สวัสดีครับ
อย่างที่เคยบอกไปว่าจะแนะนำที่พักที่มีโอกาสได้ไปเยือน “น่าน” วันแรกมาให้ได้อ่านกัน(อ่านเรื่องราววันแรกของน่านได้เลยครับ)
หลังจากที่มาถึงเราทั้งคู่กว่าจะมาถึงก็เกือบอาทิตย์ลับฟ้าเลยทีเดียว หลังจากแวะเที่ยวกันมาตลอดทาง และแล้วเราก็มาถึงจนได้
ลองมาเที่ยวและชมภาพกับผมกันครับ
ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับ คุณมาเรีย ณ.ไกลบ้านจากห้อง blueplanet ครับ สำหรับรีวิวสวยๆที่ทำให้ผมได้มาตามรอยจริงๆ
สามารถดูภาพที่เหลือทั้งหมดนอกจากรีวิวนี้ได้ที่ีนี้ครับ
http://blog.one22.com/pics/relax/north/gallery_sasidara_resort
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ศศิดารารีสอร์ท ตั้งอยู่ใกล้ๆวัดถ้ำเขาน้อยอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ4 กิโลเมตรเศษ อยู่ใกล้ๆกับโลตัส น่าน ถ้าคุณมาจากทางเวียงสา มาตามทางหลวงหมายเลข 101 จะต้องผ่านปากทางเข้าศศิดาราก่อน เข้าตัวเมือง เพราะฉะนั้นการมาไม่ยากแต่อย่างใด ครับสังเกตุป้ายบอกทางด้านซ้ายมือ ทางเข้าทางเดียวกับวัดพระธาตุเขาน้อย เข้ามาจนเกือบถึงตัววัดจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาวิ่งไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ
ขับรถมาทางไกลหลังจากเอาของลงผมเริ่มเดินชมรอบๆก่อน
ที่นี้กว้างขวางมองไปรอบๆ หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปไม่นาน พระจันทร์ก็ขึ้นมาให้ได้เห็นพักใหญ่ๆ อากาศเย็นๆพัดมาประทะตัวให้รู้ว่าหนาวแล้ว
ผมหันกลับมามองที่ตัวอาคารที่พักไฟที่เปิดสว่างไสว ตัดกับท้องฟ้ายามโพลเพล่ดูมีเสน่ห์จนต้องยกกล้องขึ้นมาเก็บเสียหลายภาพ
เดินเข้าไปข้างในกันดีกว่า ไฟด้านหน้าสีเหลืองนวลตา
ส่วนต้อนร้บของโรงแรมยามค่ำวันที่เราเข้าพักเกือบเต็มครับ โรงแรมขนาดกำลังดี สภาพรอบๆยังดูใหม่มากๆ
ผมชอบการตกแต่งบริเวณด้านหน้าเป็็นพิเศษ ที่เด่นสะดุดตากว่าเฟอร์นิเจอร์ก็คือ โคมไฟ ครับ
โดยเฉพาะโคมฟ้าสไตล์ล้านนาประยุกต์ดูสวยดีทีเดียว (ขอขอบคุณมาเรีย ณ.ไกลบ้านที่มาพักทีนี่และรีวิวทำให้ผมได้สังเกตุไฟที่นี้สวยอย่างที่ว่าไว้จริงๆครับ)
เดินต่อเข้ามาด้านในมีชุดรับรองวางให้แขกนั่งพักได้แถวๆนี้ทำให้ผมพบโคมไฟเก๋ๆอีกแล้ว
อย่างสองโคมนี้สวยดีจริงๆ เพราะรีวิวของคุณมาเรียแท้ๆผมเลยมาสังเกตุเป็นพิเศษ
อีกมุม
เดินขึ้นมาชั้นสองมีลานโล่งว่างๆด้านนหน้า กว้างดีครับที่นี่ ผมเงยหน้ามองขึ้นไปเจอโคมไฟสวยๆอีกแล้ว
เดินไปห้องเราดีกว่า ห้องที่ผมจองไว้เป็นห้อง Deluxe อยู่หัวมุมพอดี ห้องนี้นอกจากกว้างกว่าห้อง Superior แล้วยังมีข้อดี 2 ประการคือได้วิวจากด้านข้างที่มีหน้าต่างให้กับมีอ่างอาบน้ำให้เพิ่มขึ้นมาแต่วิวจริงๆผมว่ายังไม่เท่าไหร่ครับ
อีกข้อคือในห้องน้ำจะกว้างกว่าและมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่กันได้คนตัวใหญ่ๆอย่างผมลงไปนอนแช่ได้สบายๆครับ ด้านในตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันต่างๆดูไปก็สวยดีแต่ส่วนตัวผมชอบเรียบๆมากกว่า นอกนั้นก็ไม่ต่างกับ Superior เท่าไหร่ อ่ออีกอย่างห้ิองน้ำตามผนังมีรอยปูนกระเทาะออกมาบ้างและไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่นัก ถ้าโรงแรมจะเข้ามปรับปรุงก็ยิ่งดีครับ
หน้าห้องน้ำจะมีชุึดโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็น ทีวีและ ถาดขนมต้อนรับเล็กน้อยให้ไว้หน้ากระจกด้วย
มาดูภาพตอนเช้ากันบ้างครับ หลังจากตื่นเช้าๆผมเดินลงมาสำรวจรอบๆที่พักที่นี้เดินมาด้านหน้าจะมีป้ายบอกชื่อรีสอร์ทศศิดารา
มีป้ายบอกถึงการเป็นแหล่งผลิตเครื่องเงินส่งขายด้วย
เดินออกมาจากตัวตึกที่พักมาทางห้องอาหารของรีสอร์ท อยู่ด้านหน้าเดินมาไม่กี่สิบเมตรก็ถึงครับ
อาคารไม้ 2 ชั้นดูสวยงามดี ด้านล่างจะเป็นที่ตั้งอาหาร ตอนเช้าจะเป็นบุปเฟ่ห์ให้เราเลือกตักทานได้เลยทั้งข้าวต้ม,ข้าวผัด,abf,และเครื่องดื่มต่างๆ
อาหารก็ค่อนข้างใช้ได้อร่อยอยู่หลายอย่างเหมือนกัน แล้วแต่เราเลือกเอาได้เลย
ผมชอบอาคารไม้หลังนี้มาก ดูสวยและเข้ากันดีกับธรรมชาติรอบๆ และตามเสายังมีเครื่องเงินประดับดูสมกับเป็นเมืองเหนือดีไม่เลวทีเดียว
เมื่อคืนตอนมาถึงผมเห็นป้ายทางรีสอร์ทว่าสามารถจัดชุดตักบาตรได้สำหรับแขกที่ต้องการ โดยแจ้งกับทางรีสอร์ทไว้ ตอนเช้าทางรีสอร์ทก็จะเตรียมไว้ให้ เราทั้งคู่จึงได้ทำบุญกันสมใจ
หลังทานมื้อเช้าเสร็จผมจึงขอเดินย่อยซักหน่อยครับ และตั้งใจจะไปขอชมบ้านไทยที่อยู่ห่างไปจากตัวตึกพอสมควร
เป็นบ้านไทยสไตล์ประยุกต์ด้านล่างจะเป็นปูน และมีห้องพักอยู่หลายห้องเข้าใจว่าทางรีสอร์ทจะเปิดให้จองทั้งหลังมากกว่าจะซอยออกเป็นห้ิองๆครับ ช่วงที่ไปแขกไม่เยอะแบบนี้ที่นี้จึงเหมือนปิดเลย ผมจึงขออนุญาติกับทางรีสอร์ทเข้ามาถ่ายภาพแบบไม่รบกวนใครทั้งนั้น
ห้องพักที่นี้ดูจะตกแต่งได้ดีกว่าฝั่งโรมแรมมากทีเดียว ห้องจะกว้างและใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักแทบทั้งนั้น ฝรั่งต่างชาติมาพักคงชอบมาแน่ๆ สำหรับใครที่สนใจลองสอบถามได้ตอนจองครับว่าเปิดให้จองเป็นห้องๆได้ไหมนะครับ รูปนี้ผมถ่ายจากตรงด้านนอกครับ
ไปดูชั้นบนบ้าง บ้านไทยแบบนี้ผมนึกถึงบ้านไทยภาคกลางมากกว่าทางเหนือได้อารมณ์เข้ากับบรรยากาศทุ่งนารอบๆเสียนี้กระไรจริงๆ
ทุ่งนาสีเหลืองทองหลังเก็บเกี่ยวแล้วก็ดูสวยงามไม่แพ้ยามที่ออกรวงเหมือนกันนะผมว่า
ผมเดินต่อมาทางด้านหลังห้องพักมีป้ายบอกทางไปสระว่ายน้ำให้แขกมาเล่นน้ำกันได้
สระขนาดกลางๆไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ถ้ายามไร้คนมาใช้แบบนี้ผมว่าว่ายเล่นน้ำกันได้สนุกไม่เลว(ถ้าไม่หนาวนะ)
สายๆหลังจากเก็บข้าวของแล้วเราต้องเดินทางกันต่อแล้วครับ ผมเลยเก็บภาพตอนกลางวันด้านหน้ามาให้ชมกันเพราะมาถึงก็มืดเลยไม่มีรูปชัดๆเท่าไหร่
ระหว่างขับรถออกมาผมผ่านทุ่งนาสีเหลืองทองอร่ามในฤดูแล้งอย่างฤดูหนาวแบบนี้สีทุ่งข้าวเหลืองทองก็ได้บรรยากาศดีครับ
ผมนึกทบทวนถึงที่นี่ ผมว่าที่นี้นับเป็นบูติกรีสอร์ทสวยแห่งนึงในน่านที่น่าพักมากๆ ส่วนใหญ่ตามจังหวัดทั่วๆไปมักจะเป็นโรงแรมที่เป็นตึกสูงมากกว่าจะเป็นอาคารหลังกำลังดีแบบนี้ ที่สำคัญตกแต่งเรียบหรูกำลังดีผสมกลิ่นอายความเป็นไทยภาคเหนือเข้าไว้ได้น่ารักดีครับ
ปรับปรุงเรื่องความเรียบร้อยของงานปูนในห้องบ้างจะยิ่งดีเข้าไปอีก ถ้ามีโอกาสไปน่านและ้ต้องนอนในเมืองผมก็คงจะได้กลับมาใช้บริการที่นี่ใหม่อีกแน่ๆ เพราะทั้งราคา 1000ต้นๆไปจนถึงกลางๆ กับห้องพักบนตัวอาคารหลัก หรือถ้าคุณสนใจบ้านไทยที่อยู่ส่วนตัวและไม่พลุกพล่านกับใครทั้งนั้นก็น่าจะชอบที่นี้ได้เช่นกันกับ บูติกรีสอร์ทสวยๆดูดี ราคาแบบนี้มีที่น่าน..ไง
***ขอจบกันที่ภาพแรกยามค่ำเมื่อตอนมาถึงอีกครั้งนะครับ
แผนที่จากเว็บรีสอร์ทนะครับสำหรับใครที่ดู google map แล้วงงหาข้อมูลเพิ่มเติมเชิญที่เว็บไซต์ของรีสอร์ทได้เลยครับ
http://www.sasidararesort.com/
Tel : 054-774483, 054-773936 , 086-3195488