ไปไหมมาเก๊าอ่ะ จะเสี่ยงดวงเหรอ…
ฟังเพื่อนทักแล้วชวนหงุดหงิดเล็กน้อยเหมือนโดนใส่ร้ายว่าจะไปเล่นการพนัน 555 รีวิว 11 จุด กิน เที่ยว พัก มาเก๊า ทำให้เราต้องพาครอบครัวกลับมาเที่ยวอีก จึงเกิดขึ้นเพราะคำพูดข้างต้นเลย คือเราเคยไปมาเก๊ามาครั้งนึงแล้วชอบกันมาก คุยกันกับเย่น (แม่ปัน) ว่าไว้เรากลับมาใหม่กันนะ เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน มันน้อยเกินกว่าจะสรุปได้แถมไปแบบไม่วางแผนมันก็มึนๆ งงๆ เกินไป รอบแรกนั้นเราไปที่ๆ เค้าแนะนำกันทั้งนั้น เดอะวาเนเชียน เดอะปารีเซียน จตุรัส โบสถ์เซนต์ปอล และอีกหลายที่ฮิตฯ แต่ไปแล้ว รู้แล้ว เราเลยสงสัยกันเองว่า ถ้าจะกลับไปอีกรอบแบบ ไม่เข้าบ่อน เข้าคาสิโน หรือที่คนเยอะๆ ฮิตๆ มาเก๊า(ยังจะเหลือ)เที่ยวได้ไหม มะเรามาพิสูจน์กัน 3 วัน กับ 9 จุดที่เราไม่เที่ยวที่ฮิตๆ ทัวร์ชอบลงกัน มันเป็นไปได้ไหม มะตามบ้านเรามาเลยนะ
การเดินทางจากไทยสู่มาเก๊า ด้วยสายการบิน Air Macau
มาเก๊าอยู่เหนือประเทศไทยด้วยเวลาการเดินทาง ไม่ถึง 3 ชั่วโมง จึงไม่ยากที่จะนั่งเครื่องบินไปมา และรอบนี้เราบินด้วยสายการบินแห่งชาติมาเก๊า Air Macau ทำให้สะดวกสบายที่สุดทั้งไปกลับ ประสบการณ์ที่อยากแชร์มากเลยคือ การที่เราจองตั๋วล่วงหน้านานพอ ระดับ 2 เดือนขึ้นมันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายยังไม่พอ ยังช่วยให้เราได้ที่นั่งดีๆ จากการไปเช็คอินล่วงหน้าให้นานพอด้วย!!! อย่าง แถวแรกชั้นของ Econamy ของ Air Macau จะไม่เปิดให้จองที่นั่งผ่านหน้าเว็บ ต้องไปทำจองที่ Counter Checkin อย่างเดียวครับ โดยถ้าเราไปเร็วๆ แจ้งเจ้าหน้าที่เค้าจะเช็คในระบบเค้าว่ามี VIP มาหรือไม่ในเที่ยวบินนั้น ถ้าไม่มี คุณก็ได้ที่นั่งแถวแรกไป แบบนี้เป็นต้น
อย่าเข้าใจผิดว่ารูปนี้เป็นโลโก้ นมไวตามิลล์นะครับ 555
นี่คือชั้น Business Class ที่เราอับเกรดตอนขากลับครับ สบายเลิฟๆเลย
ส่วนขาไปนั่งแถวแรกเลย แบบนี้ยิ้มกันไม่หุบ
มีทีวีให้ดูอยากได้หูฟังก็สอบถามแอร์โฮสเตจได้เลยครับ จริงๆมีหนังสือพิมพ์ภาษาท้องถิ่นนั้นๆให้อ่านด้วยถ้าคุณต้องการอันนี้เลิฟมากกก เรามีไทยรัฐอ่านบนเครื่องด้วยอ่ะ
มาดูอาหารนะครับ อันนี้เป็นของปัน ข้าวหน้าไก่ อร่อยใช้ได้
ที่ถูกใจผมสุดคือ ผัดเส้นใหญ่กุ้งคล้ายผัดซีอิ้วบ้านเรา อันนี้เลิฟเลย อร่อยมาก
แถมขากลับเรามีโอกาสเข้า Lounge Air Macau เพราะอับเกรดไปนั่งชั้น Business Class เลยเก็บภาพมานิดหน่อย ต้องบอกว่าโดยรวมดีมาก เหมาะกับการทิ้งตัวก่อนบิน
มีอาหารเยอะเลย กินอิ่ม นอนหลับกันทีเดียว
เครื่องดื่มมากมาย มีทั้งแบบแอลฯ และสำหรับปัน แยกผู้ใหญ่แยกเด็กชัดเจน
มีเก้าอี้นวดไฟฟ้า แม่ปันนี้ถูกใจมาก
ส่วนของการเดินทางตลอดทริปถือว่าประทับใจทีเดียว ในราคาที่จ่ายพอๆกับ นั่ง Low cost นั้นเลยครับ หลายคนเข้าใจไปเองว่าราคาบินแบบ Full Service จะต้องแพงกว่า Low cost เสมอ คุณเข้าใจผิดในเส้นทางนี้มากๆเลย เพราะอย่างที่เห็นครับ นี่ผม Capture ราคาวันนี้ให้ดูเลยว่ามันเท่าไหร่ อันนี้ถ้าจองล่วงหน้านานๆ ราคาก็จะประหยัดลง
และที่สำคัญ จนถึงสิ้นปีนี้ 2017 ตั๋วอย่าทิ้งนะครับ เอา Boarding Pass ไปแลก สิทธิพิเศษ ส่วนลดเข้าที่เที่ยวต่างๆเกิน 40% ได้อีก โปรดดูรีวิวต่อจะทราบ หรือบางแห่งเข้าฟรีกันเลย
แล้วแบบนี้จะไม่บินได้ไง ลองคำนวนเล่นๆดูบินราคาไม่แพง ยังได้รับส่วนลด เอามาหักที่ต้องจ่าย ผมประหยัดไปอีกราวๆ 100 กว่าเหรียญมาเก๊า/ฮ่องกงเลยครับ เอาเรท 4.4 X 100 = 440 บาท เอาไปซื้อขนมกินให้ปันได้อีกนะนั้น ^_^
สนใจเข้าไปดูกันได้ที่เว็บ AirMacau นะครับ
การเดินทางในมาเก๊า
มาเก๊าเป็นเขตปกครองพิเศษของจีนที่เคยตกอยู่ในการดูแลปกครองจากโปรตุเกส จนมาคืนอำนาจอธิปไตยเมื่อตอนปี 2542 นี่เอง มาเก๊าประกอปด้วย 4 เขตย่อยเข้าด้วยกัน ไล่จากเหนือลงใต้ มาเก๊า ไทปา โคไท และโคโลอา ทั้งหมดสามารถเดินทางได้ด้วยรถเมล์ที่วิ่งแยกกันวนไปมารอบๆ ก็คล้ายรถเมล์กรุงเทพฯ บ้านเราจะมีสายต่างๆ วิ่งข้ามจากเขตนึงไปเขตนึงกันไปกันมา ราคาก็เริ่มตั้งแต่ 1.5 MOP (เทียบง่ายๆก็ 1.5 HKD นั้นละนะ) แต่ที่พิเศษสำหรับการเดินทางคือการใช้ Free Shuttle Bus จากโรงแรมทั่วเกาะของมาเก๊าที่มารอรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่สนามบิน หรือจากท่าเรือที่มาจากฝั่งฮ่องกง
นี่ครับเดินออกจาก Gate ให้มองด้านซ้ายไว้แล้วตรงไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกไปที่บรรดารถ Shuttle Bus ของทุกโรงแรมที่อยากได้นักท่องเที่ยวไปยังโรงแรมของตนรอรับกันเพียบ
เราจึงสามารถโดยสารกันตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินไปยังจุดท่องเที่ยวหลักๆ ของที่นี่ได้เลย แต่ส่วนใหญ่ก็จะต้องไปต่อที่โรงแรมนั้นๆก่อน เช่น นั่งรถบัสของ Studio City จากสนามบินไปลงที่โรงแรมเพื่อต่อรถบัสของโรงแรมไปยังจุดรับส่งใกล้ วิหาร เซนต์ ปอลล์ ได้ การท่องเที่ยวในเมืองนี้จึงสะดวกรวดเร็วด้วยบัสเหล่านี้ เราเองตลอดทริปนี้ก็ใช้บัสโรงแรมต่างๆผสมกับนั่งรถเมล์ไปมาระหว่างจุดท่องเที่ยวแต่ละจุด มันก็สะดวกมาก ยิ่งถ้าใช้บัตร Macau Pass ด้วยแล้วประหยัดกับการนั่งรถเมล์สายต่างๆให้ถูกลงได้อีก
บัตร Macau Pass
ข้อดีของบัตรใบนี้เลยคือ สามารถใช้ซื้อของกินของใช้ในร้านสะดวกซื้อทุกยี่ห้อได้หมด เช่นใน 7-11 หรือ Family Mart ก็ได้ หรือสามารถเอาไปเป็นส่วนลดตอนขึ้นรถเมล์ทั้งเกาะได้หมด ปรกติราคาถ้าเราจ่ายปรกติจะเริ่มที่ 1.5 MOP แต่พอใช้บัตร จะเหลือแค่ 1.2 MOP แบบนี้เป็นต้นครับ จึงเหมาะมากหากใครจะซื้อไว้ใช้และยังสามารถเติมเงิน หรือ หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆมีขายหมด อย่างเราก็ซื้อใน 7-11 ตัวบัตรจะต้องจ่าย 130 เหรียญ ใช้ได้ 100 เหรียญ เป็นค่ามัดจำ 25 เหรียญ และค่าธรรมเนียมใช้บัตร 5 เหรียญ เวลาคืนจะได้คืนเฉพาะค่ามัดจำบัตร 25 เหรียญเท่านั้น ซึ่งต้องไปคืนที่สำนักงานใหญ่อยู่ที่จตุรัสเซนาโด้(Senado Sqaure) เท่านั้นด้วย เพราะงั้นซื้อแล้วใช้ตังให้หมดแล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือหากมาคราวหน้าก็เอากลับมาใช้ได้ใหม่
Internet
รอบนี้ผมสอยเอา Pocket Wifi จาก Samurai Wifi หรือ Global Wifi นั้นเองเค้าเจ้าเดียวกัน ไป เดี๋ยวนี้แบตเตอร์รี่รุ่นใหม่ใน Pocket จะอึดมาก รุ่นนี้ดีมากของ pocket จะใช้ได้ทั้งวันโปรเราที่ได้คือ 500 mb / 1 day ถ้าหมดความเร็วมันจะลดลงแต่ใช้จริงๆมันก็ไม่ถึงนะเพราะไมไ่ด้อับไรนักหนาเหลือทุกวัน ที่ชอบก็ต้องแบตนี่ละครับ สนใจก็เข้าไปเลือกดูเอาที่เพจเค้าเลย https://www.facebook.com/bs.mobile.thai/
การแลกเงิน
ตอนไปผมแลกกับ Super Rish ไปครับ คงไม่ต้องบอกว่าหาที่ไหนเรารู้จักกันดี แต่ที่จะเล่ามันเป็สไตล์ส่วนตัวของเรานะครับ แชร์กันเฉยๆ ผมมันจะไม่แลกเผื่อนัก เพราะถ้าอยากจะช้อปปิ้งจะใช้ บัตรเครดิตเป็นตัวช่วย ส่วนสาเหตุ “กลัวหายครับ” ผมเคยมีประสบการณ์โดน ล้วงกระเป๋าตังตอนสมัยไปยุโรปครั้งแรก ทำให้เราต้องระวังตัวมากขึ้น การพกพาเงินในปริมาณเยอะๆ เลยจะทำให้เรากังวลซะเปล่าๆ อย่างรอบนี้เชื่อไหมเราไปกัน 3 คน พ่อแม่ลูก แลกันไปแค่ 5,000 บาทเท่านั้น กระจายเงินกันเก็บด้วย ส่วนเรทตอนแลกไป อยู่ที่ 4.4 บาท/ 1 HKD ครับ เนื่องจากเงินสกุล มาเก๊าไม่มีให้แลกและจริงๆ แลกเป็น hk มันก็พอๆ กันเราอาจจะขาดทุนประมาณ 0.01-.02 ผมว่าไม่คิดไรมากเก็บเป็น HK เรายังแลกกลับได้ครับ และก่อนจะกลับถ้ามีเงิน MOR (มาเก๊า)เหลือก็จะใช้ให้หมดดีกว่า เพราะยังไงก็แลกกลับเป็นบาทไม่ได้เพราะงั้นใช้ให้หมดจะดีที่สุด
มาเที่ยวกันเถอะ เที่ยวมาเก๊าสไตล์ครอบครัว ไม่เอาบ่อน ไม่เอาการพนัน เที่ยวได้สบายๆ
ที่พัก
รอบนี้เราพักค่อนข้างดีหน่อย พักที่ Sofitel Macau At Ponte 16 สุดยอดโรงแรมหนึ่งเดียวในมาเก๊าในเครือ Accor ครับ โรงแรมที่วิวดีสุดๆ เราจองผ่าน Booking.com ไป
เกณฑ์ราคาที่พักในมาเก๊าจะค่อนข้างสูงอยู่แล้วทำให้เราตัดสินใจกันไม่ยาก เพราะยังไงก็ไม่ถูก ไหนๆแล้วก็นอนดีๆกันเถอะ ที่สำคัญที่นี่มันไม่มีคาสิโนอย่างที่เป้าหมายเราตั้งใจไว้
ที่พักแบรนด์นี้เป็นแนว LUXURY แนว ครอบครัวอยู่แล้ว ข้อดีเลยมันอยู่ใจกลางการเดินทางสามารถต่อ รถเมล์ รถบัส Taxi ไปตามจุดต่างๆได้เลย
ห้องก็ใหญ่โต มาก ทีเดียว
บริเวณ สระว่ายน้ำ ด้านบนวิวดีมากกกก สวยมากกกก หรูหราและอลังการ ว่ายไปดูวิวไปฟินยกกำลังสิบ
ต้องบอกก่อนว่าเราประหยัดได้มากเลยทีเดียวเพราะใช้ โปรจาก Booking.com ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้ 1000 บาท อย่างที่เห็นจากราคา4,475 บาท ก็จะเหลือแค่ 3,475 บาท เท่านั้น
เพราะเราใช้ Link นี้ในการลดราคาได้ https://booki.ng/2wOUBSC
ทำให้รับเงินคืนเข้าบัตร 1,000 บาท ได้เลย แค่ต้องจองให้ที่พักราคาเกิน 2,000 บาท ซึ่งมันก็เกินอยู่แล้ว สำหรับใครที่สนใจวิธีการลดราคาโดยผ่าน booking.com สามารถเข้าไปอ่านวิธีการได้ที่นี่เลยครับ สอนการใช้แบบ เสต็บบายเสต็บเรียบร้อย http://blog.one22.com/archives/25795
1.ที่แรกที่อยากพาไปคือ ถนนที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ TAIPA Street Food (Rua do Cunha) หรือในนาม หมู่บ้านไทปา Taipa Village
วิธีเดินทาง: นั่งรถเมล์สาย 11, 15, 22, 28A, 30, 33, 34 ลงที่ป้าย Ponte Negra / Rua Do Regedor เดินเข้ามาจะเจอถนนสายอาหารเลย
ที่แรกที่ทำให้เราต้องมาคือที่นี่จะเรียกว่าเป็นถนนหมูแผ่นก็ว่าได้นะ เพราะตลอดเส้นทางราวๆ 500 เมตรของตรอกเล็กๆ นี้มีหมูแผ่น ตลอดทางนอกจากจะมีอาหารแล้วย่านนี้ถ่ายรูปได้บรรยากาศน่ารักๆเยอะมาก มีบันไดสั้นๆ ที่คนชอบมาถ่ายรูปกันรวมถึงหนังหลายๆเรื่องก็เคยใช้ทำเลนี้ถ่ายกัน มีขนมคุ้กกี้คิวย้าว ยาว ที่เราก็ไม่แน่ใจว่าอร่อยขนาดไหน มีเบอร์เกอร์หมูสไตล์โปรตุเกส คือการเอาขนมปังสองแผ่นประกบหมูทอยชิ้นใหญ่ กินง่ายแต่ร้านรวมย่านนี้ขายดีเหลือเกิน
มีไอติมโปรตุเกส ราคาแพงงงง (30 MOR) แต่เสน่ห์อยู่ตรงคนขายที่เล่นกับลูกค้าที่กว่าจะได้กินไอติมนี่อมยิ้มฮากันทุกคน
ตกเย็นจรดค่ำมืด ถนนเส้นนี้ร้านรวงกลับคึดคัก แถมร้านอาหารไทยเรานี่สงสัยคนมาเก๊าและนักท่องเที่ยวจะชอบกันเราเจอเกิน 4 ร้าน ทีแรกยังว่าจะลองกินให้รู้ว่าอร่อยเหมือนบ้านเราไหม ตรงผปลายสุดของถนนจะมีบันไดให้เดินขึ้นตรงนี้เราเคยสังเกตุมีหนังหลายๆเรื่องมาถ่ายกันที่นี่ ถือเป็นจุดเช็คอินสำหรับคนมาเที่ยวที่นี่เลย นะ มุมก็สวยจริงๆนั้นล่ะ
มีร้านคุ้กกี้อัลมอลล์ ที่คนเข้าคิวกันยาวววมาก เราเห็นคิวแล้วเลยถอย ใครเคยชิมมาแล้วบอกด้วยนะอร่อยไหม
อ่อที่สำคัญมีร้าน ทาร์คไข่ เจ้าฮิตอย่างLord staw’s Bakery ที่มาเปิดสาขาที่นี่ด้วย
และอีกร้านที่เราเห็นสาวๆเข้าคิวกันเยอะเลยคือร้าน Holy Cheese (Shark Luck Takeaway Snack) นี้เลยลองซื้อมาชิมกันดูส่วนตัวเราว่ามันหวานมากไปหน่อย แต่สาวๆน่าจะถูกใจเพราะ ถ่ายรูปมันก็เก๋ใช่เล่นนะ
เราเลือกกินร้านอาหารจีนอยู่ร้านนีง แถวนี้เลย อาหารโอเคนะ ส่วนตัวเราว่า อาหารฝั่งมาเก๊าราคาไม่แรงเท่าฝั่งฮ่องกง นะ รวมๆนี้อร่อยใช้ได้
เดินกันจนค่ำเราก็กลับที่พักละนะ สำหรับคนที่สนใจจะไปที่นี่ วิธีการเดินทางสะดวกสุดนั่งแท๊กซี่ หรือไม่งั้นนั่งรถเมล์มาได้ สายที่ผ่านตรงถนนด้านหน้าคือ… หรืออยากนั่ง Bus ฟรีแนะนำของ เดอะวาเนเชียนครับ เดินประมาณ 500 เมตรก็ถึงแล้วข้ามฝั่งมาไม่ไกล ถนนนี้สนุกดีร้านเก๋ๆเยอะถ่ายรูปเซพฟี่กันกระจายจ๊ะ
2.ไปดูวิวทั่วๆเมืองที่ Macau Tower
วิธีเดินทาง: นั่งรถเมล์สาย 9A, 18, 18B, 23, 26, 32, 73 ผ่านหมดครับ
ปรกติไม่ว่าจะไปไหนก็ตามถ้าสถานที่นั้นมีหอคอย มี TOWER บ้านนี้จะไม่พลาดหาทางขึ้นไปชมเมืองเค้ากันตลอด ผ่านมาหมดแล้วทั้ง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สุพรรณฯ ขาดก็กรุงเทพฯเนี่ยละไม่สร้างไรแบบนี้เค้าสักทีเนอะ 55
ข้อดีรอบนี้เรามีตัวช่วยคือ ตอนที่ตัดสินใจว่าจะบินด้วยสายการบินอะไรเราเลือก Air Macau ด้วยอีกเหตุผลนอกจากราคาที่ไม่แพงแล้ว ยังเอาตั๋ว Boarding Pass มาเป็นส่วนลดเข้าที่เที่ยวตามจุดต่างๆในเมืองเค้าได้อีก อย่างกรณีที่นี่เราสามารถลดจาก 135 MOR เหลือแค่ 90 MOR เลย ประหยัดมากกก เนี่ยละ
วิธีการก็ไม่ยากเลย เก็บบัตรโดยสารไว้ให้ดีเอามาลงทะเบียนรับส่วนลดตรง เคาน์เตอร์ขายบัตรได้เลยแบบนี้ละ
ขึ้นมาด้านบนวันนี้เราโชคร้ายไปหน่อยมาวันฝนพร่ำ เจอหมอกบดบังวิวซะงั้น
แต่ในโชคร้ายยังมีโชคดี ด้านบนของที่นี่เค้ามีกิจกรรมมากมายให้คนชอบท้าทายความสูงได้ลองพิสูจน์กัน ทั้ง บันจี้จัมพ์ ทั้งออกไปเดินชมวิวบนยอดของยอดตึก ทั้งโรยตัววิ่งไปมารอบๆกระจกด้านนอก อย่างเคสบันจี้จั้มพ์ดูจะเป็นที่นิยมสุดของที่นี่ ให้สังเกตุภาพนี้คุณจะเห็นเงาดๆ เหมือนภาพสติ๊กเกอร์แปะอยู่ที่กระจกแต่จริงๆนั้นไม่ใช่นะ เป็นเงาคนที่เค้ากำลังโดดลงมาพอดีโอ้ยเรียกเสียงฮือฮากันน่าดู เค้าจะมี VDO ให้เราชมกันสดๆถึงคนที่มาลองโดดนะ ขนาดยืนดูเรายังตื่นเต้นปานนี้ถ้าไปโดดเองจะขนาดไหน เด็กน้อยนี่บอกอยากลองกะเค้าด้วยนะ 555
บนนี้จะแยกเป็น 3 ชั้นสำคัญคือชั้นบนสุดจะเป็นจุดชมวิวแบบนี้ รอบๆนอกจะมีพื้นเป็นกระจกให้เราหวาดเสียวกันเล่นๆ ระหว่างเดินไปมา
ชั้นถัดมาเดินขึ้นมาได้เลยจะเป็น LOUNGE สามารถจ่ายเงินตอนซื้อบัตรขึ้นมาได้เลยเช่นกัน อาหารจะเป็นบุฟเฟ่ต์ตักกินได้ไม่อั้น บรรยากาศก็ใช้ได้นะ
และชั้นสุดท้ายจะเป็นชั้นที่เค้ามาทำกิจกรรมกันบนสุด เราสามรถชมภาพคนที่เค้าจะโดดได้ชัดสุดก็บนนี้ล่ะ ปันนี้ตื่นเต้นใหญ่เลย
โดยรวมถ้าไม่ติดว่าเรามาวันที่เจอฝนตกจนหมอกบดบังวิวทุกอย่างมันโอเคมากๆเลยนะ ทั้งส่วนลดที่ได้จากการเอาตั๋วมาใช้ ทั้งบรรยากาศโดยรวม หนหน้าถ้าไม่ติดใดๆก็อยากจะมาชมวิวตอนพระอาทิตย์ตกบนนี้อีกครั้งเพราะวิวน่าจะเมพสุดๆละสำหรับมาเก๊าครับ
3.Event ดีๆทั้งปีที่มาเก๊า มาแล้วอย่าพลาด
จริงๆอันนี้ทีแรกลังเลที่จะหยิบมาแนะนำ แต่อยากจะบอกว่ามาเก๊าเป็นเมืองขยันจัดงานเมืองนึงของเอเชียก็ว่าได้ ด้วยความที่พื้นที่น้อยทำให้เค้าชอบจัด Event ที่ดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวเรื่อยๆ คล้ายกันกับ อีกประเทศใกล้ๆบ้านเราคือสิงคโปร์ นั้นก็เช่นกัน อย่างช่วงที่เราไปเป็นช่วงจัดเทศกาลอาหารมาเก๊าพอดี ปีน้ีเค้าจัดเป็นปีที่ 17 แล้ว กับ The Macau Food Festival
วันที่เรามาเดินทางเที่ยวที่ Macau Tower เค้าจัดบริเวณด้านหน้าพอดี ผู้คนเยอะมาก อาหารเยอะมาก เดินกันจนตาลาย ในงานก็ให้เราซื้อคูปองในการจับจ่ายแบบนี้ละครับ
ร้านส่วนใหญ่เป็นร้านที่ดังในมาเก๊าที่ขนกันมาจัดบูทกัน อย่างร้านดังของฝั่งฮ่องกงที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง Tim Hua Wan สาขามาเก๊าก็มาด้วย
หรือร้านฮิตทั้งคาวทั้งหวานก็พาเหรดกันมา เพียบ
โดยส่วนตัวเราไม่ใช่สายอาหารนักแต่ด้วยบรรยากาศมันก็น่าสนุกไปพร้อมๆกันกับตื่นตา สำหรับเราๆคิดว่าการมาเที่ยวในช่วงเค้ามีเทศกาลต่างๆมันช่วยเพิ่มสีสันให้กับทริปนั้นได้ดี
ทุกคนสามารถเข้าไปเช็ค Event สำคัญๆได้ที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวมาเก๊าที่นี่เลยครับ เวลาจองตั๋วเครื่องบินครั้งหน้าลองแวะเข้าไปดูกันก่อนก็จะได้เที่ยวช่วงงานดีๆของเค้าได้
4.ตะลุยศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า (Science Center Macau) มันโคตะระดีมากกกก เด็กๆไม่ควรพลาด
การเดินทาง: รถเมล์ สาย 3A, 8, 10A, 12 ลงที่สถานี Macao Science Centre
เวลาทำการ: 9:00 – 13:00 น. และ 14:30 – 18:00 น. ปิดทุกวันพฤหัสบดี
หากจะมีที่ไหนที่เด็กๆทุกคนไปแล้วจะรักและสามารถอยู่มันได้ทั้งวันเราขอยกให้ที่นี่เลย จากประสบการณ์เที่ยวมาหลายประเทศ ทุกๆที่หากมีการสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์ขึ้นมามักดีทุกที่
อย่างหนก่อนไปที่ไต้หวันมาก็ว่าประทับใจแล้วนะ แต่พอมาเจอที่มาเก๊านี่ยกให้เลยว่าสุดยอด ห้องที่จัดให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันกับการสอดแทรกเรื่องวิทยาศาสตร์เข้าไปด้วย ห้องที่มีมากกว่า 15 ห้องจะแยกเป็นห้องสำหรับเรื่องที่น่าเรียนรู้ไปเลย 1 เรื่องเช่น ห้องที่เราชอบที่สุดคือห้องพลังงานน้ำ ห้องนี้
ปันจะสนุกกับการรู้จักพลังงานน้ำที่ก่อให้เกิดไฟฟ้า ให้เกิดพายุหมุน เกิดแรงกลขับเคลื่อน โอ้ยผู้ใหญ่อย่างเรายังโคตรสนุกเลย ดูหน้าแม่ปันสิครับ
หรือห้องเรียนรู้การประหยัดพลังงาน ใครจะคิดว่ามีการจำลองการขับรถยังไงให้ไปไกลสุดและประหยัดสุดได้ ด้วย เรามักจะชินกับการขับรถยังไงให้เร็วที่สุดเพื่อเอาชนะเกมส์ใช่ไหมครับแต่การขับรถครั้งนี้คือการทำยังไงให้ไปถึงเส้นชัยแบบประหยัดสุด ถึงจะชนะ ดีงามเนอะ
ปันเล่นไม่เท่าพ่อปันเลยครับ วนเล่นอยู่ห้องนี้นานเชียว
หรืออย่างห้องเรียนรู้เกี่ยวกับสมองก็เอาสุดยอดนักวิทยาศาสตร์มาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆและยังมีเวทีการแสดงต่างๆด้วยเสียดายมากที่วันธรรมดาเค้าจะไม่มีจะมีเฉพาะวันหยุดเท่านั้น
โดยรวมไม่อยากให้พ่อแม่ลูกพลาดที่นี่เลยเป็นอีกทีๆเราแนะนำจริงๆครับ มาแล้วอยู่ได้ทั้งวัน อ่อ ที่สำคัญตั๋วเครื่องบิน Air Macau เอามาใช้เป็นส่วนลดได้ถึง 31 ธันวาคม 2017 นี้ด้วยนะใครกำลังไปก่อนสิ้นปีอย่าลืมเอาไปใช้กันนะ ประหยัดได้อีกครับ
5.ตามหาสัญลักษณ์ infinity ที่เจ้าแม่กวนอิมกลางทะเล มาเก๊า (Kun Iam Ecumenical Center)
วิธีเดินทาง:นั่งรถบันมาลงถนนฝั่งตรงข้าม สายที่ผ่านคือ สายสาย 10A, 17
เวลาทำการ: เปิดให้ชมภายนอกทุกวัน ด้านในจะเปิดตั้งแต่ 10.00-18.00 น.
มาแถวนี้แล้วก็ไม่อยากให้พลาดการไปกราบขอพรเจ้าแม่กวนอิมกลางทะเลกันนะ ถือเป็นอีกจุดแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับใครที่เลื่อมใสศรัทธาเจ้าแม่กวนอิมอย่าพลาด บ้านเราก็เช่นกัน
สำหรับที่นี่แล้วเดินจากศูนย์วิทยาศาสตร์มาไม่ไกลเลยใกล้มากแค่ 10 นาทีก็ถึง
เจ้าแม่กวนอิมองค์กลางทะเล เป็นความตั้งใจตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลโปรตุเกสยังบริหารมาเก๊าอยู่ ในการก่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมให้เป็นที่ระลึกถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศและยังอยากสะท้อนความเป็นอยู่และผู้คนที่รวมกันอยู่หลากหลายมากว่า 100 ปีในเมืองเล็กๆแห่งนี้
ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายไปทางตะวันตก ผสมผสานกับเครื่องทรงสีทองคำแบบจีน คือการผสานคนสองวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน และยังมีวิธีการผสานความเชื่อเข้าไว้ด้วย
เอาตั้งแต่การมายืนตรงบริเวณด้านหน้าตรงทางเดิน เค้าจะให้เราหาสัญลักษณ์สำคัญเป็นสัญลักษณ์ infinity หรือเลข 8 นั้นเอง มีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน จุดแรกก็เริ่มดีแล้วการไปยืนตรงตำแหน่ง infinity แล้วให้ตะโกนอธิฐานไปที่องค์เจ้าแม่เค้าว่าจะสัมฤทธิ์ผล ให้ตะโกนดังที่สุด 3 ครั้ง บอกถึงความต้องการในใจที่เรามุ่งมั่นอยากให้สำเร็จ
จุดต่อไปจะอยู่ด้านในเป็นตำแหน่งสำคัญใจกลางสถานที่ ชั้นล่างสุดใต้ดิน ให้เราไปยืนรับพลังตรงตำแหน่งดังกล่าวแล้วอธิฐานในใจอีกครั้ง
และจุดสุดท้ายจะอยู่ที่ด้านหลังวิหารติดริมทะเลให้เราหันหลังกลับมาที่อาคารแล้วปรบมือสามครั้งอธิฐานอีกครั้ง ก็จะสัมฤทธิ์ผล
ส่วนตัวเราแล้วแนวคิดทั้งหมดเป็นความเชื่อทั้งหมด ใครไปจะทำหรือไม่ทำเอาที่สะดวกใจดีที่สุด แต่อย่าลืมว่าเมืองนี้ทั้งเมืองคือศูนย์รวมความเชื่อเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ประสบความสำเร็จเรื่องฮ้วงจุ้ยที่สุดแห่งนึงของโลกมาตลอด ด้วยอาคารโรงแรม และคาสิโน่ทั้งหมดสร้างตามฮ้วงจุ้ยทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ลองพิจารณากันดูนะครับ
6.ชิมสารพัดเกี้ยวที่ร้าน Chu Kei 1954
วิธีเดินทาง: อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับ ข้อ 5 เจ้าแม่กวนอิมกลางทะเลเลย
มากราบสักการะเจ้าแม่กวนอิมกลางทะเลกันแล้วอย่าพลาดแวะทานเกี้ยวกันที่ร้านนี้หาไม่ยากเลยอยู่เยื้องๆกันทางเข้านั้นเองอยู่ฝั่งตรงข้ามตรงหัวมุมพอดีครับ เรารู้จักร้านนี้ด้วยความบังเอิญว่าปันหิวแล้วมองหาไปมาเอาน่าร้านดูน่ากินเลยแวะเข้าไปเลย โอ้ววว อร่อยมากครับ เป็นความบังเอิญสุดๆ
ร้านนี้มีทั้งเกี๊ยว ทั้งบะหมี่ มีลูกชิ้นทั้ง หมู ไก่ ปลา หลักๆ แนะนำ เกี๊ยวเลย อร่อยสุดๆ
ลูกชิ้นก็ดีงาม เราเคยไปกินร้านดังที่ฮ่องกงมา เราว่าร้านนี้ไม่ได้น้อยหน้าเลยนะ ติดใจจริงๆ
ปันชอบมากกินใหญ่เลย
ใครแวะมาไหว้เจ้าแม่ฯแล้ว เดินข้ามถนนมานะตรงหัวมุมเลยหาไม่ยากเลยครับ
7.ไปกราบสักการะเทพอาม่าองค์สูงสุดที่วัดอาม่ากันดีกว่า (A-ma Goddess Statue)
วิธีเดินทาง: นั่งรถเมล์สาย 15,21a,25,26,26a50,n3 ลงป้าย n3 Mercado M De Coloane
ที่เที่ยวอีกแห่งสำหรับคนชอบไหว้พระสัการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ ก็ควรจะมาที่นี่เพราะเป็นที่ๆ มีรูปปั้นองค์เจ้าแม่กวนอิมที่อยู่สูงที่สุดของมาเก๊า
และตัววัดเองก็อยู่ในจุดชมวิวสวยงามจนไม่อยากให้พลาดมากันที่นี่ วิธีการมาจริงๆ เราว่าไม่ยากนะ นั่งรถเมล์สาย เหล่านี้ตามภาพมาแป๊บเดียวเอง
ส่วนการขึ้นมาบนวัดก็ไม่ยากอีกเช่นกัน จะมีบริการรถตู้เข้าคิวรออยู่ที่ด้านล่างใกล้ๆกับป้ายรถเมล์ที่เราลง ให้เดินเลยมาตรงแถวๆ ลานจอดรถด้านหลัง จะเห็นคิวรถจอดอยู่ เราก็เข้าคิวขึ้นได้เลย รถออกตลอดคนเต็มก็ออกเลย บรรยากาศในรถก็จะคึกคักหน่อยนะ คนจีนเค้าคุยกันดุเดือดหน่อยๆจ๊ะ
ขึ้นมาแล้วให้เข้าไปกราบไหว้เทพต่างๆด้านใน บรรยากาศในวัดผมว่าดีนะ ดูขลังๆดี ช่วงเราขึ้นไปคนไม่เยอะเลย อย่าไปช่วงเทศกาลไม่งั้นคิวรถจะยาวมากก โปรดหลีกเลี่ยงนะครับ
เดินอ้อมขึ้นเขาไปด้านหลังจะเจอรูปปั้นสีขาวเจ้าแม่อาม่าองค์ใหญ่ที่สุดของมาเก๊าก็ว่าได้ ด้านบนจะเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมอาม่า จะมีองค์เจ้าแม่อาม่าสีขาว สร้างจากหินอ่อนแกะสลัก จะตั้งอยู่บนยอดเขา Coloane Hill Park เราสามารถเห็นวิวสวย ๆ ของมาเก๊าจากบนนี้ได้เลย เสียดายวันที่เราไปฝนตกมันจะมีแต่หมอกเต็มไปหมดมองอะไรไม่เห็นเลย
เรามาแล้วก็เดินเที่ยวรอบๆชมวิวชิลๆไปนะ
ที่อยากจะบอกคือขาลงให้รีบเดินกลับมารอที่จุดรถจอดเพราะคนจะรอกันเยอะมากมาเข้าคิวกันก่อนนะ ไม่งั้นกว่าจะลงรอกันระดับ 30 นาทีเลย
8.เดินร่อนเลียบริมน้ำ โคโลอาน แวะเที่ยวโบสถ์เซนต์ฟรานซิสเซเวีย (Chapel of St. Francis Xavior )
วิธีเดินทาง: นั่งรถเมล์สาย 25,26,26a มาลงตรงวงเวียนแล้วเดินถึงหมดทุกที่เลยในนี้
หากจะหาที่ๆคุณอยากจะเจอบรรยากาศชิลๆ เดินเล่นริมน้ำได้ในเมืองอันแสนศิวิไลซ์นี้ เราขอแนะนำให้ดิ่งลงมาทางใต้สุดของมาเก๊า คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงเลย เป็นโลกที่ไร้แสงสีของตึกรามบ้านช่อง มีทางเดินริมทะเลเลียบเลาะริมน้ำไปตลอด ย่านนี้จึงเป็นย่านน่าเดินชิลๆ ชมวิวทะเล และแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่คือโบสถ์สีเหลืองสดใส
บริเวณรอบๆมีอาคารสวยๆให้เราไปเดินถ่ายรูปกันได้เยอะเลย
เราเข้าไปเดินสำรวจกันในโบสถ์นะครับ
ร้านน่ารักเยอะมาก ใครมาแล้วมาเดินเล่นกันวิธีมาไม่ยากเลย
10. รวมมิตรร้านอร่อยย่านโคโคอาน
รวมหลายๆร้านนะครับใกล้ๆกันหมดเลยดูจากแผนที่เอานะเดินเที่ยวได้เลยครับ
วิธีเดินทาง: นั่งรถเมล์สาย 25,26,26a ลงวงเวียนแล้วเดินเอาได้เลย
ออกมาเรามาตามคำแนะนำของเพื่อนๆในเพจที่เคยมีถามๆไป เค้าแนะนำร้านนี้นะ Nga Tim Cafe เราเลยเข้าไปลองกัน ร้านอยู่ติดกับโบสถ์เลยเดินออกจากโบสถ์มาขวามือ
ร้านจะเป็นอาหารจีนผสมโปรตุเกส บรรยากาศก็ กึ่งจีนกึ่งยุโรป สไตล์ที่นี่เค้าเลย เราสั่งมาสองสามอย่าง
แม่ปันชมข้าวอบไก่ราดซอสมะเขือเทศว่าอร่อย
ส่วนผมว่าข้าวผัดกุ้งเค้าโอมากเลยนะ
และยังมีหอยอบด้วยรสชาติไม่ได้เผ็ดหรือเปรี้ยว จะไปทางกลมกล่อมซะมากกว่า
สนนราคาก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่ ราคามาตรฐานของฮ่องกง มาเก๊าละครับ ระดับหมดนี้ก็ 100-200 MOR
มาถึงอีกร้านเป็นร้าน Cafe สีฟ้าโดดเด้งน่าเดินเข้าไปมาก ทำเลหาง่ายเลยลงตรงวงเวียนมองไปเจอเลย ยังไงๆก็เจอ
ร้าน Cafe’ Cheri
บรรยากาศในร้านโอเลยนะ ร้านนี้เค้าว่าจุดเด่นจริงๆคืออาหารสไตล์ยุโรป พวกสปาเก็ตตี้ และขนมของหวาน แต่เนื่องจากเราอิ่มมาจากร้านแรกเลยขอเป็นขนมกับเครื่องดื่มกันแทนครับสั่งมาสำหรับปันเลยก็เป็นโกโก้ กับครัวซองค์ ขอบอกว่าอร่อยมากกกกก
ติดใจเลยสำหรับครัวซองค์ ปันชอบมากกินคนเดียวหมดเลย พ่อปันขอแย่งชิมได้นิดเดียว
ส่วนของผมเองติดใจที่สุดก็เป็นชามะนาว เอาจริงๆนะชอบชามะนาวที่นี่มากๆ คือเค้าจะฝานมะนาวใส่เข้าไปด้วยและรสชาติมันจะไม่หวานมาก อร่อยชื่นใจเลย
เราเลยสั่งขนมมาอีก โดยรวมต้องบอกว่าไม่ได้แพงไรนะ เทียบกับร้านแรก ถือว่าผ่านแถมมีที่นั่งเหลือเฟือ อาหารก็มี มากลางวันมีเซ็ทอาหารกลางวันเสริฟได้อีก ถือว่าโอมาก
ถัดมาอีกร้านเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่เราชอบมากก แถมเป็นร้านที่ถูกสุดที่เรากินมา อาจจะเพราะทำเลต้องเดินเข้าไปทางไปโบสถ์นั้นเอง หาไม่ยากนะ เพราะเค้ามีป้ายบอกตั้งแต่ตรงวงเวียนเลย เดินตามป้ายไปไม่หลงแน่นอน
ร้าน Patio Do Gordo
เข้ามาด้านในเป็นร้านเล็กๆ แต่ตกแต่งน่ารัก ดูราคายิ่งน่ารักน่าคบหามาก
เราโคตรเสียดายเลยครับ ที่ไม่ได้มาลองกินอาหารร้านนี้ เพราะอิ่มจนจุกขึ้นมาที่คอแล้วเลยสั่งเป็นขนมปังเนยถั่วบวกชามะนาว (อีกล่ะ 555)มาลอง
มันอร่อยมากกกกจริงๆ อาหารอื่นๆก็น่าจะไปทางเดียว เจ้าของก็น่ารักยิ้มแย้มแจ่มใสดีมาก เสียดายบองตงเลย
ใครมา เราแนะนำร้านนี้เลยนะ เดินเข้ามาหน่อยอาหารอาจจะไม่หลากหลายเท่าร้านแรก แต่โดยรวมบรรยากาศบวกับราคาเรายกให้เลย มาคราวหน้าจะมาลองทานร้านนี้ก่อนเป็นร้านแรกเลยจ๊ะ
ก่อนกลับก็อย่าลืมแวะร้านสุดท้ายตรงป้ายรถเมล์วงเวียน ร้านแรกของ Lord’s staw ร้านทาร์ตไข่ในตำนาน มีสาขาอยู่ทั่วมาเก๊า
แต่ร้านแรกนี้พิเศษที่มีของกิน ขนมครบที่สุด มีหลายอย่างมาก ส่วนตัวเราว่าขนมปังเค้าอร่อย และพวกนม ชามะนาว (อีกล่ะ) อร่อย ซื้อติดมือกันกลับไปกินต่อได้เลย นอกจาก ทาร์ตไข่แล้วนะ
จบละสำหรับ 11 จุดพาครอบครัว กิน นอน เที่ยว มาเก๊าแบบไม่เข้าคาสิโน (เว้นแต่ไปใช้รถเค้าอย่างเดียว ฮ่า ฮา)
จริงๆยังมีอีกหลายที่ๆอยากแนะนำ เดี๋ยวเราขอยกไปเราต่อในเพจเราต่อไปนะ สำหรับใครที่แวะเวียนมาแล้วชอบบทความของเราไปคุยกันต่อที่เพจได้เลย จะอับเดตรวดเร็วมากครับ
ที่นี่เลย one22family
แล้วพบกันนะครับผม
one22family