Taiwan ทริปพาลุยสวนสนุก Leofoo Village & Leofoo Resort ครบทั้งสวนสนุกและที่พัก รีวิวนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวหนึ่งในสวนสนุกที่ดีที่สุดในประเทศไต้หวัน
เหตุผลที่ทำให้ผมมั่นใจขนาดนั้นเพราะว่า ย้อนไปสองปีก่อน ผมมีโอกาสไปเดินทางหาที่พาเด็ก ๆเที่ยวเพื่อเขียนรวบรวมเป็นหนังสือ 4 Bloggers in Taiwan (แฮ่มเล่มนี้ดีมากเลยนะ รวม ไว้ถึง 4 คน 4 สไตล์เลยน้าา ฮ่า ฮา) หนึ่งในการแนะนำนั้นคือสวนสนุก และสวนน้ำ เราไปกันมาหลายที่ แต่ที่ ๆ เราประทับใจที่สุดคือที่นี่ ตอนนั้นยังมีรีวิวไว้เลยในโซนสวนน้ำ สามารถอ่านรีวิวนั้นได้ที่นี่ครับ Taiwan Again: 7 ที่พาครอบครัวเที่ยว ไทเป-อี้หลัน มันส์ดี๊ดี สำหรับรีวิวนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวสวนสนุก และสวนสัตว์แนวซาฟารีกันบ้าง ตามมาเลยครับ
ช่วงที่เรามาเที่ยวกันเป็นปีที่สวนสนุกแห่งนี้เปิดมาครบ 40 ปีแล้ว น่าทึ่งดีเนอะ สำหรับสวนสนุกสักที่ ที่เปิดมาได้นานขนาดนี้ ไม่ธรรมดาเลย ไหน ๆ แล้วรอบนี้เราเลยเลือกจะนอนที่นี่ไปเลย 3 วัน 2 คืน เอาให้เต็มที่ไปเลย คือครบหมดทั้งสวนสนุกและรีสอร์ท เอาล่ะ ลองมาดูสวนสนุกที่ดีสุด ของไต้หวันเค้ากันเลย อ่อ ภาพจะผสมกันในช่วง 2 วันที่เราแวะเวียนมาเล่นอยู่ในนี้นะครับ แสงเลยจะมีในวันแรกและวันที่สองดูคลึ้ม ๆ หน่อย ๆครับ
วิธีเดินทาง:
สำหรับการเดินทางมาที่นี่ ประหยัดตังสุดให้ใช้รถไฟ MRT+E-Go Bus จากสถานี Taipei Main Station นั่งสายสีน้ำเงิน Bannan Line ไปลงที่สถานีต้นทาง MRT Zhongxiao dunhua Station Exit 8 เดินไปรอที่ป้ายรถเมล รถ E-Go Bus สาย 5350 มันจะอยู่ตรงเกาะกลางถนน นั่งจากตรงนี้ 17 ป้ายไปยาวๆที่นั่งมีชัวร์ ค่ารถจะอยู่ที่ 140-145 NTD ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงกว่า
ค่าใช้จ่าย
ผู้ใหญ่ เข้าทั้ง 2 Park 1,299 NTD, Theme Park 999 NTD,Water Park 599 NTD
เด็กสูงกว่า 120 cm. เข้าทั้ง 2 Park 699 NTD, Theme Park 499 NTD, Water Park 499 NTD
เด็กสูงระหว่าง 100-120 cm. เข้าทั้ง 2 Park 599 NTD, Theme Park 499 NTD,Water Park 399 NTD
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 649 NTD, อย่างนึงอย่างใด 399 NTD
เข้ามาแล้วจะได้ Wristband ให้สามารถเข้าออกได้ทั้งวันเพราะจริง ๆ ที่นี่มี 2 โซนหลักถ้าซื้อแบบเหมาก็ใช้เข้าออกได้ตลอดครับ
ช่วงที่เราไปจะมีกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มหลายอย่าง สนใจกดไปดูรายละเอียดและราคากันที่นี่เลยนะ >> http://bit.ly/2RXGJ59
รอบนี้เราเน้นกันที่เข้าซาฟารีเยอะมาก และมาเพื่อดูโชว์ช่วงคริสต์มาสที่จะเริ่มทุกช่วงปลายปี แต่ยังไงเราขอเริ่มกันที่ ซาฟารีก่อนจะดีกว่า เพราะเป็นของใหม่สำหรับเรามากที่มาในรอบนี้
Leofoo Village
สำหรับที่นี่จะแบ่งออกมาเป็น 2 โซนหลักคือ Leofoo Village Theme Park และ Leofoo Village Water Park (อันนี้เราเคยมาแล้วช่วงหน้าร้อน7 ที่พาครอบครัวเที่ยว ไทเป-อี้หลัน มันส์ดี้ดี)
เรามาที่นี่ครั้งที่สองแล้ว รอบนี้เรามาช่วงหน้าหนาวทำให้บรรยากาศดูเต็มไปด้วยบรรยากาศสุขสันต์ท่ามกลางความหนาวกันเลย โดยเฉพาะตรงโซน Theme Park ที่ทำให้เราอยากกลับมาครั้งนี้
Leofoo Village Theme Park
อย่างที่บอกหนแรกเรามาหน้าร้อนครับ หนนั้นพยายามเล่นทั้งน้ำ และสวนสนุกในวันเดียวรู้สึกมันไม่ค่อยเต็มที่ยังไงไม่รู้ อาจจะเพราะให้เวลาน้อยไปหน่อย แค่ 1 วันเท่านั้นรอบนี้เลยจัดมาซะ 3 วัน 2 คืนไปเลยก็เที่ยวได้หมดแต่ไม่รวมสวนน้ำเพราะช่วงที่เรามา เดือนธค. คือเค้าปิดรับฤดูหนาวนั้นเอง
ตัว สวนสนุกจะมีทั้งหมด 4 โซนด้วยกันแบ่งไปตามสไตล์การตกแต่งทั้งหมด ดังนี้
- The Wild West จะตกแต่งสไตล์คาวบอยตะวันตก
- South Pacific ตกแต่งสไตล์ทะเลใต้ฮาวาย ๆ หน่อย
- Arabian Palace อันนี้ก็ตรงตัวสไตล์อาหรับเลย
- African Tribe สไตล์แอฟริกานั้นเอง
ผมอาจจะรีวิวเครื่องเล่นได้ไม่หมดจะขอเอาที่เราชอบมาเล่าก่อนนะครับ เพราะตอนไปเค้ามีปิดปรับปรุงเครื่องเล่นหลายตัวทำให้พลาดไป น่าเสียดายมากเลย ที่แสดงว่าเราจะต้องกลับไปอีกสินะ หึหึ 😉
The Wide West บุกแดนตะวันตกกัน
ขอเริ่มที่โซนนี้ถือเป็นโซนหลักของที่นี่ก็ว่าได้เพราะเราเห็นเครื่องเล่นหลัก ๆ อยู่ในนี้หลายตัว ทั้งล่องแก่ง รถไฟเหาะ ยิงปืน รวมถึงโซนโชว์สัตว์เที่ปันเค้าชอบมาก
Grand Canyon Rapid Rafting เป็นล่องแก่งที่เราชอบมาก และแน่นอนมันเปียกแน่ ๆ จะเล่นให้ไม่เปียกก็ใส่ชุดกันฝน ซึ่งเค้าก็มีขายด้วยอีกที ราคา 50 NTD จ๊ะ สนุกมาก แถมนั่งหมุนกันนานอยู่นะไม่ใช่เล่นแป๊บ ๆ เลิก
และที่เจ๋งคือเราสามารถแกล้งคนที่อยู่ในแพได้ด้วยการยิงปืนใหญ่ใส่ได้ด้วย เด็ก ๆ ชอบมากเลย หยอดเงินกันไม่หยุด เสียตังกันไป
อีกเครื่องเล่นที่เล่นได้ทุกวัย ก็น่าจะ Wild West Train รถไฟเหาะเนี่ยละครับ สุนกกำลังดีกับเด็กสูงขนาด 90 cm ขึ้นไปเล่นได้หมด
จริง ๆ ก็มีเครื่องเล่นอีกหลายอย่าง ไปเลือกกันได้สไตล์ที่นี้จะตื่นเต้นกำลังดี คนไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งกันเลย
นอกจากนี้ ถ้าเอาตื่นเต้นสุด ๆ แทบหัวใจกระเด็นออกมาเรายกให้ The Condor Roller Costar ตัวนี้เลย เห็นกรี๊ดกันดังมากจ๊ะ มันสไลด์ลงมาได้เร็วแรงสาแก่ใจเลย
และวันที่เราไปเป็นวันที่เค้ามีโชว์คริสต์มาสพอดี จึงมีร้องเล่นเต้นรำโชว์ความยาวกว่า 15 นาทีในธีมเจ้าหญิงน้ำแข็ง
เอาจริง ๆ เราว่ามันดูสนุก และร้องเล่นเต้นกันสนุก ไม่แพ้โชว์ดี ๆ ในดีสนีย์เลยนะ เพราะเค้าก็ Import มาจากต่างประเทศเช่นกัน
ก่อนจะพาไปตบท้าย ธีมคริสต์มาสด้วยการ ไปเจอซานต้ากันกับ Santa Claus fan party ได้อารมณ์แบบเจอซานต้าครอส แล้วบอกว่าอยากได้อะไรกับซานต้าแต่เค้าประยุกต์มาเป็นถ่ายรูปกับซานต้าแทน ก็น่ารักดี
โซนด้านหน้าเค้าทำเป็นโซนหิมะ มีหมดทั้งตุ๊กตาหิมะ และกวางเรนเดียร์จ๊ะ ถ่ายรูปกันได้เลย แต่จะเข้ามาถ่ายรูปได้เราต้องซื้อตั๋วก่อนนะ อันนี้เสียตังจ๊ะ
มาดูอาหารบ้าง เรามาที่ร้าน Burger House สไตล์อเมริกัน กับลองเมนูเบอร์เกอร์ไซด์ใหญ่มหืมาทีเดียว กินกันได้ทั้งบ้านเลย กับราคา 999 NTD คุ้มมากเลยนะ เอาจริง ได้ไก่มาทั้งตัวเลย แถมทำมาน่ารักมากเลยดูรูปเอาเองเลย
South Pacific
โซนนี้เราชอบที่สุดก็ตรงกลางโซนที่มีไดโนเสาร์อยู่ตรงกลางเลย ทำมาอลังการใช้ได้ เสียดายวันที่เราไปเค้าปิดปรับปรุงพอดี โซนนี้รวมๆ เราว่าเหมาะกับเด็กเล็ก ไปจนถึงเด็กโต เช่นกัน
Arabian Palace
โซนอาหรับราตรีนะจ๊ะนายจ๋า หรือจะเรียกโซนเวทย์มนต์อาราดินก็ได้ นะเพราะตั้งแต่เดินเข้าไปเราก็ได้ว่ามันใช่แล้ว
ตอนเข้าไปเล่นโซนนี้มีเครื่องเล่นหลัก ๆ ที่เป็นจุดขายอย่างเช่น แต่ ๆๆๆๆ ปิดจ้าปิด เลยหันไปขี่พรมกันแทน ก็สนุกดีนะวนเล่นกันชิว ๆ 3 รอบเลย ได้ดูวิวมุมสูงเห็นสวนสนุกด้วย
African Tribe
เดินเข้ามานี้บรรยากาศแอฟริกาลอยมาแต่ไกลเลยครับ อย่างบ้านเมียร์แคทที่ให้เด็ก ๆ มุดเข้าไปเจอเมียร์แคทใกล้ ๆ ได้เป็นอุโมงค์ใส ๆ แบบนี้
เลยมามีเป็นตัวจักรยานปั่นลอยฟ้า ให้เราช่วยกันปั่นสำรวจสวนสัตว์โดยรอบได้ด้วย ก็สนุกดีและได้ออกกำลังไปด้วยนะ เพลิน ๆ ปั่นไม่ยากหรอก เด็กชอบเพราะเค้าก็ปั่นได้สบาย ๆครับ
มาถึงโซนที่บ้านเราชอบกันมาก ถือเป็นโซนที่เราใช้เวลาเยอะสุด ไฮไลท์ในทริปนี้ ก็ยกให้กับ โซนที่เอาจุดเด่นของสวนสัตว์ซาฟารีในแอฟริกา ยกมาไว้ในนี้เลยและกิจกรรมหรือจะเรียกว่าทัวร์ก็ได้ที่เด่น ๆ เลยนะ มีตามนี้เลย
The Sudan Rhino Bus
ไฮไลท์ที่น่าจะเป็นจุดเด่นสำคัญของโซนนี้คือ การนั่งรถทัวร์ส่องสัตว์ในซาฟารี และพาหนะเราหนนี้พิเศษมาก เพราะเป็นรถแรด
มันคือรถบัสขนาดใหญ่ที่ตกแต่ง ดัดแปลงให้เป็นรูปทรงคล้ายแรดนั้นเอง เอาจริง ๆ นะ รถมันดีไซน์ดีมากเลย ปันชอบครับเวลานั่งเราก็นั่งด้านหลังแนวยาวสามารถลุกเดินได้เมื่อรถจอดเท่านั้นหากลุกเดินระหว่างวิ่งเค้าจะเชิญเราลงนะ
รถจะพาเราเข้าไปในสวนสัตว์เปิดของ Theme Park เราจะเจอสารพัดสัตว์กว่า 70 สปีชี่ ในสวนสัตว์ด้านใน และแน่นอน รถทัวร์นี้ที่เค้าทำเป็นทรงของแรด เพราะพระเอกที่เราจะไปเจอคือเจ้านี้นั้นเอง มาๆ มาดูกันว่าเรามาทำอะไรกับแรด อาจจะงง
หน้าตาอาหารแรดนะครับ เป็นอาหารบดแห้ง เวลาให้มันก็ตักจากถังแล้วไปเทลงในกรวยที่เตรียมไว้
นี่ละครับ แท็งค์ให้อาหารแรด
แรดกลุ่มนี้ทางสวนสัตว์เค้าคงฝึกมาดีมากครับ หรือเอาจริงก็คือคุ้นเคยกับคนพอเห็นรถวิ่งมานี่เดินปรี่มาหาเราเลย พร้อมกับสะกิดรถใหญ่
รถจะพาเราเข้าด้านในนั่งรถ เค้าจะแจกตัว Headphone พร้อมกับบรรยายเป็นภาษาอังกฤษสลับกับภาษาจีนไปตลอด ก็ฟังกันไปเพลิน ๆ ได้เลย เด็กน้อยเองก็สนุกสนานจนมาถึงตรงฝูงแรด
อยู่ ๆ เค้าก็หยิบเอาไม้ขัดพื้นแบบลวดเหล็ก และหยิบอาหารขึ้นมา ทีแรกเราก็งง นะว่าไม้ขัดพื้นแบบนี้เค้าจะเอามาทำอะไร
สุดท้ายคือเอามาขัดหลังแรด!!! ใช่ครับ ขัดหลังแรดแบบถึงเนื้อถึงตัว ขัดจนกว่าจะหลังลาย เอ้ย จนกว่ามันจะเดินจากไป
ตัวรถปลอดภัยนะครับเค้ามีป้องการจุดกระแทกต่าง ๆ ได้ดี ทำให้เราสามารถจะให้อาหารแรด หรือขัดไปเรื่อย ๆ ได้ พวกเราก็วนกันทั้งคันหมุนไปมาเพื่อตามขัด ตามให้อาหารพวกมัน ดู ๆ ไปก็น่ารักดี
ตัวแรดเองเท่าที่ฟังไกด์เค้าเล่ามันชอบให้ขัดเเพราะผิวของมันหนามากครับ จะชอบหากเราเอาไม้ขัดพื้นไปขัดหลังให้มัน อารมณ์ประมาณคงเวลามีคนมาเกาหลังให้เราประมาณนั้นล่ะ
ถือเป็นมิติใหม่ของการนั่งรถสองสัตว์โดยเฉพาะแรด ที่ถ้าเราไปทัวร์แบบอื่น มันคงไม่มีอ่ะแบบนี้ ไม่รู้แอฟริกาบ้านเกิดพวกมันจะมีไหมนะ
รวม ๆ ต้องบอกว่าสนุกมากนะครับ กับทัวร์ แรด ๆ คันนี้ นักท่องเที่ยวที่ไปด้วยกันถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ไปด้วยกันหมดทั้งคันเลย ใครอยากมีประสบการณ์ใกล้ชิดระดับนี้แนะนำครับ
ราคา:ต่อคนอยู่ที่ 1,999 NTD/1 คนนะครับ เราต้องไปลงทะเบียนจองก่อนที่จุด Lion King’s Play Room ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับที่รถจอดนั้นเอง ในโซน African Tribe
ดูรายละเอียดกันได้ที่นี่ต่อเลยครับ
นอกจากนี้เรายังพาปันทำกิจกรรมอีกหลายอย่าง เช่นเพ็นท์ ระหว่างที่รอรอบรถ ได้ ปันเลยลูกข่างที่ลงมือวาดและระบายสีมาด้วยนะจากกิจกรรมนี้ แต่เสียตังนะครับ เราเลือกเองได้หมดครับ
และที่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อก็คือ ตรงโซน Bird ที่เค้าเอาเจ้านกอยากนกแก้วมาคอร์ นกแก้วพันธ์ใหญ่สีสวย ๆ มาฝึกมาให้เราได้สัมผัสใกล้ ๆ ยิ่งปันกำลังเลี้ยงนกอยู่แล้วด้วยยิ่งแล้วใหญ่เลย อินมาก ไม่เชื่อดูหน้าเค้าสิ
เจ้าพวกนี้แสนรู้มากเลย มีโชว์ความฉลาดแสนรู้ของมันอย่างเช่นการแยกรูปทรง การรับคำสั่งแล้วทำตาม การจดจำวัตถุ น่ารักสุด ๆ เลย
นอกจากนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวกับร่างกายของนกด้วยนะ ถ้าฟังจีนออกจะง่ายขึ้นเยอะเลย 555
มาก็ไม่ได้มาตัวเดียวมากันเป็นฝูงเลย สีสันสวยมากครับ
รับเป็นอีกโชว์ที่ดีเหมาะกับเด็ก ๆ และคนรักนกทุกคนนะ เป็นโชว์ฟรีอีกต่างหาก อยู่ใน Them Park เลย
พักให้ได้บรรยากาศแอฟริกา ก็ต้องที่นี่ Leofoo Resort Guanshi
ครั้งนี้ เราเลือกมาพักที่นี่ด้วยเลยเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กิจกรรมทั้งหมดเราอยู่ใน โรงแรมและ Theme Park ทั้งหมด ข้อดีเลย คือ การเข้าพักที่นี้จะทำให้เราเข้าไปเล่น Theme Park ได้ฟรีทั้งหมด (ยกเว้นบางอย่างที่ต้องไปซื้อเพิ่มเติมกันด้านใน เช่น ยิงปืนแบบนี้เป็นต้น)
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 161 ห้อง เข้าพักได้ตั้งแต่ 2- 6 คน ห้องพักแต่ละห้องตกแต่งให้ไม่ซ้ำกันในแบบ แอฟริกาหมด และสร้างล้อมตรงกลางที่เป็นลานเลี้ยงสัตว์หลากหลายสายพันธ์ุ เช่น ยีราฟ แรด ตัวลีเมอร์หางแหวน นกฟาร์มิงโก้ ฯลฯ
สำหรับรีสอร์ทนี้น่าจะเป็น แอฟริกา ซาฟารี รีสอร์ท หนึ่งเดียวในไต้หวัน ผมว่าที่นี่เหมาะกับคนไทยนะ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่รักสัตว์มาก
มันตอบโจทย์ ทั้งแบบครอบครัวใหญ่มาพักกัน อยากนอนบรรยากาศในสวนสัตว์ซาฟารี 100% อากาศดี ธรรมชาติก็ดี ไม่ไกลจากไทเปอีกต่างหาก
ห้องพักคือดีมากเป็นห้อง จะมีสองชั้น และมีทั้งหมด 3 เตียง king size สำหรับห้องที่เราเข้าพักนะ ได้รับการอับเกรดมาด้วย ดีเลิศมากจ้า
นี่เลย อีก 2 เตียง KING SIZE ครับ มีทีวีติดไว้ทั้งสองชั้นนะ
ห้องอาบน้ำมี 2 ห้องไม่ต้องห่วงเรื่องรอคิวกันเลย ถ้าเข้าพักกันหลายคน อันนี้เค้าคิดมาให้ดีมาก
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารใหญ่มากที่เสริฟเป็นแบบ Buffet ทั้งมื้อเช้าและมื้อค่ำเลย
ในส่วนของมื้อเช้า อาหารจะมีทั้งเป็นอาหารไต้หวัน แบบบุฟเฟ่ต์ พวกข้าวต้ม แบบที่เรากินกันตามโรงแรมในเมืองก็มี แต่ที่พิเศษขึ้นมาสำหรับที่นี่คือมีอาหาร แอฟริกาให้ลองด้วยนะ
กิจกรรมในรีสอร์ท
จะบอกว่าถ้าคุณชอบสัตว์น่ารัก อยากแนะนำตัว กิจกรรมที่เราเข้ากัน มีอยู่ 2 ตัวเลย คือ Lemur Experience และ Meerkat Observation experience tour
ทั้งสองตัวนี้สำหรับคนรักสัตว์น่ารักในบรรยากาศแอฟริกา
Journey of exploration with the colorful elves กิจกรรมแรกที่เราเจอตอนเช็คอินเลย เค้าจะมีเอาเจ้านกแก้วขนาดใหญ่ มาคอร์มาต้อนรับนักท่องเที่ยว เราสามารถให้อาหารมันได้ ลูปหัวมันได้ หรือเลยมาเกาะแกขน เกาะหลังก็ได้นะแต่อยู่ในการดูแลของพี่เลี้ยงเค้า อันนี้ปันชอบสุด ๆ ไปเลย เพราะเห่อนกมากครับชอบมากอย่างท่่บอกกำลังเลี้ยงนกที่บ้านพอดีเลย
Lemur Experience
สำหรับเจ้า Lemur (ลีเมอร์ หางแหวน) ถ้าคุ้น ๆ ในหนังการ์ตูนของ อย่างดีสนีย์ อย่างไลอ้อนคิง ทุกคนจะคุ้น ๆใช่ไหม สำหรับเราแล้วผมว่ามันน่ารักมาก เจ้าลีเมอร์เป็นสัตว์กินพืชนะครับ กินพวกผัก ผลไม้ทั่ว ๆ ไปได้หมด อย่างผักกาดขาว แครอท นี่ของโปรด ตอนเรามาเจ้าหน้าที่จะพาเราเข้าไป ทีแรกเราว่ามันจะกลัวคนไหมนะ แต่สุดท้าย ด้วยความตระกละของพวกมันยื่นอาหารให้ก็มาเลยจ้า
เจ้าลีเมอร์พวกนี้ถือเป็นนักกายกรรมชั้นดี เพราะด้วยตัวมันโดดได้สูงและไกลกว่าสัตว์ทั่วไป ทำให้มันคล่องแคล่วว่องไวมาก และมันก็เชื่องกันคนมากด้วยดูสิ
ขอของกินตลอด หน้าตื่นดูตื่น ๆ จริง ๆหนูเชื่องนะคร้าบบ
ในโซนนี้นอกจากมีลีเมอร์แล้วยังมีลุงเต่าด้วยนะ ปันชอบมากเลย
โดยรวมเค้าให้เวลาเราเกือบ 40 นาทีในการคลุกคลี มีอาหารให้เรายื่นให้เจ้าพวกนี้ ส่วนตัวก็ชอบมากเลยนะ น่ารักกกกสุด ๆ เลยครับ มือเค้าก็นิ่มมาก เชื่องสุด ๆ ถือเป็นอีกสัตว์น่ารักประจำรีสอร์ทเลย แนะนำให้สำหรับเด็ก ๆ ที่รักสัตว์ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองดู เพราะลีเมอร์พวกนี้ในไทย ถือเป็นสัตว์ป่าสงวน ยังไม่เคยเห็นมีที่ไหนในไทยให้เข้าไปใกล้ชิดสัมผัสได้แบบนี้เลย เอาว่ามาไต้หวัน คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายลองพามาสัมผัสกันดูนะครับ
ราคา: NT$499/ คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ราคาเท่ากันนะ ทัวร์นี้จะไม่รวมอยู่ในราคาเข้า Park และ ที่พักนะครับต้องซื้อแยกครับ เราสามารถซื้อทัวร์เพิ่มเติมได้ที่ เคาวน์เตอร์เช็คอินได้เลยนะ
สำหรับคนที่สนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มสามารถไปดูกันต่อ ที่นี่เลยครับ
Meerkat Observation experience tour
มาถึงสัตว์แอฟริกาอีกชนิด ที่ดูเหมือนจะคล้ายกันกับเจ้า ลีเมอร์ แต่เอาจริง ต่างกันมากเลย กับ เมียร์แคท เจ้านี่ก็อยู่ในโซนรีสอร์ทเช่นกันนะครับ แต่จะมีทั้งที่แยกกันเป็น Village ของมันเลย และที่อยู่ผสมกับเจ้าลีเมอร์ ทางด้านหน้าและตรงที่เราเข้าไปดูและสัมผัสกับกับลีเมอร์ ทัวร์ด้วยเช่นกัน
ความต่างที่เห็น ๆ เลยคือเจ้า เมียร์แคทตัวจริงจะต่างกับลีเมอร์นะ แต่อุปนิสัยใจคอ รักความส่วนตัวกว่า ขี้เล่นน้อยกว่า เอาจริง มันต่างกันพอสมควรเลย ด้วยความที่อาหารที่มันกินก็ต่างกันไปเมียร์แคทเป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ชอบกินสัตว์จำพวกในดินอย่างไส้เดือน และ ทัวร์นี้เค้าก็พาเราเข้าไปในโซนหมู่บ้านของมันแล้วให้อาหาร
ตัวอาหารที่เค้าจะให้เราป้อนก็เป็นไส้เดือนนี้ล่ะ โดยใช้คีมคีบป้อนพวกมันอีกที
สำหรับเด็กน้อยแล้ว เค้าดูจะไม่กลัวเลยนะ สนใจมากเวลาพี่ ๆ เจ้าหน้าที่อธิบาย ยิ่งตอนเอาไส้เดือนป้อนนี้ ดูไม่กลัวเล้ยยยย ผิดกับแม่ปันสุด ๆ ขานั้นมีเดินฉีกตัวออกไปอย่างชัดเจนมากคะ 😉
เมียร์แคทจะอยู่อาศัยในโพลงดินเป็นหลัก แต่พอคนเอามาเลี้ยงเค้าก็อยู่ในบ้านที่ทำขึ้นมาได้ รวม ๆ ก็น่าตื่นตาดีสำหรับเรานะ และเด็ก ๆ เองถ้าไม่รังเกียจไส้เดือน การป้อนอาหารเมียร์แคทก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นอยู่นะ อ่อ ที่สำคัญจบทัวร์มีรูปให้ด้วยนะคนละใบครับ
ราคา: NT$499/ คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ราคาเท่ากันนะ ทัวร์นี้จะไม่รวมอยู่ในราคาเข้า Park และ ที่พักนะครับต้องซื้อแยกเช่นกันกับ Lemur เช่นกันเค้าจะจัดอาหารไว้ให้เราคอยป้อนกับเจ้าพวกนี้ให้เลย
นอกจากนี้ทุกวันเค้าจะมีโชว์ Africa Dance หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโชว์แด๊นซ์นั้นเอง เป็นชาวแอฟริกัน มาเต้นรำในแบบของเค้าให้เราชม จะมีโชว์แบบนี้ทุกวันนะครับ ตรงทางเข้าของรีสอร์ท
มีสองช่วง 17.30-18.30 และ 19.30-20.30 น.ครับ ชมฟรีไม่เสียเงินครับ
จบแล้วนะครับ สำหรับ Taiwan ทริปพาลุยสวนสนุก Leofoo Village & Leofoo Resort ครบทั้งสวนสนุกและที่พัก ส่วนตัวยังประทับใจเหมือนเคย เพราะที่นี่เป็นทั้งสวนสนุกและรีสอร์ทในตัวที่ครบครันมากที่สุดในไต้หวันที่เราเคยไปมา ให้ไปอีกก็จะพาปันไปอีกนะ หนนี้คิดถึงสวนน้ำของที่นี่เลย หน้าร้อนนี้เหมาะมากครับ
จนกว่าจะพบกันใหม่ในโลกสีฟ้าแห่งนี้นะครับ
สวัสดีครับ
==================================
สำหรับเพื่อนใหม่ที่พึ่งเจอกัน
ถ้าชอบรีวิวของเรา ฝากกด Like
เพจ อยากรู้จักโลกกว้าง
http://bit.ly/2G06JVD
และอย่าลืมเปลี่ยนสถานะ follow (ติดตาม)
เป็นSee first (เห็นก่อน) ไว้เลย
