รีวิวพา เที่ยว Nikko 2 วัน 1 คืน รวมที่เที่ยวสไตล์ครอบครัวด้วยบัตร NIKKO AREA PASS ไปได้ใกล้โตเกียวใช่เลย มันเที่ยวง่ายมาก สำหรับเมือง Nikko (อ่านว่า นิกโกะ หรือ นิกโก้ ก็ได้) เพราะอยู่ไม่ไกลโตเกียวไปมาสะดวกใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ก็ถึง แถมยังมีที่เที่ยวครบสไตล์ครอบครัว หรือวัยไหนก็ไปได้ล่ะ แต่ที่เน้นๆ ในรีวิวนี้จะพูดถึงครอบครัว เพราะเราเป็นนักเดินทางสายครอบครัวนี่นา จริงไหม
รีวิวนี้จะแนะนำตั้งแต่วิธีการเดินทางไป ยันแหล่งที่เที่ยวที่เราไปมาจริง คิดว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวโตเกียวแล้วอยากหาที่เที่ยวรอบๆ ไม่ไกลมาก มีเวลาสัก 1 คืน เที่ยวได้ไหม รีวิวนี้จะพาไปที่นี่ล่ะ ตามเรามาเที่ยว Nikko อย่าช้านะ
การเดินทาง
ครั้งนี้เรายังคงบินตรงจาก ดอนเมือง-โตเกียวด้วยสายการบินที่หลังๆ เราใช้ตลอด ถ้ามาในประเทศที่สายการบิน Nokscoot นกสกู๊ต นี้ไปได้ ยังใช้เครื่อง Boeing 777-200 จัดแถวแบบ 3-4-3 ข้อดีของแบบนี้ยิ่งถ้าเป็นบินข้ามคืนด้วยแล้ว แถวกลางเป็นแถวที่ดีมาก หากคนน้อย เราสามารถปรับที่พักแขน นอนเหยียดยาวไปได้เลย สำหรับคนสูง 180 ซม.อย่างผมนี่ถือเป็นสวรรค์จริงๆครับ
น้องกราวน์ต้อนรับดีตั้งแต่มาเช็คอินเลย เราสอบถามว่ามีที่นั่งแบบ 4 แถวเหลือไหมน้องช่วยดูให้แล้วย้ายเราไปนั่งตรงนั้นได้ คืนนี้ก็หลับยาวๆนอนเหยียดกันไปเลยจ๊ะ ขอถ่ายรูปด้วยก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีมากครับ ดี๊ดี
รอบนี้สั่งอาหารเป็นข้าวไก่ราดซอสเทอริยากิ เมนูนี้กินกันได้ทั้งบ้าน
ตื่นเช้ามานั่งทำงานสบายๆ อากาศดีมาก ท้องฟ้าแบบนี้เลย
โดยรอบการบริการยังดีเหมือนเดิม ไฟล์ทที่เราบินก็ไม่มีดีเลย์แต่อย่างใด ทั้งสองขา ประทับใจเช่นเคยครับ
ส่วนขากลับเนื่องจากเป็นไฟลท์กลางวัน ค่อนไปทางเย็นๆแล้ว อากาศดีมาก
แสงเย็นตอนเครื่องขึ้นฟ้าระเบิดระเบ้อเลย สวยมากครับ
ปัจจุบัน เส้นทางญี่ปุ่น Nokscoot มีบินตรงลงทั้งสองเมืองหลักอย่าง TOokyo & Osaka วันละเที่ยวนะครับ ใครสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ได้เลย
เกริ่นก่อนเดินทาง
Nikko เป็นหนึ่งในเมืองหลักอยู่ในจังหวัด Toshiki (โทชิกิ)อยู่ในภูมิภาคหลักอย่างภูมิภาค Kanto (คันโต)ไม่ไกลในการเดินทางท่องเที่ยวจากโตเกียว แถมไปสะดวกมาก เพราะความที่มีขบวนรถไฟ รถบัส ไปได้ง่ายมาก หรือจะไปแบบที่เราเคยไปคือการขับรถไปก็ง่ายมาก กรณีถ้าอยากไปเที่ยวแบบคนไทยนิยมที่สุดคือ ทางรถไฟ จะมีขบวนรถไฟที่คนไทยนิยมใช้ไปอยู่สองสายหลักๆ จากหลายสายมากในรีวิวนี้ขอแนะนำแบบที่เราไปมาแล้วสะดวกสุดสำหรับเรา คือ 2 แบบนี้
วิธีเดินทางมา NIKKO
JR PASS กรณีนี้หากมีบัตร JR เหล่านี้ก็สามารถไปได้ไม่ยากเลยคือ JR TOKYO WIDE PASS ,JR EAST PASS (NIGATA,TOHOKU ใช้ได้ทั้งคู่),JR ALL PASS และยังมี PASS พิเศษที่ร่วมกันระหว่าง JR + TOBU อย่าง JR-Tobu Nikko and Kinugawa Round Trip Ticket ที่ออกมาเพื่อให้คนที่อยากเที่ยว NIKKO และยังอยากนั่งรถไฟของ JR ด้วยแต่จะต่อขบวนของ บริษัท TOBU ได้ด้วย ทั้งหมดนี้เดินทางจากโตเกียวได้ทั้งหมด จะแล้วแต่ว่าจะออกจากที่ไหนมีทั้ง TOKYO, SHINJUKU,UENO ว่ากันง่ายๆ เดินทางจากสถานีของบริษัท JR ทั้งหมดได้นั้นเอง ต้องดูว่าเราพักที่ไหนใกล้ตรงไหนไปตรงนั้น แต่ข้อเสียจะมีบ้างเช่นต้องไปต่อกลางทางที่สถานี Utsunomiya Station ก่อน แต่จะมีบางขบวนที่จะวิ่งตรงในวันหยุดก็มี ทั้งหมดนี้ไม่ยากเลย หากมี JR แล้วก็จะพาตัวเองไปจนถึง NIKKO ได้ที่สถานี JR NIKKO STATION นั้นเอง ใช้เวลาตั้งแต่ 1.30-2.15 นาทีขึ้นอยู่กับขบวนและวันที่คุณเดินทางหาข้อมูลรถไฟ JR ที่ไป NIKKO ได้ที่นี่เลยครับ
TOBU NIKKO PASS แบบนี้เป็นของบริษัทเอกชนที่ชื่อ TOBU เป็นการเดินทางที่ผมชอบที่สุด และตรงกับนิสัยตัวเองเวลาไปพักในโตเกียว ที่ไม่ได้ชอบอยู่ในย่านพลุกพล่านนักใจกลางเมืองของโตเกียวเกินไปนัก ที่ชอบพักจะอยู่ย่าน ASAKUSA และรถไฟของ TOBU ถ้าจะไปถึง NIKKO สถานีต้นทางจะอยู่ที่ย่านนี้นั้นเอง
โดยจะต้องขึ้นที่สถานี TOBU ASAKUSA เป็นสถานีต้นทาง และใช้เวลาราว 2 ชม โดยไม่ต้องแวะต่อหรือเปลี่ยนขบวนรถที่ไหนเลย จนถึงสถานี TOBU NIKKO STATION ที่หน้าสถานีนี้เป็นจุดขึ้นรถบัสเที่ยวตามจุดต่างๆใน Nikko ด้วยนั้นเอง ถือว่าสะดวกสุด
สำหรับการเดินทางไป NIKKO ที่ดีและคุ้มค่าที่สุดแนะนำให้ใช้ NIKKO AREA PASS แบบ 2 DAY PASS WORLD HERITAGE ที่ผมไปมาล่าสุดก็ใช้ PASS นี้เที่ยวจะบอกว่าดีมากจริงๆ ขอแนะนำอันนี้ เพราะรอบนี้ใช้พาสนี้เดินทางเที่ยวได้ทั่วโซนด้านล่างของ NIkko ยกเว้นขึ้นไปธรรมชาติบนเขา ต้องใช้ 4day All Pass แทนครับ แบบที่ผมเลือกเป็นแบบคนชอบดูสถานที่สวยงามโซนมรดกโลกกับใช้นั่งรถไฟเดินทางเท่านั้น อย่างที่บอกรอบนี้เป็นการเที่ยวครั้งที่ 3 ของเราแล้ว จะไม่ได้เน้นขึ้นไปบนเขา หรือเจาะไปที่แหล่งเที่ยวมรดกโลก ซึ่งทุกคน สามารถอ่านรีวิวเราได้ที่นี่เลย
ผมหาข้อมูลไปมาจนรู้ว่าเว็บ kkday.com มีขายและขายถูกกว่าที่อื่นด้วย ตัว NIKKO AREA PASS จะมีออกมาหลายแบบมาก แต่ที่นิยมกันที่สุดคือ แบบ NIKKO 4 DAY ALL AREA PASS ใช้เที่ยวทั่วทั้ง NIKKO ได้เลยตั้งแต่บนเขาจนถึงโซนมรกดโลกด้านล่างเป็นเวลา 4 วันไม่จำกัด หรือตามที่รีวิวนี้ขอแนะนำแบบที่ตรงกับหัวข้อนะครับ แบบ NIKKO 2 DAY PASS WORLD HERITAGE แบบนี้จริงๆ แล้วก็อย่างชื่อเลยตรงตัวใช้เที่ยวด้านล่างของเมืองไม่ได้ขึ้นเขาไปเที่ยวน้ำตกเน้นๆแค่ตรง WORLD HERITAGE แต่ข้อดีของพาสนี้คือมันใช้เดินทางไปจุดท่องเที่ยวรอบๆ ได้ด้วยอันเป็นที่มาของรีวิวนี้ ทุกคนสามารถจะซื้อจากที่นี่เลยครับ
ราคาปรกติจะขายที่ 2,000 เยน เด็ก 600 เยน สำหรับ 2 Day Pass ครับ ซื้อจาก KKDAY จะอยู่ที่ 500+บาท ซึ่งก็ถูกกว่าแน่นอน คำนวนที่ค่าเงินปัจจุบันที่ 30 บาทนะครับ
TOKYO METRO PASS สำหรับการเที่ยวโดยรถไฟใต้ดินทั้งหมดในโตเกียวใช้คู่กันกับ NIKKO AREA PASS หรือ JR PASS ก็คือสะดวกสุดมีแบบขายทั้ง 1,2,3 day pass แนะนำให้ซื้อกันเถอะ แค่นั่งไปนั่งมาเที่ยวสัก 3-4 ทีก็คุ้มแล้วสำหรับ 1 day หรืออยู่หลายวันก็ยิ่งคุ้มเพราะยังไงเราก็ใช้ รถไฟเที่ยวกันเป็นหลักอยู่แล้วจริงไหม เราซื้อพร้อมๆกันกับ NIKKO AREA PASS หาตั๋ว Tokyo Metro Pass ถูกๆได้ที่นี่เลย
มาดูแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวของ พาสนี้กัน สถานีหลักๆ สามารถไปได้หมด(และนอกจากที่ระบุไว้ก็ใช้ได้ ดูที่ *** ด้านล่างนะครับ) ผมจะแนะนำที่สถานี Kinukawa onsen Station เป็นหลักนะครับเพราะเที่ยวตรงนี้เยอะสุดไปตามจุดที่เที่ยวพร้อมบอกการเดินทางครับ
*** ในทริปนี้เรามีแวะเที่ยวสถานีอื่นๆ นอกจากด้านบนที่ระบุไว้(ในแผนที่จะระบุเฉพาะสถานีที่ขบวนรถไฟเน้นๆเท่านั้นจริงๆมีมากกว่านี้ในขบวนธรรมดา) แต่ต้องอยู่ในเส้นทางของขบวนรถไฟ Tobu ผ่านด้วย เพราะฉะนั้นนอกจากสถานีที่ระบุไว้ด้านบน (คือจาก Asakusa Station- Tobu Nikko Station หรือ จาก Asakusa-Shin- Fujiwara Station)คุณยังสามารถใช้ Pass นี้ขึ้นลงสถานีอื่นๆระหว่างทางที่ขบวนรถไฟแบบธรรมดาได้ตลอดทางนะครับ
สามารถดูรายละเอียดเส้นทางเส้นNikko นี้ทั้งหมด พร้อมกับรอบรถไฟที่วิ่งผ่านได้ ที่นี่เลยครับ
————————————————————————————————————————————–
รวมที่เที่ยว และ ที่พักแบบครอบครัว one22 family
เก็บสตอเบอร์รี่ ที่สวน Strawberry Hanaichi Monme Kinugawa
สตอเบอร์รี่กับคนไทย เป็นของคู่กัน ผมขอใช้คำนี้เลยแล้วกันนะ เพราะใครๆไปก็มักอยากเก็บและบ้านเรานี่นักเก็บเลย เก็บมาหลายที่แล้ว 555 และที่ Nikko ก็มีที่นี่ด้วย เราเลยมาลองกันดูและไม่ผิดหวัง เพราะนอกจากสวนสตอเบอร์รี่แล้วเรายังมารู้ทีหลังว่าที่นี่มีสวนดอกไม้ที่สวยสุดๆ ไปเลย เป็นสวนที่คุณลุงเจ้าของแกตั้งใจทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธ์กล้วยไม้ ดอกไม้ไปด้วยแต่ที่เน้นๆ จะเป็นให้คนมาเข้าชมได้ สวนดอกไม้ที่นี่มีหลากหลายมากกก ขอยืนยันมากจริง แต่ละพันธ์ก็สวยๆทั้งนั้นที่เด่นๆ แล้วเราว่าสวยถูกใจคนไทยแน่ๆ มีทั้ง กล้วยไม้ กุหลาบ ดาลเลีย และอีกหลายชนิด เราเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ด้านในจะมีสวนสัตว์เล็กๆให้ได้ชมด้วย ถือว่ามาแล้ว 3 in 1 กันทีเดียว คุ้มมาก รับรองคุณแม่คุณลูกชอบทั้งคู่ ปันเป็นเด็กผู้ชาย และตอนนี้เค้ากำลังพยายามอ้อนขอเราเลี้ยงสัตว์ มาเจอ เจ้า หนูแฮมเตอร์ กระรอก กระต่าย นกแก้ว นกมาคอร์ โอ้ววว ร้องขอสุดตัวกันเลย จนเราต้องเบรคเค้าก่อน
มาดูกันที่สวนสตอเบอร์รี่ก่อน ที่นี่ดูแลดีมาก เอาว่าดีสุดๆและยังเข้าใจวิถีการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย จนเราประหลาดใจ คือปรกติเค้าก็จะปลูกอยู่ในเรือนที่คลุมมิดชิด แต่ที่เคยไปมาเค้าจะปลูกไว้ที่พื้นและทำแนวทางเดินแคบๆให้คนเดิน แต่ของสวนของคุณลุงแกจะทำยกสูงให้คนเด็ดสตอเบอร์รี่ถนัดขึ้น แกบอกว่าตั้งใจจะทำให้คนสะดวกและสนุกกับการเก็บล่ะ
อันนี้ชื่นชม เพราะมันก็สะดวกขึ้นง่ายขึ้นจริง แต่กับพันธ์ไหนที่มันปลูกยกสูงไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราก็เก็บของเราได้ ที่นี่จะมีพันธ์เฉพาะของ NIKKO เอง ด้วยเค้าเลือกเฟ้นออกมาหลายพันธ์ให้เราเลือกเก็บได้ อร่อยทุกแบบ ลูกเล็ก ลูกใหญ่ เราคนไทยได้หมดอยู่แล้วจริงไหม
เป็นอีกกิจกรรมที่เหมาะมากกับทั้งเด็กหรือพ่อแม่ทั้งหลาย ปันเด็ดไปชิมไป สนุกสนานครับ อ่อเค้าจะมีนมข้น ให้เราไว้จิ้มกินไปด้วยนะ เก๋ๆ ดี ทำน่ารัก เออพอจิ้มนมก็อร่อยดีครับ เด็กกินง่ายขึ้นมาก
เวลาเปิดปิด 9.00-16.30 น.
ค่าใช้จ่าย 1500 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก 1000 เยน สำหรับเด็กที่อายุเกืน 4 ขวบ เก็บได้ 30 นาที เก็บไปกินไปตามใจชอบเลย
วิธีเดินทาง จากโตเกียวนั่งรถไฟสาย TOBU NIKKO LINE จากสถานี TOBU ASAKUSA มาลงที่สถานี KINUKAWA ONSEN จากนั้นต่อบัสที่จอดอยู่ที่ป้ายหน้าสถานี จะมีเขียนบอกไว้ว่ามาสวน HANAICHIMONME นั่งมา 15 นาทีถึงครับ
——————————————————————-——————————————————————-
ชมสวนดอกไม้ ในเรือนกระจก Hanaichi Monme Kinugawa
ยังอยู่กับสวนสตอเบอร์รี่ครับ อย่างที่เกริ่นไปสวนเดียวกันนี้ยังมีสวนดอกไม้สวยๆ อยู่เป็นเรือนกระจกสูง
ดอกไม้หลากหลายอย่างที่บอกไป เข้ามาเจอดอก Petunia ห้อยย้อยลงมาสวยมากก เล่นเอาแม่ปันยิ้มแก้มปริเลยยิ่งพอบอกจะถ่ายรูปให้ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เราเก็บภาพกันแถวๆนี้นานเลย
ถ่ายวนไปครับชั่วโมงนี้ยกให้แม่เย่นเค้าเลย
ปันอาจจะไม่อินกับดอกไม้เท่าแม่เค้าเลยเลี่ยงเดินเข้าไปเจอฟาร์ฒสัตว์เล็กๆ น่ารักทั้งหลาย คราวนี้ล่ะ สนุกใหญ่เลย
เดินถัดเข้ามาโซนด้านในนี้จะแยกเป็นมุมสัตว์น่ารักหลายแบบ เจอด่านแรกกับหนูแฮมเตอร์ ตัวมันใหญ่มาก เค้าจะมีอาหารไว้ให้เด็กๆ ให้มันกินได้ มีขายนะ
เจอนกแก้ว ก็ยิ่งชอบใหญ่ช่วงหลังปันอยากเลี้ยงนกตามเพื่อนที่ โรงเรียนเค้าอยู่ด้วย
เดินเข้าไปด้านในจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะครับ ในสุดจะเปิดไปเจอสวนดอกไม้ที่ด้านหลังเป็นภูเขาลูกใหญ่ สวยงามกันดีทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีโซนคาเฟ่ให้นั่งชิลๆในสวนดอกไม้สวย กลิ่นหอมๆเหล่านี้ ทานอาหารกันได้อีกนะ
วิธีเดินทาง มาแบบเดียวกันกับด้านบนเลยครับ
ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่เลยครับ http://www.nikko-hanaichimonme.jp/index.htm
————————————————————————————————————————————–
สะพานแขวนท่ามกลางหุบเขาข้ามลำธารกับ Kinu-Tateiwa-Otsuribashi Suspension Bridge
อีกหนึ่งจุดของ สถานี KINUKAWA ONSEN ที่เรามาเที่ยวกันต่อ กับสะพานแขวนความยาว 140 เมตร ยาวที่สุดใน NIKKO
สะพานนี้มาพร้อมจุดชมวิวริมลำธาร ที่เราว่ามันสวยมากเลยนะ ยิ่งถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเดือนตุลาคมป่าด้านหลังเปลี่ยนสีเป็นส้มๆ แดงๆ ต้องสวยมากๆแน่ครับ
ก็สมควรเก็บภาพกันแม้สะพานจะแกว่งหน่อยๆ ก็ตาม ฮ่า ฮา
เดินข้ามมาฝั่งตรงข้ามจะเจอรูปปั้นยักษ์เยอะมาก ที่นี่เค้ามีความเชื่อเรื่องยักษ์ว่าจะช่วยดูแลปกป้องป่าและชาวบ้านให้พ้นอันตราย จึงสร้างรูปปั้นยักษ์ ขึ้นมาหลายตัว และกลายเป็นจุดถ่ายภาพสวยๆของที่นี่ไป
เราเดินกันขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อมาชมจุดชมวิวบนยอดเขาด้านใน จะมีศาลเจ้าอยู่ เจอครอบครัวชาวญี่ปุ่นขึ้นมาด้วย ดูน่ารักมากครับ
เดินขึ้นมาเอาหอบเบาๆ จะได้เจอวิวสวยๆของลำธารที่น้ำไหลลงมาจากเทือกเขา Takahara ที่นี่ถือเป็น Unseen ของที่นี่เลย คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแวะมากันเพราะไม่ได้ดังขนาดบนเขาใน NIKKO ส่วนตัวถ้ามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่สวยแน่นอนครับ
เวลาเปิดปิด 24 ชม.
วิธีเดินทาง จากสถานี KINUGAWA ONSEN เดินมาแค่ 900 เมตรเท่านั้น 12 นาทีถึง ไม่ไกลเลย ปักหมุดใน map ให้แล้วครับ ที่นี่เลย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่นี่เลยครับ http://www.nikko-kankou.org/spot/41/
——————————————————————-
TOBU WORLD SQUARE ย่อทั้งโลกไว้ในมือเรากับโลกจิ๋วๆ ที่แสนมหัศจรรย์
สำหรับที่นี่เราเคยเล็งไว้นานแล้วละครับว่าจะมาเที่ยวสักครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้มาซักที่เพราะเอาจริงๆ เวลามาที่ NIKKO เรามักจะไปจอดแถวๆมรดกโลกหรือไม่ก็ขึ้นเขาไปชมน้ำตก ดูธรรมชาติบนเขามากกว่า
ก่อนมาเราเองแอบทำใจกันผิดหวังไว้บ้างเพราะเอาจริงๆ เราคิดเอาเองว่ามันจะสนุกไหมน้อ และเมื่อพอมาจริงๆ เอ้ยมันสนุกเกินคาดมากๆ เอาตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาด้านในก็หนุกแล้ว
ดูเอาเลย ที่นี่จะเป็นการสร้างเมืองจำลองทั่วโลกยกมาไว้ใน TOBU WORLD SQUARE เรียกว่าย่อโลกมาไว้ในนี้ เอาสถานที่เด็ดๆ จากทุกมุมโลกมาย่อแล้วสร้างให้เนี๊ยบเหมือนจริงสุดๆ
และเอาจริงๆ มันก็โคตรเหมือนจริงๆ เลย ผมสังเกตุอาการจากปัน เป็นหลัก หลังจากผ่านประตูเข้าไป ทีแรกเค้าดูเฉยๆ จนกระทั่งเค้าเริ่มเห็นรายละเอียดต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เห็นการขยับของแต่ละวัตถุ
มองตามที่ผมเริ่มสังเกตุเองเช่นกันว่าตัวตุ๊กตาแต่ละตัวมันมีรายละเอียดที่ต่างกันไป ไม่ได้ซ้ำๆกันถึง 27,000 ตัวกันเลย สุดๆสมเป็นญี่ปุ่น รายละเอียดของสิ่งก่อสร้างจำลองที่ใส่ใจ มีการแบ่งเป็นโซนๆ อย่างโซน Hilight สิ่งก่อสร้างสำคัญของโลก มีหอไอเฟลขนาดใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่า หรือ อดีต ตึกแฝดอย่าง เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ก็ดี ที่เห็นแล้วทำให้คิดถึง
ที่ปันหรือเด็กๆน่าจะชอบเป็นพิเศษก็น่าจะเป็นเครื่องบินจำลองที่สามารถขึ้นไปนั่งบนเครื่องได้ด้วย (หมายถึงนั่งคร่อมแบบในภาพน่ะครับ) เป็นจำลองสนามบินนาริตะมาไว้ให้ดูกัน และเครื่องบินสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ด้วยนะ
ยิ่งเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ไปเจอโซนสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เจอสพิงค์ เจอปิรามิด เด็กยิ่งตื่นเต้น เจ้าหน้าที่เองก็ใส่ใจดูแลดีนะครับ เค้าเข้ามาชี้ให้เราดู มุกขำๆ ของคนสร้างที่สอดใส่มาเช่น
ตรงโซนอียิปต์ ที่มีตัวตุ๊กตามัมมี่ ออกมาไล่คน ก็น่ารักดี
หรืออย่าง โซนกำแพงเมืองจีนที่มีตุ๊กตา พระถังซำจังกับหงอคง กำลังเดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกงี้
ที่ส่วนตัวผมชอบมากคือ ตรง หน้า ทำเนียบขาว มีตุ๊กตาโดนัลด์ทรัป กับครอบครัวยืนโบกมืออยู่ด้วย เนี๊ยบจริงๆ สมแล้วที่เป็นญี่ปุ่นครับ
เชอร์ล็อกโฮมก็มาจ๊ะ
หรือในโซนญี่ปุ่นก็น่าสนใจ เราเดินมาจนถึงปราสาทแห่งนึง แล้วจู่ๆเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ ก็ควักเหรียญ 10 เยนออกมาแล้วชี้ไปที่ปราสาทและที่เหรียญเราถึงบางอ้อทันที่ มันคือที่อยู่ในเหรียญนั้นเอง
รวมๆบ้านเราสนุกสนานกันมากกับการท่องโลกใน TOBU WORLD SQUARE อ่อ เค้ามี GIMMICK การขายด้วยการขายบัตรเสริมพิเศษเป็นบัตรที่ใช้กับตัวสิ่งก่อสร้างหรือเครื่องเล่น
บางอย่างหากใช้บัตรใบนี้เสียบเข้าไปมันจะมีการเคลื่อนไหวออกมาเช่น เรือขนส่งทางทะเลจะมีการเคลื่อนมาเข้าท่าเรืองขนส่งและมีการผันน้ำออกเพื่อจำลองการเทียบท่าของจริง หรืออย่างตรงสะพานแม่น้ำเทมป์ของอังกฤษ ก็สามารถมีการยกสะพานจริงๆให้ดูได้ มีความเก๋ดีมาก
รวมๆประทับใจกันมากเลย อยากแนะนำพ่อแม่พาเด็กๆ มาเข้าที่นี่กันนะ คุยกับเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่ามีแผนจะเอาสถานที่สำคัญของไทยมาเพิ่มในนี้ด้วยเพราะคนไทยมาเยอะขึ้นทุกปีครับ
เวลาเปิดปิด 09.00-17.00 น และ 09.30-16.30น ในระหว่างเดือน Dec- Mar ทุกปี
ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่ครับ http://bit.ly/2Xakk42
ค่าใช้จ่าย 2,800 yen และ เด็ก 1,400 เยน กรณีมีบัตร NIKKO PASS เอามาลดได้เหลือแค่ 1,800 เยน และ เด็ก 1,200 yen เรียกว่าคุ้มมากสำหรับ Pass นี้ครับ
สนใจก็ไปซื้อหากันได้ที่นี่เลย NIKKO AREA PASS
การเดินทาง จาก สถานี KINUKAWA ONSEN สามารถนั่งรถบัสประจำทาง TOBU WORLD ที่จอดรับส่งด้านหน้าที่นั้นได้ มีค่าใช้จ่ายกรณีไม่ได้ใช้ KINUKAWA THEME PASS
หรือหากพักโรงแรมทุกโรงแรมในเขตนี้สามารถติดต่อโรงแรมเพื่อให้รถที่เวียนรับส่งของ TOBU WORLD มารับได้เช่นกัน
——————————————————————-
ไปแต่งคอสเพลย์ ย้อนยุคเมืองโบราณเอโดะกัน
เคยกันไหมครับ ดูหนัง ดูละครย้อนยุคซามูไรญี่ปุ่น
เห็นเค้าแต่งตัวจัดเต็ม แล้วอยากแต่งบ้าง อยากมีดาบซามูไร อยากแต่งตัว ฮ่า ฮา ผมเองสมัยเด็กๆ นั่งดูหนังซามูไรนี่ อยากจะเป็น ซามูไรมาก
รอบนี้ฝันเป็นจริงแล้ววว
กับการไป EDO WONDER LAND
สวนสนุกย้อนยุคทั้งเมือง บ้านเรือนยุคโบราณสมัยเอโดะ ที่ไม่ใช่เมืองจำลองนะ แต่เป็นบ้านเรือน สร้างจริง อยู่ได้จริงๆ
มีคนแต่งตัวยัอนยุค เดินกันขวักไข่ว จริงจังเลย สวยมาก มุมถ่ายรูปเยอะ เดินกันทั้งเมือง ได้ทั้งวัน
และแน่นอน เราก็เลือกชุดแต่งตัวได้ เค้าจะมีคนแต่งให้เสร็จ
พร็อบจัดเต็ม อุปกรณ์ครบเลยจ๊ะ ดาบ เดิ้บ ดาวกระจาย มาหมด
ปันชอบมาก มีหมด ทั้งชุดนินจา ซามุไร พร็อบดาบมาเต็ม สำหรับสาวๆ มีชุดกิมโมโน ชุดซามูไรก็ได้นะถ้าสาวๆ อยากใส่ ชุดเจ้าหญิง ชุดเกอิชา มีให้สาวๆ แต่งกันเยอะมากเลย
เลือกกันสนุกมาก
ฝั่งผู้ชายก็เช่นกัน ซามูไรฮิบสะเตอ ตำรวจโบราณ เน็บดาบ
คาดเอวจริงหมดเลยนะ (แต่เค้าลับคมดาบออกแล้วไม่อันตรายจ๊ะ)
ช่วยแต่งให้จนหล่อเลย ปันไม่ต้องแต่งเองนะคร้าบ ใชัเวลาราวๆ 15 นาทีสำหรับผู้ชาย ถ้าผู้หญิงกับพวกชุดกิมโมโนก็นานหน่อย
แม่ปันกับชุดเจ้าหญิงเลยจ๊ะ แต่งสวยๆเดินถ่ายรูปเข้ากันกับบรรยากาศดีงามจ๊ะ
ซามูไรบอย ปกป้องหญิงแม่คะ 555
ข้างในมีทั้งร้านค้าย้อนยุค มีช็อปขายของแนวๆ
มีโชว์นินจา สนุกมากกกก จริงจังตื่นเต้นสุดๆ เลย โชว์นินจาที่ดีมาก ปีนป่ายกันสุดจริงๆ ตื่นเต้นตลอดการเข้าชม จริงจังได้ใจเรามากเลย ประทับใจมากครับเหมือนได้นั่งดหนังนินจาดีๆเรื่องนึงเลย นักแสดงจริงจังขึงขังมาก จบโชว์เราถ่ายรูปคู่กับนินจาได้เลย
มีนินจา โชว์ดีมาก ดีกว่าที่เราคาดไว้เยอะเลย คือนักแสดงเค้าสวมบทจริงโดดขึ้นโดดลงหลังคากัน จนเราหวาดเสียวเลย สนุกมาก ใครชอบ Live Action Show แนะนำเลยต้องมาดูที่นี่
ข้างในมีร้านรวงมากมาย ขายของกินก็เยอะ และมีให้แต่งตัวแล้วยังมีรอยสักน่ารักๆให้เราเลือกด้วยนะ มีสติ๊กเกอร์แนวรอยสักพร้อมแบบให้เลือก สนุกดีแปะแล้วฮากันไป
สนุกสนานกันทั้งบ้าน อยู่ได้ทั้งวัน มีร้านประลองฝีมือทั้งดาวกระจาย ยิงธนู ขว้างลูกดอกนินจา คือครบจริงๆ สานฝันวัยเด็กผมได้เต็มๆ
บอกเลย ผมใช้เวลาอยู่ในนี้เต็มวันกันเลยตั้งแต่สายๆ จน 4 โมงเย็น เรียกว่าเอาให้คุ้มชุดกันทั้งบ้าน
ที่ถือเป็น HILIGHT คือการโชว์แม่นางงามเมืองที่จำลองพิธียุคเอโดะ มาจริงจังในถนนเส้นหลักของที่นี่ เค้าดูให้เกียรติ์กันจริงๆเลย โชว์นี้คือไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ อ่อที่รองเท้าของแม่นางนี่สูงมากจนน่ากลัวจะตก ถึงว่าเค้าจะมีคนเดินเคียงประคองกันไปตลอดทางเลย
ก่อนกลับเจ้าหน้าที่จะออกมายืนโค้งคำนับแขกที่มาเที่ยวแบบนี้เป็นการส่งท้ายก่อนจากลาด้วยประเพณีของญี่ปุ่นเค้า จริงจังขึงขังมากเลย
เวลาเปิดปิด 9.00-17.00 น.
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 4700 เยน เด็ก 2400 เยน ผู้สูงวัย 3290 เยน ราคาแบบเต็มวัน ถ้ามีพาส ลด 10%
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ http://bit.ly/2X86L57
จากสถานี Tobu Asakusa Station มาลงสถานี Kinugawa onsen จะมีรถรับส่งจากสถานีเลย ราคา ไปกลับ 820 เยนถ้าใช้พาสก็ลดได้ 10%เลยจ้าคุ้มมากรวมถึงส่วนลด กิน ช้อปต่างๆ อีกมากคุ้มนะผมว่า
ปิดท้ายกับที่พักดี๊ดี Kinugawa Onsen hotel
เรามาพักกันไม่ไกลจากที่เที่ยวนักเป็นหนึ่งในโรงแรม ท็อบของ Kinugawa Onsen เลยเป็นชื่อที่ตั้งกันทีเดียว
เข้ามาส่วนของกาต้อนรับดีสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เลย กว้างขวางโอ่อ่าดีมาก
ที่พักอยู่ใกล้กับแม่น้ำ เปิดหน้าต่างออกมาเจอวิวสวยๆ แต่วันนี้หนาวมากมองจากหน้าต่างเอานะ 555
ส่วนของห้องพักคือดีเลย กว้าง ปูที่นอนบนเสื้อ ทาทามิ แบบที่เราชอบ ถ้าเป็นช่วงก่อนค่ำ เค้าจะกางโต๊ะ ญี่ปุ่นแบบที่เราคุ้นๆกันดี มีชุดยูคาตะให้ใส่ ก็จัดสิครับรออะไร
แต่เมื่อตอนค่ำมาถึงก็จะปูผ้านวมสไตล์แบบที่เราชอบมาแทน ใครที่เคยนอนที่นอนแบบนี้ รู้กันใช่ไหมมันนุ่มมากก ดูเด็กน้อยเป็นตัวอย่างได้เลยครับ
ที่นี่ยังมีดีอีกอย่างที่สำคัญคือ บุฟเฟ่ต์ อาหารค่ำที่จัดเต็มมาก ดีงามที่สุด อาหารดี มีทุกอย่างครบในสไตล์ญี่ปุ่นเลยไปถึงสไตล์ฝรั่ง ห้ามพลาดเลยนะเริ่ดมากๆ
เน้นๆก็พวกซาซึมิ ชูชิ รวมถึงของทอดสไตล์ญี่ปุ่น ข้าวหน้าต่างๆ
อย่างเสต็กเนื้อ ก็มีนะ คือเริ่ดเลยสำหรับบุฟเฟต์ของโรงแรม เรียกว่าตกค่ำแขกไม่ต้องไปไหนกันเลย
ปันก็เอ็นจอยสุด เรียกว่ากินอื่นนอนสบายทั้งบ้าน ประทับใจเรามากสำหรับที่นี่ครับ
ตกค่ำผมกับปันก็ไปไปแชร์ออนเซ็นด้วยกัน ออนเซ็นที่นี่ก็ถือว่าดีมากมีหลายบ่อ ทั้งบ่อในร่มและกลางแจ้ง แต่ถ้าจะแช่ต้องเช็คเวลาดีๆ เพราะเป็นบ่อเวียนสลับหญิงชาย ต้องดูป้ายเวลากันดีๆครับ
การเดินทาง ลงที่สถานี Kinugawa Onsen Station จากนั้นต่อบัสของโรงแรมที่จะมีรับส่งทุกโรงแรมในเขตนี้ นั่งยาวมาลงที่หน้าโรงแรมได้เลย ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีครับ
เวลาเปิด-ปิด สำหรับ Onsen จะมีแยกเป็น สองบ่อ เปิดปิดสลับกัน สามารถดูเวลากันได้ที่นี่เพื่อกันความผิดพลาดเช็คกับทางโรงแรมเวลาเข้าพักอีกทีนะครับ กดตรวจสอบเวลาที่นี่เลย
ค่าใช้จ่าย ราคาจะมีทั้งแบบรวมบุฟเฟ่ต์ และไม่รวม แนะนำให้เลือกแบบรวมไปเลย ราคาจะเริ่มต้นที่ 4,xxx ปลายๆ กับห้องแบบ 2 คน หากจองแบบรวมบุฟเฟต์ก็จะ 5,xxx บาทครับ
ส่งท้ายกันหน่อย
บรรยากาศแสงสุดท้ายระหว่างเรานั่งรถไฟกลับเข้ามาในเมืองครับเป็นอีกทริปที่สนุกสนานได้สาระ และความสนุกเหมาะกับทุกคนทีอยากหาที่เที่ยวใกล้ๆโตเกียว จะมาวันเดียวหรือมาค้างก็ยังสนุกสนานกันทั้งบ้านหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะครับ ทริปนี้สั้นๆเรามาเที่ยว NIKKO กัน 2 วัน 1 คืน สนุกสนานมากครับ สำหรับบ้านไหนที่อยากจะมาเที่ยวนิกโกะแล้ว แต่ยังไม่เคยมายังโซน KINUGAWA ONSEN ลองมาเที่ยวแบบเรากันดูครับ
จนกว่าจะพบกันใหม่ที่ใดสักแห่งในโลกสีฟ้าแห่งนี้ครับ
#one22family