เมื่อจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากผมออกมาจากโรงพยาบาล และได้กลับมาบ้าน ตั้งใจไว้ว่าจะรีวิวทริบใต้ต่อหลังจากค้างคุณๆเอาไว้มาเกือบอาทิตย์ให้จบซักที
ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ได้รับข่าวเศร้าถึงการจากไปของดาราชื่อคุ้นเคยท่านนี้ ในวัย57ปี หลังจากต่อสู้โรคร้าย มะเร็งในตับอ่อน(เป็นผลจากการสูบบุหรี่นั้นเอง)ด้วยกำลังใจจากคนในครอบครัวมาตลอดปีหลังนี่ สเวย์ซี่ถือเป็นดารานิสัยดีที่รักครอบครัวมากอีกคนนึง เค้าแต่งงานและรักผู้หญิงคนเดียวมาตลอดชีวิตนับเป็นดาราที่เป็น family man มากๆของฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว
ผมจำได้สมัยสิบกว่าปีก่อนตอนที่ตัวเองได้มีโอกาสไปชม Dirty Dancing1(1987) ที่โรงหนังตรงแยกมักกะสัน อย่าง โอเอ (สมัยนี้จะมีคนรู้จักไหมนี่) เล่นกับ jennyfer Grey นอกจากหนังจะทำเงินแล้วที่ดังกว่าตัวหนังในสมัยนั้นก็คือ ซาวน์แทร็คที่ขายกันถล่มทลายติดชาร์ตบิลบอร์ดกันรายสัปดาห์เป็นว่าเล่นเลยทีเดียว
และได้เห็นบทบู๊มันๆจากหนังอย่างRoadhouse(1989) หนัง แอ็คชั่นกลิ่นไอหนังคาวบอยตะวันตกในบรรยากาศบ้านนอกของอเมริกา สเวย์รับบทเป็นนักเลงคุมบาร์กลับใจ ที่ผมดูแล้วที่ติดใจกลับไม่ใช่แกแต่เป็นนางเอกหุ่นงามเช้งอย่างKelly lynch ต่างหาก
หลังจากนั้นแกก็ดังแบบสุดๆเป็นพลุแตกอีกครั้งหลังจากทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ประทับใจในความรักที่แน่วแน่ที่ความตายไม่อาจพรากไปได้จาก Ghost (หนังปี1990)ประกบกับ เดมี่ มัวร์ สมัยที่เอาะเหลือเกิน และดังมากขนาดที่ว่าทำเอาสาวน้อยใหญ่แห่กันเข้าไปร้านตัดผม และขอทรงผมสั้นเดมี่ มัวร์กันเกร่อเมืองทีเดียว ทำเอาคุณผู้ชายทั้งหลายอิจฉาตาเหน่ง(สมัยนั้นยังไม่เหน่งขนาดนี้)บรูซ วิลลิสกันทั่วหน้าที่ได้เมียสวยปานนี้
แต่หนังต่อๆมาของสเวย์ก็ค่อยๆหายไปจากความทรงจำของผู้คน และผมเองก็ค่อยๆลืมแกไปจน เมื่อไม่นานมานี่ได้มีโอกาสชม DVD หนังที่แกได้เล่นเอาไว้ แม้จะดูแก่ไปเยอะมาก จาก 11:14 หนังชื่อแปลกๆแต่สนุกเหลือหลายด้วยสไตล์หนังอินดี้ที่เน้นบทที่มีสีสัน และเรื่องราวยอกย้อนซ่อนเงื่อนปมจนต้องติดตามจนจบ อย่างใจจดจ่อ ได้อย่างสุดยอด
วันนี้ผมมาเล่าเรื่องย้อนวันวานของดาราท่านนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ หลังจากเจ็บป่วยจากเหตุการ์ณต่างๆที่รุ้มเร้าเข้ามาช่วงหลัง ทำให้ได้ทราบข่าวการจากไปของดาราหน้าคุ้นเคย ทำให้ผมกลับมาได้คิดถึงการใส่ใจในสุขภาพของตัวเองและมันค่อนข้างเปลี่ยนมุมการใช้ชีวิตของตัวผมเองออกไป พอถึงเวลาต้องเข้าไปนอนโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก กับยาสารพัดและน้ำเกลือขวดแรกในชีวิต มันทำให้หันมาตระหนักถึงการใช้ชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา ว่าประมาท มานานขนาดไหน เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ จึงอยากให้ทุกๆคนที่ได้อ่านเรื่องวันวันๆวันนี้อย่าลืมใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองกันเยอะๆนะครับ เพื่อคนที่คุณรักเราจะได้อยู่กับเค้าได้นานๆครับ หวังว่าวันนี้ผมคงไม่พล่ามมากไป หลังๆนี่ชักแก่ก็เริ่มบ่นๆแล้ว
หนหน้าสัญญาว่าจะกลับมา รีวิว ทริบล่องพังงาให้จนจบครับ
ขอให้หลับอย่างเป็นสุข…แพทริค สเวย์ซี่
1 Comments
โรงพยาบาล
May you rest in peace…แพทริค สเวย์ซี่