สวัสดีครับ
และแล้วเวลาที่ลูกๆรอคอยกันทุกคนก็มาถึง นั้นคือเวลาปิดเทอม ปันเองก็เช่นกันครับ วันนี้พอดีไปค้นเจอเรื่องราวที่ค่อนข้างตรงกับ ชีวิตครอบครัวนักเดินทางอย่างบ้านเรา เป็นคำแนะนำดีๆได้มาจาก เว็บ https://www.krungsri.com เห็นว่ามันสะท้อนชีวิตพ่อแม่ยุคใหม่ที่นิยมการเดินทางด้วยตัวเอง และการบริหารจัดการครอบครัวเพื่อจะได้ พาลูกเที่ยว ได้สบายไม่กังวลเกินไป ดูแล้วน่าจะมีประโยชน์กับพ่อแม่ยุคนี้กันทุกคน
อย่ากระนั้นเลยมาลองดูกันครับ หลายๆเคล็ดลับเหล่านี้ ผมเองก็ใช้สม่ำเสมอเพราะมันทำให้เราประหยัดเวลาในการใช้จ่ายและการเดินทางได้เยอะเลยทีเดียว และมาลองดูกันว่าเราทำตามวิธีเหล่านี้กันได้ผลหรือไม่ และสำเร็จกันมาแล้วเท่าไหร่ เอาละไปลองดูกันเลยครับบ
“ปิดเทอมแล้ว…” แน่นอนที่สุดว่าสมัยเป็นเด็กเราทุกคนชอบปิดเทอม… แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เราต้องเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ก็คือ บทบาทของ “พ่อ และแม่” ที่จะต้องพาลูกของเราออกไปเที่ยว… ทว่า… การท่องเที่ยวนั้นเราเองก็ต้องวางแผน เพราะด้วยค่าครองชีพที่สูงในปัจจุบัน หากเราไม่ได้วางแผนเอาไว้ไม่แน่นะครับ… การท่องเที่ยวอาจทำให้กระเป๋าเราฉีกได้เหมือนกัน… มาดูวิธีการพาลูกเที่ยวปิดเทอมแบบสบายกระเป๋ากันดีกว่า…
เคล็ดลับแรก… หาข้อมูลการท่องเที่ยว
การหาข้อมูลการท่องเที่ยวก่อนไปเที่ยวจริงนั้นค่อนข้างจะสำคัญ… ว่าที่จริงแล้วการหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีเว็บไซค์ และเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้การหาข้อมูลเป็นเรื่องง่าย และสามารถเปรียบเทียบราคาได้ หากต้องไปเที่ยวและพักค้างคืนด้วยการหาข้อมูลก่อน และเปรียบเทียบราคาที่คุ้มค่าที่สุดจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีเลยครับ
เคล็ดลับที่สอง… เดินเที่ยวงานแฟร์
งานแฟร์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในปัจจุบันนั้นมีจัดอยู่เป็นประจำมักจะมีส่วนลด โปรโมชั่นการท่องเที่ยวดีๆ ให้กับคุณพ่อ คุณแม่ ได้เลือกให้กับลูกๆ ได้พบประสบการณ์การท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ และไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศไทย ยังมีกาท่องเที่ยวยังต่างประเทศที่ตามงานแฟร์การท่องเที่ยวจะคัดสรร โปรฯ เด็ดๆ ให้เราได้เลือก ได้เปรียบเทียบ อย่างจุใจครับ มาสร้างความประทับใจในช่วงปิดเทอมกันนะครับ นอกจากจะมีโปรโมชั่นให้เลือก ให้เปรียบเทียบอย่างหลากหลายแล้ว ยังเลือกสถานที่ท่องเทียวได้แบบสบายกระเป๋าอีกด้วย
เคล็ดลับที่สาม… วางแผนการเงินไว้ล่วงหน้า
บางครั้งการไปท่องเที่ยวแม้เราจะวางแผนการใช้จ่ายไว้เป็นอย่างดี แต่พอถึงเวลาจริงๆ เงินที่จะใช้ท่องเที่ยวกลับไม่พอทุกที ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะคุณพ่อ คุณแม่ ไม่ได้มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า หากเราไปเที่ยวแล้วไม่มีเงินจับจ่าย มันก็แย่พอๆ กับการที่เราไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนกันนะครับ… เคล็ดลับก็คือ การวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ยิ่งนานยิ่งดีครับ ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการไปเที่ยวด้วยงบประมาณ 5 หมื่นบาท เราสามารถทยอยเก็บเงินเดือนละ 5 พันบาทเป็นเวลา 10 เดือน เมื่อเรารู้ล่วงหน้า การใช้จ่ายของเราก็จะงดในสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อเป้าหมายใหญ่ คือ ไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน…ที่สำคัญคุณพ่อ คุณแม่ สามารถตั้งเป้าหมายร่วมกันกับคุณลูก ช่วยกันประหยัดเงิน เพื่อท่องเที่ยว เป็นกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัว สอนให้ลูกๆ วางแผนการใช้เงินได้เป็นอย่างดีครับ
เคล็ดลับที่สี่… นำเงินปันผลไปเที่ยว
บางคนอาจไม่อยากเก็บเงิน จะดีกว่ามั้ยครับ ถ้าเราสามารถนำเงินปันผลไปเที่ยว เงินปันผลนั้นได้มาจากการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ลงทุนในกองทุนรวมที่มีเงินปันผล เพราะกองทุนรวมบางกองสามารถจ่ายเงินปันผลได้ปีละกว่า 3-5% ที่เหลือก็ต้องลองคำนวณกันดูครับว่าเราควรจะลงทุนเท่าไร กับค่าใช้จ่ายการไปเที่ยวของครอบครัวที่เราต้องใช้นั่นเอง
เคล็ดลับที่ห้า… ท่องเที่ยวแบบผ่อนชำระ
บางครั้งการท่องเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งครอบครัวก็เป็นสิ่งที่ดี และจำเป็น การไปเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ และผ่อนคลายความเครียดจากการเรียนของเด็กๆ และการทำงานของคุณพ่อ คุณแม่ ก็จำเป็นเช่นกัน หากเรามีเครดิต ทุกวันนี้เราสามารถใช้บัตรเครดิต หรือบัตรสินเชื่อจ่ายค่าบริการท่องเที่ยวไปก่อน และเลือกผ่อนชำระที่หลังได้นะครับ อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายด้วยวิธีนี้มีต้นทุนอยู่ เช่น ดอกเบี้ยผ่อนชำระ ควรพิจารณาให้รอบคอบ และไม่ควรฟุ่มเฟือยมากจนเกินไปนะครับ
หากอ่านมาถึงบรรทัดนี้ได้แสดงว่าคุณๆน่าจะมีวิธีที่จะเอาไปใช้ในการวางแผนบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
สวัสดีครับ