วันนี้จะพาไปหนึ่งในเมืองน่าเที่ยว Tokamachiเมืองแห่งอารต์ หิมะ กิโมโน ของญี่ปุ่นที่คนไทยยังไม่รู้ เมืองโทคามาจิ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนีกาตะ
ได้ฉายาว่าเป็นเมืองแห่งงานศิลป์ของจังหวัดนีกาตะ โดยมี ECHIGO-TSUMARI ART FIELD ในคอนเซ็ปท์ที่ว่า “มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ” เป็นเมืองที่ไม่ไกลจากโตเกียวเลย สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้ แต่ไหนๆก็ไปแล้วก็อยากแนะนำให้ลองค้างคืนดูเพราะที่เมืองนี้ภายในวันเดียวยังไงก็เที่ยวไม่หมด
สำหรับการเดินทางนั้นจากโตเกียวโดยชินคังเซ็นใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง!! หรือสายชิวอยากขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็เพียง 3 เท่านั้นเอง!! โทคามาจินอกจากจะโด่งดังเรื่องงานศิลป์แล้วยังเป็นเมืองโด่งดังเรื่องหิมะอีกด้วย ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะมีหิมะหนาถึง 2-3 เมตรเลยทีเดียว ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตผ้ากิโมโนอีกด้วย เรียกว่าเป็นเมืองที่ยังคงบรรยากาศแบบดั้งเดิมเอาไว้ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากมาเยือน แม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังอยากมาสัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่นของที่เลย
มาเมืองโทคามิจิทั้งทีก็ไม่อยากให้ผิดหวัง เมืองนี้เขามีดีหลายอย่าง อย่างที่บอกข้างต้นว่าเขาได้รับฉายาว่าเป็นเมืองแห่งศิลป์แน่นอนว่าเขาต้องมีสถานที่ชมผลงานศิลปะที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้เขายังมีกิจกรรมดีๆ สถานที่เที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ และที่พักดีๆมาแนะนำให้รู้จักกัน ตามมาดูกันเลยว่าที่เมืองนี้เขามีดีอะไร
1. สถานที่ชมผลงานศิลปะในเมืองโทคามาจิ
● Kiyotsu Gorge Tunnel + ที่พักใกล้ Kiyotsu Gorge Tunnel (Kiyotsukan Hotel)
สถานที่แห่งนี้บอกเลยว่าคนรักงานอาร์ตห้ามพลาด อุโมงค์กลางหุบเขาใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวิว 1 ใน 3 หุบเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น หรือเรียกอีกชื่อว่า “อุโมงค์แห่งแสง” (Tunnel of light) มีความยาวกว่า 750 เมตร ซึ่งสถาปนิกชาวจีน Ma Yansong ได้ทำการปรับปรุงอุโมงค์แห่งนี้ให้ออกมาในรูปแบบ “Tunnel of Light” โดยมีคอนเซ็ปต์ต้องการเล่าเรื่องราวของธาตุทั้ง 5 คือ ดิน โลหะ ไฟ น้ำ และไม้ เรียกว่าเป็นงานศิลปะที่มีการผสมผสานได้อย่างลงตัวและออกมาน่าทึ่งจริงๆ สำหรับงานศิลปะนี้ได้แบ่งจุดแสดงออกเป็น 5 จุดด้วยกัน คือ
จุดแรก Expression of Color (ดิน) เป็นอุโมงค์ทางเดินใต้เขา ประดับไฟส่องตามทางเดิน วิวด้านหน้าจะเป็นหน้าผา
และเมื่อมองไปด้านล่างจะเห็นแม่น้ำ Kiyotsu ไหลผ่าน
จุดที่ 2 Invisible Bubble (โลหะ) บริเวณนี้จะพบกับห้องน้ำรูปทรงแคปซูล ที่เมื่อเข้าไปใช้บริการจะสามารถมองเห็นวิวหุบเขาด้านนอกซึ่งเรียกว่าให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่เลยทีเดียว
จุดที่ 3 Drop (ไฟ) จุดนี้จะเป็นจุดที่มีการติดกระจกที่ผนังอุโมงค์ที่มีลักษณะเป็นวงกลมนูนออกคล้ายหยดน้ำพร้อมดวงไฟสีแดง ด้วยความนูนของกระจกทำให้เราสามารถมองเห็นภาพสะท้อนบริเวณโดยรอบผ่านตัวกระจก จุดนี้เรียกว่าเป็นอีกจุดที่มีการตกแต่งสวยแปลกตาดี
จุดที่ 4 Light Cave (น้ำ)จุดนี้เรียกว่าเป็นไฮไลท์เลย จุดนี้สังเกตได้ว่าพื้นจะเป็นน้ำทั้งหมดเลย เป็นน้ำตื้นเราสามารถถอดรองเท้าลงไปเดินเล่นได้ เวลาเรามองทอดยาวไปด้านหน้าจะเห็นความโค้งของอุโมงค์บวกกับวิวด้านหน้าสะท้อนกับผิวน้ำเห็นเป็นวงกลมขนาดใหญ่มันเป็นวิวที่สวยมากๆเลย
จุดสุดท้าย Periscope (ไม้) จุดนี้จะเป็นคาเฟ่และร้านขายของฝาก เป็นกระท่อมไม้หลังคาทรงสามเหลี่ยม ชั้น 2 บริเวณออนเซ็นเท้าด้านบนหลังคาตกแต่งด้วยกระจกสะท้อน ทิ้งแสงเล็กน้อยส่องลงมาที่ผิวน้ำของบ่อออนเซ็น จุดนี้สามารถแวะมาจิบชากาแฟ หรือจะเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกก็ยังได้ สำหรับใครที่อยากผ่อนคลายเบาๆ บริเวณชั้น 2 มีบ่อออนเซ็นเท้าก็ขึ้นไปใช้บริการกันได้ฟรี
เราสามารถมาชมความสวยงามของศิลปะในอุโมงค์แห่งนี้ได้ทุกฤดูเลย ความสวยก็แตกต่างกันออกไป แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
อยากสัมผัสธรรมชาติของที่นี่ต่ออีก ใกล้กันก็มีที่พักที่เป็นสไตล์เรียวกังแนะนำด้วย “Kiyotsukan Hotel” ที่นี่เป็นเรียวกังเก่าแก่ตั้งอยู่กลางหุบเขาลึก และอยู่ในแหล่งออนเซ็นของหมู่บ้านคิโยะสึเคียว มีตำนานว่ากันว่า มีพระชื่อดังนามว่าโคโบไดชิเป็นผู้ที่ทำให้คิโยะสึเคียวออนเซ็นผุดขึ้นมา
แน่นอนว่าอยู่กลางหุบเขาเช่นนี้ได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ ได้ความเงียบสงบ แถมได้ชมวิวทิวทัศน์ที่คนในเมืองต้องอิจฉา เพราะ Tokamachi เมืองแห่งอารต์ หิมะ กิโมโน ของญี่ปุ่นที่คนไทยยังไม่รู้ ทำให้หลายคนคงนึกภาพตามเห็นบอกว่าเป็นเรียวกังเก่าแก่ อยู่กลางหุบเขา บรรยากาศต้องน่ากลัวแน่เลย แต่บอกเลยว่าไม่เลย ตรงข้ามเราได้สัมผัสถึงแก่นธรรมชาติเลย ได้พักผ่อนและผ่อนคลายเต็มที่ มีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งริมลำธาร ฟินได้อีก!! ภายในห้องนอนไม่เก่า ห้องใหม่ สะอาด อุปกรณ์มีครบ ไม่ว่าจะไปพักฤดูไหนก็ได้สัมผัสธรรมชาติที่แตกต่างกันไป
แต่ก่อนที่นี่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เนื่องจากว่าการเดินทางมาอาจจะไม่ค่อยสะดวก แต่ตอนนีเริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แนะนำว่าถ้าขับรถยนต์ส่วนตัวมารับรองว่ามันสุโก้ยจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++
– สถานที่ : Kiyotsu Gorge Tunnel + ที่พักใกล้ Kiyotsu Gorge Tunnel (Kiyotsukan Hotel)
– ที่อยู่ : 2126-1 Koide, Tokamachi City, Niigata Prefecture, JAPAN
– ค่าเข้าชมอุโมงค์ : ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก (6-15 ปี) 400 เยน
– เวลาเปิด-ปิด : 8.00 -16.30 น. สำหรับคาเฟ่และออนเซ็นเท้า 9.00 -16.00 น.
– การเดินทาง : จากสถานี Echigo-Yuzawa นั่งบัสลงป้าย Kiyotsukyo Iriguchi และเดินต่อประมาณ 30 นาที หรือจากสถานี Ishiuchi นั่งแท๊กซี่ประมาณ 20 นาที (เพื่อความสะดวกแนะนำว่าให้นั่งแท๊กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกกว่า เนื่องจากป้ายรถบัสค่อนข้างไกลพอสมควร)
– เว็ปไซต์ (อุโมงค์) : https://nakasato-kiyotsu.com/
● Matsudai Nobutai
เป็นอีกจุดที่สายอาร์ตห้ามพลาดเช่นกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้มีการจัดแสดงผลงานทั้งภายในอาคารหลักและด้านนอก เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและยังเป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก
“Tsumari in Bloom” เป็นผลงานของคุณยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama)
หรือผลงานที่จัดแสดงอยู่ด้านในอาคารหลักเช่น ห้องเรียนกระดานดำที่คุณสามารถขีดเขียนได้ทุกจุดด้วยช็อคที่วางไว้ให้ อย่าแอบเขียนเล่นจนเพลิน จนลืมไปชมจุดอื่นล่ะ
นอกจากโซนที่จัดแสดงผลงานแล้วที่นี่เขายังมีร้านอาหารไว้คอยบริการแขกผู้มาเยือนด้วย ร้านอาหารที่ให้ความรู้สึกไปนั่งทานแล้วไม่อยากเดินออกจากร้านเลย คุณจะเพลิดเพลินกับศิลปะการตกแต่ง และวิวด้านหน้าของร้าน
ห้องอาหาร Cafe Reflet ตกแต่งคุมโทนด้วยสีฟ้า สีฟ้าที่สะท้อนกระจกเป็นเรื่องราวของคนในท้องถิ่นแห่งนี้ กระจกใสบานใหญ่ที่สามารถมองออกไปเห็นวิวภูเขาและผลงานศิลปะที่ตั้งอยู่ภายนอกได้ด้วย เรียกว่าได้วิวที่เลอค่ามากๆสำหรับใครที่อยากนั่งทานอาหารพร้อมกับซึมซับบรรยากาศที่นี่ ค่าอาหารตกอยู่หัวละประมาณ 1500 เยน
++++++++++++++++++++++++++
– ที่อยู่ : Matsudai Nobutai, Matsudai 3743-1, Tokamachi-city, Niigata, Japan
– ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 300 เยน
– เปิดเวลา 10:00-17:00
– การเดินทาง : จากสถานี Echigo-Yuzawa นั่งรถไฟสาย Hokuhoku ไปลง สถานี Matsudai (25 นาที) และเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร
● Hachi Café
ร้านอาหารที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 เลย ร้านตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งทานข้าวอยู่ในห้องเรียน โต๊ะ เก้าอี้นั่งทานข้าวใช้โต๊ะเก้าอี้นักเรียนเลย เล่นเอาซ่ะนั่งทานไปเหมือนย้อนไปในวัยเด็กเลยเชียว
เดิมทีพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนประถมมาก่อนซึ่งตัวอาคารมีอายุมาถึง 130 ปีเลยทีเดียว ภายหลังได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของคุณ Seizo Tashima ผลงานที่จัดแสดงถ่ายทอดมาจากหนังสือภาพวาด “The school never becomes empty” มีด้วยกัน 2 ชั้น โดยแต่ละชั้นก็จะจัดแบ่งเป็นห้องๆ
หลังจากเดินชมผลงานของคุณ Seizo Tashima กันเต็มอิ่มแล้ว ก็สามารถหาอะไรทานรองท้องได้ที่ร้านที่อยู่บริเวณชั้น 1 สำหรับเมนูแนะนำก็จะเป็น “แกงกะหรี่ผัก” เป็นเมนูลิมิเต็ดมีเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++
<ร้าน Hachi Café>
– เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 16.00 น. (สำหรับวันธรรมดา Last order 20.00)
<พิพิธภัณฑ์>
– ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ : ผู้ใหญ่ 800 เยน, นักเรียนมัธยมต้น 300 เยน
– เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนเมษายน – 23 พฤศจิกายน เวลา 10.00 – 17.00, และเดือนตุลาค,พศจิกายน เวลา 10.00 – 16.00 (เข้าชมก่อนพิพิธภัณฑ์ 30 นาที)
➔ ที่อยู่ : 2310-1, Sanada Ko, Tokamachi City, Niigata Prefecture 948-0111
➔ การเดินทาง : จากสถานี Tokamachi นั่งบัสประมาณ 20-30 นาที (แล้วแต่เที่ยว) 400 เยน
➔ เว็ปไซต์ : http://ehontokinomi-museum.jp/cafe/
● Kiss & Goodbye
เป็นผลงานที่ตกแต่งออกมาสีสันสดใสแต่เรื่องราวกลับดูเศร้า ตู้สี่เหลี่ยมหลังคาโค้งคล้ายโกดังได้มีการจัดแสดงผลงาน “Happy Ticket Kiss & Goodbye” โดยเสนอเรื่องราวเป็นภาพเกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เขาได้สูญเสียพ่อแม่และสุนัขของเขาบนรถไฟระหว่างเดินทางไปเยี่ยมชายชราคนหนึ่ง
ภายในโกดังได้จัดนิทรรศการที่เป็นวิดีโอภาพและเสียงเพลงเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านภาพได้ดีมากๆ
ผลงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก “โกดังแบบคามาโบโกะ” เราสามารถมาชมผลงานศิลปะชิ้นได้ที่บริเวณข้างสถานี Doichi และสถานี อยู่บนเส้นทางรถไฟสาย JR Iiyama เดินทางง่ายและสะดวก ถือเป็นผลงานที่น่าสนใจผลงานหนึ่งที่คู่ควรแก่การมาชมมาก
++++++++++++++++++++++++
– สถานที่ : Kiss & Goodbye
– ที่อยู่ : 〒949-8526 Niigata, Tokamachi, Shinmiya, Ko−476-2
– ค่าเข้าชม : 500 เยน (สามารถใช้ได้กับงานที่สถานี Echigo-Mizusawa ด้วย)
– การเดินทาง : จากสถานี Tokamachi นั่งรถไฟสาย Iiyama ลงสถานี Doichi ใช้เวลา 5 นาที
ยังไม่จบนะสำหรับรีวิว Tokamachiเมืองแห่งอารต์ หิมะ กิโมโน ของญี่ปุ่นที่คนไทยยังไม่รู้ (ตอนนี้รู้แล้วล่ะเนอะ) เรามีตอนสองจะพาไปชิล ๆกับแหล่งกินเที่ยวและคาเฟ่เท่ ๆ น่ารักของเมืองนี้อีก
โปรดติดตามต่อได้เลยทางนี้นะ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของเมืองนี้สามารถเข้าไปติดตามที่เพจของเค้าได้ที่นี่เลย
สำหรับรีวิวญี่ปุ่นอื่น ๆสามารถอ่านกันต่อได้ที่นี่เช่นกันครับ
https://blog.one22.com/?s=japan&category=&year=&month=&format=
โบรชัวร์ภาษาไทยของสมาคมการท่องเที่ยวเมืองโทคามะจิ http://tokamachi-tourism.jp/pdf/tokamachi_tour_guide_thai.pdf
เวปไซต์ของสมาคมการท่องเที่ยวเมืองโทคามะจิ
https://www.tokamachishikankou.jp/en/