจ๋าแม่จ๋า
แม่จ๋า ลูกจ๋าเองก็ลั๊นลาสุดๆ ความสุขในชีวิตผมวันนี้มารวมไว้ที่นี้แล้วครับ ^ ^
ไม่มีอะไรจะบรรยาย ขอฝากภาพความสุขของครอบครัวเล็กๆของเราส่งความสุขนี้ให้ทุกๆท่านเช่นกัน
ผมขอพาออกมารับลมชมคลื่น สูดอากาศ บริสุทธิ์กันบ้างดีกว่าครับ รีสอร์ทมีสระกลางขนาดกำลังดีไว้รองรับแขกให้ใช้กันได้
มาเดินชมหน้าหาดเวลากลางวันกันบ้าง
เวลากลางวันแดดจ้าๆ มีเก้าอี้ชายหาดวางเรียงให้แขกได้เลือกพักผ่อนตามอัธยาศัย
มีเพียงแขกที่พักของรีสอร์ทซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นต่างชาติแทบทั้งนั้นที่ออกมานั่งๆนอนๆอาบแดดกัน
คนไทยกลัวดำอย่างเราจึงได้แต่หาที่ร่มๆมองเฉยๆครับ ^ ^
วิวทะเลหน้าหาดบางปอก็สวยทีเดียวครับ แม้จะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกในแบบโผ่ลพ้นขอบฟ้าตรงหน้าก็ตาม
ใครที่ชอบบรรยากาศความสงบแบบนี้ The Sea เป็นคำตอบที่ดีเชียวละ
ยิ่งพอหัวค่ำแล้วยิ่งโรแมนติกเพราะร้านอาหารก็จะเปิดเพลงเบาๆสไตล์ Bossa เข้ากับบรรยากาศเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งดีทีเดียว
ลอง มาชม spa ของที่นี้ดูบ้างครับ สปาที่นี้ขื่อว่า Vara Spa อยู่ด้านหน้าติดถนนแยกออกมาจากส่วนของรีสอร์ทด้านใน ใครขับรถผ่านไปมาเห็นได้ไม่ยากครับ
การตกแต่งค่อนข้างเรียบโดยใช้สีม่วงเป็นหลัก มีเสน่ห์ดีครับ
เข้า มาก็ประทับใจดีทีเดียวมี Welcome Drink มาให้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้นั่งเลย พร้อมกับกลิ่นต่างๆที่มีให้เลือกเยอะจนผมเองสุดท้ายต้องขอให้พี่ๆเค้าช่วย เลือกให้
ผมมีโอกาสได้เข้าไปใช้บริการ และพบว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆที่มารับบริการที่นี้ เพราะก่อนเดินทางไปไม่กี่วันผมเล่นกีฬามาปวดขาและหลังมาก
ได้ มาใช้บริการนวดไทยที่นี้ และรู้จักพี่จิตร ที่ช่วยให้ผมหายดีขึ้นมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่จิตรมากๆที่เป็นกันเองและแนะนำการดูแลตัวเองต่อให้ผม ขอบคุณมากๆนะครับไม่ได้พี่ช่วยผมคงปวดหลังต่ออีกหลายวันทีเดียว
สุดท้ายแล้วครับเอาแผนที่ใช้สำหรับการเดินทางมาฝาก
สำหรับราคาที่พักลองเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่นี้เลยครับ เพราะแต่ละช่วงเวลามีราคาที่แตกต่างกันไป ล่าสุดในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 22 เห็นโปรราคาไม่แรงเท่าไหร่ นะครับลองดูที่เว็บเค้าเลยดีกว่า http://www.theseasamui.com เบอร์ติดต่อกันก็ +66 7796 0567
สรุป
การเข้าพักที่ The Sea หนนี้ประทับใจมากๆครับ ทั้งการบริการและการเอาใจใส่ของพนักงานทุกคน สมกับที่อยู่ในเครือ Boutique Hotel Management Asia ที่ตอนนี้กลับมาดูแลเองไม่ได้ให้ทาง เครือ Centrara เข้ามาช่วยบริหารอีกแล้ว สังเกตุได้จากการให้ความสำคัญในรายละเอียด วัสดุและเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆครบถ้วน รวมถึงห้องพักที่ติดริมทะเลแบบไม่กี่ก้าวก็ลงเล่นน้ำได้เลย การกั้นรั้วส่วนของแขกโรงแรมกับโซน Villa แม้จะไม่ส่วนตัวแบบปิดมิดชิด แต่การเปิดด้านหน้าให้เห็นทะเลตรงๆแบบเดินกันไม่กี่ก้าวขนาดนี้นับว่าสุขคูณ2เลยนะครับ เสียดายนิดนึงสำหรับแขกที่พัก Type อื่นๆคือสระน้ำกลางครับ ด้วยพื้นที่ด้านหน้าที่ไม่กว้างมากนัก ทำให้สระไม่ยาวเท่าไหร่นัก สำหรับคนรักการว่ายน้ำอาจจะไม่สะใจเท่าไหร่นัก
เสียดายที่ไม่ได้เข้าชมห้องพัก Type อื่นๆ นอกจาก Villa Type 3 Bed room ทั้ง 2 ห้อง ก็นับว่าน่าเสียดายอยู่เหมือนกันครั้งหน้าที่มีโอกาสไปสมุยอีกเมื่อไหร่คงต้องขอลองเข้าชมดูซักครั้งครับ
the Sea นับเป็นรีสอร์ทขนาดกำลังดีไม่ใหญ่ไม่เล็ก เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและสนุกสนานกันในครอบครัว ถ้าเบื่อๆเมืองกรุงอยากหลีกหนีจากสังคมเมืองมาชื่นชมทะเลสวยๆหาดสงบๆ แห่งนึงของสมุยก็ใช่เลยสำหรับที่นี้
ผมเองมีโอกาสไปสมุยไม่บ่อยนัก แต่ถ้ามีโอกาสไปกับครอบครัวอีกก็คงอยากกลับมาที่นี้อีกซักครั้งครับ ติดใจทั้งบรรยากาศและห้องพักที่ดูอบอุ่นมากๆบรรยากาศเหมาะกับครอบครัวจะเล็กหรือใหญ่ก็ดูจะเข้ากันได้ดีกับที่นี้นะครับ อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่จั่วหัวคือจะที่ไหนให้เรามีกันและกันที่นั้นก็มีครอบครัวเสมอนะครับ
ท้ายนี้ต้องขอบคุณ คุณจิ๊ฟฟี กับคำเชิญดีๆที่ทำให้ครอบครัวเราได้มาสัมผัสรีสอร์ทบรรยากาศอบอุ่นในสไตล์ครอบครัวแบบนี้ ขอบคุณคุณ ยุทธ์ RM ของ The Sea ที่เป็นกันเองกับแขกมากๆ ลงมาต้อนรับขับสู้ครอบครัวเล็กๆอย่างเราตลอด 2 วันด้วยตัวเอง รวมถึงพี่จิตรจาก Vara Spa ที่ ช่วยให้ผมหายปวดหลังได้ชงัดมากๆ ใครที่มาสมุยต้องการสปา ฝีมือเยี่ยมอยากแนะนำที่นี้เลยครับไม่ผิดหวังแน่ๆ ขอบคุณน้องๆตั้งแต่ยามมาถึง Couter ต้อนรับ และพนักงานทุกๆคนที่เอาใจใส่ดูแลเราอย่างดีตลอด 2 วันนะครับ มีโอกาสกลับไปสมุยอีกเมื่อไหร่ ครอบครัวเล็กๆone22 จะนึกถึง The Sea เสมอ แล้วพบกันอีกครับ
ลากันด้วยภาพเจ้าปันปัน กำลังกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง King Size กับอีกหนึ่งรีสอร์ทแสนเท่ อย่าง X2 Samui Entry หน้าเจอกันนะฮับบ ( ^ 0 ^ )
แฮ่ ม ๆ และเผื่อใครอยากรู้ว่าเที่ยวสมุยแบบ 2 วัน 1 คืนครั้งก่อน(ผม)เที่ยวกันเข้าไปได้ยังไง ก็ลองตามเที่ยวแบบชะโงกทัวร์กันได้กับ ทริบล่องใต้อันดามัน one day one night @ samui อ่านได้จากรีิวิวนี้เลยครับ