ภาพถ่ายทั้งหมดสามารถชมกันได้ที่นี้นะครับ
http://blog.one22.com/pics/relax/north/bokluaview_resort
รีวิววันนี้พาคุณๆไปไกลถึงเมืองน่านให้สมกับเป็นรีวิวที่พักรับลมหนาวแรกของ one22
จะพาคุณๆ ลึกเข้าไปยังหนึ่งเดียวในอำเภอบ่อเกลือ
ที่นี้เป็นที่พักแห่งสุดท้ายของทริบฮันนีมูนของผมตั้งแต่ปีก่อน กว่าจะมาได้มาเล่าก็ครบปีพอดิบพอดี ^0^
ออกตัวนิดนึงนะครับ จะเล่าเรื่อยๆมาเรียงๆที่อาจจะไม่ตรงกับภาพนัก ขอเปลี่ยน Feel ซักหน่อย
ครั้งแรกที่เรารู้จักที่นี้ ต้องขอบคุณพี่จิบ มาเรีย ณ ไกลบ้าน แห่ง blueplanet ครับ
จากรีวิวที่ พี่เที่ยวกับครอบครัว ตะเวณเที่ยวซะเกือบทั่วเมืองเหนือ ในหน้าร้อน (เก๋สุดๆ) แล้วผมก็ขอฮุบไอเดียแกบางส่วนมาใช้ซะ (^ o ^ )
ภาพถ่ายในรีวิวพี่เค้าครั้งนั้น เป็นที่มาให้เราทั้งคู่คุยกันและแน่นอนเสียงเป็นเอกฉันท์ว่า เรา(เธอ) จะไปพักที่นี้ล่ะสำหรับฮันนีมูนวันสุดท้าย
ภาพขุนเขาและทะเลหมอก บนยอดดอยภูคา แม้จะสวยและดูเหมือนไม่ต่างจากขุนเขาอื่นๆในละแวกเดียวกันของภาคเหนือ
ผมว่าก็ยังมีอะไรบางอย่างชวนค้นหา และยินดีจะเดินทางมาค้นหามันด้วยตัวเอง
หลังจากตะเวณเที่ยว ไปทั่วตั้งแต่
เชียงใหม่
ไปแม่ฮ่องสอนพักที่ ปางมะผ้า, ปาย
วกกลับมานอนริมน้ำที่ ลำปาง
สุดท้ายเรามาจบที่ น่าน ครับ
มาถึงที่พักสุดท้ายของทริบ เป็นที่นี้นั้นเอง ที่ บ่อเกลือวิว รีสอร์ท ชื่อที่พักบอกทุกอย่าง แล้วอำเภอนี้ก็มีดีที่เกลือซะด้วยสิ
หลังจากขับรถวกวนได้ระดับน้องๆ ปาย เราก็มาถึงที่พักสุดท้ายของฮันนีมูนทริบ
ระหว่างทางวิวขุนเขาสองข้างทาง สวยงามจริงๆ เดี๋ยวไว้จะเล่าอีกทีตอนพาเที่ยวน่านนะครับ
ที่พักอยู่บนเนินเขา หันหน้ารับแสงอรุณรุ่งช่วงเช้า ผมคิดว่าเช้าวันรุ่งคงได้ออกมาเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นแน่ๆ…
แต่ใครจะรู้พอเ้ช้ามาถึงจริงๆกับไม่เป็นงั้นครับ เดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนท้ายนะ
ที่พักวิวดีและที่สำคัญธรรมชาติพิสุทธิ์รอบตัวที่ใครมาก็สัมผัสได้
วันที่ผมไปถึงได้เจอกับกองถ่ายทำหนัง 9 วัด (ฉายไปแล้ว)เป็นวันสุดท้ายของการเก็บกองกลับ
หลังจากมาซุ่มถ่ายทำกันที่บ่อเกลือนี้ร่วมเดือน จนคุณ ทวน เจ้าของยังบอกในสายกับเราว่า
ถ้ามาเร็วกว่านี้ คงไม่มีห้องพักให้แน่ๆเลยเพราะทั้งกองถ่ายเหมาหมดรีสอร์ทครับ
ตอนที่ไปถึงค่อนข้างจะเข้าเย็นๆ ผมเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ ติดใจทุ่งนาขั้นบันไดครับ ไปเห็นที่บาหลีมา
เค้ามีเราก็มีเช่นกัน ถึงแม้ว่าปัจจุบันคุณทวนจะไม่มีการปลูกข้าวเองแล้ว
แต่ก็ยังมีแปลงปลูกผักที่ผักที่นี้ทั้งหมดที่เราทานก็มาจากมือแกเนี่ยละครับ
ผมเพลิดเพลินกับการเก็บภาพจนเย็นย่ำ จึงกลับไปที่ห้องเรา ดูแล้วก็ถูกใจตอนจองบอก พี่เค้าไว้ว่าขอห้องที่วิวดีๆนะครับเลยได้ห้องนี้มา
เนื่องจากห้องเราเป็นห้อง เบอร์ 1 จะปลีกวิเวกออกมาจากคนอื่น ได้ความเป็นส่วนตัวสุดๆเลยครับ
มาดูห้องพักกันบ้างครับ ห้องพักใหญ่และกว้างดีทีเดียว ตกแต่งประยุกต์ด้วยวัสดุพื้นเมืองผสมกับของตกแต่งตามแบบฉบับทางเหนือ
อุปกรณ์ทุกอย่างดูครบครับ จะขาดอยู่บ้างก็ ทีวี (ใครติดละครกัน ยอมอดซักคืนสองคืนเถอะครับ เตรียมหนังสือดีๆบวกกาแฟร้อนๆ ได้ที่เอนกายเลยล่ะครับ)
แอร์นี้ไม่ต้ิองเปิดเลยครับ กลางคืนผมนอนใส่เสื้อกันหนาวและได้ผ้าห่มหนาๆของที่นี้อุ่นหลับสบายเลย
ห้องน้ำใช้สีสันตัดกับภายนอกแม้จะฉาบด้วยปูนแต่พื้นที่เป็นหินทรายก็เข้ากันได้ดีครับ มีน้ำร้อนน้ำเย็นให้ อาบอุ่นสบายๆ
มุมเก๋ในห้องน้ำตกแต่งไว้เรียบๆแต่ก็เท่ดีครับ คุณทวนนอกจากเป็นเชฟมือฉมังแล้ว ไอเดียการตกแต่งห้องพักต่างๆก็มาจากแกเช่นกัน หลายๆอย่างในที่พักมีรายละเอียดและน่าสนใจ
พูดถึงคุณทวนแล้วก็อดชื่นชมในความกล้า ของแกไม่ได้ครับ
หลายๆคนคงเคยอ่านรีวิวที่ บ่อเกลือนี้มาบ้างแล้ว
แต่ผมขอเล่าเท้าความแบบย่อๆอีกนิด …
ในความกล้าคิดกล้าทำของพี่เค้ากันครับ
พี่เค้าเป็นคนน่านครับ แต่เช่นเดียวกับคนหนุ่มหลายๆคน
ที่ต้องทิ้งบ้านเกิด มาสู้ชีวิตหาช่องทางวางตัวในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ
จนคุณทวนทำงานเป็นเชพในโรงแรมระดับห้าดาว…
ก่อนที่บางสิ่งในตัวแกเรียกร้องให้กลับมาทำกิจการเล็กๆ ของตัวเองที่น่าน
โดยมีหุ้นส่วนที่สนิทและไว้วางใจในตัวพี่เค้าร่วมลงทุนด้วยกัน
นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ บ่อเกลือ วิว รีสอร์ท ผ่านร้อนหนาวมาหลายฤดูทีเดียวครับ
ผมเองชื่นชมพี่เค้าที่กล้าทิ้งเมืองหลวง และความศิวิไลซ์ ที่แสนคุ้นเคย มาเดินตามหาความฝันของตัวเอง
แม้ฝันนั้นจะพาแกมาอยู่กลางป่าเขานี้ได้ ขอคาราวะด้วยใจครับ พี่ ( ^_^ )
อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเราเดินไปทานมื้อค่ำที่ Pongza Restaurant ร้านอาหารชื่อเก๋หนึ่งเดียวของที่นี้
ที่นี้กว้างและวิวงาม เนื่องจากปลูกสร้างอยู่บนไหล่เขา ด้านหน้าหันเข้าภูเขาวิวตรงหน้าบริเวณร้านอาหารจึงงามทีเดียว
ห้องอาหารที่นี้แน่นอน เชพจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่พี่เค้าเองที่จะคุมอาหารทุกอย่างด้วยตัวเอง
อาหารจึงออกมาหน้าตาและรสชาติดีอย่าบอกใคร
หน้าตาอาหารก็ประมาณนี้เลยเป็นยำอะไรซํกอย่างจำชื่อไมไ่ด้ขออภัยครับ อาหารแต่ละอย่างชื่อไม่คุ้นแต่กินแล้วกลับคุ้นลิ้นมากๆ
รสชาติไม่ได้น้อยหน้าโรงแรมดังๆแต่อย่างใด สมกับที่เป็นเชพระดับโรงแรมห้าดาวมาปรุงให้
อาหารธรรมดาก็ทำให้มันพิเศษได้ด้วยรสชาติ เสียดายไมไ่ด้ถ่ายมาหมดครับ หิวจนลืมเลย >_<
ค่ำคืนแรกนี้ผมมีโอกาสได้คุยกับน้องๆ พนักงานหลายคนของที่นี้ หลังจากเค้าพอมีเวลาว่างจากการรับรองแขกแล้ว
พนักงานหลายๆคนยังเรียนหนังสืออยู่ ผมถามบางคนว่าไม่เหงากันเหรอ มาอยู่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้
ทุกคนก็บอกชอบที่ไม่วุ่นวาย และพี่ทวนก็เป็นพี่ที่ดี ให้ความเป็นกันเอง ช่วยเหลือดูแลกันเหมือนพี่ชายมากกว่าจะแสดงตัวเป็นเจ้าของ
ฟังแล้วดีใจแทนคุณทวนครับ
ผมนั่งซึมซับบรรยากาศและอากาศหนาวๆได้ไม่นานคนข้างๆก็สะกิดให้ไปนอนครับ
เพราะเช้าวันพรุ่งนี้จะต้องตื่นมาถ่ายภาพพระอาิทิตย์ยามเช้าอย่างที่ตั้งใจไว้
———————————-
5.25 น นาฬิกาในมือถือร้องเตือนให้ผมต้องดีดตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียง เอาน้ำลูบหน้าหมาดๆเสร็จก็เดินไปเปิดประตู
ยังไม่ทันแง้มประตูห้องออกดี ไอหนาวก็มุดแทรกเข้ามาปะทะกับตัว จนต้องถอยกลับมาใส่เสื้อกันหนาวอีกตัวครับ
คราวนี้พร้อมแล้ว มองออกไป…
โอ้ว วว มองอะไรไม่เห็นเลย เพราะที่เห็นเป็นสีขาวขุ่นๆไปทั่ว
หมอกหนามากๆ เรียกว่าจากจุดที่เรายืนอยู่ออกไป ไม่กี่เมตรก็แทบไม่เห็นอะไรเลย
ถ้าคุณเป็นคนรักและชอบหมอกละก็หนนี้คุณๆจะได้สัมผัส เรียกว่าใกล้จนแทบสูดมันเข้าไปในปอดได้เลย
และถ้าหมอกสามารถจับต้องได้นะครับ คงสามารถจับมาปั้นๆเป็นก้อนให้ได้รูปทรงดั่งใจเรา
ผมเดินฝ่าหมอกไปเรื่อยๆใจก็คิดว่าแบบนี้ฉันจะถ่ายอะไรติดไหมน้อ
รอเวลาจนหกโมงกว่า ภาพแรกที่ผมถ่ายมาก็เป็นอย่างที่คุณๆได้เห็นกัน
สำหรับใครหลายๆคนที่เคยเห็นทะเลหมอกกัน
เคยสงสัยเหมือนผมไหมครับ ว่าเรามองไกลๆนะสวยจริง แต่คนที่เค้าอยู่ตรงนั้นจะเป็นยังไง
บัดนี้ผมได้คำตอบแล้วครับ คือ….มองไม่เห็นอะไรเลยจ้าาาา ( >0< ) มันขาวโผนไปโหม้ดเลยยย
รออยู่จนสายๆแดดส่องแล้ว แสงเช้าพอทะลุทะลวง ออกมาให้เราได้เห็นด้านล่างเป็นลำธารใส สวยงามดีจริงๆ
หลังรู้ตัวว่าทำอะไรไมไ่ด้แล้ว ก็เดินกลับเข้าห้องเพื่อเตรียมตัวมาทานอาหารเช้าครับ
เช้านี้อาหารจะเป็น บุฟเฟ่ห์ ไว้ให้เราเลือกทานครับ ผัดหมี่นี้อร่อยดี มันมีรสชาติของกระเทียมที่ผมชอบอยู่ด้วย ข้าวต้มเห็นกระเทียมไหมครับ ลอยเต็มเลย ^ o ^ เจริญอาหารเป็นพิเศษ
ที่ติดใจสุดๆ ก็เป็นขนมใส่ไส้ที่อร่อยมาก ไส้ก็ไม่เหมือนที่เราเคยกินกัน
บอกไม่ถูกครับว่าใส่ไส้อะไรมา จะสังขยาก็ไม่เชิง กล้วยน่ะไม่ใช่แน่ๆ
แต่อร่อยดี รวมๆอาหารอร่อยสมชื่อเชฟทวนจริงๆ
ผมตบท้ายด้วยน้ำชื่อแปลก มัลเบอรี่ ราคาน่าคบมากๆ
ไม่ทราบจริงๆครับ ว่ามันคือลูกอะไรแต่ได้สั่งเป็นแบบปั่นไป จนเค้าปั่นๆออกมาเป็นแก้วนี้ออกมา
รสชาติอร่อยหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อย อร่อยมากอีกแล้วล่ะครับ
สายๆแล้วแต่แดดออกเต็มที่ ผมยังตามเก็บภาพรอบๆของที่นี้
ดอกไม้ใบไม้ น้ำค้างยังคงเกาะบนใบหญ้า เวลาอยู่กรุงเทพฯ หญ้าก็แบบเดียวกัน น้ำค้างก็อาจจะมีคล้ายๆ
แต่ไหมความรู้สึกกับไม่เหมือนกันซะเลย
สงสัยเราจะเรื่องมากไปแน่ๆ คิดแล้วก็ขำหึหึอยู่คนเดียว รู้แต่ว่าอยากเก็บภาพสวยงามตรงหน้าไว้นานๆ
หลังจากนี้เราเก็บของเพื่อลงไปเที่ยวในตัวหมู่บ้านด้านล่างกันต่อ
ไปเพื่อชม อีกสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของคนทั้งหมู่บ้าน ที่ทุกๆคนเฝ้าดูแลสืบต่อมานานแสนนานนับเป็นร้อยๆปี
เรียกว่าก่อนจะตั้งกรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงด้วยซ้ำ จะเ็ป็นอะไรโปรดติดตามตอนหน้าครับ
สำหรับที่พักแสนงามแห่งนี้คงอยู่ในใจไปอีกนานครับ
ประทับใจมาก …ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ….ธรรมชาติที่ห่างหายไปนานสำหรับผม
ณ.วันที่เขียนอยู่นี้แม้จะผ่านมาครบปีพอดี แต่เหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
ยังอยากกลับไปอีกครั้ง ถือเป็นที่พักประทับใจ แม้ไม่หรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไม่ครบถ้วนทุกอย่าง
แต่กับเราทั้งคู่คงจะจำความรู้สึกดีๆนี้ไว้อีกนานครับ
แล้วพบกับรีวิวทริบหน้า พาเที่ยวน่านกันแบบทั่วๆครับ ไม่นานเกินรอ…
—————————————————————
View Larger Map
แผนที่จากอำเภอเมืองไปถึงบ่อเกลือครับ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์นะครับ http://www.bokluaview.com/
เบอร์ติดต่อ ครับ 054-778140 ,081 809 6392
4 Comments
Amporn Cham
เมื่อต้นเดือนธันวาได้มีโอกาศไปที่บ่อเกลือวิวมาค่ะ ประทับใจมาก ๆๆจะกลับไปอีกค่ะ.
คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก ซึ่งก็ทำให้มีเสน่ห์ที่ไม่วุ่นวาย และความที่อยู่ไกล คนเลยไม่แห่.
ไปกันมากๆๆเวลาวันหยุด
projectone
พี่ทวนนอกจากเป็นเจ้าของแล้วแกยังเข้าครัวเป็นเชพปรุงอาหารให้เราได้ทานด้วยนะครับ ยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอครับ
Piyapong Onetwentytwo
พี่ทวนเจ้าของยังลงมือปรุงอาหารให้เราทานกันด้วยนะครับสมกับที่เป็นเชพเก่าเลยทีเดียวเสียดายปีที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมเยียนกันปีนี้จะไปให้ได้ครับ
นายณัฐชนันท์ สุวรรณสาร
สวยมากครับ น่าไปเท้ว…