” ยินดีต้อนรับคะ ”
เสียงน้องเจ้าหน้าที่ Reservation ตรง Counter ที่ยืนรอรับเรา กล่าวทักทายพร้อมพนมมือไหว้เราทั้งคู่
เรายกมือไหว้รับ แทบไม่ทัน … จากนั้นน้องคนเดิมก็เดินนำเราพาไปยังด้านใน ผ่าน Counter ที่ยังมีพนักงานส่งยิ้มให้เราจนลับสายตา
ผมเดินตามอย่างว่าง่ายเข้ามาในโซนร้านอาหารของรีสอร์ท (เรามาทราบชื่อที่หลังว่า Baba Dining )
ผมมองไปรอบๆ พลางคิดว่าระยะเวลาจากนี้ 3 วัน 2 คืน เราจะได้ใช้เวลาทั้งหมดที่ “ศรีพันวา ภูเก็ต”
ไม่ทันไร welcome Drink เย็นๆ 2 แก้วก็ถูกยกมาเสริพพร้อมผ้าอุ่นม้วนมาสวยเชียวให้กับเราทั้งคู่ …
นับเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ตัวเองไม่คาดคิดว่าจะได้มาเยือน และยิ่งไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำครับว่า ยังได้พักกันแบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว !
ต้องขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมด้วยช่วยโหวตให้ blog เล็กๆอย่าง blog.one22.com
จนได้รับ รางวัล Top Vote จากการประกวดกินเที่ยวทั่วไทยสไตล์บล็อกเกอร์ ของททท.
ต้องขอบคุณมากๆครับที่ช่วยให้ผมมีวันนี้ ชาตินี้จะไม่ลืมทุกๆท่านเลยครับ __/|\__ (เวอร์ได้อีกนะ >___<)
เชิญชมภาพทั้งหมดของรีสอร์ทได้ตาม link ได้เลยครับ
http://blog.one22.com/pics/relax/south/gallery_sripanwa_phuket
ต้องบอกว่าหนนี้ภาพเยอะเหลือหลายทีเดียว ผมได้แยกเป็นโซนต่างๆไว้ให้ดูง่ายๆ มาครับไปเที่ยวรีสอร์ทที่ได้ชื่อว่าเ็ป็นที่สุดแห่งนึงของประเทศไทยเราครับ
ไปมายังไง ?
Sripanwa Phuket เป็นรีสอร์ทระดับ 6 ดาวที่ตั้งอยู่ตรงทิศตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ตรงปลายแหลมพันวาพอดิบพอดี ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาด้านซ้ายของแหลมไว้เกือบทั้งหมดเพราะฉะนั้น มันคือสวรรค์ของคนรักดวงตะวันทีเดียว เพราะคุณๆสามารถชมวิวทั้งตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากทั้ง 2 ฝั่งทะเลขึ้นอยู่ว่าคุณจะเลือกพักวิวแบบไหน
การเดินทางหากคุณไมไ่ด้นำรถมาเอง สามารถเรียกใช้บริการของรีสอร์ทไปรับที่สนามบินได้เลย ซึ่งแน่นอนมีค่าใช้จ่ายนะครับ หรือไม่ก็เหมารถจากสนามบิน,เช่ารถขับมาเองก็ได้ครับ หาไม่ยากแต่ระยะทางจากสนามบินอาจจะไกลซักหน่อยเพราะอยู่กันคนละมุมเมืองทีเดียวระยะทาง 40 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลามากกว่า 40 นาที กว่าคุณจะมาถึงได้ดูจากแผนที่(ขอบคุณแผนที่จากเว็บไซต์ www.Sripanwa.com)จะเข้าใจมากขึ้น จริงๆวิธีการเข้าเมืองจากสนามบินผมเคยแนะนำไว้แล้วจาก รีวิว ภูเก็ต..เมืองเก่าเล่าเรื่อง เมื่อปีก่อนสามารถอ่านกันได้ครับ
คืนแรกพอได้กับ Type Pool Suite
เกริ่นซะดูเริ่ดเชิดหยิ่ง ว่าแค่พอได้เองเหรอกับห้องพักระดับนี้ของ Sripanwa อย่าพึ่งหมั่นไส้กันครับ จริงๆเพราะผมเองได้ยินกิติศักดิ์ถึง สถานที่และการบริการของที่นี้มานานแล้ว กอรปกับราคาห้องพักต่อคืนก็เข้าหลักหลายหมื่นถึงแม้จะเป็น Type เล็กสุดย่อมต้องสร้างความคาดหวังให้กับผมไว้สูงมากทีเดียว จะเป็นไงเราลองมาดูกัน
หลังนั่งรอแป๊บๆ welcome Drink ก็มาเสริพ เป็นน้ำอะไรซักอย่างขออภัยที่จำไม่ไ่ด้แล้วรู้แต่สดชื่นดีทีเดียว
นั่งรอไม่นาน พนักงานก็พาเราเดินไปยังห้องพัก เป็นห้อง ps7. หรือชื่อเต็มๆของ Type คือ Pool Suite เป็นห้องพัก Type ธรรมดาที่สุดของที่นี้
สำหรับโซน Pool Suite ทั้งหมดจะอยู่รวมที่ตึกเดียวกัน แบ่งเป็น 2 ชั้น ห้องพักจะมีลักษณะเหมือนกันหมดขึ้นอยู่ว่าคุณจะอยู่ฝั่งซ้ายหรือขวา
เข้ามาจะแบ่งเป็นประตูเป็น 2 ส่วนเปิดประตูชั้นแรกจะเจอประตู Connecting อยู่ด้านข้าง สามารถเปิดเข้ามาหากันได้
ปรกติจะปิดไว้เสมอ ยกเว้นจะเป็นความต้องการของแขกทั้ง 2 ห้องทางรีสอร์ทจะมาเปิดให้
ผมว่าต่อให้เป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรเปิด เกิดเราเล่นสงครามปาหมอนกันแฟนอยู่ ทำไงล่ะจ๊ะ จริงไหมครับ ( > ~ < )
เข้ามาภายในดูกว้างกว่าที่คิดไว้ครับ พื้นที่กว่า 100 ตารางเมตร แถมแบ่งสัดส่วนได้ดีทีเดียวครับ
plan ของห้องเป็นแนวยาว หลักๆจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนแรกที่เป็น ห้องน้ำ
ส่วนที่ 2 เป็นห้องนอนซึ่งวางเตียงแบบ Master Bed ซึ่งมีขนาดใหญ่มากๆ
ผมนอนกลิ้งกันไปมา 2 คนยังเหลือเฟือครับ เพราะทั้งกว้างและนุ่มสบาย ชอบมากๆๆๆเป็นส่วนที่ดีที่สุด ติดใจที่สุดของห้องนี้เลย
และสุดท้ายเป็น Infinite pool ที่เป็นระบบ Jet Streaming Jacuzzi เวลาลงว่ายสร้างความเพลิดเพลินให้มากทีเดียวครับ
พ้นประตูห้องน้ำด้านขวาเข้ามา จะเจอส่วนหัวเตียงที่ทำเป็นโต๊ะ สามารถนั่งทำงานได้ซึ่ง ผมเองมีโอกาสได้ใช้เจ้าโต๊ะตัวนี้อยู่ค่อนวันเต็มๆ เพราะมีงานที่ติดตัวมาจากรุงเทพฯให้ต้องปั่นส่งระหว่างเข้าพัก
บรรยากาศการนั่งทำงาน และชมวิวตรงหน้าเปิด Ipod ให้ Volume อยู่กลางๆกำลังดีด้วยเครื่องเสียงของ Bose ที่ติดตั้งลำโพงรอบทิศทาง กับเพลงแนว บอสซ่า โอ้วววสวรรค์เล็กๆของผม
และมันก็ทำให้ผ่อนคลาย เร่งให้อยากปิดงานได้ไวขึ้นมากครับ (เพราะอยากออกไปเที่ยวแล้ว)
มีโซฟาน่านั่งกับหมอนหลายใบมาก วางให้เลือกหยิบใช้ได้ วันแรกที่เราเข้ามา มี Welcome Fruit วางต้อนรับอยู่ด้วย
ห้องพักกว้างขวางดีทีเดียวครับ เก็บภาพจากด้านนอกส่วนของ สระน้ำส่วนตัวมองเข้ามา
มาดูส่วนของสระน้ำบ้าง เป็นสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นักถึงแม้ถ้าเทียบสัดส่วนของทั้งห้อง
แม้จะให้พื้นที่ส่วนนี้ไว้ประมาณเกือบ 40 % ของห้องพักทีเดียวแต่แบ่งเป็นส่วนของสระน้ำน้อยไปนิดครับ
ว่ายไม่สะใจเท่าไหร่เลยสำหรับคนตัวใหญ่อย่างผมกระโจนกลับไปกลับมา 2 รอบก็หมดแล้ว
จุดที่น่าปรับปรุงของห้องนี้ เพราะเป็นห้องริมฝั่งขวาชั้นล่างสุดวิวที่ได้จะโดนต้นไม้บังซะเกือบครึ่งนึง
มุมมองไม่เต็มเท่าที่ควร ถ้าให้แนะนำกันจริงๆผมว่าห้องชั้น 2 ตรงกลาง(น่าจะประมาณ PS.2-4 )น่าจะวิวดีที่สุดแล้วครับ
และแน่นอน ทุกสิ่งอย่างในตู้เย็นสามารถทานได้หมด กรณีที่ทานทุกอย่างหมด วันรุ่งขึ้นทางพนักงานจะนำมาเพิ่มเติมให้จนครบ
มาดูห้องน้ำักันบ้าง ห้องน้ำกว้างถือเป็น 1 ใน 3 ของห้องทีเดียว เปิดเข้าไปจะเจออ่างล้างหน้า 2 อ่างด้านซ้าย มีอ่างล้างหน้า 2 ฝั่งไม่ต้องแย่งกันดีครับผมชอบ
อีกด้านจะเป็นส่วนของ Shower และ อ่างอาบน้ำ jacuzzi เวลาได้แช่น้ำหลังจากไปตะลุยขับรถเที่ยวรอบภูเก็ตกลับมานอนแช่น้ำ ให้ความเพลิดเพลินมากๆเลย
เราลองมาดูบรรยกาศรอบๆรีสอร์ทกันบ้างครับ ที่นี้จุดเด่นที่สุดอีกจุดก็คือ บริเวณ Pool Club ที่เป็นส่วนนั่งพักรอ ครั้งแรกและเป็นที่ๆเหมาะจะดินเนอร์ใต้แสงจันทร์ในวันพระจันทร์เต็มดวงมากๆทีเดียว
ผมเก็บภาพที่นี้ทั้งตอนเช้ามืด กลางวัน และพลบค่ำ บรรยากาศดีมากๆครับ
อย่างตอนช่วงเช้ามืดแขกส่วนใหญ่เค้ายังไม่ตื่นกันก็มีผมเนี่ยละครับ เดินแบกขาตั้งกล้องไปมาเพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงเช้าๆอากาศดี สงบ และเงียบมากๆ
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว….
บรรยากาศยามเช้ากับเรือรบระยะไกลๆ ดูแปลก…และต่างจากทุกๆเช้า….ที่เคยพบเจอมา
ใครมีโอกาสได้ตื่นเช้าๆ อย่าลืมมาสูดเอาอากาศดีๆติดกลิ่นอายทะเลยามเช้าของที่นี้นะครับ…
หันมาหาท้องฟ้าอีกด้านยังคงฟ้าเข้มๆตัดกับทิศตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
และที่เดียวกันแต่ต่างเวลา ตกเย็นย่ำที่นี้บรรยากาศกับคึกคักขึ้นมาทันตาครับ
วันที่ผมเข้าพักมีแขกเต็มและมีการจัดปารตี้รับรองแขก ทำให้มีแสงสีที่แปลกตาขึ้นไปอีก มุมๆเดิมแต่ครึกครื้นขึ้นมาทันตาครับ
ทั้งแขกเรื่อที่มารวมกันทานมื้อค่ำเคล้าเสียงเพลง กอปรกับแสงสียามค่ำ นั่นเป็นการง่ายที่คุณจะหามุมโรแมนติกให้นั่งชื่นชมบรรยากาศได้ไม่ยากเลย
สีสันสวยงามอยู่แล้วพอเพิ่มแสงไฟเข้าไปบรรยากาศนี้พับดีๆในกรุงเทพฯอาจจะต้องม้วนกันไปทีเดียว
ผมเก็บภาพช่วงเวลานี้ไว้พอควร ปรกติก็ชอบถ่ายภาพที่สีสันจัดจ้านอยู่แล้วเจอการเล่นแสงสีแบบนี้ยิ่งสนุกกับการถ่ายเข้าไปอีกครับ
อย่างที่บอกพอตกกลางวันบรรยากาศก็ไปอีกแบบครับ ตรงนี้เป็นชั้นบนสุดของ Pool Club บรรยากาศดีเหลือหลายเช่นกัน
โซนนี้เป็นส่วนของร้านอาหารแสงสว่างช่วงทำให้ดูสะอาดสะอ้านน่านั่ง และก็เพราะตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่โดยรอบ ทำให้ดูโล่งและโปร่งตาดีครับ
ถ้าเดินลงบันไดมาชั้นนึงก็จะเป็นส่วนของร้านขายของที่ระึลึกและโซนสันทนาการ มีโต๊ะ Pool ตั้งให้แขกได้วัดฝีมือกัน
มาดูส่วนของสระว่ายน้ำกลางบ้าง ตรง Pool Club มีสระใหญ่และยาวมาก ดูน่าว่ายดี
แต่ก็แปลกดีครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมพักที่นี้ไม่เคยเห็นแขกลงเล่นให้เห็นเลย หรือเค้าจะเขินกันรึเปล่าก็ไม่รู้
มุมสุดโรแมนติกที่แขกจะมานั่งกันเมื่อเวลาใกล้ค่ำ ผมมีโอกาสได้นั่งทานอาหารที่นี้เหมือนกัน
ยอมรับจริงๆครับ การนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆซักแก้วชมพระอาทิตย์ยามอัศดงค์มัน สุดยอดมากๆเลยยยย!
มาพาชมสระน้ำอีกแห่งครับ มีโอกาสมาว่ายที่สระนี้ตลอด ถึงแม้จะเล็กกว่าแต่มันก็ดูส่วนตัวกว่าด้วย
บรรยากาศตอนใกล้ๆค่ำที่นี้ก็สวยมากซะด้วย ลองดูจากภาพครับสระนี้ปิดตอน 2 ทุ่มนะครับแต่เวลาประมาณนี้ก็ทำให้คุณเห็นดาวได้แล้วล่ะ
มาดูบรรยากาศ รอบๆแหลมพันวาบ้างครับ ผมขับรถออกมาหาอะไรทาน ตอนขากลับตั้งใจจะกลับมาเก็บภาพแถวๆแหลมพันวา บรรยากาศยามเย็นของที่นี้ดีมากๆ
แถวๆชายหาดมีเด็กๆชาวเล ออกมาเล่นน้ำกันผมเลยกลายเป็นพวกแอบถ่ายเก็บภาพยามเผลอของเค้าไว้ด้วย ติดเรทหน่อยน่าาา หุหุ ( ^0 ^ )
หนูๆวิ่งเล่นกันสนุกสนานกันดีจังเลย ติดเรทอีกภาพ หุหุ ( ^0 ^ )
ระหว่างทางขากลับเจอวิวแปลกๆ ผ่านตาแว๊บๆถึงกลับเบรคแทบไม่ทันอยากถ่ายภาพ silhouette ครับ
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว…จบไปอีกหนึ่งวัน ….
และขอปิดท้ายด้วยบรรยากาศ อาทิตย์อัศดงยามเย็นสวยงามมากครับ ผมถ่ายพระอาทิตย์ใกล้ๆลับขอบภูเขาไว้เยอะทีเดียว ชอบจริงๆครับ
สรุป
อย่างที่จั่วชื่อตอนไปครับตอนนี้เป็นตอนแรกเท่านั้น ยังไม่จบนะครับเพราะยังมีห้องพักอีก Type ที่มีโอกาสได้เข้าพัก ซึ่งต้องนับเป็นความโชคดีบนโชคร้ายของผมที่ได้ Upgrade ห้องพักในคืนที่ 2 ไว้จะมาเล่าให้ฟังตอนหน้าพร้อมกับพาชมห้อง 1 Bed Room Pool Villa และโซน ที่เหลือครับ
สำหรับห้องพัก Pool suite แล้ว ถึงจะเป็น Type เล็กสุดของรีสอร์ทแต่ด้วยความสะดวกสบายครบครัน อุปกรณ์ และการตกแต่งด้วยวัสดุระดับเกรดเอทั้งนั้น ขนาดห้องพักที่ไม่เล็กเลย ทุกๆอย่างน่าจะประทับใจคุณๆได้ไม่ยาก จะมีที่ควรจะพิจารณาอยู่ 2 เรื่องครับ ก็คือ
1.สระน้ำในห้องพักที่ค่อนข้างเล็กซักหน่อยครับ ถ้าคุณเป็นคนติดสระและชอบว่ายน้ำแบบส่วนตัว เทียบราคาเดียวกันกับโรงแรมอื่นๆคุณอาจจะได้ สระว่ายน้ำที่กว้างกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะครับ เพราะการบริการและควาามสะดวกสบายสมดั่งคำร่ำลือ ส่วนนี้ต้องยกให้ครับ
2.ถ้าจะเลือกห้องพักควรเลือกห้องพักชั้น 2 เพื่อวิวที่ดีกว่าไม่มีต้นไม้บังครับ ผมสังเกตุด้วยตัวเองจากภายนอก ไม่ได้เข้าไปชมในห้องอื่นๆเพราะวันที่เข้าพักเต็มหมด ห้อง ps. 1 น่าจะวิวดีที่สุดห้องนึงถึงแม้จะเป็นห้องริมเหมือนกันแตเพราะอยู่ชั้นบนทำให้น่าจะได้วิวดีกว่าครับ หรือสงสัยยังไงสอบถามตอนที่จองมาทาง Reservation น่าจะตอบคำถามได้ดีที่สุด
รวมๆพักฟรีไม่ควรบ่นมากจริงไหมครับ หุหุ ( ^ 0 ^ ) แล้วพบกันตอนหน้าครับ จะพาชมพาเที่ยว Sripanwa ต่อครับไม่ช้าเหมือนทุกครั้งแน่นอน
2 Comments
golfreeze
โหหหห สมแล้วกับได้รางวัล Top vote ครับพี่
ภาพที่ีรีสอรต์แจ่มมากๆ ครับ ยินดีด้วยนะครับพี่ ที่ได้ไปเที่ยวแบบนี้
สมกับที่ทุ่มเท ให้กับเว็บจริงๆ ครับ ^^