สวัสดี(หลัง)วันมาฆบูชาครับ
อะ..แฮ่ม…กลับมาทักทายกันหลังวันพระใหญ่ของเราครับ.. เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตื่นเช้ามากๆครับ เพราะเมื่อคืนวันอาทิตย์หลับเร็วมากที่สุดวันหนึ่งของปีนี้ คือหลับตั้งแต่ยังไม่ 3 ทุ่มดีเลยตื่นเช้ามากๆครับ
ตื่นมา 6 โมงนึกอยากใส่บาตรเลยลงไปหาของทำใส่บาตรครับ
เจอนั้นเจอนี้เอามาทำเป็นกับข้าวใส่บาตรได้ เดินไปตรงตลาดใกล้ๆบ้านซื้อพวงมาลัย,น้ำขวดเล็ก,ขนม,ได้ของครบกลับมาจนได้ใส่บาตร….รู้สึกดีจริงๆครับ
ปรกติของใส่บาตร แม่ผมแกจะจัดให้ วันนี้ทำเองก็สนุกและ รู้สึกดีมากๆสำหรับคนห่างวัดอย่างผมทีเดียว..
วันมาฆบูชา…สำหรับคนไทยยังจำได้ไหมเป็นวันอะไร…เอ่ย
สมัยเด็กๆจำได้ว่าผมเองถึงขึ้นต้องท่องกันเลย เพราะในวัยเด็ก เป็นเด็กดีมากๆๆถึงขั้นแยกไม่ออกว่าไหนคือวันมาฆไหนคือวันวิสาข,ห่างวัดจริงๆ…
——————————————————————————————–
กลับมาเข้าเรื่องตามชื่อหัวข้อกันดีกว่า
หลังจากกลับมาจาก trip แอ่วเหนือได้เมื่อวันอาทิตย์ จริงๆตามกำหนดเดิมที่วางไว้คือต้องถึงวันจันทร์ตอนเย็นๆครับ
แต่ผิดแผนอย่างแรงจากที่บอกไปคราวก่อนว่าเป็น trip 3 จังหวัดมันหายไปเหลือแค่ 2 จังหวัดแทนแล้วล่ะครับ…
เรื่องของเรื่องก็เนื่องจากสมาชิกคนสำคัญที่ไปด้วยกัน…ป่วยครับ ทำให้เราต้องกลับกันก่อน
แต่จริงๆก็ถือว่าเป็น trip ที่สนุกได้ที่เที่ยวใหม่ๆที่ยังไม่เคยไปมาก่อนกลับมาเล่าให้ฟังกันครับ
ไปเริ่มกันเลยดีกว่านะ…..
ถึงเชียงใหม่เช้าๆหลังจากรับรถเช่าคันนี้เลยที่ติดต่อไว้แล้วหนนี้ใช้บริการ ของ master car ที่เราซื้อ package ไว้ตั้งแต่งานไทยเที่ยวไทยที่ผ่านมา เจ้านี้ครับ คือพาหนะของเราตลอด trip
ตามภาพคือกะลังนั่งสวาปามร้านประจำที่มาเชียงใหม่ทุกครั้งถ้ามาถึงเช้า ร้าน โจ๊กสมเพชรนั้นเอง
หลังจากอิ่มกันดีแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันล่ะครับ
ระหว่างทางเส้นทางที่เราเลือก ก็คือไปทางเส้นทาง 118 ออกจากเชียงใหม่มุ่งหน้าผ่านทางแยกดอยสะเก็ต ผ่านเวียงป่าเป้า ตรงเข้าเป้าหมายเราคือแม่จันนั้นเอง
มาเที่ยวนี้ไม่ได้วางแผนใดๆไว้ ดูเวลาเป็นหลักอยากแวะไหนก็แวะได้ตามสมควรโดยที่อยากถึงที่พักที่เชียงรายก่อนมืดก็พอ
จุดแรกที่ได้แวะกันระหว่างทางมุ่งหน้าไปเชียงราย เป็นน้ำพุร้อนน่ะครับ ที่เห็นมันพุ่งขึ้นมาควันฉุยนั้นล่ะ ตอนไปผมเห็นรถทัวร์แวะแทบทุกคัน
มันพุ่งสูงทีเดียวจริงๆผมว่าที่มันพุ่งขึ้นสูงแบบนี้น่าจะมาทำกันเองมากกว่า ธรรมชาติไม่น่าจะทำให้มันพุ่งขนาดนี้น่าจะเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลักนั้นล่ะดูจากท่อส่งด้านล่างนั้นล่ะ
มีน้ำพุร้อนที่ไหนที่มักจะมาคู่กันจริงๆคือนี้ล่ะ ไข่ต้ม แม๊มันน่าจะมีน้ำจิ้มารอพร้อมกันเลยน่าจจะดีนะครับ
บรรยากาศรอบๆครับร้านขายของเยอะดี
บริเวณใกล้ๆห้องน้ำจะมีสระน้ำพุร้อนไว้บริการนักท่องเที่ยวสำหรับแช่ให้สะใจไปเลย
วิวจากห้องน้ำครับนับเป็นห้องน้ำที่วิวสวยมากๆแห่งนึงที่เคยเข้าเลย
อันนี้อยู่ข้างๆกับบ่อน้ำพุไม่ทราบว่าเจ้าของเค้าสร้างจะทำอะไรกันแน่นะครับ แต่ติดป้ายห้ามเข้าอยู่ด้านหน้าเลย
ได้เวลาเดินทางกันต่อแล้ว
ขับชิวๆมาเรื่อยและแล้วเราก็มาถึงที่นี้ครับ จุดแวะแบบไม่ตั้งใจเพราะแรงหิวและเห็นป้ายร้านอาหารเลยขอเลี้ยวเข้าไปหน่อยแล้วกันนะ
เขื่อนแม่สรวยนั้นเอง ไปดูกันดีกว่าผมไม่มีข้อมูลใดๆของที่นี้เลยมาด้วยความหิวล้วนๆ
เขื่อนแม่สรวย ครับ ตามภาพผมว่าไม่ใหญ่มากนักไปดูใกล้ๆกัน
ไปถึงเดินเข้าไปที่บริเวณใกล้ๆ โอ้วแม่เจ้า….สวยจริงๆครับไม่คิดว่าหลังเขื่อนจะมีวิวแบบนี้อยู่ด้วย
อีกซักรูปครับ
บริเวณแพตรงเขื่อนจริงๆดูเหมือนจะมีอยู่ 2-3 เจ้าแต่เปิดจริงๆคือตรงด้านบนครับแพที่เห็นไม่เปิดถ้าเปิดจริงๆบรรยากาศคงสุดยอดมากๆเลย
มาเพื่อกินเพราะงั้นไม่สั่งอาหารจะยังไงอยู่ สั่งไป 3 อย่างครับ ได้มาตามภาพเลย
อันนี้กุ้งผอยทอดกรอบ น่ากินไหม
ยำ อือมาดูตอนนี้ยังหิวเลยจ้า….อาหารรดชาติดีมากครับ+วิวริมเขื่อนสวยๆแบบนี้ ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่
มองไปทางสันเขื่อน สุดยอดครับสวยไม่แพ้มุมอื่นๆเลย
อิ่มกันดีได้เวลาไปกันต่อจากนั้นเราก็ขับยาวเข้าเขตแม่จันกันเลย จุดแวะต่อไปที่เราจะไปกันครับ
นี้ครับที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก หรือที่เรียกกันว่าน้ำตกขุนกรณ์นั้นเอง
บรรยากาศตอนเริ่มไรก็ดีไปหมดครับโดยที่หารู้ไม่ถึงความงามของน้ำตก ที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อทีเดียวไม่เชื่อไปดูกัน
เริ่มกันเลยสะพานไม้ไผ่ทำให้เดินข้ามได้ง่ายๆ น้ำใสไหลเย็นทีเดียว
อีกซักรูป
….
เดินกันมาเรื่อยๆช่วงต้นยังชิวๆอยู่ครับ ไม่รู้ซะแล้ว…หุหุหุ โอ้ย 800 เมตร ธรรมดามากๆๆๆ
ไปอีกพักนึง โอ้ย ไม่นิดแล้วมั้ง ทางเดินเซาะร่องให้เดิน…อือจริงๆต้องบอกให้ปีนขึ้นง่ายๆมากกว่านะ
เดินจนหอบหมาแก่เลยครับกว่าจะมาเห็นป้ายนี้ สุดท้ายก่อนถึง ทางเดินต้องขึ้นเขาลงเขาหลายๆรอบกว่าคุณจะได้เห็นป้ายนี้
และแล้วก็มาถึงเห็นไกลๆนั้นล่ะ ใช่เลย
เข้าไปใกล้ๆอีกนิด จากที่เห็นและนี้เป็นน้ำตกชั้นเดียวแต่เป็นชั้นที่สูงทีเดียวครับ 70เมตรเศษคือข้อมูลที่ได้อ่านมาจากป้ายหน้าอุทยาน
หลังจากนั่งพักและชื่นชมกับน้ำตกตรงหน้าดีแล้วก็ได้เวลากลับกันล่ะภาพก่อนจากมา
ต้นไม้ใหญ่ที่รอบๆน้ำตก
ขากลับมีเวลาชื่นชมกับรอบหน่อยครับ ป่าไผ่สูงและเยอะมาก
ไปกันต่อได้แล้วเริ่มเย็นแล้วครับ ทางแบบนี้จะมีให้เราได้เห็นไปตลอดทาง
ถึงซอยทางแยกเข้าแล้ว จากนี้ต้องมุ่งเข้าไปอีกหลายกิโลอยู่ครับ
และแล้วหลังจากปุเลงๆมาจนถึงแพข้ามแล้วครับ ถนนไม่เรียบนักลูกรังระดับนึงแต่รถทั่วๆไปเข้าไปได้ไม่ยากแต่ฝุ่นจะเยอะหน่อยนะครับ จะให้ดีไปให้ทัน 5.30 จะดีมากเพราะจะเห็นพระอาทิตย์กำลังตกสวยจริงๆ
พระอาทิตย์กำลังใกล้ตกแล้วบรรยากาศสุดยอดลองดูแล้วกันครับผมกดเพลินเลย
…
ใกล้แล้ว
สุดท้ายแล้วครับจบวันกันที่อ่างเก็บน้ำแม่เปิ้น บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทสุดยอดจริงๆ
ที่เห็นเป็นทางขึ้นอยู่ฝั่งนู้นคือรีสอร์ทครับ จะเป็นยังไงต่อไปบรรยากาศจะสุดยอดขนาดไหน ติดตามตอนหน้าได้เร็วๆนี้ขอไปย่อรูปก่อนนะ……
***มีเรื่องเล่าขำๆก่อนการเดินทางส่งท้ายให้ฟังกัน อย่าได้ทำเป็นเยี่ยงอย่างเป็นอันขาด หุหุหุ
เหมือนทุกๆครั้งที่ได้ไปเที่ยวครับคือวุ่น..ทุกครั้งไม่เคยได้เดินทางเป็นสุขเล้ยจริงๆ..
ผมเริ่มกันตั้งแต่ตื่นตี 4 ครึ่งครับเพราะต้องเผื่อเวลาไว้หน่อย เมื่อคืนเก็บของกว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว
นอนไม่ค่อยหลับนักไม่ใช่ไรครับ กลัวไม่ตื่นเพราะเช้าเหลือเกินจริงๆ
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิจริงๆเกือบตี 5 ครึ่งได้ เครื่องออก 6 โมง 45 นาทีทันอยู่แล้ว..
หลังจากเจอกันตามที่นัดไว้ นั่งเก็บของแบ่งของกันชิวๆจนใกล้ๆ6โมงก็เดินไปที่ counter หางแดง หลังจากจองจากหน้าเว็บได้ราคาดีช่วงโปรโมชั่น 0 บาทนั้นเอง
ไปถึงปรากฎเจ้าหน้าที่ยกป้าย close มากั้น อ้าวๆๆๆ ไรครับนี้เกิดไรขึ้น
เจ้าหน้าทีหันมาเปรยตาหน้าบอกบุญไม่รับว่า “ปิดแล้วค่ะ”
ผมยิงคำถามทันที “ไมครับคุณ ยังไม่ถึงเวลาปิดรับโหลดของไม่ใช่เหรอครับ เจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์แจ้งไว้ว่ามาก่อน 45 นาทีได้ไม่ใช่เหรอ” มั่นใจสุดๆเหมือนมีภูมิมาแล้วอย่างดีแม๊…
เจ้าหน้าที “เราปิดตั้งแต่ ตี 5.55 แล้วนะค่ะ เครื่องออก 6.30 นะค่ะ”
อ่ะจึ๊ย….อ้าวเราไม่ยอมเถียงออกไปซะกะให้เจ้าหน้าที่หน้าหงายว่า “ก็ตั๋วมันบอก 6โมง สี่สิ..บ…ห้…” อ้าวๆๆ พูดยังไม่ทันจบดี… เราก้มไปหยิบตั๋วมาดูพร้อมๆกัน
มันเขียน 6.30 จริงๆนี่หว่า…
ผิด..ผิด..เราผิดเอง หน้าหงายกลายเป็นตูเอาง หน้าหดตัวหด เหลือ นิ้วกว่าๆได้
ตัดภาพไปตรงทางเดินยาวจากจุดตรวจ….
ถ้าใครมาพร้อมๆกันคงจะเห็นคนกระหืดกระหอบของพะรุงพะรัง บ้าหอบฟางวิ่งเปรี้ยวยาวววว
ไม่อยากบอกว่าเหนื่อยสุดๆครับ และทางเดินกว่าจะถึง gate ที่เครื่อง อะไรมันจะไกลงั้นครับพี่คับ
โห้ยกว่าจะถึงตรงเจ้าหน้าทีรับตั๋วหอบเป็นหมาแก่ๆเลย…แต่…
ได้ยินเจ้าหน้าทีบอกกันว่ายังเหลืออีกคนนะ 5555ไม่โหล่สุดเฟ้ย (ยังอุตส่าห์ภูมิใจได้)
และแล้วเราก็นั่งหอบของพะรุงพะรังขึ้นเครื่องสำเร็จโดยไมได้โหลดของใดๆทั้งนั้น…เอวังขอจบด้วยประการฉะนี้…เอ่ย