สวัสดีครับ
หลังๆนับว่าดูหนังบ่อยมากครับ บางอาทิตย์ระห่ำดูมัน 3 เรื่องก็มี ช่วง เดือนที่ผ่านมา ตามดูหนังชิงออสการ์เกือบทุกเรื่อง อันเป็นพฤติกรรมซ้ำๆแทบทุกๆปีของผม เพราะผมรู้สึกว่าหนังเหล่านี้ล่ะที่คนทั้งโลกเค้าคัดมาแล้วว่ามันดีจริงๆแล้วทำไมเราถึงจะไม่ดู..จริงไหม
ความสุขอีกอย่างที่ชอบมากๆคือการเข้าไปให้เร็วหน่อยเพื่อดูหนังตัวอย่างที่จะลงโรงนั้นๆ ระหว่างที่ดูหนังตัวอย่างจากในหนังกลุ่มนี้ซักเรื่องนี่ละครับ มีตัวอย่างหนังรักเรื่องนึงสะดุดใจมากเป็นหนังรักจากค่าย GTH นั้นเอง
Hi
Recently, I have a chance to see many movies, maybe 3 stories per week. I started to see all oscar movie which is my favourite hobby.
Another favourite acitivity is going to see movie earlier with the purpose of seeing teaser trailer. I impressed one Thai teaser trailer titleed with wording or “Love which would like to forget is also momorial, Love which is preferred to memorize is easily to forget”. This movie is produced by GTH, “MY SHORT MEMORY BUT LONG LAST LOVE”. I waited to see this movie and then that time arrived.
หนังทั้งเรื่องอธิบาย ความหมายได้จากคำโปรยเก๋ที่ว่าไว้ว่า “รักที่อยากลืมกลับจำ รักที่อยากจำกลับลืม” และนับจากวันนั้นก็ได้ดูตัวอย่างหนัง “ความจำสั้นแต่…รักฉันยาว” อีกหลายๆรอบและเผ้ารอจะได้ดูหนังเต็มๆโดยเร็วๆ….
จากใจจริงๆตกหลุมรัก…ญารินดากับหนังเรื่องนี้เข้าแล้ว ว้าว…
หลังจากดูจบที่รู้สึกได้ก็คือ…นี้มัน…หนังรักแห่งปีนี้อีกเรื่องนึงที่ตรึงใจมากๆ
บทที่รื่นไหล ภาพสวยๆ กับบรรยากาศที่โดนใจ จากโลเกชั่นที่เลือกแล้วว่าโรแมนติกประทับใจ ความเข้ากันได้ดีอย่างลงตัวของตัวละครทุกตัว ทั้ง 2 คู่ เคมีช่างต้องกันเสียนี่กระไร จำได้ว่าเคยอ่านบทวิจารณ์หนังของนักวิจารณ์ท่านนึงในนิตยสารหนังที่อายุยาวนานมากๆเคยเขียนบอกไว้ว่าหนังรักที่ดี ที่จะให้คนดูเชื่อว่าการแสดงส่งรับกันบนจอนั้นคือเรื่องจริง เคมีทางการแสดงในการจับคู่กันนั้นต้องลงตัวและทำให้คนดูเชื่อว่าใช่ นี่ล่ะคือคู่รักที่คนดูจะเอาใจช่วยไปตลอดจนจบ2ชม.
หนังว่ากันที่รักครั้งแรกที่ไม่สมหวังของหนุ่มสาวคู่นึงที่ส่งผลแบบลบๆกับทั้งชีวิตของสาวเจ้า ในขณะที่รักของอีกคู่คือรักที่อาจจะเป็นรักครั้งสุดท้ายในวัยที่ร่วงโรย ก่อนที่จะจากกันไปตลอดกาลก็เป็นได้
ผมขอไม่เล่าเรื่องหนังเพราะคิดว่าหลายๆคนน่าจะทราบได้จากหน้าหนังกันดีแล้วผมอยากเล่าถึงการจับคู่กันของ 2คู่และ 2 รุ่นที่ต่างกันมากกว่านะครับ
After went out the movie theatre, my heart told that this is best romantic movie of the year.
Perfect screenplay and beautiful scene could make the romantic mood to the audience. All stars had a good action especially 2 main couples who have good acting.
This movie told about broken love of teenages which change one girl’s life. On ther other hand, love of other couple is long lasting and will be last love of old aged people before leaving forever.
I will not tell about detail because I think many people will know this story surely. However, I would like to tell you about matching of these two different aged couple.
ว่ากันที่คู่แรกกันก่อนครับทั้งเป้ อารักษ์ และญารินดา เล่นเข้ากันได้ดีมากๆทั้งคู่ดูสวยหล่อในแบบที่คนดูยังไงก็ต้องเอาใจลุ้นเชียร์ให้สมหวังทั้งๆที่รู้กันอยู่แล้วก่อนเดินเข้าไปดู เดากันได้ตั้งแต่ก่อนดูด้วยซ้ำ แต่…
เพราะบทหนังที่เนียนละเมียดละไม บทพูดที่ส่งรับกันได้ตลอด หยิกแก้มหยอกตามประสา พล็อตอมตะที่เริ่มต้นด้วยความไม่เข้าใจกัน การสร้างเงื่อนไขให้ตัวละครต่างต้องปิดกั้นความรู้สึกต่อกันและกันไว้ จากนั้นก็ต้องค่อยๆคลายปมต่างๆให้คนดูค่อยๆลุ้นและเอาใจช่วยจนสมใจนั้นละครับ
First couple is Pae Arak and Yarinda. This good matching. Handsome man met beautiful girl in the format which people would like to cheer for happy ending. All acting is more natural and not fake. This couple can present simple love which can happen to everybody.
มาถึงคู่รุ่นใหญ่บ้าง ประทับใจเป็น 2เท่า นานๆๆๆๆจนเรียกว่าแทบไม่เคยมีบนจอหนังไทยที่จะมีพระนางบนจอให้คนดูได้ลุ้นและเอาใจช่วยที่อายุเกิน 50 ปีให้ได้ดูกันเลย
ทั้งบทป้าสมพิศ และลุงจำรัส นักแสดงอาวุโสทั้งคู่ส่งถ่ายความรู้สึกจากแววตาและสีหน้าถ่ายทอดออกมาให้คนดูรับรู้ความรู้สึกได้ชัดเจน เพราะนี่ก็คือเคมีเข้ากันได้อีกคู่อย่างไม่น่าเชื่อ ลุ้นกับความรักของคุณลุงคุณป้าให้สมหวังและซึ้งไปกับความรักที่มอบให้แก่กันจากใจที่ส่งถ่ายทอดให้กับผู้ชมได้เต็มหัวใจจริงๆ
บทผู้ใหญ่หัวใจสะรุ่นของคุณลุงกฤษณ์ ทำให้ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะเเอบลุ้นและเชียร์ให้สมหวัง แกแสดงได้อบอุ่นและมีอารมณ์ขันตลอดคุณลุงถ่ายทอดสถานการต่างๆออกมาได้อย่างมีอารมณ์ขันแม้เหตุการ์ณนั้นๆจะแย่ขนาดไหนก็รับได้อย่างดี ขณะเดียวกับกับเจ้าของ เสียงโนบิตะตลอดกาลของคุณป้าศันสนีย์ ก็เล่นได้กำลังดี น่ารักแบบรุ่นใหญ่ผ่านวัยที่รู้จักคำว่ารักนี้ได้ดีกว่าใครๆ
Let come to see high-experienced couple. I impressed very very much. I think there is no chance that you will enjoy cheering 50 aged couple to have a romantic love. Acting of Aunt Sompit and Uncle Krit is professional. I can absorb the love between them. There is only real love, without any returen, which I got from this couple. My emotion is fulfill with happiness of having love.
ผมชอบฉากเล็กๆไดอะล็อกสั้นๆฉากที่ ป้าสมพิศตัดสินใจพูดกับลูกๆให้เข้าใจถึงความต้องการลึกๆในใจของแกให้ลูกๆฟัง ความรู้สึกอึดอัด เก็บความต้องการในใจต่อไปอีกไม่ไหว และในช็อตต่อมาหลังจากบอกลูกๆแล้ว จังหวะส่งรับที่ลูกถามกลับมาว่าแล้วแม่ไม่รักพวกเราแล้วเหรอ ทั้งหน้าตาและแววตาของป้าสมพิศ แม้ไม่มีคำตอบกลับจากปากแต่ภาพช็อตสั้นๆนี้ก็ตอบคำถามนี้ได้เต็มหัวใจแล้ว…น้ำตาซึมเลยครับฉากเล็กๆฉากนี้กระทบใจมาก
My favourite scene is short dialog of Aunt Sompit. She decided to talk to her son to understand real need of her heart. She would like to use her remaining life with Uncle Krit, who is her lover. Suddenly, her son responsed with very sad feeling by wording “Mom don’t love US anymore?” Oh my god is wording in my heart. This scene is very impressed me.
ตัวประกอปจำเป็นที่ทำให้หนังสมบูรณ์ได้มีอยู่ 2 ชีวิตแต่ต่างสายพันธุ์กัน เจ้าสะพานลอย หมาหน้าซื่อที่คนแกล้งเขียนคิ้วใส่ให้ ไม่น่าเชื่อว่าแค่คิ้วจะทำให้หมาน่ารักและดูฉลาดขึ้นได้ป่านนี้เชียวน้อ
อีกหนึ่งชีวิตคือ ต้นชมพู่มะเหมียว ทำให้การส่งสารดีๆในตอนท้ายๆให้แง่คิดกับการสู้ชีวิตของคนได้ อาจจะดูจงใจปั้นเล็กๆไปบ้างแบบคนช่างจับผิดแบบผมแต่ก็ไม่น่าเกลียดใดๆที่ทำให้คนชุกคิดถึงการใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่าได้ดีทีเดียว
—————————————————————————————————————————————————
นี่คือหนังรักที่อบอวลและอบอุ่นไปด้วยกลิ่นไอแห่งความรักและเข้าใจ แบบไทยๆในบรรยากาศดีๆ ภาพสวยๆ เพลงประกอปที่โดนตั้งแต่แรกฟัง บทหนังที่ใส่ใจละเมียดละไมกับความรู้สึกคนดูจนอยู่หมัด
ที่สำคัญ Feel good มากมายตาม concept หนังรักค่าย GTH หนังเรื่องนี้มีบทพูดดีๆหลายๆคำที่นำมาคิดได้และที่สำคัญคำเหล่านี้ล่ะมั้งที่ผู้กับกับคุณสินยงยุทธ อยากส่งสารน์ถึงคนดูทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น
“ไม่ลืมไม่มีหรอก มีแต่ลืมช้า กับลืมเร็ว ไอ้ชั้นมันก็แค่ลืมเร็วไปหน่อยเท่านั้นเอง” ฟังแล้วเศร้าแต่ก็แฝงความรู้สึกอบอุ่นในใจไว้พร้อมๆกันทีเดียว
ระหว่างที่เดินออกมจากโรงหนัง ผมได้คิดเรื่องนึงแน่ๆว่า ความรู้สึกดีๆมันผ่านไปเร็วขณะเดียวกับความทุกข์ก็ไม่อยู่กับเรานานๆหรอก ถ้าเราจะรู้จักปล่อยวางความเจ็บปวดให้มันจากไปและรู้จักคัดแยกเก็บเกี่ยวความรู้สึกดีๆเอาไว้กับตัว เท่านี้ชีวิตเราๆก็คง Feel good ได้แล้วครับ
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหนังครับที่นี้เลย