ปลายสัปดาห์ก่อนมีโอกาสรับเชิญไปงานแถลงข่าวเปิดตัว ย้อนรอย เส้นทางถนนสายสงคราม และ ศิลปาชีพ ชาติพันธุ์ล้านนา เทิดไท้องค์ราชินี ในโครงการพัฒนารูปแบบกิจกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว และโครงการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดให้ได้มาตรฐาน จะว่าไปงานนี้เน้น 4 จังหวัดทางเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน) ตัวงานที่ผมสนใจเป็นพิเศษคืองานนี้น่าสนใจที่จะหยิบประวัติศาสตร์มาเล่าให้เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ ในโครงการ ย้อนรอย เส้นทางถนนสายสงคราม รายละเอียดของงานในวันนั้นมีดังนี้เลยครับ
————————–
เมืองสามหมอก ชูแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ถนนสายสงครามโลกครั้งที่๒ พร้อมเปิดโครงการพระราชดำริให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
หวังเจาะตลาดชาวญี่ปุ่นและเกาหลี เข้ามาพำนักระยะยาว
เมื่อเวลา ๑๔.๓๐ น. วันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ นายพิพัฒน์เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายสำเริง ไชยเสน
หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ และนายพรหมโชติ ไตรเวช ผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมกันแถลงข่าว
“โครงการพัฒนารูปแบบกิจกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว
และโครงการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดให้ได้มาตรฐาน” ณ ห้องกระดังงา ชั้น ๓ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพมหานคร
นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีเสน่ห์ทางการท่องเที่ยวในหลายมิติ
ทั้งในเชิงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม
วิถีชีวิตของชาวไทยใหญ่ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่ยังคงมีการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์อย่างเหนียวแน่น
มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่โดดเด่นหนึ่งเดียวในไทย คือ ภูโคลนแหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทยและเป็นแหล่งโคลน ๑ ใน ๓ แหล่งของโลก
พร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวในโครงการพระราชดำริ อาทิเช่น ศูนย์โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย ตามพระราชดำริ (ปางอุ๋ง) เป็นต้น
นอกจากนั้นพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในอดีตยังเคยเป็นเส้นทางถอยทัพของกองทัพญี่ปุ่นยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒
จึงมีเรื่องราวความผูกพันและมิตรภาพเกิดขึ้นระหว่างคนญี่ปุ่นและคนไทยอันแน่นแฟ้นยาวนานสืบเนื่องมาจนถึงวันนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนจังหวั
ดแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี ๒๕๕๗ มีนักท่องเที่ยวถึง ๗๕๐,๐๐๐ คน และคาดว่าปี ๒๕๕๘ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า ๕ %
สร้างรายได้แก่จังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า ๖,๐๐๐ ล้านบาท
ด้านนายสำเริง ไชยเสน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน)
ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดทำโครงการพัฒนารูปแบบกิจกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว
ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒ และและโครงการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดให้ได้มาตรฐานภายใต้กิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ “ศิลปาชีพ ชาติพันธุ์ล้านนา เทิดไท้องค์ราชินี”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ รวมทั้งยกระดับและสร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวในโครงการพระราชดำริฯในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อันจะนำไปสู่การเข้ามาท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว (Long Stay)โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและเกาหลีซึ่งมีความผูกพันกับพื้นที่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒
ขณะที่นายพรหมโชติ ไตรเวช ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ภาคเหนือตอนบน ๘ จังหวัด
ซึ่งประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยาแพร่และน่าน มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว
เนื่องจากมีความได้เปรียบของธรรมชาติ เช่น ภูเขาที่สวยงามและสลับซับซ้อน วัฒนธรรมล้านนา ความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์กระจายทั่วไป
ซึ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยือนภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกผู้ตรวจราชการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่า
แม้ภาคเหนือตอนบนจะมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในหลายๆ ด้าน แต่จะต้องมีการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ที่มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น
ธุรกิจ MICE การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวพำนักระยะยาว การท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
และการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ในกลุ่มประเทศ GMSเพื่อเชื่อมโยงสู่อาเซียน (AEC) ต่อไปในอนาคต
สำหรับรายละเอียดการจัดงานตามโครงการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดให้ได้มาตรฐานภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ “ศิลปาชีพ ชาติพันธุ์ล้านนาเทิดไท้องค์ราชินี” มีกิจกรรมประกอบด้วย
การจัดโรด์โชว์ (Road Show)
งานแสดงนิทรรศการเพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวบริเวณศูนย์ศิลปาชีพ ภายใต้ชื่องาน “ศิลปาชีพ ชาติพันธุ์ล้านนา เทิดไท้องค์ราชินี” ๔ ครั้ง ได้แก่
ครั้งที่ ๑ จังหวัดลำพูน จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ครั้งที่ ๒ จังหวัดลำปาง
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๑๗ – ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ ลานรถม้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลำปาง จังหวัดลำปาง ครั้งที่ ๓ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ สนามบินเก่า อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน และครั้งที่ ๔ จังหวัดเชียงใหม่
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๓๐ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ ชั้น G ศูนย์การค้าเมญ่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยภายในงานจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาและบูธโครงการพระราชดำริในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ๙ โครงการ อาทิเช่น ศูนย์โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย
ตามพระราชดำริ (ปางอุ๋ง) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม FAM Trip เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยนำสื่อมวลชน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมท่องเที่ยว
ที่ต้องการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว (Long Stay) จากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีมาทดลองท่องเที่ยว เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยวบริเวณศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ ๒๕ – ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๙ (เส้นทางเชียงใหม่ –อำเภอปาย – อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน – อำเภอขุนยวม – เชียงใหม่)การจัดทำ “สารคดีเชิงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น”ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ พื้นที่ศูนย์ศิลปาชีพ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ตลอดจนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ ป้าย Cut Out, Mini Cut Out
และแผ่นพับประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ และการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Social Network ได้แก่ Facebook,Youtube และ Website
ส่วนรายละเอียดการจัดงานตามโครงการพัฒนารูปแบบกิจกรรมและผลิตภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยว
ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒ มีกิจกรรมประกอบด้วย
การจัดงานรำลึกประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒ ภายใต้ชื่องาน
“ย้อนรอย เส้นทางถนนสายสงคราม” จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๗ มีนาคม๒๕๕๙ ณ สนามบินเก่า อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภายในงานพบกับการออกบูธจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOPสินค้าท้องถิ่นของญี่ปุ่นและไทย
การแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นทุกวัน โดยในวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๙ พบกับการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินตำนานเพลงเพื่อชีวิต หงา คาราวาน สำหรับพิธีเปิดงานจะมีขึ้นในวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๙ พบการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินขลุ่ยชั้นครู อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
และการแสดง แสง สี เสียง ชุด “ขุนยวม ชีวิตงามเมืองสามหมอกสายสัมพันธ์แห่งสงครามและมิตรภาพ” ส่วนในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๙
นอกจากจะมีการแสดง แสง สี เสียง ชุด “ขุนยวม ชีวิตงามเมืองสามหมอก สายสัมพันธ์แห่งสงครามและมิตรภาพ” แล้ว
ยังจัดให้มีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินไทยใหญ่อีกด้วย การจัดกิจกรรม FAM Trip รูปแบบคาราวานรถยนต์เพื่อการท่องเที่ยว
โดยนำสื่อมวลชน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมท่องเที่ยวและกลุ่มนักท่องเที่ยวในโซนเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะญี่ปุ่น
ซึ่งมีความผูกพันกับพื้นที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาทดลองท่องเที่ยวและร่วมย้อนรอยเส้นทางประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒
ในวันที่ ๒๕ – ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๙ (เส้นทางเชียงใหม่ – อำเภอปาย –อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน – อำเภอขุนยวม – จังหวัดเชียงใหม่)
การจัดทำ “สารคดีท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์”ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวตามเส้นทางประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒
ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ เผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ตลอดจนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ ป้าย Cut Out, Mini Cut Out
และแผ่นพับประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Social Network ได้แก่ Facebook,Youtube และ Website
—————————-
หลังจบงานผมมีโอกาสได้เจอกับศิลปินระดับชาติ อ.”ธนิต ศรีกลิ่นดี” เสียงขลุ่ยของอาจารย์ชวนหลงใหลในเสน่ห์แบบไทยๆมานานสำหรับผมมาก
หนนนี้สมหวังจริงๆครับ ได้ถ่ายภาพคู่กัน ที่สำคัญอ.เป็นกันเองมากพูดคุยเหมือนรู้จักกันมาช้านานทีเดียวขอบคุณมากสำหรับทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่เชิญผมไปร่วมงานครั้งนี้ครับ เร็วๆนี้อาจจะมีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปพิสูจน์เส้นทางทั้งสองยังไงจะมาเล่าให้กันฟังอีกครั้งครับ
อ่อฝากคลิปตอนที่ผสานเครื่องดนตรีแบบไทยๆอย่างขลุ่ยเข้ากับเสียงเพราะๆจากเครื่องดนตรีจากญี่ปุ่นกันครับ