ปิดเทอมแล้วล่องใต้ไปเมืองพัทลุงกันหน่อยมั้ยคะ รีวิว 12 จุด พัทลุง กิน:พัก:เที่ยว สุดฟิน คราวนี้ยกขบวนกันไปพร้อมกันสองครอบครัวอีกเช่นเคย เพราะเด็กๆ ปิดเทอมกันหมดแล้ว เลยพาไปหาประสบการณ์นอกห้องเรียนกันหน่อย เพราะได้ข่าวมาว่าพัทลุง ณ ขณะนี้มีที่เที่ยวใหม่ๆ หลายที่เลย และแต่ละที่น่ารักและมีความเป็นชุมชนท้องถิ่นคนเมืองลุงอย่างแท้จริง เลยต้องรีบจองตั๋ว บินตรงสู่พัทลุงด่วนๆ
คราวนี้เราบินกับนกแอร์ค่ะ ของสายการบินนกแอร์เลือกบินลงนครศรีธรรมราช หาดใหญ่ หรือตรังก็ได้ แล้วก็เช้่ารถจากสนามบินขับต่อไปยังพัทลุง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชม. แต่คราวนี้เราเลือกลงนครศรีธรรมราช เพราะอยากแวะกินมื้อเช้าแสนอร่อยในตัวเมืองนั่นเอง และที่ไม่ธรรมดา เลือกไฟลท์เช้าสุดๆ อ่ะ เพราะกลัวมีเวลาเที่ยวน้อย ทริปนี้มา 3 วัน 2 คืนค่ะ ลิสต์รายการกินเที่ยวมาซะหลายที่ เลยต้องตื่นกันตั้งแต่ตีสาม เพราะเครื่องออก 06.00 น. จ้า
ขึ้นเครื่องปุ๊บก็อยากจะหลับปั๊บ แต่เพราะแสงเช้ากับวิวนอกหน้าต่างมันสวยเหลือเกิน บวกกับเครื่องในทริปขาไปเป็น Boeing 737 ตอนนี้เค้ามีบริการ “นกชวนชิม” ให้บริการอาหารร้อนบนเที่ยวบิน มีเมนูหลากหลายให้เลือก ทั้งกะเพราไก่ไข่ดาว ผัดหมี่ฮ่องกงเจ ข้าวปูผัดผงกะหรี่ ลาซานญ่าร้อน ๆ เสิรฟ์พร้อมมันบด หรือแม้กระทั่งข้าวกุ้งล็อบสเตอร์ผัดพริกเกลือก็ยังมีนะออเจ้า
ทุกเมนูรับรองความอร่อย แถมยังสั่งอาหารได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง บนเว็บไซต์นกแอร์ หรือถ้าเลือกเดินทางแบบ Nok MAX ก็จะมีอาหารร้อนให้ พร้อมบริการโหลดกระเป๋า 15 กิโลกรัม ซึ่งบริการนกชวนชิมเนี่ยมีให้บริการบนเที่ยวบินที่ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737 เท่านั้นนะเธอจ๋า
ดูอะไรน่าชิมบ้างคลิกเลย
นกชวนชิม Nokair
ส่วนการเดินทางไปยังพัทลุง เราเช่ารถที่สนามบินนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบริษัทที่บริการเป็นกันเองสุดๆ รถใหม่ค่ะนั่นก็คือ Prompt Car Thailand เช่าจ่ายเงินสด แนบใบขับขี่ ส่งรถปุ๊บเซ็นเอกสารจ่ายตังค์ก็เที่ยวได้เลยจ้า
โทร : 0815325777 หรือ081-3048843
http://www.promptcarrent.com
รถพร้อม คนพร้อม ก็ลุยกันเลย จับ GPS ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง ถนนหนทางไปพัทลุงก็ดีสุดๆ บางช่วงก็กำลังปรับปรุง แต่รวมๆ แล้วขับสบายค่ะ สองข้างทางก็ร่มรื่นดีด้วยนะ ชิลล์จริงๆ และด้วยความเหนื่อยจากการตื่นเช้านั้น เราก็เลยตรงดิ่งสู่ที่พักที่ปากประก่อนเลย เช็คอินน์พักหงีบเอาแรงก่อน พ่อกับแม่ทั้งสองบ้านเหนื่อยเหลือเกิ๊นนน จะมีก็แต่ซันซันกับปันปัน สองเด็กพลังบวกที่เฮฮาตลอดทริปไม่มีทีท่าว่าจะง่วงแต่อย่างใด
อ่ะ….จั่วหัวไว้ว่าจะพาไปพบกับรีวิวรีวิว 12 จุด “พัทลุง” กิน:พัก:เที่ยว สุดฟิน ก็มาเริ่มกันเลยมะ
ไปแล้วอยากกลับไปเที่ยวอีกแน่นวล เพราะคนพัทลุงใจดี ยิ้มแย้มและเป็นกันเองมากๆ ค่ะ
1. ปากประ ลากูน รีสอร์ท
เป็นรีสอร์ทในเครือของศรีปากประ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าตั้งอยู่แถวคลองปากประ พื้นที่ชุ่มน้ำอันอุดมสมบูรณ์ของพัทลุง และที่นี่ก็อยู่ใกล้กับจุดออกเรือไปดูแสงแรก หรือจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่สวยที่สุดของทะเลน้อยอีกด้วย ที่นี่เปิดได้ไม่นาน ความใหม่กริบเลยยังมีให้เห็นทั่วรีสอร์ท พนักงานที่ฟรอนต์ยิ้มแย้มต้อนรับดีมากค่ะ ทุกห้องมีระเบียงหน้าห้องขนาดใหญ่ พร้อมมุมนั่งเล่นและชิงช้าให้นั่งเล่นแกว่งไกว
ห้องพักมี 2 แบบค่ะ แบบยอวิลล่า และแบบลำพูวิลล่าแบบของครอบครัวเราพัก ซึ่งวิวและขนาดห้องจะต่างกัน เพราะยอวิลล่าก็อยู่ติดริมคลองเลย เช้า เย็น เห็นยอกันตลอดเวย์
>>>ราคาค่าห้องพักตามนี้เลย
ห้องยอวิลล่า มี 4 ห้อง
ราคา 3,000 บาท วันหยุด 3,500 บาท
ห้องลำพูวิลล่า
ราคา 2,000 บาท วันหยุด 2,500 บาท
และที่ถูกใจเด็กๆ ก็จะเป็นที่ไหนไม่ได้ นอกจากสระว่ายน้ำที่วิวดี๊ดี ว่ายไปชมววิล์ไป ซึ่งสระว่ายน้ำให้บริการถึงประมาณทุ่มนิดๆ ไปเที่ยวข้างนอกกลับมาก็สามารถมาแวะว่ายกันได้ ตอนกลางคืนบรรยากาศดีทีเดียว
ใครอยากพักที่พักใหม่ๆ บรรยากาศดีแบบนี้ เข้าไปดูรายละเอียดตามลิ้งค์ค่า
ปากประ ลากูน รีสอร์ท
โทร 061 149 9494
2. สะพานเฉลิมพระเกียรติ์ 80 พรรษา
หรือที่หลายๆ คนเรียกกันหลายชื่อติดปากว่า สะพานเอกชัย สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ นี้ยาวประมาณ 5.5 กิโลเมตร เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่ข้ามทะเลสาบเชื่อมการเดินทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา ถ้ามาช่วงฤดูร้อนอย่างช่วงนี้ บางวันพระอาทิตย์ตกกลางสะพานเป็นไข่แดง ดวงโต๊โต และด้วยความสวยงามของสะพานย๊าวววยาวแห่งนี้ เราก็เลยแพลนเวลาออกจากที่พักเพื่อไปเก็บไข่แดงและแสงเย็นกันที่สะพาน จากที่พักขับรถไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ
จุดที่ผู้คนแวะพักเพราะมีแลนด์มาร์คหลักก็คือ บ้านไม้หลังคาแดงสองหลัก ที่ปักหลักมานมนานตั้งแต่สะพานยังไม่สร้างเลย
ใครชอบปั่นจักรยาน ก็มีเลนจักรยานให้ สามารถเอาจักรยานมาปั่นได้ แต่ต้องระวังนิดนึง เพราะสองข้างทางมักจะมีรถจอดชมวิว รถสัญจรก็วิ่งค่อนข้างเร็ว ก็อยากให้คนขับรถยนต์ระวังคน ระวังจักรยานกันด้วยนะคะ ถ้าจะจอดชมวิว เค้ามีจุดจอดรถเป็นช่วง ๆ บนสะพาน ไปจอดตรงนั้นจะปลอดภัยกว่าค่ะ
3. ล่องเรือรับแสงแรก จากปากประ-ทะเลน้อย
กิจกรรมยามเช้าสุดโรแมนติกของการมาพัทลุงก็คือ การตื่นแต่เช้าลงเรือไปรอทักทายแสงแรกกันที่คลองปากประ และล่องเรือไปเที่ยวทะเลน้อย จุดเที่ยวชมในบริเวณนี้ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้หมายความว่า มาทีเดียวจะชมได้หมดนะคะ เพราะบางอย่างมันมีเป็นฤดูกาลค่ะ เช่น
>>อยากดูบัวแดง ก็ต้องมาหน้าร้อน ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม
>>อยากมาดูนาข้าวริมทะเลสาบออกรวงต้องมาช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน
>>ส่วนควาย ยอยักษ์ สะพาน ตลาด จุดชมวิวต่างๆ เที่ยวได้ตลอดปี
คราวนี้ก็เช่นกัน เรามาเร็วกว่าบัวแดง เลยยังไม่บานเต็มที่ แต่การล่องเรือครั้งนี้ก็ยังใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เริ่มจากชมยอรอพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็แล่นไปเข้าคลองที่เชื่อมกับทะเลน้อย ดูควายน้ำ ชมนกอพยพ ชมพื้นที่ชุ่มน้ำที่เต็มไปด้วยต้นไม้หลายชนิดที่เราไม่เคยเห็น และความสนุกก็อยู่ตรงนี้แหละ เพราะเด็กๆ ตื่นเต้นมาก
สำหรับการจองเรือที่นี่มีชมรมเรือล่องทะเลน้อยค่ะ เราสามารถจองได้ที่รีสอร์ทที่เราพัก เค้าจะจัดการจองเรือให้ ค่าเรือตอนนี้ราคาลำละ 1,200 บาท สามารถนั่งได้ 6 คนค่ะ
4. ขนมหวานป้ากี้
ป้ากี้ หรือ คุณเยาวนีย์ ตันชีววงศ์ อายุอายุ 71 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรงและทะมัดทะแมงขายขนมให้นักท่องเที่ยวและคนละแวกนั้นกินกันจนเป็นที่ติดอกติดใจ ร้านป้ากี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก ในร้านมีโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกนั่ง ส่วนตรงกลางร้านเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ที่วางหม้อขนมหวานสารพัดชนิดไว้ ในแต่ละวันจะมีขนมหวานกว่า 10 อย่างขึ้นไป ที่ยืนพื้นและต้องสั่งมาชิมให้ได้ก็คือ “สาคูต้น” ที่ทำมาจากสาคูต้น หรือแป้งสาคูแท้ ไม่ใช่แป้งมันเหมือนร้านทั่วไป
ขนมหวานร้านป้ากี้จะยืนพื้นอยู่ที่ถ้วยละ 10 บาท แต่ความอร่อยหลักร้อยเลยค่ะ มาร้านป้ากี้ลืมอ้วนไปก่อน เพราะขนมเพียบ กินกันคนละ 2-3 อย่างยังไหว ยังมีเต้าหู้ทอดที่น้ำอาจาดเป็นเอกลักษณ์มากๆ และพวกของเชื่อมต่างๆ ราดกะทิหอมมัน
>>ร้านป้ากี้เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น. โทร 074-672352
5. ชุมชนทะเลน้อย
ชุมชนทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มีชื่อเสียงในเรื่องของผลิตภัณฑ์จักรสานจากระจูดสืบทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น การเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ก็คือการเดินไปบนสะพานปูนแคบๆ และยังมีสะพานไม้เคี่ยมอายุนับร้อยปี ที่ชาวบ้านที่สร้างเพื่อเดินทางระหว่างครัวเรือนต่อกัน บรรยากาศของที่นี่ถ้าเป็นวันธรรมดาก็อาจเงียบเหงาบ้าง แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ก็จะคึกคักเพราะมีนักท่องเที่ยวและทัวร์มาเดินเที่ยวชมวิถีวีวิตชาวบ้านกันตั้งแต่เช้าไปจนบ่ายๆ
หลายบ้านในชุมชนนั่งถักทอเสื่อกระจูด ้เด็กๆ สนใจเป็นพิเศษและขอลองทำด้วยตัวเองด้วย แนะนำว่าไปแล้วก็ต้องลองค่ะ คนเฒ่าคนแก่บอกว่า”…เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยเอาแล้ว จะมีก็แต่รุ่นนี้แหละที่ยังทำกันอยู่ ต่อไปจะเหลือคนทำกระจูดมั้ยไม่รู้ ” ไปแล้วก็ซื้อสินค้าชาวบ้านกันนะคะ เสื่อผืนนึงกว้างยาวมาก ขายกันเริ่มต้นผืนละ 80 บาทเท่านั้นเอง
ฝาบ้านเรือนไม้ตามจุดต่างๆ ยังมีการวาดภาพสีน้ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นจุดเช็กอินกันอีกตามมุมต่างๆ และยังเป็นการสร้างสีสันให้คนในชุมชน เดินชมก็เพลินไปอีกแบบ ส่วนของกินก็มีข้าวแกง ขนมจีนและขนมพื้นบ้าน มาลองชิมกันได้นะคะ ขนมจีนอร่อยมาก เริ่มกันที่ 10 บาท รสชาติชาวบ้านแท้ๆ เลย
>>ชุมชนทะเลน้อยสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-17.00 น.
6. จุดชมวิวทะเลน้อย
จากชุมชนทะเลน้อย เราวางแผนขับรถย้อนกลับไปที่ตัวเมืองพัทลุง เพราะคืนถัดมาเราจะเปลี่ยนที่นอนและเที่ยวโซนใกล้ๆ ทางที่จะกลับสนามบินนครศรีธรรมราช ระหว่างทางเห็นป้ายจุดชมวิวทะเลน้อย ก็เลยเลี้ยวรถขับขึ้นไปดูซะหน่อยว่าข้างบนวิวจะสวยขนาดไหน
และก็สวยจริงๆ ด้วยเพราะเห็นทะเลน้อยสุดลูกหูลูกตาเลย
วัดควนสูง หรือ วัดสวนธรรมเจดีย์ วัดเก่าแก่กว่า 400 ปี ของชุมชนทะเลน้อย ตั้งอยู่ที่ ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นวัดที่มีบรรยากาศสวยงาม มองเห็นวิวสูงของทะเลน้อย โดยวัดแห่งนี้เป็นเคยสำนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ซึ่งมีเจ้าอาวาสชื่อดังของภาคใต้เคยเป็นลูกศิษย์ของวัดแห่งนี้ แต่ด้วยในยุคหลังขาดผู้สานต่อ ปัจจุบัน สภาพของวัดเริ่มทรุดโทรมไปมากเพราะเราเดินชมโดยทั่วมีอุโบสถที่ยังสร้างไม่เสร็จด้วย
ทางวัดควนสูงมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูวัด ให้กลับมาเป็นเหมือนในอดีตหลังจากที่วัดเงียบมาหลายปี โดยเริ่มต้นด้วยการสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ทวดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ เป็นที่เคารพนับถือของคนในแถบภาคใต้ เพื่อดึงดูดความสนใจให้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมยังวัดแห่งนี้ ไปทะเลน้อยก็แวะขึ้นไปทำบุญไหว้พระกันนะคะ
7. นาโปแก
จุดเช็คอินน์แห่งใหม่ของพัทลุงค่ะ ตั้งอยู่ในอำเภอควนขนุน เปิดให้นักท่องเที่ยว ได้เรียนรู้วิถีชาวนาเมืองพัทลุงแบบขนานแท้ พร้อมสัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติของท้องทุ่งนาที่มีมนต์เสน่ห์ คือลงไปดำนาไถนากันด้วยตัวเองนั่นเอง ท้องทุ่งนา เขียวขจีไปด้วยต้นข้าวพื้นเมืองหลากสายพันธุ์ เช่น ข้าวสังข์หยด ไข่มดริ้น และหอมจันทร์ ที่กำลังตั้งท้อง บ้างก็ออกรวงเรียงราย โอบล้อมศาลาและกระท่อมไม้ธรรมชาติเป็นทิวทัศน์ที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์ของนาโปแก
ที่นี่มีบ้านพักด้วยนะคะ
ขนำปลายนา นาโปแก เปิดให้บริการแล้ว
*** ราคา 1,500 บ. และ 1,800 บ. ต่อหลัง พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ***
* ที่นอนเสริม เด็กนอนได้ 2 คน เพิ่ม 300 บ.(ไม่รวมอาหารเช้า) โทร. 06-2591-6632
ด้วยวิถีชาวนาที่ค่อยๆ เลือนหายจากคนพัทลุง ทำให้คุณทศพล รักใหม่ ตัดสินใจแบ่งพื้นที่นาส่วนหนึ่งของตัวเอง สร้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ควบคู่กับแหล่งเรียนรู้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้มาศึกษาวิถีของชาวนาไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเลี้ยงควาย การฝึกเพื่อเป็นแรงงานไถนา การปลูกข้าว การเกี่ยวข้าว ตลอดจนการแปรรูปจากข้าวเปลือกมาเป็นข้าวสารพร้อมหุงเป็นข้าวสวยร้อนๆ อาหารหลักของคนไทยมาเนิ่นนาน
จุดเด่นอีกอย่างก็คือการตกแต่งบรรยากาศโดยรอบ ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือหากินของชาวบ้าน ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก และเพลิดเพลินกับมุมถ่ายภาพสวยๆ ท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสไอดิน สูดกลิ่นท้องนา ใช้ชีวิตช้าๆ ชิมกาแฟแกล้มท้องทุ่ง และชื่นชมศิลปะการแสดงมโนห์ราอันงดงามอ่อนช้อย
>>นาโปแกเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.30 น.
ให้ความรู้กันหน่อยค่า
>>ชื่อนาโปแก มาจากไหน …คำแรก นาก็คือ ผืนนา ..ทุุ่งนา ท้องนา ..พื้นที่ราบทำเป็นคัน กั้นเป็นแปลง ๆ สำหรับปลูกข้าว ส่วนคำว่า”โปแก” สำเนียงปักษ์ใต้….หรือภาคใต้ ปู่แก…คือ พ่อของแม่…หรือพ่อเฒ่า หรือตรงกับคำว่า “ตา” ในภาษาไทย แต่สำเนียงคนพัทลุง …จะออกสำเนียง เป็นโปแก….หรือพ่อแก่… นั่นเอง
8. ตลาดป่าไผ่สร้างสุข
เป็นตลาดที่ใครมาพัทลุงห้ามพลาดโดยประการทั้งปวง ตลาดแห่งนี้เปิดมาได้ปีกว่าๆ ค่ะ ตลาดเน้นสินค้าปลอดภัย อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น รักษ์โลก เน้นสร้างความสุขให้ทั้งคนซื้อ คนขาย และสิ่งแวดล้อม
ตลาดป่าไผ่สร้างสุข เกิดจากการร่วมมือกันของเครือข่ายกินดี มีสุข จ พัทลุง และสวนไผ่ขวัญใจ โดยการสนับสนุนจาก ททท. ด้วยคอนเซปท์ “อิ่มกาย สบายใจ สุขอยู่ที่พอ”
บ้านเราเลยยกพลมาช่วงสายๆ เพราะกะว่าจะมาฝากท้องมื้อเที่ยงกับอาหารพื้นบ้านกันที่นี่ล่ะ มีอะไรน่ากินบ้าง
ของกินตำรับพื้นบ้าน คาวหวานมาครบ เส้นขนมจีนข้าวสังข์หยด ขนมจีนรวมมิตร น้ำยาปู น้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำยำ แกงแม่ขี้หมิ้น คั่วเนื้อหัวข่าอ่อน แกงน้ำเคยยอดหวาย ข้าวนึ่ง ข้าวต้มธัญพืช ปลามงต้มส้ม ข้าวหมกไก่บ้าน ปลาดุกร้า ไตปลาแห้ง ผัดไทยโบราณ ข้าวยำสมุนไพร สาคูต้นน้ำกะทิ ปากหม้อแป้งสาคูต้น สาคูไส้ปลา ขนมขี้มอดสด ขนมโค ข้าวหมากเหนียวดำ หัวครกผัดน้ำตาล ขนมคนที และอื่นๆอีกมากมาย
เป็นไง……หิวล่ะสิ เห็นเมนูอืดตะปือนังขนาดนี้แล้ว เตรียมท้องให้ว่างๆ มาเลยนะคะ เพราะของอร่อยๆ น่ากินทั้งน้านนนนน เรียกน้ำย่อยที่ขนมจีน สีสันผักพื้นบ้านน่ากินม๊ากกก พุ่งตัวอย่างแรง ผักสดๆ เติมไม่อั้น
นอกจากจะมีการขายอาหาร (ซึ่งเราเน้นเล่าเป็นพิเศษแล้ว) ก็ยังมีพื้นที่เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการแสดง งานฝีมือ สิ่งประดิษฐ์ หัตถกรรมจากวัสดุท้องถิ่น ทั้งไผ่ กระจูด งานทอผ้าและย้อมสีธรรมชาติ ด้วยฝีมือคนในท้องถิ่นด้วย
ถ้าอยากไปเดินเที่ยวชมป่าไผ่สร้างสุข สามารถไปเที่ยวชมได้ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ป่าไผ่สร้างสุข โดยเครือข่ายกินดีมีสุข จ.พัทลุง
9. ตลาดใต้โหนด
ตลาดวันอาทิตย์ ตลาดสไตล์บ้านๆ ที่เปิดมาแล้วหลายปี มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ หลายคนคงเคยมากันแล้ว แต่ว่ามาแล้วก็อยากมาอีกใช่มั้ยล่ะ เพราะตลาดแห่งนี้ช่างน่ารักน่าเดิน
ตลาดใต้โหนดเนี่ย ได้รับรางวัล “ตลาดต้องชม” เอกลักษณ์พาณิชย์…อัตลักษณ์ของชุมชน จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เชียวนะคะ เป็นตลาดท้องถิ่นด้วยคอนเซปต์ “ของใช้ ของกิน งานศิลป์บ้าน ๆ” เพื่อให้ชาวบ้านได้เอาสินค้าปลอดสารพิษ อาหารพื้นถิ่น และงานฝีมือมาขาย ใต้ร่มไม้ในสวน อากาศเย็นสบาย มีเสียงเพลงบรรเลงกันสด ๆ จากศิลปินท้องถิ่นทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ทั้งมืออาชีพ มือสมัครเล่น ขับกล่อมให้ชมให้ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน
10. อารียาพาร์ค
คืนที่สองเรานอนที่นี่กันค่ะ ลองเปลี่ยนบรรยากาศแถวปากประมาพักแถวๆ นี้ดูบ้าง ใครรักต้นไม้แนะนำที่นี่เลยนะ เพราะพื้นที่ในรีสอร์ทเต็มไปด้วยต้นไม้ทั้งไม้ดอก ไม้ยืนต้น ไม้ผล ฯลฯ ที่สำคัญสะอาดมากค่ะ ร่มรื่นเงียบสงบ จนไม่รู้สึกว่าพักอยู่ริมถนนสายหลักเลยทีเดียว
ห้องพักมีทั้งหมด 12 ห้อง ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน ตั้งชื่อห้องด้วยชื่อไม้ไทย จะมีต้นไม้ประจำอยู่หน้าเรือนแต่ละหลัง มีสระว่ายน้ำ ร้านกาแฟ รวมถึงร้านอาหารที่รสชาติอร่อยให้เลือกหลายเมนู
ที่รีสอร์ทยังจัดสรรพื้นที่ให้อิงตามเศรษฐกิจพอเพียงด้วยนะ มีเรือนหลังเล็กๆ จัดแสดงวิถีพื้นบ้านและข้าวของเครื่องใช้ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ มีพืชผักสวนครัวต่างๆ บ่อเลี้ยงปลา สามารถปั่นจักรยานในยามเช้าเที่ยวชมรอบๆ รีสอร์ทกันเพลินๆ
> ราคาห้องพักเริ่มที่ 1,200 บาท สามารถดูรายละเอียดได้ที่
อารียา พาร์ค โทร. 0-7461-0777
11. ขนำคอฟฟี่
รีวิวทริปเที่ยวแบบนี้ ไม่มีร้านคาเฟ่ก็ไม่ใช่ One22 นะคะ เพราะเราชอบตามหาร้านคาเฟ่เก๋ๆ ในต่างจังหวัดมาเสิร์ฟให้ทุกคนเสมอๆ ทริปนี้ก็เช่นกัน ร้านนี้ไม่ไปไม่ได้เล้ยยยย ร้านขนำคอฟฟี่ เป็นร้านกาแฟสดเต็มไปด้วยธรรมชาติ สไตล์พักผ่อน มองเห็นวิวเขาอกทะลุซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง “ขนำ” เป็นคำศัพท์ทางใต้ที่เรียก กระท่อมหลังเล็กๆ
ช่วงที่เรามาทุ่งนารวงข้าวนั้นถูกเก็บเกี่ยวไปบ้างแล้ว ความเขียวขจีเลยลดลงเล็กน้อย แต่บรรยากาศทั้งหมดยังดีต่อใจอยู่ค่ะ นั่งกันยาวๆ หลายชั่วโมงจนพระอาทิตย์ตกดินกันไปเลย ที่นี่มีทั้งทั้งในห้องแอร์และนอกห้องแอร์ เราเลือกนอกห้องแอร์เพราะชิลล์ดี เด็กๆ ได้วิ่งเล่นด้วย
เค้ก กาแฟ ขนมเค้ก และอาหารร้านนี้ใช้ได้เลย ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย แนะนำว่าให้รีบๆ มานะ เพราะคนแน่นร้านทุกวัน ยิ่งช่วงเย็นๆ อากาศดีมาก จิบเบาๆ เคล้าบรรยากาศ ฟินสุดๆ
>>ร้านขนำคอฟฟี่ เปิด เวลา 08:30 – 19:30 โทร. 099 970 6178
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมตามนี้จ้ะ ขนำคอฟฟี่ พัทลุง
12. Int’ Café
ปิดท้ายจุดที่ 12 ก่อนบินกลับกทม.ไฟล์ทค่ำจ้า ร้านนี้เป็นการปิดท้ายที่ฟินอีกแล้ว เพราะเป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ ตัวร้าน ตกแต่งเรียบง่าย ดูดี นั่งสบายๆ มีทั้งโซน indoor และ outdoor ที่รายล้อมไปด้วยสวนเล็กๆน่ารัก ถ้ามาตอนเย็นๆ ลมพัด น่าจะสบายมากๆ
เมนูน้ำมีหลากหลาย ทั้งกาแฟ โกโก้ ชา ชาเขียวที่นี่เป็น matcha เกรดดี ส่วนถ้าใครต้องการดื่มแบบปลอดคาเฟอีน ที่นี่ก็มีเมนูน้ำผลไม้หลากหลาย ใครชอบเปรี้ยวๆ แนะนำเป็น น้ำมะยมพริกเกลือปั่น หรือจะเป็นมะม่วงเบาปั่น ก็รสชาติจี๊ดจ๊าดไม่แพ้กัน หรือถ้าแนวหวานๆ อาจจะสั่งเป็นน้ำมะพร้าวสายไหม
ส่วนเค้กมีหลากหลาย เมนูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ขอบอกว่ารสชาติและเมนูให้ 3 ผ่านเลย นอกจากเค้ก ที่เป็น signature อีกอย่าง น่าจะเป็นขนมปังข้าวสังข์หยดไส้ต่างๆ ทั้งไส้ไก่ ทูน่า สังขยา
>>Int’ Café เปิดเวลา 09:00 – 19:00 โทร. 094 964 9699
ดูความน่ารักของร้านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย Imt’Cafe’
จบทริปแล้วค่ากับ รีวิว 10 จุด “พัทลุง” กิน:พัก:เที่ยว สุดฟิน แอดฯ หวังว่ารีวิวนี้จะเต็มอิ่มกับเมืองเล็กๆ อย่างพัทลุงนะคะ และเป็นรีวิวที่อยากให้หลายครอบครัวอยากออกเดินทางตามรอยได้บ้าง ถ้าถามว่าถ้าให้กลับไปเที่ยวอีกมั้ย ตอบได้เลยว่ากลับไปแน่นอน เพราะเมืองพัทลุงน่ารักจริงๆ สัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบครอบครัวมากๆ เพราะมีแหล่งเรียนรู้หลายแห่งที่ให้เด็กๆ ได้สัมผัสและทำกิจกรรมกัน
แล้วพบกันทริปหน้านะคะ……..สวัสดี
หาที่เที่ยวอื่นๆ ที่ฟินไม่แพ้กัน ที่นี่เลย
#แค่อยากพาไปพัทลุง #เที่ยวใต้เที่ยวง่าย #one22family #nokair#SmilingAcrossAsia #ChooseYourNok #นกชวนชิม #nokshop