สองวันหนึ่งคืน เที่ยวฟุกุโอกะ(Fukuoka) เมืองหลักของภูมิภาคคิวชู
ทริปนี้แอดฯหยิบเฉพาะที่เที่ยวในเมืองมานะ
เพราะตอนอยู่ที่นี่เราใช้เป็นเมืองพักระหว่างรอต่อไปเที่ยวเมืองรอบๆ
เลยขอรวมกับที่อยู่ใกล้ๆ แอดฯ มามัดรวม
เป็น กิน เที่ยว พัก ฟุกุโอกะ 2 วัน 1 คืนเที่ยวได้จริง
ข้อดีของ #ฟุกุโอกะ นี้มีดีเยอะเลย
ใกล้ไทยมากเพราะอยู่ทางใต้ของประเทศใช้เวลาบินแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว
จากสนามบินเข้าเมืองได้ไม่ถึง 20 นาที ตอนนี้เค้าปรับปรุงใหม่สวยด้วยงานไม้สไตล์ญี่ปุ่นเลย
เดินทางไปมาง่ายทั้งรถไฟใต้ดิน แท็กซี่ที่ราคาถูกกว่าภูมิภาคอื่นๆ
อาหารอร่อยโดยเฉพาะ ราเม็ง ที่นี่คือต้นกำเนิดราเม็งข้อสอบอันโด่งดัง ทุกคนรู้จัก
สายช้อปฯถูกใจ โดยเฉพาะแบรนด์โลคัลของญี่ปุ่น แนะนำมีครบไม่แพ้ภูมิภาคอื่น
ปักหมุด Route 2 วัน 1 คืน เที่ยวได้จริง แนะนำแต่ละที่ๆเราไปไว้ให้นะ
Prince Smart Inn Hakata( ที่พักของเรา)
วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine)
ถนนคนเดิน (Monzenmachi)
Starbucks สาขาศาลเจ้าดาไซฟุอยู่ในถนน Monzenmachi
Uminonakamichi Seaside Park
Ramen Stadium Canal City Hakata
Mawaru – Sushi – Ichiba (ซูชิสายพานห้ามพลาด)
Tenjin Underground Mall
LaLaport Fukuoka (Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA)
รายละเอียด และ วิธีเดินทาง กดอ่านใต้ภาพได้เลยแอดฯ มัดรวมไว้ให้เรียบร้อยแล้วหวังว่าจะถูกใจ ภูมิภาคคิวชูเหมาะกับคนหัดเที่ยวญี่ปุ่นที่อยากคุมงบไม่ให้แพงเกินไป ทั้งธรรมชาติและสถาปัตย์กรรมสวยๆ เยอะเลย ตามเรามาดีกว่าแล้วจะถูกใจ
#อยากรู้จักโลกกว้าง #one22family #fukuoka #japan #japanroadtrip #princesmartinn #tenjin
เริ่มกันที่สนามบินก่อนเลย
สนามบินเดิมแต่รีโนเวทใหม่กริ๊บฯ ตอนแอดฯ ไปเค้าใกล้เสร็จพอดีสวยด้วยงานตกแต่งไม้สไตล์ญี่ปุ่นเลย เท่มาก ที่สำคัญเค้าปรับตำแหน่งของรถเช่าใหม่ จากเดินเป็น ล็อคๆ กลายเป็นวางโทรศัพท์แต่ละแบรนด์รถเช่าให้โทรไปแจ้งแล้วจะมีรถมารับเราไปแทน ซึ่งก็เป็นเหมือนกันทุกเจ้าแล้ว
Prince Smart Inn Hakata (ปรินซ์ สมาร์ท อินน์ ฮากาตะ)
หลังลงเครื่อง เราตรงดิ่งมาฝากกระเป๋ากันก่อนที่นี่ สำหรับเราๆเลือกมาพักที่ย่านฮากาตะ และเลือก เป็นโรงแรมแนวใหม่ในเครือ Prince Hotels ที่เน้นความสะดวกสบายและเทคโนโลยี (Smart Stay) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Hakata แบบเดินไม่ถึง 5 นาทีและสามารถเดินไปยัง Canal City Hakata ได้ไม่ไกลด้วย
รอบๆมี ร้านสะดวกซื้อ เยอะ สะดวกมากแอดฯ เดินกลับมาเหนื่อยแวะซื้อของกินเล่นได้
ภายในห้องพักมี Smart TV ที่ชม Netflix, YouTube และบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ ได้ มี Smart Speaker (ลำโพงอัจฉริยะ) ในห้องพัก ห้องขนาดมาตรฐาน ไม่เล็กไม่ใหญ่ สไตล์ของญี่ปุ่น ตกแต่งโทนสีน้ำเงินเป็นหลัก
มี ห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกส่วนกัน
Hilight สำคัญเลยนะ ด้วยความเป็นโรงแรมที่เน้นใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหา เค้าจะให้เรา เช็คอินและเช็คเอาต์ด้วยตนเอง (Self Check-in/Check-out Kiosks) ทำให้กระบวนการรวดเร็วและไม่ต้องรอคิว (แต่ก็มีพนักงานคอยยืนช่วยเหลือถ้าเราสงสัย)
มีบริการ อาหารเช้าฟรี สะดวกสำหรับคนที่อยากออกเที่ยวง่ายๆเค้าจะให้บริการเป็นข้าวเบอร์เกอร์” (Rice Burger) เราว่าส่วนตัวอร่อยเลย ทำให้นึกถึง มอสเบอร์เกอร์ เหมือนกัน
วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
ไฮไลท์สำคัญของวัดนี้คือ พระนอนสีเขียวเทอควอย์ทำจากทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหนักถึง 300 ตัน ถือเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ทำจากสัมฤทธิ์ก็ว่าได้
บริเวณโดยรอบสามารถเดินเที่ยวได้เยอะมาก มีทั้งธรรมชาติและศาลเจ้า นับว่าเป็นวัดที่ใหญ่มาก และด้านล่างทางขึ้นยังมีร้านของฝาก ของที่ระลึกซื้อกลับติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีก
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Sasaguri Line ไปลงที่สถานี Kido Nanzoin-mae Station แล้วเดินต่อเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมังกู ( Dazaifu Tenmangu Shrine)
อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่คนนิยมมาแวะเวียนกันไม่ขาดสาย แม้จะไม่ได้อยู่ในเมืองฟุกุโอกะตรงๆ
เพราะอยู่ที่เมือง ดาไซฟุซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองนัก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยอดนิยม ใกล้เมืองฟุกุโอกะ (ตั้งอยู่ในเมืองดาไซฟุ) ที่นี่มีประวัติยาวนานกว่า 1,100 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 905 เพื่อระลึกถึง สุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคเฮอัน แม้ตัวอาคารหลักปัจจุบันจะมีอายุ 434 ปี ก็ยังคงความงดงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรม นอกจากความศรัทธาและสถาปัตยกรรมเก่าแก่แล้ว ศาลเจ้ายังโดดเด่นด้วย ต้นบ๊วยกว่า 6,000 ต้น ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงปลายมกราคมถึงกลางมีนาคม
อีกไฮไลท์ของที่นี่คือ อาคารชั่วคราว “ป่าลอยน้ำ”ที่ออกแบบให้ปลูกต้นไม้(Floating Forest) โดยหลังคาของโถงบูชาชั่วคราวนี้ถูกออกแบบให้มีความลาดเอียงและมีชั้นดินบางๆ ปกคลุมอยู่ด้านบน ทำให้สามารถปลูกต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนในระหว่างที่ วิหารหลัก กำลังอยู่ในช่วงการบูรณะครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการบูรณะครั้งแรกในรอบ 124 ปี! ความเท่อยู่ตรงต้นไม้นั้นมีต้นซากุระและพันธ์ไม้ที่จะออกดอกได้ทั้งปีอีกด้วย เท่สุดๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2026 หรือ 2027
การเดินทาง : สะดวกสุดจากสถานีฮากาตะคือ นั่งรถบัส ต่อเดียวถึง
ขึ้นรถบัสที่ Hakata Bus Terminal (อยู่ติดกับสถานี JR Hakata) มีรถบัสของ Nishitetsu ให้บริการตรงไปยังสถานี Dazaifu ลงที่สถานี Dazaifu: ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที ต่อด้วยเดิน จากสถานี Dazaifu เดินต่อไปยังศาลเจ้าประมาณ 5-10 นาที หรือถ้ามาจากสนามบินฟุกุโอกะ ก็มีรถบัสวิ่งตรงมายังดาไซฟุได้เลยเช่นกัน
กรณีนั่งรถไฟ จากสถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) ลงที่สถานี Nishitetsu Futsukaichi เปลี่ยนขบวนที่นี่ ให้เปลี่ยนไปขึ้น รถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu Line ลงที่สถานี Dazaifu เดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีถึง
ถนนคนเดิน (Monzenmachi)
มาที่ศาลเจ้าดาไซฟุแล้วจะไม่แวะเดินช้อปและกินก็ใช่ที่ ที่ถนนเส้นนี้มีร้านรวงของกินเด็ดๆ ของเมืองมารวมตัวกันที่นี่เยอะมาก เริ่มจากสถานีรถไฟดาไซฟุ ไปยังศาลเจ้า จะเป็นถนนคนเดินที่คึกคัก มีร้านค้ามากมายขายของฝาก ขนมท้องถิ่น
โดยเฉพาะ อูเมะกาเอะโมจิ ซึ่งเป็นโมจิย่างสอดไส้ถั่วแดงกวนที่มีลวดลายดอกบ๊วย เป็นขนมที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่ แอดฯ ลองแล้วหวานดี ถ้าคนชอบหวานถูกใจแน่นอน แต่ละร้านก็จะมีย่างสดๆหน้าร้านให้ชมเลย
การเดินทาง: มาเหมือนกันกับวิธีเดินทางมาศาลเจ้าดาไซฟุเลย
Starbuck สาขาศาลเจ้าดาไซฟุ: สถาปัตยกรรมจากงานไม้สุดเท่ของญี่ปุ่น
ใครมาที่นี่ก็ต้องแวะมาถ่ายภาพคู่กับหน้าร้านสาขานี้เพราะ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง เคนโกะ คุมะ ( ) สถาปนิกชื่อดังระดับโลก ผู้ที่ฝากผลงานสำคัญมากมาย รวมถึงสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น ที่ใช้ในโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว
จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือการใช้ ไม้สนซีดาร์กว่า 2,000 ชิ้น มาเรียงร้อยและสานกันในแนวทแยงมุม ใช้เทคนิคการเข้าไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า “คิกุมิ” (Kigumi) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อไม้เข้าด้วยกันโดยไม่ใช้ตะปูเลย
ทำให้ starbuck สาขานี้กลายเป็น 1 ใน แลนด์มาร์คสำคัญที่คนต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปกันทั้งนั้น และแน่นอนบ้านนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน
พิกัด: อยู่บนถนนช้อปปิ้ง ถนนคนเดิน หาไม่ยากตรงที่คนแน่นๆเลย
Uminonakamichi Seaside Park (สวนสาธารณะริมทะเลอุมิโนะนะกะมิจิ)
สวนสวยริมทะเลแบบใกล้ธรรมชาติสุดๆ ที่นี่มีดอกไม้บานหมุนเวียนตลอดทั้งปี ที่จะพาเหรด ดอกไม้ให้เราได้ชมกันทั้งปี ทุกฤดูก็ว่าได้ เรียกว่าถ้าเรามาฟุกุโอกะ จะมาที่สวนนี้ได้ทั้งปี ชมดอกไม้ไม่ซ้ำเลย ที่นิยมสุดๆก็ต้องฤดูไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน จะได้เจอกับ ทิวลิป, เนโมฟีลา (Baby Blue Eyes), กุหลาบ, ไฮเดรนเยีย, ทานตะวัน, คอสมอส และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงต้นซากุระกว่า 2,000 ต้น แอดฯ ก็ไปช่วงเดือนนี้พอดีสวยจริงจังนะ แนะนำสำหรับสายดอกไม้ถ่ายรูป นอกจากนี้เค้ายังมีจักรยานให้เช่าปั่น ทั้งจักรไฟฟ้า และ แบบธรรมดา มาที่นี่แนะนำมาอย่างน้อย ครึ่งวันกว่าจะทั่วเลย
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Kashii Line ไปลงสถานี Uminonakamichi ซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าสวนเลย
“Ramen Stadium” (ราเม็ง สเตเดียม)
สายกินห้ามพลาด กับที่นี่เลย ที่ Ramen Stadium เค้าจะรวมร้านราเม็งชื่อดังหลายร้านจากทั่วญี่ปุ่น (รวมร้านเด็ดของจังหวัดฟุกุโอกะมาไว้ให้แล้ว) มาไว้ในที่เดียวกัน ทำให้ผู้มาเยือนได้มีโอกาสลิ้มลองราเม็งหลากหลายสไตล์ ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศ “เมืองราเม็ง” และเลือกร้านราเม็งอร่อยๆ ได้หลายร้านในคราวเดียว ก็มุ่งหน้าไปที่ Canal City Hakata ชั้น 5 ได้เลย แอดฯ ไปมาแล้วแค่บรรยากาศการตกแต่งสไตล์เก่าๆ มันก็ทำให้เราอยากกินไปทุกร้านเลย แนะนำเลยห้ามพลาด
เมนูราเม็งถ้าเป็นร้านเด็ดของที่ฟุกุโอกะ เราจะได้เจอราเม็งไข่ปลาเม็นทาโกะ เมนูของเด็ดประจำจังหวัดที่เอามาทำได้หลากหลายทีเดียว และยังมีราเม็งจากโอซาก้าสไตล์เผ็ดร้อน และยังมีร้านดังๆในภูมิภาคมารวมไว้ ไปแล้วทำท้องว่างก่อนไปนะ กินไม่ไหวแน่ๆ
การเดินทาง ไปยังห้าง Cannal City Hakata จากสถานี Hakata (Hakata Station) ให้เดินประมาณ 10-15 นาที จากประตู Hakata Exit (ทางออกชิกุชิกุชิ) ของสถานี Hakata ไปตามถนนหลัก (Taihaku-dori) มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ (ออกจากสถานีให้เดินตรงไปเรื่อยๆ) คุณจะเห็น Canal City อยู่ทางซ้ายมือ
Mawaru – Sushi – Ichiba (ซูชิสายพานราคาย่อมเยา)
ร้านซูชิหนึ่งเดียวในรีวิวนี้ ที่เราขอแนะนำ แค่เราเข้ามาก็เจอการันตี อร่อย อัธยาศัยดีของคุณลุงเจ้าของร้าน เป็นร้านซูชิสายพานในฟุกุโอกะที่เน้นวัตถุดิบสดใหม่และคุณภาพดี อาจจะแค่ร้านเล็กๆ แต่ก็ได้รับความนิยมจากทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว จากรีวิวคนไทยและต่างชาติที่มากันที่นี่ แล้วเขียนแปะไว้กำแพงร้านก็รู้เลยมาถูกร้านแล้ว
จุดเด่นของร้านคือซูชิที่ปั้นสดใหม่ คำต่อคำ โดยเฉพาะซูชิซาบะสดที่หาทานยาก ยังมีปลาอื่นๆให้เลือกสั่งได้ทั้งปลาโอโทโร่ ชูโทโร่ แซลมอน และปลาไหล ราคาก็ไม่แพง เริ่มต้นที่ 150 เยน
ร้านซูชิที่ตามใจคนสั่งสุดๆ ขนาดไม่ได้ใหญ่โต แต่ของสดแน่นอน
การเดินทาง :ใช้ รถไฟใต้ดิน Fukuoka City Subway สาย Kuko Line (Airport Line) ลงที่ สถานีฮากาตะ (Hakata Station) และเดินต่อประมาณ 7-10 นาที
ร้านเปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลาคือ 11.00-15.00 น. และ 17.00-21.00 น.
LaLaport Fukuoka (Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA)
ห้างใหญ่สุดในเมือง ฟุกุโอกะ นอกจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ ครบๆ รวมแบรนด์ดังของญี่ปุ่นและต่างประเทศไว้แล้ว ที่ตั้งใจมาเป็นพิเศษคือการมาดูหุ่นกันดั้ม RX-93ff ν Gundam ขนาดเท่าของจริง: นี่คือสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ LaLaport Fukuoka หุ่นกันดั้มขนาดใหญ่สูง 24.8 เมตรนี้เป็นโมเดลของ RX-93ff ν Gundam เค้ายังมีช่วงเวลาโชว์หุ่นขยับได้ด้วยนะ
ช่วงกลางวัน (10:00 – 18:00 น.): แสดงทุกชั่วโมงแบบไม่มีฉายภาพบนผนัง
ช่วงกลางคืน (19:00 – 21:00 น.): แสดงทุกครึ่งชั่วโมงพร้อมการฉายภาพบนผนัง
เราเลือกมากลางคืนหลังเดินเล่นในห้างแล้ว เพราะมันจะมีโชว์แสงสีนี่ละ นอกจากนี้ยังมีGUNDAM PARK Fukuoka: พื้นที่สำหรับแฟนๆ กันดั้มโดยเฉพาะ มี “GUNDAM SIDE-F” ที่เป็นร้านค้าและจัดแสดงเกี่ยวกับกันดั้มด้วยนะ
ร้านเด่นๆเค้าเยอะเลยทั้ง สายแฟชั่น ก็มีหลายแบรนด์
มาที่เดียวครบๆเลย อ่อมีร้านค้าปลอดภาษีด้วยนะมาให้พก พาสปอรต์มากันด้วยล่ะ
การเดินทาง:จากสถานี Hakata:
รถไฟ JR: นั่งรถไฟ JR สาย Kagoshima Main Line ไปยังสถานี Takeshita (ประมาณ 1 ป้าย) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 9 นาที
Tenjin Underground Mall
หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “Tenjin Chikagai ” (เทนจิน จิกะไก) แหล่งช้อปปิ้งใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู! แบ่งออกเป็น 12 โซน/ทางเดินมีร้านค้ามากกว่า 150 ร้านค้า !!
แอดฯ สาบานเลยว่าไม่เคยรู้ว่ามีแต่ไปเจอด้วยความบังเอิญแล้ว ว้าวมาก มีทั้งเสื้อผ้า ขนม ร้านอาหาร เรียกว่า ไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นเลย ที่สำคัญยังเชื่อมต่อไปยังห้างดังๆย่านนี้ได้ทั้งหมดถ้าฝนตกลงมาด้านล่างเสียตังค์แน่อน
การเดินทาง : ที่นี่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดินถึง 3 สถานีได้แก่
สถานีรถไฟใต้ดินเทนจิน (Tenjin Station) สาย Kuko Line (สายสนามบิน)
สถานีรถไฟใต้ดินเทนจินมินามิ (Tenjin-Minami Station) สาย Nanakuma Line
สถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) Station (รถไฟเอกชน)
และ ศูนย์รถบัส Nishitetsu Tenjin
จบแล้ว สองวันหนึ่งคืน เที่ยวฟุกุโอกะ(Fukuoka) เมืองหลักของภูมิภาคคิวชู เที่ยวประมาณนี้ กำลังดี หากมีเวลามากกว่านี้ก็สามารถเที่ยวรอบๆได้อีก สำหรับแอดฯแล้วใช้เวลากับที่เมืองฟุกุโอกะ ตอนขามาและขากลับอย่างละคืน ก็สามารถเที่ยวได้แล้วใครอยากรู้อะไรเพิ่มเติมสอบถามใน comment ไว้ได้เลย แอดฯ จะมาช่วยตอบ
สำหรับทริปหน้าจะพาไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคิวชูแล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นภูมิภาครวมที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ภาคอื่นๆของประเทศญี่ปุ่นเลยตามมาเลยดีกว่า
หนหน้าจะพาไปเที่ยวหนึ่งในเมืองโปรดที่สุดเมืองนึงของบัานเรา คุมาโมโต้ มาหลายรอบแล้วยังเที่ยวไม่ทั่วเลย
โปรดติดตามนะ ฝากเพจ “อยากรู้จักโลกกว้าง” ไว้ด้วยนะไปตามติด ติดตามกันได้ครับ
สนใจเนื้อหา เที่ยวญี่ปุ่น ของเราเข้าไปดูในนี้ต่อได้เลย รวมไว้ให้แล้ว