18 ที่วันธรรมดา น่ากิน น่าเที่ยว รอบเมืองนครศรีธรรมราช
หากเอ่ยถึงจังหวัดนี้ กับคนทั่วๆไปเราจะได้ยินคำนิยามต่างกันมากมาย
เช่นเอ่ยกับเด็กยุคใหม่ก็อาจจะถามว่าคือ พระเอกในหนังไทย ที่อนันดาเล่นใช่มะ ขุนพันธ์ นั้นล่ะ
เอ่ยกับคนอายุ 30 ปี ขึ้นไปอย่างผม ก็จะนึกถึงหลายๆอย่างเช่น องค์พระบรมธาตุ… องค์จตุคามฯ ร้านโกปี้ และอีกมากมายหลากหลาย
เอาว่ามาลองทำความรู้จักกันดูไหมว่า จังหวัดนี้เค้ามีอะไรมากมายซ่อนอยู่เยอะแยะไปหมด จนบางทีคุณอาจจะต้องมานั่งคิดว่าไหมชั้นเพิ่งจะรู้เนี่ยละ
มาครับมาเที่ยวนครศรีธรรมราชกัน
เดินทางยังไงก่อน
ก่อนจะมาถึง วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางคือการนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนครศรีธรรมราช มีบินตรงหลายเที่ยว รอบนี้แนะนำของ Thai AirAsia มีบินตรงลงนครฯ ทุกวัน วันละ 4 เที่ยวเลย เวลาดีมากจากเช้าจรดค่ำทีเดียว
เครื่องที่นั่งมารอบนี้ ดีงามมากมีประตูด้านหน้าและท้ายเครื่อง ไม่ต้องคอยนานดี แถมเวลาลงมาถ้าฝนตกแดดออกเค้ามีบริการร่มให้ด้วย น่ารักดีฮะ
มาถึงทั้งทีถ้าจะเที่ยวให้ทั่วแนะนำเช่ารถขับดีที่สุดฮะ และเจ้าที่อยากแนะนำรอบนี้คือของ Sixt Car Rental สมัยก่อนเจ้านี้คือ Master Car Rental นั้นล่ะฮะ
เจ้านี้ผมเองเคยใช้มานานแล้ว กลับมาใช้อีกรอบยังประทับใจไม่เปลี่ยน สมัยก่อนจะเป็นเจ้าประจำที่ออกงานไทยเที่ยวไทย และลดราคาดีเสมอ ที่สำคัญน่าจะเป็นเจ้าแรกที่นำเอาประกันมารวมไว้ในราคาเช่าต่อวันแล้วด้วยฮะ
รถดีมากรอบนี้ใช้รถเล็กประหยัด Honda City ปีล่าสุดนี้เลย วิ่งมาแค่ 5,000 นิดๆเอง ใหม่มากจ๊ะ สนใจเข้าไปดูกันเองได้ที่นี่เลย
พักที่ไหน
ทริปนี้เราเลือกพักกันสามแห่งสำหรับที่พักในเมืองอยากแนะนำเป็นที่นี่เลย “TWIN LOTUS HOTEL” โรงแรมใหญ่โตของเมือง และชื่อดูคุ้นๆใช่ไหมฮะ
ใช่แล้วเค้าเป็นจำของเดียวกันกับ ยาสีฟันดอกบัวคู่นั้นล่ะ เจ๋งเนอะ
เข้ามาเช็คอินเจอล็อบบี้ใหญ่โตอลังการ งานสร้างมาก
เข้าไปดูในห้องยิ่งดีใหญ่ขนาดห้อง Deluxe ในราคาพันต้นๆสะดวกสบายดี
ห้องน้ำมาตรฐานะ มีทุกอย่างครบถ้วนแต่ที่เราชอบเลยคือชุดผลิตภัณฑ์ดอกบัวคู่จ้า มาเต็มครบๆ
โดยรวม ทุกอย่างดีฮะ มาตรฐาน อ่อ ที่เด็ดสุดขอยกให้เรื่อง Internet/WIFI เลิศมาก คือจับสัญญาณได้ 50 mb เฮ้ย จริงๆ เลิศเลอมากเร็วมาก
นอนโรงแรมมาหลายที่ยกให้ที่นี่เลยฮะ โดยรวมผมแฮ๊บปปี้นะ มีติดนิดหน่อยตรงเดินทางอาจจะต้องใช้รถสักหน่อยเพราะอยู่ห่างจากจุดท่องเที่ยวนิดหน่อย แต่ไม่ยากฮะ
ตำแหน่งนะฮะกดตามมาดูแผนที่ได้ลย
ที่เที่ยวห้ามพลาดเมืองคอน
พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
เริ่มกันที่แรกเลยดีกว่า ไม่อยากให้พลาดถ้ามาเมืองนี้ ไม่มาไหว้ พระบรมธาตุเจดีย์ เค้าว่ามาไม่ถึงสุดๆเลย ถือเป็นพระธาตุองค์สำคัญที่สุดของคนใต้ทีเดียว องค์พระธาตุดังเดิมก่อนจะมีการบูรณะมาตั้งแต่ต้นปี 2559 นี้เองโดยมีระยะเวลาในการบูรณะทั้งหมด 180 วัน องค์พระธาตุสีขาวนี้ก็จะกลับมาสวยสง่าเป็นที่กราบไหว้ของประชาชนต่อไป
ประวัติย่อๆของพระบรมธาตุฯคือ เป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหารตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตามประวัติดั่งเดิมสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พศ. 1093 โดยที่ปลียอดทองคำพระบรมธาตุเจดีย์ มีการบูรณะกันมาหลายครั้งและครั้งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อปี 2530-2538 หากอยากรู้รายละเอียดทั้งหมด เข้าไปดูได้ที่ WIKIPEDIA ครับ
พิกัดและการเดินทาง ดูจาก Map เลยนะ
ลานหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
อาจจะงงๆว่าไหมมันต้องแยกมา ต่างอะไรกับตัววัด คือจะบอกว่าจริงๆแล้ว ตัววัดฯแห่งนี้เหมือนเป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธ ของคนในจังหวัดแล้ว แต่ๆในยามเย็นที่ผมมีโอกาสมานั้นมีเสน่ห์ไม่แพ้กันเลย เพราะในบริเวณลานด้านหน้าของวัดเองจะมีชาวบ้าน ช่างภาพ คู่รัก หรือเด็กน้อยทั้งหลาย พากันมาเดินเล่น ให้อาหารนก ถ่ายรูปคู่กับพระธาตุ กิจกรรมต่างๆมากมายล้วนอยู่ในบริเวณ์วัดจนน่าแปลกใจ
ถือเป็นศูนย์กลางในใจคนในเมืองคอนอย่างมาก มีโอกาสไม่ควรพลาดจะมาเดินเลยกันนะฮะ ที่สำคัญทุกวันทางวัดจะเปิดไฟแสงสีที่องค์พระบรมธาตุด้วย ยิ่งงดงามเข้าไปใหญ่เลย
พระแอด หรือ พระมหากัจจายนะ
หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใน Campaign เขาเล่าว่า… ของ ททท. พระแอด หากมาถึงวัดแล้วเดินเลยเข้ามาด้านในฮะ เลี้ยวขวาเดินตรงไปจะเจอวิหารของท่านมีป้ายติดอยู่หน้าวิหารเลย ตัวองค์พระแอด จะเป็นพระพุทธรูปสีทองอร่าม รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ มองเผินๆคล้ายพระสังคจายที่เรารู้จักกันดี องค์ท่านมีใบหน้ายิ้มแย้ม เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนในแถบนั้น ซึ่งนิยมมากราบไหว้เพื่อ ขอพรใน 2 เรื่องหลักๆกัน
เรื่องแรกคือเรื่องของสุขภาพ เพราะชาวบ้านเชื่อกันว่าพระแอดจะช่วยดลบันดาลให้หายจากความเจ็บไข้ โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดหลัง หรือ ปวดอะไรก็ตาม
วิธีการขอพรก็ง่ายๆฮะ หลังจากไหว้ท่านแล้วให้เราเดินอ้อมไปด้านหลัง จะเจอตระกร้าที่มีไม้แท่งยาวๆอยู่ให้หยิบไม้ดังกล่าวมาลูปตามเนื้อตัวของเราหรือของคนที่เราต้องการให้หายจากเจ็บป่วยจนทั่ว จากนั้นให้เอาไม้ไปตั้งวางไว้ที่หลังของท่าน จากนั้นก็อธิฐานขอพร ก็เป็นอันจบ
เรื่องที่สองคือเรื่อง ขอลูกกัน คือว่าง่ายๆสำหรับครอบครัวไหนที่มีปัญหามีลูกยากก็มักจะมากราบขอพรท่าน แล้วหากมีลูกได้จริงแล้วก็จะนำเอาภาพลูกของตนมาวางไว้ที่ท่านคล้ายๆเป็นการแก้บนบานที่เคยมาขอกันไว้ หรืออีกนัยนึงก็คือ เหมือนเป็นการมาฝากลูกไว้ให้ท่านด้วยนั้นเอง เราจึงเห็นมีภาพถ่ายเด็กๆเยอะมากมาวางไว้
งานสารทเดือนสิบเมืองคอน งานบุญสารทเดือนสิบ หรือ เรียกว่า งานแห่หมรับ (อ่านว่าหมับ)
จะว่าผมโชคดีก็ว่าได้ วันที่เดินทางไปนครฯเป็นวันงานสำคัญที่สุดของคนเมืองคอนกันเลย เพราะเป็นวันงานแห่หมรับ งานนี้คืองานอะไรนะเหรอ มาดูกันฮะ
งานหมรับ หรือจริงๆจะเรียกว่างานสารท ก็ว่าได้ เพราะดูกันจริงๆแล้วงานสารทมีทุกภาคของประเทศไทย แต่ภาคใต้จะมีรายละเอียดที่ต่างกันออกไปเนื่องจากมีการผสมผสานการทำพิธีจากทางศาสนาพราหมณ์ โดยผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาเข้ามาในภายหลัง โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับ
อ่อในค่ำคืนก่อนวันงานจะเริ่ม บรรดาชาวบ้านจะมาร่วมกันสวดมนต์ตั้งแต่เย็นย่ำ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับญาติของตน กันโดยมีหลวงพ่อสวดนำและทำพิธีให้กับลูกหลาน ญาติโยมที่มารวมกันในคืนนั้นด้วย
ประเพณีสารทเดือนสิบจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2466 ที่สนามหน้าเมือง นครศรีธรรมราช จะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ ถึงแรม 15 ค่ำเดือนสิบของทุกปี แต่สำหรับชาวใต้แล้ว มักจะนิยมทำบุญกันมากคือ วันแรม 15 ค่ำมากกว่า ซึ่งประเพณีวันสารทเดือนสิบส่วนใหญ่แล้ว จะตรงกับเดือนกันยายน เป็นการทำบุญให้กับบรรพบุรุษ ญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะกับคนตายที่ตกนรกไปเป็นเปรต จะเน้นเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นวันเดียวในรอบหนึ่งปีที่จะได้รับอนุญาตให้มาพบกับญาติของตนในเมืองมนุษย์ได้ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ทุกปีนั้นเอง
ผมเองมีโอกาสไปล่วงหน้า จึงได้เก็บภาพตั้งแต่แรกตั้งขบวนรถแห่เปรต โดยที่ให้เด็กๆ หรือคนอาสาแต่งตัวเป็นเปรตแบบต่างๆแห่ไปรอบเมืองกันเลย
โดยที่วันรุ่งขึ้นจะเป็นงานใหญ่ประจำปีมีประกวดขบวนรถที่ตกแต่งด้วยขนม 5 อย่าง และขนมแต่ละอย่างมีความหมายต่างกันไปคือ
ขนมเดือนสิบ
ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทน เรือ แพ ที่บรรพบุรุษใช้ข้ามห้วงมหรรณพ เหตุเพราะขนมพองนั้น แผ่ดังแพ มีน้ำหนักเบา ย่อมลอยน้ำ และขี่ข้ามได้
ขนมลา เป็นสัญลักษณ์แทน แพรพรรณ เครื่องนุ่งห่ม เหตุเพราะขนมลา มีรูปทรงดังผ้าถักทอ พับ แผ่ เป็นผืนได้
ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์แทน ลูกสะบ้า สำหรับใช้เล่น ต้อนรับสงกรานต์ เหตุเพราะขนมบ้า มีรูปทรงคล้ายลูกสะบ้า การละเล่นที่นิยมในสมัยก่อน
ขนมดีซำ เป็นสัญลักษณ์แทน เงิน เบี้ย สำหรับใชัสอย เหตุเพราะรูปทรงของขนม คล้ายเบี้ยหอย
ขนมกง (ไข่ปลา) เป็นสัญลักษณ์แทน เครื่องประดับ เหตุเพราะรูปทรงมีลักษณะ คล้ายกำไล แหวน
บรรยากาศความรื่นเริงสนุนสนานมากฮะ ขบวนรถแห่รอบเมืองแข่งกันตกแต่งสวยงาม ดูแล้วทำให้ผมนึกงานแห่เทียนพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานีขึ้นมาทีเดียวฮะ
สาวๆที่ถือป้ายก็เสมือนตัวแทนประจำอำเภอต่างๆนั้นเอง
ของแอร์เอเชียก็เอากับเค้าด้วยนะ ส่งน้องแอร์มาเข้าร่วมถือป้ายด้วยละ สวยไม่แพ้คนอื่นๆนะจ๊ะ ^_^
ระหว่างที่ผมเขียนบทความนี้อยู่ พี่ป้า น้า อา ที่แต่งตัวด้วยสีชมพู เพื่อเป็นการถวายพระพรกับในหลวง (วันที่ผมถ่ายภาพชุดนี้ เป็นวันที่ 30 กันยายน พอดีครับ)
ทุกคนเคารพรักในหลวงในรัชกาลที่ 9 และมีความสุขที่ได้ทำทุกอย่างนี้ให้ท่านกันทั้งนั้น
ทุกคนถือพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จฯและในหลวงในใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคนฮะ
จนผมเอง….ก็ไม่คิดว่าเวลาเศร้าของคนไทยทั้งชาติจะมาถึงในอีก 10 กว่าวันถัดมา…
ขบวนแห่กันรอบเมืองจะมาจบที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นี้เอง
สำหรับใครที่อยากทราบรายละเอียดทั้งหมด ไปที่นี่เลย ครบถ้วนมากๆฮะ
เส้นทาง จากหน้าศาลากลางจังหวัดขบวนจะเคลื่อนมาจนมาถึง
รู้จักที่มา…กันก่อนเที่ยวที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช
จะเที่ยวให้รู้จัก เที่ยวให้สนุกกว่าเดิม ควรมาที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่นี่เก็บรวบรวมความเป็นมา การก่อร่างสร้างตัวตั้งแต่ยุคโบราณกาลก่อนจะกลายเป็นสยามประเทศอย่างเช่นทุกวันนี้ ข้างในมีทั้ง รูปปั้น รูปหล่อ ทองสำริด หรือประวัติความเป็นมาทั้งหมด แถมราคาก็ถูกมากค่าเข้าชม แค่ 30 บาทเท่านั้นเอง
ที่นี่ยังเป็นที่แรกที่นำพิธีโล้ชิงช้ากลับมาอีกครั้งด้วยมี เป็นภาพ VDO ที่ถ่ายเก็บไว้ให้ได้ดู
รูปแกะสลักแผ่นไม้อายุนับร้อยปีที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งนึงของประเทศไทย มีเวลาไม่ต้องเยอะ 1 ชั่วโมงก็เพลิดเพลินได้แล้ว
Map ที่ตั้งนะครับ
บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์
บ้านไทยโบราณทรงเรือนปั้นหยา ที่อยู่ในย่านกลางเมืองไม่ไกลจากวัดพระธาตุฯ เดิมบ้านนี้เป็นบ้านของท่านขุนเมื่อครั้งรับตำแหน่งเป็นนายอำเภอของเมืองตั้งแต่ปีพศ. 2455 นั้นเลย
หลังผ่านช่วงเวลามา จนถึงรุ่นหลานของท่าน คุณโกวิท ตรีสัตยพันธุ์ มาเปลี่ยนเป็นโรงเรียนชื่อโรงเรียนรัฐวุฒิวิทยาจนมาเปลียนชื่อเป็น “โรงเรียนนครวิทยา” เมื่อปีพศ. 2482
และปิดตัวลงเมื่อปีพศ. 2529 และกลายมาเป็นโบราณสถานเพื่อชนรุ่นหลังของชาวนคร และนักท่องเที่ยวได้ชมความงามของเรือนปั้นหยาอายุ ร้อยกว่าปี หลังนี้
บ้านได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ดูจากสภาพบ้านที่คงผ่านการบูรณะมาหลายครั้งแล้ว
ภาพท่านขุนผู้เป็นต้นตระกูลของบ้านหลังนี้มามากกว่า 100 ปี
Map นะครับ กดเข้าไปได้เลย
บ้านหนังลุงสุชาติ ทรัพย์สิน
หากจะมีที่ไหนที่เข้าใจลึกซึ้งถึงความเป็นหนังตะลุงได้ดี ที่นี่ก็ใช่แล้วฮะ ที่นี่เป็นทั้งบ้านของศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน) พ.ศ.2549
ลุงสุชาติ ทรัพย์สิน พึ่งเสียไปไม่ถึง 1 ปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ศิลปินแห่งชาติท่านนี้ได้ฝากไว้มีคุณค่าจนเราต้องมาชมกันให้ได้สักครั้ง เพราะที่บ้านแห่งนี้ยังถือเป็นพิพิธภัณฑหนังตะลุงแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
เข้ามาในบ้านคนดูแลทั้งหมดคือลูกๆของลุงเอง ผลงานมากมายที่ติดอยู่ในชั้นสองของบ้านที่แปลงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ บางชิ้นอายุนับ100ปีทีเดียว และมีความหลากหลายน่าสนใจมาก
และผู้ที่สืบทอดเจตนารมย์ของคุณลุงต่อมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นลูกๆของแก โดยมีลูกชายคือ เป็นหัวแรงหลักในการแกะสลักและยังสอนผู้คนที่สนใจให้รู้จักทั้งการแกะ การเชิดหนัง รวมถึงทำให้ที่นี่ยังคงเป็นพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงกันต่อไป
ห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านภาคใต้แบบครบถ้วนสมบูรณ์
มีเวทีสาธิตเชิดหนังตะลุง มีการสอนแกะหนัง สาธิตให้ดู เรียกว่ามีครบทุกอย่าง และสิ่งที่น่าจะเป็นความภาคภูมิใจกว่ารางวัลใดๆที่เคยได้มาถึง 2 ครั้งด้วยกันนั้นก็คือ ผลงานการแกะหนังตะลุงที่ลุงสุชาติ คืองานที่ชนะการประกวดชิ้นแรก ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช
งานดังกล่าวเป็นรูปช้างเอราวัณ หลังจากชนะการประกวดแล้ว ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า “ขอบใจนะที่รักษาของเก่าไว้ให้ อย่าหวงวิชา” และในเวลาต่อคือถวายงานให้ในหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้ประดิษฐ์และแกะหนังใหญ่เรื่องพระมหาชนกรวม 45 ภาพ ถวายแด่องค์ท่าน นับเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูลของท่านต่อไป
หากใครที่อยากมาพบและชมมาได้ไม่ยากเลยฮะดูจาก Map ด้านล่างได้เลยหรืออ่าน วิธีเดินทางมา
เดินทางโดยรถยนต์ผ่านสนามหน้าเมืองมุ่งหน้าไปวัดพระธาตุวรมหาวิหาร ผ่านศาลากลางจังหวัด หอนาฺฬิกา สังเกตไฟกระพริบเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพานยม จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามถนนศรีธรรมโศก เข้าสู่ซอยศรีธรรมโศก3 พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านฯอยู่ด้านขวามือ หรือใช้บริการรถสองแถวสายหัวถนน-สนามกีฬาแล้วลงหน้าซอยพานยมเดินทางต่อไปประมาณ 5 นาที
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 075 346 394
เสาชิงช้า เมืองนครศรีธรรมราช และสองหอคู่บ้านเมืองคอน หอพระอิศวร หอพระนารายณ์
ความพิเศษที่คนมักจะมาเยี่ยมเยือนให้ได้สักครั้งก็อยู่ตรงหน้าหอพระอิศวร จะมีเสาชิงช้า ที่เคยเป็นที่จัดพิธีโล้ชิงช้า ของจังหวัดมาก่อน เสาแห่งนี้จึงอยู่คู่บ้านคู่เมืองนครฯมานาน
เสียดายวันที่ผมไปเป็นวันแห่งานหมรับ ทำให้หอทั้งสองหอปิดเลยไม่ได้เข้าไปด้านใน
หอพระนารายณ์ จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับหอพระอิศวร มาแล้วก็แวะเที่ยวชมกันได้นะ
Map นะครับ
กำแพงโบราณเมืองนครศรีธรรมราช
สถานที่ตั้ง ริมคลองหน้าเมือง ถนนมุมป้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
กำแพงเมืองคอนแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นปึกแผ่นในอดีตและความยิ่งใหญ่ของเจ้าเมืองที่เคยยิ่งใหญ่สร้างรั้วรอมโดยรอบ ตามประวัติความเป็นมา สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อตั้งเมืองขึ้น
สังเกตุโดยรอบใกล้ๆกันยังมีสวนที่เป็นแนวกำแพงเดียวกัน มีหนุ่มสาวๆมาถ่ายภาพทั้งรับปริญญา Pre wedding และจุดถ่ายภาพที่ควรแวะเก็บภาพกันนะฮะ
มาถึงที่กินกันบ้าง
ทริปนี้ตัวแตกบอกเลยทั้งหมดที่แนะนำเป็นร้านรวงในเมืองนครฯทั้งสิ้น เห็นแล้วก็จะทึ่งในความตระกละของผม เอ้ย ความเยอะของร้านอร่อยๆของที่นี่ไปเริ่มกันเลยแล้วกันนะ
ร้านแรกมานครฯไม่แวะ โกปี้ แต้เตี้ยมได้ไง
ร้านเก่าร้านแก่ของเมืองคอนเปิดมานานหลายสิบปีแล้ว จุดเด่นสำคัญของร้านนี้แต่ดังเดิมก็ตือ กาแฟ ยามเช้าคนจึงมักมาเริ่มต้นมื้อแรกกันที่นี่
แต่ไม่นานร้านก็เพิ่มเติมเมนูอาหารในแบบจีนไทยเข้ามา ผมมานครฯ ทุกครั้งต้องแวะมาชิมทุกครั้ง หนนี้สั่งข้าวขาหมูมาลองบ้าง
เนื้อหมูนุ่มเคี้ยวง่าย รสชาติกำลังดี ไม่หวานเกินไป กินกับน้ำส้มกลมกล่อมกำลังดีฮะ
ตบด้วยน้ำซุปอร่อยๆจากบักกุดเต๋ ที่เสริฟกันเดือดๆ มีทั้งแบบเสริพคนเดียวและกินกันได้หลายๆคน
รสชาติอร่อยมาก
ผมตบท้ายด้วยโกปี้รสชาติเข้มๆไม่หวานเกินไปคล่องคอฮะ รวมๆมาแล้วต้องแวะมาร้านมีสองสาขา สาขาที่ไปมาไม่ยาก มีที่จอดรถ คือตรงสาขาโรบินสัน อีกสาขาจะอยู่ข้างศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช หาไม่ยากเลย
Map นะครับ (สาขาโรบินสัน)
ร้านเพลินจิต
อีกร้านที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ต้องการชิมอาหารใต้แท้ รสเข้มๆ เรียกว่าซี้ดซ้าดกันตั้งแต่คำแรก ก็มาร้านนี้ได้เลย
ร้านบรรยากาศดี ตกแต่งน่ารัก สไตล์เหมือนร้าน คาเฟ่เก๋ๆ แต่ขายทั้งขนมและอาหารด้วย
เจ้าของก็อัธยาศัยดีมาก รู้จักร้านนี้เพราะพี่ที่สนิทกันแนะนำเลยมีโอกาสได้แวะมาลองก็ไม่ผิดหวังฮะ
เริ่มกันที่เมนูแกงเห็ด เมนูนี้ถือว่าเซอร์ไพรส์สุดๆเพราะไม่เคยทานแต่เมื่อสั่งกันมาก็ต้องลองสักหน่อย ชิมคำแรก ก็ต้องรีบตักข้าวตามเพราะมันอร่อยมากรสชาติจัดจ้านสมกับเป็นแกงใต้ พริกแกงที่ทำเองทำให้มันเข้ากันดีมากกับเนื้อกุ้งที่ใส่มาด้วย
หมูสามชั้นทอดเค็ม ปรกติเป็นคนชอบหมูสามชั้นทอดอยู่แล้ว มาเจอในเมนูนี้ไม่ต้องคิดเลย อร่อยฝุดๆอ่ะ มันเค็มกำลังดี เจอกับข้าวสวยร้อนๆ โอ๊ยยย น้ำลายไหลทีเดียว
ผ้ดไทกุ้งสด อันนี้โอเคฮะ ไม่ต่างจากกรุงเทพฯจัดว่าใช้ได้
แกงจืดสั่งมาซดน้ำคล่องคอ
แกงเผ็ดปลาอะไรซักอย่างจำชื่อไม่ได้แล้วแต่อร่อยรสชาติจัดจ้านตามตำรับแกงใต้
ตบท้ายด้วยน้ำเสาวรสผสมอันนี้อร่อยมากกกก มาต้องลองสั่งกัน คือปรกติไม่ได้ปลื้มอะไรกับเสาวรสนัก ชิมเพราะแนะนำกันเลยลอง สรุปไม่ผิดหวังนะ
โดยรวมร้านนี้แนะนำสำหรับคนที่ชอบอาหารพื้นบ้านแท้ๆของปักษ์ใต้ ราคามาตรฐาน ไม่แพงไม่ถูกกลางๆครับ ครบเครื่อง บรรยากาศก็ดี หาไม่ยากเลยฮะ
ที่ตั้งอยู่ตรงถนนหัวถนน แยกโฮมโปร
ที่อยู่นะครับ 132/7, Amphoe Muang Nakhon Si Thammarat, Nakhon Si Thammarat 8000
เปิดบริการ 11.00-22.00น.
Tel: 075323299
ขนมจีนเมืองคอนเส้นสด หรือ ร้านแม่แอ๊ด เมืองคอน
มาเมืองนี้ไม่ชิมขนมจีนเส้นสด ก็ต้องบอกว่าพลาดอย่างแรง และหลังจากค้นหาจากเน็ตมา แนะนำกันเยอะแยะไปหมด สุดท้ายผมมาเจอร้านนี้เพราะป้ายร้านที่ติดอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามของวัดพระธาตุฯ เลยเดินตามป้ายมา สุดท้ายเป็นอีกร้านที่อยากแนะนำมากฮะ อร่อยมากไม่เชื่อตามมา
ร้านบรรยากาศโล่งๆสบายๆ ราคาไม่ได้แพงอะไร ผมนั่งแล้วเค้าก็ยกผักและเครื่องเคียงมาเสริฟก่อนเลย
ผักที่เสริพเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย ผมเห็นป้ายติดไว้มี น้ำยาปู เลยลองสั่งมาดู หน้าตาก็ประมาณนี้เลย สนนราคาส่วนตัวว่าไม่แพงนะ 50 บาทต่อถ้วย มีเนื้อปูมาด้วย
ชิมคำแรกเผ็ดคือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว จากนั้นชิมกับเส้นสด อร่อยจริง เครื่องเคียงโดยเฉพาะปลากรอบนั้นเลิศเลย
อันนี้เมนู Recommended กุ้งทอด คือมันดีงาม มันกรอบ มันหอม โอ๊ยอันนี้ติดใจฝุดๆ อร่อยจริงๆ กุ้งมาเต็มไม่ตัวจ้อยๆนะ กัดเข้าไปรับความฟินระดับสิบกันทีเดียว
มาแล้วห้ามพลาดสั่งกันจ้า
ที่ตั้งร้าน
ถ้ามาจาก วัดพระธาตุฯ ให้เดินข้ามฟากเข้าซอยมาเดินมาสุดซอยให้ลี้ยวขวามองไปฝั่งตรงข้ามไม่ไกลกันจะเจอป้ายร้านใหญ่ชัดเจน ครับ
ที่อยู่ : ซ.เเม่อ่างทอง ถ.ศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000
เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 15.00 น.
โทรศัพท์ : 0891958109
มากิน ของหวาน กันมั่งกับร้านฮิต ร้านดังของเมือง
ร้านโรตีป้าหนอม สาขา1
ร้านดังที่ขยายสาขาออกไปทั่วเมือง แต่สาขาที่ผมไปชิมคือสาขาแรก อยู่ในปั้มน้ำมันเก่า บรรยากาศบ้านๆ
มีเมนูให้เลือกเยอะแยะเอาแค่หน้าโรตีก็เกิน 10 แล้ว
ผมสั่งหน้าธรรมดามาลอง ว่ามันจะโอไหม กับชาดำเย็น ดูไม่เข้ากันแต่เราชอบ ฮ่า ฮ่า
Map คร้าบบ
รวมๆผมว่าใช้ได้แต่ไม่ได้ติดใจสุดๆ เท่ากับอีกร้านที่จะแนะนำต่อไป ไปกันต่อเลยนะ
ร้านน้ำชาบังบ่าว (สาขาหน้าพระธาตุ)
ร้านดังอีกร้านเป็นร้านใหม่กว่าแต่ก็มาแรงแซงทีเดียวมีสาขาอาจจะไม่เยอะเท่าร้านป้าหนอม แต่รสชาติส่วนตัวเราชอบกว่านะ
มาถึงผมถามก่อนเลยว่าเมนูโรตีอันไหนเด็ดๆ ก็แนะนำมาสองเมนู คือ โรตีภูเขาไฟ กับ ไม้ขีดไฟ ชื่อแรกนี่คุ้นๆพอนึกภาพออกแต่อันหลังนี้นึกกันไม่ออกเลย งั้นก็สั่งสิรออะไร
หน้าตาแบบนี้ละครับ มันคือการหั่นโรตีเป็นแว่นๆแล้วใช้โอวัลตินโปะตรงปลายด้านนึงโรยกันแบบสะใจมาก
ยังไม่ชัวร์ว่าเค้าจะอร่อยจริงไหมลองของคาวขึ้นมานิดนึงกับ โณตีมะตะบะ เอออร่อยมากฮะ ไปแล้วอย่าพลาด
นอกจากเมนูเหล่านี้ยังมีเมนูอื่นๆเช่นไก่สะเต๊ะ หรือปิ๊งๆให้เราเลือกชิมกันดูเอาเองเลย
ชิมแล้วก็เลิศจริงๆ ยกให้เรื่องไอเดียและรสชาติครับ ร้านนี้ Recommended สุดๆ
ที่ตั้งร้าน
อยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุฯ เดินเลยมาอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยฮะ หาไม่ยาก
Map นะครับ
Cote’ Cafe’
มากินอะไรหวานๆเย็นๆกันบ้าง ผมเจอร้านนี้แบบบังเอิญตอนที่แวะมาชมพิพิธภัณฑ์เมืองนครฯ ร้านอยู่ริมถนน หาไม่ยาก
บรรยากาศร้านตกแต่งเรียบๆแต่มีมุมพอให้ถ่ายรูป Selfie กันได้
ผมลองสั่งช็อคโกแล็ตเย็นมาเสริพกับขนม โดนัทลาวา จิ้มไปนี่เนื้อลาวาทะลักกันทีเดียว
รสชาติดีฮะ ไม่หวานเกินไป เครื่องดื่มกินด้วยกันก็เข้ากันดีมาก
Map นะครับ
Pixzel Caffe’
ปิดท้ายกันด้วยร้านกาแฟสุดฮิบที่สุดแห่งนึของเมืองคอน ร้านอยู่ไม่ไกลเยื้ยงๆกับวัดบรรมธาตุฯเช่นกัน เดินเข้ามาบรรยากาศดีน่านั่ง ตกแต่งแนวๆคุมโทนขาวดำผสมปูนเปลือย ผสมกับความ Retro จากเฟอร์นิเจอร์ออกมาเท่เลย
ที่นี่มีสองชั้น ชั้นบนจะกว้างกว่า มีมุมนั่งเยอะกว่า
ลองสั่งขนมมากินก่อน ขนมเปี้ยไข่เค็มแลดุน่ากินมากฮะ ตอนเสริฟเค้าผ่ามาเสร็จสรรพ
พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆอย่างน้ำเสาวรส อร่อยดี
โดยรวมร้านน่านั่งสังสรรค์ บรรยากาศดี มีปลั๊กไฟ ใครอยากหิ้วคอมมานั่งทำงานก็ยังได้นะ รวมๆประทับใจดีฮะ
ที่ตั้งร้าน อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับรั้ววัดพระธาตุฯเลย หาไม่ยากเป็นบ้านไม้สองชั้นฮะ
Map นะ
สรุปกันหน่อย
เป็นไงบ้างทั้งหมดนี่เกิดขึ้นแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้นจะเที่ยวกันจริงๆเที่ยวได้สบายมากฮะ นครยังมีของดีอีกมากมายให้สัมผัส นี่ขนาดแค่ในเมืองยังเยอะขนาดนี้ อำเภอรอบๆไม่ต้องพูดถึงและจะบอกว่าแอดมาเที่ยวหมดนี้วันธรรมดา ไปไหนง่ายที่นั่งมีโล่งว่างสบาย ที่พัก ร้านก็ไม่แน่นอยากแนะนำให้มาเที่ยวกันวันธรรมดาบ้างรับรองจะติดใจเช่นกัน ท้ายนี้หวังว่าทริปทั้งหมดจะถูกใจ ให้ไปตามรอยกันได้ บ้างไม่มากก็น้อยนะฮะ หวังว่าจะมีความสุขกันถ้วนหน้า จนกว่าจะพบกันครั้งหน้าฮะ
สวัสดีครับ