มือใหม่หัดเที่ยวเอง ณ โตเกียว ใบไม้เปลี่ยนสี กับ Kawaguchiko 1 วัน ไป-กลับ ฟูจิซังแบบเต็มตาทำไงไม่ให้พลาด
รีวิวนี้จะเหมาะกับคนมือใหม่ ที่อยากจะวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นเอง โดยไม่ต้องซื้อทัวร์นะครับผม
สวัสดีครับ ย่อหน้านี้ขอแนะนำตัวแบบคร่าว ๆ ผมชื่อ อาร์ต ได้มีโอกาสรู้จักพี่นุ๊กผ่านภรรยานะครับผม คุยกันไป คุยกันมา เนื่องจากน่าจะมีความเสี้ยน หรือ หลงไหลในเรื่องคล้ายๆ กัน ก็เลยคุยกันเพลินและถูกคอครับ
พี่เขาเลยชวนมาลองเขียน Blog ดู ซึ่งจริงๆ ผมเองเป็นคนที่ชอบ อ่าน Blog และหาข้อมูลก่อนไปเที่ยวเสมออยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า เออ งั้นเราลองมาเขียนจากประสบการณ์ที่เราเจอและผ่านมาให้คนอื่นได้ นำไปใช้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยบ้างดีกว่า
เพื่อไม่ให้ยาวเกินไป ผมขอจบเรื่องของผมไว้แต่เพียงเท่านี้ …
มาถึงทริปนี้ กับทริป โตเกียว และไปดูฟูจิซังที่ Kawaguchiko ทั้งหมด 9 วัน 8 คืน ผมไปช่วง 28 Nov – 6 Dec เป็นช่วงที่พีคสุด ๆ ของใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียว
เอาจริงๆ ตอนที่ผมจองนั้น ผมไม่ได้คิดเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีไว้เลย ตอนนั้นในหัวคิดแต่ว่าตั๋วถูก ๆ ๆ ๆ ตั๋วโปร ๆ ๆ ๆ แต่โชคชะตาก็พาให้ผมได้มาเจอกับช่วงพีคในเวลานี้โดยบังเอิญ ซึ่งเป็นอะไรที่เต็มตาเต็มใจมาก ๆ
โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบถ่ายรูป และชอบการสรรหาของกินอร่อย ๆ แบบแนว Local ไม่ค่อยชอบตามรอยรีวิว ที่คนไปกันเยอะๆ มันดูเกร่อ ๆ เกินไป ผมชอบ Feeling เวลาที่เราได้ไปลองของใหม่ที่ไม่มีใครเคยไป แล้วพบว่า โอ้ว…มันอร่อยสุดยอดไปเลย แบบนี้มากกว่า
ผมขอแบ่งการรีวิวทริปของผมไว้ออกเป็นส่วน ๆ นะครับ โดยจะแยกไว้ประมาณนี้ครับ
- วิธีเตรียมตัว และการวางแผนการเที่ยวโตเกียวในแบบฉบับง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ของผม (ซึ่งจากที่ผ่านมาผมว่ามัน Work นะ เลยอยากแชร์ให้เพื่อนๆ ทุกคนด้วยครับ)
- อุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพ และสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรพลาด
- วิธีการหาร้านกินอร่อย ๆ แบบง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพ
- Location เด็ด ๆ ในโตเกียว ที่ไม่ควรพลาด
- Shopping list ในแบบฉบับของผม ซื้ออะไรที่นี้ดี !!!???
มาเริ่มกันได้เลย…
1. วิธีเตรียมตัว และวางแผนการเที่ยวในโตเกียวแบบฉบับง่าย ๆ สำหรับมือใหม่
โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกมือใหม่ ที่ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ หรือเที่ยวไม่บ่อย ก็จะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร ก่อนหลังดี พอคิดไม่ออกก็จะไปหาอ่านรีวิว ตามเว็บต่างๆ แต่ปัญหาก็คือ ถ้าคุณตามรีวิวพวกนั้น สิ่งที่คุณได้ ก็อาจจะเป็นทริปที่ดี ที่สนุกของคนอื่น แต่ไม่สนุกสำหรับคุณก็เป็นได้
เพราะฉะนั้น ผมอยากให้คุณเริ่มต้นที่การคำถามง่ายๆ กับตัวเองก่อนว่า คุณอยากไปทำอะไรที่โตเกียวบ้าง ?
สำหรับคำตอบที่ได้มาก็น่าจะมีประมาณนี้ อยากไปช็อปปิ้ง อยากเดินดูใบไม้เปลี่ยนสี อยากไปดูฟูจิ อยากดูหิมะ อยากไปเล่นสกี อยากไปขึ้นโตเกียวทาวเวอร์ อยากไปทำบุญที่วัด อยากไปกินอาหารอร่อย ๆ ฯลฯ
ซึ่งถ้าคุณได้คำตอบมาแล้ว แสดงว่าเริ่มมาถูกทางแล้วครับ คุณจะพอเห็นภาพลางๆ แล้วว่า สิ่งทีคุณต้องการคืออะไร เหมือนการต่อจิ๊กซอ ที่เริ่มขึ้นขอบจากด้านข้าง ตอนแรกก่อน เราก็จะเติมภาพตรงกลางที่หายไปได้ง่ายขึ้น
จากนั้นสิ่งที่ควรทำต่อจากนี้ก็คือ เริ่มหารายการสถานที่ ที่เราต้องการไป เพื่อให้ตอบโจทย์ คำถามด้านบนของเราแล้วครับ เช่นสถานที่ช็อปปิ้ง ร้านอาหาร จุดชมวิว วัดที่อยากไป
พอได้รายการพวกนี้มาเสร็จแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือ เอารายการพวกนั้นมาจัดระเบียบ Grouping และจัด Priority ความสำคัญ เอาไว้ เพราะบางทีเราอาจจะไม่สามารถไปได้หมด จะได้รู้ว่าอะไจที่พลาดไม่ได้ อะไรที่ไม่ไปก็ได้ โดยส่วนตัวผมจะใช้ Function Google Map ที่มันจะสามารถปักหมด แล้ว save เก็บไว้ได้ อันนี้ช่วยได้มากเลยครับ เวลาเราไปถึงประเทศญี่ปุ่น เราก็จะได้รู้ว่าอะไรอยู่ใกล้ อะไรอยู่ไกล เดินทางสะดวกขึ้นเยอะครับ
เสร็จเรียบร้อย สุดท้ายก็จะเป็นการ หยอดสถานที่ต่าง ๆ เข้ากับวันในแต่ละวัน ว่าเราจะไปไหนบ้าง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ แผนการเที่ยวแบบง่ายๆ ด้วยตัวคุณเองเรียบร้อยแล้ว
แต่นั้นก็ยังไม่จบ เพราะคุณต้องทำการจองที่พัก และ รถไฟสำหรับมาที่พัก และการเดินทางไปฟูจิอีก
สำหรับที่พัก จากที่ผมหาข้อมูลมา ผมแนะนำว่าไปพักตรง Nippori กับ Ueno น่าจะดีสุด เพราะว่า สามารถเดินทางจากสนามบินมาที่พักได้สะดวกมาก ๆ จากนาริตะ มันจะมีรถไฟของ Keisei วิ่งตรงมาลงสองสถานีนี้ได้เลย เรียกได้ว่า ถ้าเจอที่พักไหน สวย ๆ ราคาโดนใจ อยู่ใกล้สองสถานีนี้ก็จัดได้เลยครับผม เรื่องสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ เรื่องของการจองที่พัก ส่วนตัวผมเองเจอมากับตัว จองช้าไปแค่วันเดียว ราคาปรับขึ้นจนน่าใจหาย ลองติดเล่น ๆ ถ้าเราพัก ทั้งหมด 8 คืน ราคาเพิ่มขึ้น แค่ 300 บาท นี่เท่ากับว่าเราต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 2400 บาท เพราะฉะนั้น เราควรวางแผนการจองที่พักแต่เนิ่น ๆ จะได้ราคาที่ถูกกว่าครับผม
ลายแทงสำหรับไปจองตั๋วครับ สามารถจองออนไลน์ไว้ได้เลย http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/index.php
อีกอย่างตอนที่จอง มันจะถามว่า เราลง Terminal ไหน ถ้าไป AirasiaX เราเลือกจะลงที่ Terminal 2 นะครับผม อย่าไปจอง 1 นะครับ มันคนละอาคารกัน
สำหรับโปรโมชั่น เขาจะมีขายพ่วงพวก บัตรรถไฟใต้ดินที่ใช้ได้ 1-3 วัน มีให้เลือก ถ้าคุณคิดว่า เป็นแนว ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปหลาย ๆ ที่ในหนึ่งวัน ผมว่าอันนี้คุ้มอยู่นะครับ แต่ถ้าเป็นสายชิล ๆ แบบผม ผมไม่ซื้อครับ เพราะวันหนึ่งผมไปไม่กี่ที่ เน้นใช้เวลาแต่ละที่ให้เต็ม ๆ ดีกว่าครับผม
และที่ขาดไม่ได้ สำหรับคนที่จะเดินทางไปฟูจิ ก็คือ ตั๋วรถบัส ที่จะนั่งจากชินจูกุ ไป คาวากูจิโกะ สามารถจองได้ที่นี้นะครับ http://highway-buses.jp/thai/course/kawaguchiko.php
โดยที่ก่อนจะจองรถบัสนั้น เราควรจะต้องเช็คให้ชัวร์ ๆ ก่อนว่าวันที่เราจะไปนั้น อาการที่ คาวากูจิโกะนั้น ไร้เมฆ พระอาทิตย์ยิ้่มแฉ่ง เพราะไม่งั้น ท่านอาจจะไม่เจอ ฟูจิซังก็เป็นได้ครับผม เราสามารถจองตอนใกล้ๆ ก็ได้นะครับ รถไม่ได้เต็มเร็วขนาดนั้น คือ เน้น เอาวันที่ไปแล้วเจอฟูจิ ชัวร์ ๆ จะดีกว่า เพราะบางทีถ้าจองเป็นเดือน พยากรณ์ อากาศ อาจจะคลาดเคลื่อนได้ครับ ช่วงที่ผมไปนั้น เล็งอยู่นาน กว่าจะเช็คว่าแน่นอนแล้วก็ค่อยจองครับผม สำหรับเว็บที่ใช้เช็คพยากรณ์อากาศ ก็ตามนี้เลยครับผม
https://www.accuweather.com/th/jp/kawaguchi-shi/225815/daily-weather-forecast/225815?day=1
ส่วนอันนี้เอาไว้ดูภาพสด ๆ เอาไว้อ้างอิง เผื่อเราอยากรู้ว่า ถ้าพยากรณ์อากาศ บอกว่า มีเมฆเล็กน้อย มันเล็กน้อยจริง มั้ย มันยังเห็นฟูจิอยู่มั้ย
http://live.fujigoko.tv/?n=3&e=1
เพิ่มเติมส่วนของใบไม้เปลี่ยนสี วิธีการเช็คว่าไปช่วงไหน พีคสุด สามารถเช็คได้ที่เว็บนี้เลยครับผม
https://www.japan-guide.com/e/e2014_when.html
ซึ่งทั้งหมดนี้ เราควรจะต้องจัดการให้เสร็จ ก่อนที่จะถึงวันที่เราจะออกเดินทางจริง ๆ อย่างน้อยสัก 5 วันนะครับ
2. อุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพ และสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรพลาด (ข้อนี้สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพนะครับ ถ้าไม่เน้นข้ามไปได้เลย)
สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้เลย แน่นอนครับคือ กล้อง ใครสะดวก DSLR หรือ Mirrorless ก็จัดได้เลยตามสบายครับ
ต่อมาก็คือเลนส์ ระยะที่ผมใช้เยอะสุดสำหรับ ทริปนี้จะเป็น 24-70 นะครับ ค่อนข้างเป็นระยะที่ใช้ได้ครอบคลุมสุดละ ถ้าเลือกตัวเดียวให้เอาไปเที่ยว ผมคงหยิบตัวนี้ครับผม
ต่อมาถ้าอยากเก็บภาพวิวอลังการ คงต้องติดเลนส์ไวด์ไปด้วย 14-24 หรือ 16-35 ก็ควรติดไว้ครับผม
แต่ถ้าไปกับแฟนสาว ผมแนะนำว่าควรจะติด Fix ระยะ 35 หรือ 50 ไปด้วย เพราะบางจุด เราอยากได้ชัดตื้น สวย ๆ ก็จะได้ไม่พลาดครับผม
พิเศษ สำหรับคนที่จริงจัง ก็คงหนีไม่พ้น 70-200 เพราะบางจุด เราสามารถ Zoom เข้าไปเจาะได้ อย่าง Tokyo tower , Fuji san
ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ผมแนะนำดังนี้
- แบตกล้อง อย่างน้อยควรจะมีพกสำรองไว้ด้วย เพราะเหลือดีกว่าขาดแน่นอนครับ วันหนึ่งโดยเฉลี่ย ทริปนี้ผมถ่ายประมาณ 700 ภาพ
- ขาตั้งกล้อง อันนี้ควรค่าต่อการนำพาไปอย่างยิ่ง แต่…เดี๋ยวก่อน ขาตั้งกล้องมันมีหลากหลายแบบมาก ๆ ตั้งแต่
- ขาตั้ง แบบปกติ – เอาไว้ใช้ตามสถานที่ทั่ว ๆ ไป คนไม่เยอะมาก สามารถกางได้แบบไม่ต้องเกรงใจใคร มั่นคง ภาพที่ได้คมแน่นอนครับผม
- ขาตั้งจิ๋ว ๆ – บางจุดเราไม่สามารถกางขาตั้งได้ ผมว่าขาตั้งจิ๋ว นี่ช่วยได้เลยเลยทีเดียวครับ กางง่าย หุบง่าย ภาพที่ได้อาจจะไม่ได้มุมที่ต้องการดังใจนัก แต่ก็เรียกว่าสามารถแก้ขัดได้ดีทีเดียวครับ
- ขาตั้งหนวดปลาหมึก – อันนี้ตัวทีเด็ดเลยครับ ผมมองว่า สำหรับจุดที่ไม่สามารถกางขาตั้งกล้องได้ ตัวนี้เด็ดมากครับ เพราะสามารถ พันไว้กับตามขอบ หรือ ราว ต่าง ๆ ได้ แถมผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่แพ้ขาตั้งกล้องซะด้วย ผมบอกเลยว่า ถ้าขึ้นไปที่ Tokyo skydeck เขาห้ามเอาขาตั้งกล้องขึ้นไป แต่อันนี้สามารถเอาขึ้นไปได้ ซุก ๆ ไว้นิดหนึ่งก็ดีครับ คุณได้ภาพที่แจ่ม ๆ อย่างแน่นอน
- กระเป๋ากล้อง – สำหรับผม ไอเทมนี้ผมเน้น ต้องช่วยให้ผมสามารถผ่อนน้ำหนักของอุปกรณ์เวลาเราเดินทางได้ สามารถหยิบใช้ เปลี่ยนเลนส์ ได้สะดวก ไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะบางที่ คนจะเยอะมาก ๆ ถ้ากระเป๋าเทอะทะ จะเริ่มเที่ยวไม่สนุกละครับ
- Memory card – ทริปนี้ผมเอาไป ใช้ . 128 Gb + 64 Gb แล้วถ่ายเสร็จ แต่ละวันก็ถ่ายลงคอมตลอด ไม่มีปัญหาอะไรครับ หนึ่งวันใช้ได้เหลือ ๆ
- HDD สำหรับสำรองไฟล์ที่เราถ่ายไว้แต่ละวัน – จบทริปนี้ ผมกลับมานี่ถึงกับต้องซื้อ HDD เพิ่มเติมอีกลูก เนื่องจากไฟล์ที่ได้จาก กล้องของผม (Nikon D850 มันเวอร์วังมาก ภาพละ เกือบ 100mb)
3. วิธีการหาร้านกินอร่อย ๆ แบบง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพ
ปกติทั่ว ๆ ไปเราก็จะทำการบ้านก่อนไปโดยการ ค้นหา Google กับ Keyword ประมาณว่า ของกินอร่อย ที่โตเกียว ,บุฟเฟ่โตเกียว ฯลฯ ซึ่งทั้งนี้สิ่งที่คุณจะเจอ ก็คือ ลายแทงเก่า ๆ ที่บางทีเขาเขียนไว้เมื่อหลายปีมาแล้ว
และโดยส่วนตัว ผมอยากลองอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง มันรู้สึกว่า เป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ที่เราได้ลองค้นหา อะไรใหม่ ๆ ด้วยตัวเราเอง ถ้าทุกอย่างมันอยู่ในแผนหมดบางทีก็ไม่ค่อยสนุก และตื่นเต้นอะครับ
ซึ่งวิธีการก็ง่ายมาก ๆ Google Map เลยครับผม เราสามารถใช้ Function การค้นหา ร้านอาหารที่อยู่บริเวณที่เราอยู่ได้เลย ซึ่ง Function นี้ทำให้ผมพบกับร้านอร่อย ๆ ตั้งหลายร้านสำหรับทริปนี้เลยครับ แจ่มจริง ๆ ขอบอก แนะนำให้ลองเลยครับ
อีกอย่างที่อาจจะเป็นเคล็ดไม่ลับคือ บางครั้งร้านอร่อยๆ เขาอาจจะไม่มีภาษาอังกฤษ สิ่งที่เราทำเวลาสั่งอาหารคือ ชี้รูปเอาครับ อาจจะยากหน่อย แต่รับรองว่าเขาจะเข้าใจเราแน่นอนครับผม 555555
4. Location เด็ด ๆ ในโตเกียว ที่ไม่ควรพลาด
-
ทะเลสาป Kawaguchiko *****
เพื่อไปดู Fuji san อันนี้ถ้าค้างคืนได้ แนะนำให้ค้างคืนเลยครับ แต่เช็ค ภูมิอากาศก่อนนะครับผมเอาวันที่ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆจะดีมาก บรรยากาศรอบ ๆ ทะเลสาปนี่สวยมาก ๆ ครับ สามารถเดินทาง จากโตเกียวมาได้โดยนั่งรถบัสจากสถานีชินจูกุ โดยเข้าไปจองตั๋วผ่านเว็บนี้ได้เลยครับ http://highway-buses.jp/thai/course/kawaguchiko.php ทั้งนี้แนะนำให้จองรอบเช้าที่สุดเท่าที่จะตื่นไหว และค้างสักคืน จากนั้น วันต่อมาก็อาจจะกลับสักประมาณรอบ ทุ่มหนึ่งก็ได้ครับ เพราะว่าฟ้าจะมืดเร็วมาก ประมาณ 17.30 ก็มืดแล้วครับ เราก็หาอะไรทานแถว ๆ นั้นก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถกลับสัก ทุ่มหนึ่งจะกำลังพอดีมาก ๆ ครับผม
- Ueno Park ****
วันที่ผมได้ไปนั้น เนื่องจากว่าเป็นวันที่ฝนตก ผมก็เลยเลือกไปที่ Ueno park เนื่องจากมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าเดินมาก และใหญ่มาก ๆ เรียกว่าใช้เวลาได้ทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกน่าเบื่อเลยครับ ชื่อพิพิธภัณฑ์ว่า Ueno museum of nature and science
-
Tokyo city view sky deck *****
ทีเด็ดเลยครับสำหรับที่นี้ ขึ้นไปชมวิว สวยมาก ๆ แนะนำว่าควรไปประมาณตั้งแต่ 15.00 น. อยู่จนถึงสักทุ่มสองทุ่ม ถ่ายรูปสวยมาก ๆ เราจะได้เห็นวิว Tokyo Tower ที่โดดเด่นตระการตา สวยโคตร ๆ
- ข้อพึงระวังคือ ต้องระวังแสงสะท้อนจากกระจก เพราะเราต้องถ่ายรูปผ่านกระจก
- สถานที่นี้เอาขาตั้งกล้องขึ้นไปได้นะครับ แต่ถ้าจะขึ้นไปชั้นดาดฟ้า Sky deck นั้นไม่สามารถเอาขาตั้งกล้องขึ้นไปได้นะครับ แต่สามารถ เอา ขาตั้งกล้องแบบ หนวดปลาหมึกได้ แต่…ผมไม่ได้ขึ้นนะครับทริปนี้ ไปตอนดึกแล้ว เสียดายมาก
- ทริกเล็ก ๆ เวลาถ่ายให้เอาเลนส์ แนบกับกระจกไปเลยครับ หรือ ถ้าหากว่าอยากได้อุปกรณ์ช่วยที่ไฮโซกว่านั้น แนะนำตัวนี้เลยครับ Lenskirt ทีเด็ดมากครับตัวนี้ หรือเอาผ้าดำคลุมเอาไว้ตอนถ่ายก็โอเคนะครับ (ปัญหาคือ เราไม่รู้ว่าจะเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เลยไม่ได้เตรียมไปนี่สิครับ)
-
Tokyo Tower *****
อันนี้สวยงามมาก ส่วนตัวผมเดินตามลายแทง ไปเก็บรูปสวย ๆ ของ แต่ละมุมของ Tokyo Tower รอบ ๆ แต่ผมไม่ได้ขึ้นไปบน Tower นะครับ คือ แบบว่าเดินไปบริเวณนั้นหันไปกี่ทีก็เจอ มันเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ แนะนำเลยคับ ใครชอบถ่ายรูป ไปตามลายแทงนี้ รับรองฟินแน่นอนครับผม
-
Tokyo Skytree ****
ที่นี้ก็สวยครับ แนะนำให้ไปยืนดูที่ ตึก Tourism information ตรงข้ามทางเข้าวัด Sensoji ขึ้นไปได้เลยครับ อันนี้ฟรี ข้างบนสวยมาก ๆ เลยครับ แถมยังได้เห็นวัด Sensoji แบบเต็ม ๆ อีกด้วยครับผม แจ่มแมวมาก ๆ
-
Sensoji Temple ***
สำหรับวัดนี้ ส่วนตัวผมมองว่ามันเหมือนเป็น Shot บังคับกับคนที่มาโตเกียวครั้งแรก ก็แวะมา เรียกว่าไม่ได้เสียหาอะไร แล้วก็แวะทานเทมปุระเจ้าดังแถว ๆ วัด
- Asakusa Culture Tourist Information Center ***
ถ้ามาเที่ยววัด Sensoji แนะนำให้แวะมาที่นี้เลยครับผม ขึ้นไปชั้นบนสุด สวยมาก ๆ เห็น Tokyo skytree ด้วย สวยสุด ๆ แล้วยังได้เห็น วิววัด Asakusa แบบเต็ม ๆ ด้วยครับ
-
Shibuya ****
ย่านช๊อปปิ้ง และจุดถ่ายรูปอลังการ ที่ห้าแยก ชิบูย่าในตำนาน แนะนำว่าจะถ่ายให้สวย ต้องมีเลนส์ Wide อย่างน้อย สัก 20 mm ขึ้นไป ถ้าเอาไปแค่ 24 mm ส่วนตัวผมว่า ภาพที่ได้มันจะไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าพอกล่อมแกล่มอยู่ และติดขาตั้งกล้องไปด้วยนะครับ ใครอยากหาซื้อรองเท้าผ้าใบสวย ๆ แนะนำ เดินแถวนี้ อย่างน้อยต้องโดนสักคู่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ABC Mart , Atmos และอื่น ๆ อีกมากมาย
- รวมสวนสำหรับเข้าไปเดินเล่นดูใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ
- Meiji Jingu ****
ศาลเจ้าเมจิ เป็นสถานที่ ที่เรียกว่าเป็น Shot บังคับ สำหรับคนที่มา Tokyo ส่วนใหญ่ก็จะแวะมาที่นี้ ทีเด็ดที่นี้จริง ๆ ที่ผมชอบมาก ๆ ก็จะเป็น สวนในนี้ที่ต้องเสียเงินเข้าไปเพิ่มอีก 500 yen แต่ว่าข้างในสวย และควรค่าแก่การเข้าไปดูอย่างมากครับ อย่างกับสวรรค์เลย
- Icho Namiki (Ginkgo Avenue) ****ทีเด็ดของที่นี้คือ ต้นแป๊ะก๋วย สีเหลือ ที่เรียงรายเป็นแนวยาว สวยมาก ๆ ๆ ๆ ใครชอบถ่ายรูปรับรองว่าเป็นที่ ๆ มาถึงแล้วจะต้องตื่นตาสุด ๆ ครับ
- Shinjuku Gyoen National Garden ****สำหรับสวนนี้ทีเด็ดที่ผมชอบที่สุดคือ มีเรือให้พาย และ ถีบ สามารถเลือกได้เลยว่าเราชอบแบบไหน อากาศดีมาก ๆ วิวสวย ๆ เดินเล่นเพลิน ๆ
- Rikugien Gardens ****
Highlight ของที่นี้ คือมีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปได้แบบเพลินมาก ๆ ที่สำคัญอย่าลืมเอา เลน Zoom 70-200 ไปด้วยนะครับ shot ตรงสะพาน สวยมาก ๆ ถ้าจะให้ดีเอาขาตั้งกล้องไปด้วยเลย รับรองได้ภาพแจ่ม ๆ กลับมาแน่ ๆ ครับผม
- KOISHIKAWA KŌRAKUEN GARDEN ****
สวนแห่งนี้ ใครชอบถ่ายรูป ก็แนะนำอีกเช่นกันครับ อย่าลืมติด 70-200 ไปด้วยนะครับถ้ามี รับรองจะได้ Shot เด็ด ๆ กลับบ้านมาเพียบ
- Meiji Jingu ****
-
Tsukiji ****
ย่านตลาดปลา อันนี้สายกินห้ามพลาด มาเช้า ๆ เดินหาของกินอร่อย ๆ เพี๊ยบ แนะนำว่าร้านไหนที่คนต่อคิวกันเยอะ ๆ เราเดินไปลองได้เลยครับ เด็ดแน่นอน !!! สายกินห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
-
Akibahara ***
ย่านนี้ เน้น Shopping ส่วนตัวผมไม่ค่อยอินกับย่านนี้เท่าไหร่ครับ ถ้าไม่ได้ซีเรียสก็ผ่านไปได้เลยครับผม
-
Kichijoji Station ****
ย่านฮิปสเตอร์ ร้านสวย ๆ ชิก ๆ เต็มไปหมด แนะนำเลยครับ มาเดินย่านนี้ ทั้งร้านขนม ร้านกาแฟ สวย ๆ เต็มไปหมด เดินเล่นได้เพลินไปเลยครับ
-
Odiba *****
เป็นอีกสถานที่ ที่ผมถือว่าไม่ควรพลาดด้วยประกันทั้งปวงครับ เพราะว่าวิวที่นี้สวยงามจับตามาก ๆ ครับ ตรง สะพานสีรุ้ง หรือ Rainbow Bridge เทพสันติภาพ และ โตเกียวทาวเวอร์ มันจะเป็น Shot ที่ของสามสิ่งนี้ มารวมกันอยู่ในเฟรมเดียว สุดจริง ๆ ครับกับวิวตรงจุดนี้ แนะนำว่า ห้ามลืมเอาขาตั้งกล้องไปเด็ดขาดครับผม จุดถ่ายรูปมีเยอะมาก ๆ ครับ ตั้งแต่ตอนที่ไปถึง จะมีจุดหนึ่ง ตรงสุดท้ายเดิน Sky walk ตรงห้าง Aqua City แถว ๆ นั้นจะมีมุมให้ถ่ายได้หลายจุด จากนั้น เดินลงไปด้านล่าง เดินเล่นตรงริมแม่น้ำ สามารถตั้งกล้องถ่าย สะพานสีรุ้งได้อีก สวยมาก ๆ ๆ ๆ
พอหันหลังกลับมาก็จะเจอกับตัวห้าง Aqua City ที่สวยงามพอ ๆ กันครับผม พอถ่ายตรงนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปถ่ายกันดั้ม ตรงหน้าห้าง Diver City ที่จะเจอกับหุ่นยักษ์โคตรอลังการอะครับ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ กันดั้มนี่ ต้องไปสักครั้งในชีวิตจริง ๆครับ
5. Shopping list ในแบบฉบับของผม ซื้ออะไรที่นี้ดี !!!???
- รองเท้า Made in Japan !!!
- ผมชอบรองเท้าฟุตบอล เรียกได้เลยว่า ที่นี้นี่สวรรค์เลยครับ รองเท้ารุ่นดี ๆ มีขายเพียบ แนะนำร้าน Gallery 2 ที่ Shibuya , ร้าน Kamo
- รองเท้าผ้าใหม่ แนะนำ Atmos , ABC
- อุปกรณ์กล้องทั้งหลาย ส่วนใหญ่ถูกกว่าบ้านเราเยอะพอสมควรครับ แบต ที่ชาร์ต ขาตั้งกล้อง Filter กระเป๋ากล้อง
เป็นเช่นไรกันบ้างครับ หวังว่าน่าจะได้ประโยชน์จาก รีวิวของผมไม่มากก็น้อยนะครับผม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประสบการณ์ของผม จะช่วยให้คนที่กำลังเดินทางไปโตเกียว ไม่พลาดที่จะเก็บความประทับใจกลับบ้านมาแบบเต็ม ๆ กันนะครับผม หากใครมีคำถามส่วนไหนเพิ่มเติม ผมยิ่งดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์กับทุกท่านครับผม
สามารถติดตามผมได้จาก www.iampiyapat.com