วันเวลาดีๆมักจะมาเร็วไปเร็ว…เคลมเร็ว ..(ไม่เกี่ยว)
เข้าสู่วันที่ 2 กับรีสอร์ทระดับจักรวาลอย่าง Sripanwa Phuket กันครับ
ผมอยากใช้คำนี้จริงๆครับ เพราะคืนแรกตอนออกมาแบกขาตั้งกล้อง เดินเพ่นพ่านไปมา เก็บภาพกลางคืนดาวเต็มฟ้า สวยมากกกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลดาว
ทริบภูเก็ตหนนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่ใช้เวลาวิ่งเล่นอยู่รอบเมือง มากกว่าในรีสอร์ท อย่างว่าครับ ของเค้าดีจริงๆก็อยากจะมีเวลาได้เชยชมกันหน่อย
ใครที่อยากหาที่เที่ยวที่กินรอบเมืองภูเก็ตลองอ่าน รีวิวทริบทะเลอันดามันกันได้กับตอน ภูเก็ต…เมืองเก่าเล่าเรื่อง ครับ
สำหรับ Entry นี้จะพาชมอีกหนึ่งห้องพักใน Type one bedroom pool villas ที่มีโอกาสได้เข้าพักแบบไม่ได้ตั้งใจแต่เต็มใจมากๆเลยครับ (^___^ )
เช่นเคยครับชมภาพทั้งหมดแบบละเอียดสุดๆได้ใน Gallery ที่นี้ครับ
http://blog.one22.com/pics/relax/south/gallery_sripanwa_phuket
มาชมกันต่อกับที่พักระดับ World Class ของไทย Sripanwa Phuket ครับ
พระอาทิตย์ที่รอคอย
หลังเข้าพักและนั่งปั่นงานจนเสร็จในห้องพัก type Pool Suite เราก็ออกเที่ยวรอบๆแหลมพันวาและในละแวกใกล้ๆโดยมีเป้าหมายจะกลับมาเก็บภาพอาทิตย์ยามค่ำให้ได้
สำหรับคนรักดวงตะวันเพราะนอกจากที่แหลมพรหมเทพอันโ่ด่งดังแล้ว
ผมว่าที่แหลมพันวาเองก็มีดีในตัวไม่แพ้ที่ไหนเช่นกัน ขอให้มีขาตั้งดีๆบวกโชคอีกซักหน่อยมายืนเต๊ะรอแถวๆปลายแหลมนี้ได้เลย
การเก็บภาพยามอาทิตย์ขึ้นและตกที่ภูเก็ตไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ
สำหรับคนขยันน้อยๆ การตื่นนอนเช้าๆมาเก็บภาพ กับการรอพระอาทิตย์ตกดิน อันหลังดูจะรอง่ายกว่าแน่ๆใช่ไหมครับ
ทั้ง 2 วันผมจึงไม่พลาดจะมาตรงที่คิดว่าวิวน่าจะดีที่สุดสำหรับการรอชมพระอาทิตย์ตกดิน…
ใน Sripanwa มีจุดชมวิวทั้งยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกสวยๆเพียบ และ จุดหนึ่งที่เหมาะกับการถ่ายภาพยามเย็นก็ต้อง ที่นี้ “Baba Dining”
ที่ห้องอาหาร Baba Dining แบ่งออกเป็นชั้นๆ ไล่จากบนลงล่างเข้ามาเราจะอยู่ชั้นบนสุดและชั้นรองลงไปเป็นส่วนสันทนาการและห้องรับรอง,ห้องประชุม,ห้องสมุดฯลฯ
ผมชอบมากวิวที่จุดนี้มาก คุณๆสามารถ ออกมานอนชมวิวเห็นพระอาทิตย์ตกได้จากตรงนี้กันเลย แค่คิดถึงก็อยากกลับไปนอนงีบอีกซักรอบแล้ว
แถมรอบๆห้องยังมีที่นั่งๆนอนได้แทบทุกจุด เพราะมีทั้ง daybed sofa จัดวางรับแขกกันได้ถ้วนทั่วกัน
ตลอดเวลา 2 วันช่วงๆเย็นๆผมจึงมาใช้เวลาอยู่ที่นี้เพื่อเก็บภาพสวยๆ และฝึกฝีมือในการถ่ายภาพ
ยอมรับจริงๆ นอกจากทิวทัศน์แสนงามตรงหน้า การถ่ายภาพสถาปัตยกรรมของที่นี้ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดีทีเดียว
ต้องยอมรับในความพิถีพิถันในการตกแต่งของที่นี้ครับ
คืนสุดท้ายกับ Type 1 bedroom Pool Villas ที่รอคอย
มาถึงการเข้าพักในวันที่สองบ้างอย่างที่เกริ่นไปในตอนแรกว่ามีความโชคดีบนโชคร้ายของผมในการเข้าพักที่นี้ เนื่องจากช่วงที่เราเข้าพักเป็นช่วง Holiday พอดีครับ
จึงทำให้ที่พักทั้งหมดของรีสอร์ทเต็มโดยเฉพาัะ Type Pool Suite ที่เราได้รางวัลมาพักฟรีๆแบบนี้ (ใครสงสัยที่มา ลองดูที่ตอนแรกครับ ) ส่วนห้องพักแบบ อื่นๆเช่น One Bed,Two Bed,หรือ Luxury คิิดว่าคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสแน่ๆ
จนกระทั่งราวๆ เกือบ 2 ทุ่มเศษในคืนสุดท้ายก่อนลา ไม่นานแอร์ก็ดับไปเสียดื้อๆ จริงๆแอร ์ของห้องนี้มีการดับไปครั้งนึงแล้วในวันแรกแต่พอเราออกไปโดยแจ้งทาง น้อง butler ที่ดูแลเราไว้เจ้าหน้าที่ก็ส่งช่างมาทำให้จนเสร็จและผ่านไปได้
แต่คืนวันที่สองก็ดันเป็นอีก ผมจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง โดยที่ไม่ได้คิดอะไรครับ ซักพัก มีเจ้าหน้าที่มากดอ็อดประตูหน้าห้องเรา หลังเปิดประตูก็ต้องแปลกใจที่ได้พบกันผู้จัดการ (เข้าใจว่าใช่นะครับ) กับน้อง Butler มาหาเราถึงห้องโดยแจ้งความประสงค์ให้เราย้ายห้องพักและกล่าวขอโทษเราอย่างสุภาพหลายๆครั้ง จนเราเกรงใจที่เกิดความผิดพลาดขึ้นกับเราโดยจะัรับผิดชอบกึ่งๆบังคับทำการ upgrade ห้องพักให้เราเข้าพักเป็น One Bedroom Pool Villa แทน (ฮิ้วววว)
ตอนนั้นผมเองก็อึ้งๆไปเหมือนกันครับหันไปมองหน้าคนข้างๆเหมือนรู้ใจกัน เจตนาผมเองถ้าแค่ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจให้ หรือย้ายห้องเราไปอยู่ใน type เดียวกันผมก็แฮ้บปี้แล้วล่ะแต่นี้ได้ upgrade ด้วย ไม่ต้องถามกันแ้ล้วล่ะครับว่าจะย้ายไหม
นี่ละครับคือที่มาที่ผมบอกไว้ว่าเป็นความโชคดีบนโชคร้ายของผม จริงๆผมอยากให้โชคร้ายแบบนี้ตั้งแต่วันแรกจริงๆเลยครับ หุหุ ( ^ 0 ^ )
ใช่เลย!!!
นี้ล่ะภาพที่ผมเห็นใน poster Brochure เวลาไปเดินงานท่องเที่ยวทั้งหลาย มันสุดยอดจริงๆ!!!
“เชิญคะ”
น้อง butler คนใหม่เดินนำเราทั้งคู่เข้าห้อง One Bedroom Pool villa no.4 ผมได้เข้าพักก็เกือบ 3 ทุ่มพอดี เปิดประตูเข้าไป ohh ต้องถึงกับหนาวกันเลย!!!
ก็ …. ……. …น้องเค้าเปิดแอร์รอไว้ซะเย็นมากไม่หนาวได้ไงจริงไหมครับ ^ 0 ^
ภาพห้องพักติดสระขนาดใหญ่มากๆ ครับพร้อมทิวทัศน์ทะเลงามๆท่ามกลางดวงดาวตรงหน้าได้แต่บอกกับตัวเองว่า ช่ายยย…..เลยยยยย
หลังจากรับกุญแจจากน้อง Butler ผมไม่พลาดจะสำรวจรอบๆห้องห้อง Type นี้
พื้นที่กว้างถึง 230 ตารางเมตรเป็นอาคารชั้นเดียว มีการวางแปลนห้องไว้อย่างดี แบ่งสัดส่วนตามการใช้งานได้ดีครับเช่น
ส่วนหน้าที่เป็นสระว่ายน้ำล้อมรอบตัวบ้าน เปิดประตูคุณจะพบกับห้องรับแขกที่มี Daybed ขนาดใหญ่มากๆเรียกว่าเป็นเตียงนอนได้เลย
ดูกันด้านหน้าตรงใหญ่ดีจริงๆครับ
ด้วยขนาดที่กว้างขวางมาก เรียกว่าอยู่มุมไหนของห้องก็สามารถลงเล่นน้ำได้ตลอดเวลากันเลย
ชมภายในกันต่อครับ ผมชอบในความใส่ใจในการตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมาให้ครบครันจริงๆ ครับ อย่างอ่างล้างหน้าก็มีมาให้ 2 อ่างแยกฝั่งกัน
มีประตูกั้นชั้นนอกและชั้นในไว้ด้วยถ้าเปิดประตูหมดคุณๆสามารถมองจากหน้าห้องทะลุไปจนถึงด้านหลังได้เลย
อุปกรณ์ตรงอ่างล้างหน้า มีเครื่องใช้ส่วนตัวไว้ให้ทั้งแปรงสีฟันของ one morning (ชอบขอบแบรนด์นี้ครับ ใช้อยู่พอดี)มีเตรียมไว้ให้หมดนะครับ
เพราะเราใช้แล้วก็คงไม่มีใครมา้ต่อจากเราแน่ๆ(^0^) เก็บกลับบ้านได้หมดครับ
เครื่องใช้และของทานในตู้เย็นฟรีหมดเช่นกัน เว้นตรงแชมเปญนะครับ ที่เห็นวางอยู่ตรงด้านล่างประตูตู้เย็นอันนี้เสียตังจ้า
ส่วนของกินและเครื่องดื่มอื่นๆ หมดวันก็มีมาเติมให้เต็มตลอดการเข้าพักครับ
มาดูหัวใจสำคัญของห้องนี้กัน นั้นคือห้องนอน เตียง master Bed เช่นเดียวกันกับห้อง Pool Suite
มีโคมไฟไว้ให้หัวเตียง2 ด้าน และมีโต๊ะยาวๆให้นั่งทำงานได้เช่นเดียวกับห้อง pool Suite เช่นเดียวกัน นี่ถ้าได้พักตั้งแต่คืนแรก
คาดว่าคงจะทำให้งานของผมเสร็จช้าลงไปมากแน่ๆ เพราะไม่อยากลุกไปไหนกันเลยครับ เวอร์จริงๆผม
ผมถ่ายภาพได้อีกพักใหญ่ก็ต้องนอนครับกลัวไมไ่ด้ตื่นเช้าๆชมวิวแต่เช้า
และเวลาอีกช่วงที่รอคอยก็มาถึง ตื่นประมาณตี 5 เพื่อขอเก็บภาพยามเช้ากันหน่อยสิ่งทีไ่ด้ก็คุ้มค่าเหลือหลายจริงๆ …
…..มุมนี้จากโต๊ะทำงานตรงหัวเตียง
อย่างที่บอก…นับเป็นโต๊ะทำงานที่วิืวงามสุดๆไปเลย
วิวยามเช้าในเวลาใกล้รุ่งสีและแสงสวยมากๆครับ …ดูจากภาพคงไม่ต้องบรรยายใดๆ
ผมเดินคว้ากล้องและขาตั้งฯไปรอบๆห้องพัก ต้องบอกว่าเค้าจัดไว้ดีจริงๆครับ
ทั้งความพิถีพิถันในการตกแต่งและ เลือกวัสดุต่างๆ มุมนี้ผมยังเห็นพระจันทร์ลอยเด่นสะท้อนกับผิวสระน้ำอยู่เลย
และตรงห้องนั่งเล่นวิวเช้าๆชิวได้อีกครับ
อีกมุมที่หันออกด้านหน้ามองเห็นศาลาน่านั่งเช้าๆแบบนี้เงียบและสงบมากๆ
และด้านนอกถ้าสระว่ายน้ำยังไม่สะใจมีอ่างจากุชชี่ ให้นอนแช่ดูดาวได้อีก แต่ดูจากสภาพอ่างแล้วผมว่าคงไม่มีคนใช้มาพักใหญ่แล้วครับดูเก่าไปนิดนึง
และวิวสระน้ำในเวลาแดดดีๆ
ก่อนลาพาทุกๆท่านไปชมและชิมอาหารเช้าที่นี้กันต่อครับ
หิวๆต้องขอเชิญกันที่ Baba Dinning ครับทั่นๆ
กลับมาที่ห้องอาหาร Baba Dinning อีกครั้งครับ ที่นี้ตอนเช้าเป็นที่รองรับแขกทานอาหารเช้ากัน ซึ่งอยู่ชั้นล่างสุดของตึก สำหรับคนแก่เค้ามีลิฟท์ไว้บริการด้วย
มีโซนริมนอกให้นั่งชมวิวไปทานไป
มาดูline อาหารบ้าง สำหรับเครื่องดื่มจะมีรองรับไว้บริการตั้งแต่เช้าครับ อาหารมีหลากหลายมาก
จากเมนูทั้งหมดเราสามารถสั่งเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าคุณๆทานกันไหว มีอาหารหลายๆชาติให้ลิ้มลองกัน ไทย จีน อิตาลี อเมริกัน ฯลฯ
และก็จะมีอาหารพื้นเมืองหรือจากร้านดังๆในภูเก็ตให้สั่งได้ด้วยแต่ก็จะต้องรอให้ร้านอาหารเปิดก่อนจึงจะนำมาเสริฟให้แขกได้
เริ่มกันที่อเมริกัน Breakfast ที่อลังการงานสร้าง ไม่ธรรมดาครับ
ของคนข้างกายเค้าสั่งอีกแบบแต่ก็น่าทานมากๆครับ
สั่งเมนูเบสิกอย่างผัดซีอิ้วยังหน้าตาขนาดนี้เลยที่สำคัญอร่อยมากๆเลย
และข้าวต้มกุ้งรสชาติดีเหลือหลาย
ตามมาดูขนมปังต่างๆบ้าง ครัวซองค์หน้าตาดี+รสชาติดีมากๆครับ
ยิ่งทากับแยมมะพร้าว สินค้าโอท็อบจากท้องถิ่นละแวกใกล้เคียง มันอร่อยมากๆครับผมติดใจจนขอดูขวดแยม ตั้งใจจะกลับมาหาซื้อทานให้ได้
ยังครับยังไม่หมด ตามด้วยขนมทานเล่นอย่างแพนเ้ค้ก กับโกโก้หอมๆดื่มคู่กัน ก็น่าหม่ำสุดๆ ขอบอกสองวันที่พักผมน้ำหนักเพิ่มอีกหลายโลกันเลย เอิ๊กก!
ปิดท้ายกันจริงๆแล้วด้วยผลไม้ไทยๆเราจัดวางไว้สวยงามน่าหยิบทาน
มาสปากันมั้ย
ผมขอพาคุณๆออกจากเมนูอาหารก่อนที่หลายๆท่านจะจุกกันซะก่อน
เรามาชมรอบๆรีสอร์ทกันต่อที่ Cool Spa ครับ ที่นี้เป็น spa ที่ตกแต่งไว้สวยงามและเลือกใช้โทนสีฟ้าอมเทาต่างจากจุดอื่นๆ
อย่างที่เห็นที่นี้เป็นอีกจุดชมวิวที่สวยไม่แพ้จุดๆอื่นๆของรีสอร์ทเลยทีเดียว
ส่วนที่นั่งพักรับรองภายในตกแต่งไว้สวยมากครับ
มาดูข้างในห้องทำสปากันบ้างตกแต่งๆได้สวยไม่แพ้ห้องพักครับ
เดินดูรอบๆกันหน่อย
ภายในตกแต่งโทนสีดูเย็นตาสมชื่อ Cool Spa
เสียดายไม่ได้มีโอกาสได้ลองทำสปาที่นี้ครับเพราะpackage ไม่รวมไว้นั้นเอง หยิบโบว์ชัวร์มาดูราคา ก็ได้แต่ดูจริงๆครับ หุหุ
ก่อนลากันไปจะอยู่ในใจกันเสมอ…
จบแล้วครับสำหรับรีวิวชุด Sripanwa Phuket หวังว่าน่าจะได้เห็นภาพของ รีสอร์ทในฝันของใครหลายๆคนบ้างไม่มากก็น้อย…
ผมเองตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืนที่มีโอกาสได้ใช้เวลาสั้นๆอยู่ที่นี้
ได้พบกับความประทับใจในหลายๆส่วนสมดั่งคำร่ำลือ ทั้งในด้านการบริการ และการดูแลเอาใจใส่ของพนักงานในแต่ละส่วน
แม้ช่วงที่เข้าพักจะมีแขกเต็มเกือบทุกห้อง (ใน Type Pool Suite) เพราะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ก็ยังได้รับการดูแลใส่ใจเป็นอย่างดีครับ
สมกับห้องพักระดับ 6 ดาวที่ไปกวาดรางวัลระดับโลกมาหลายรางวัล
ผมคงจะไม่มีโอกาสมาสัมผัสได้เองแน่ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะได้รับโอกาสพิเศษๆอย่างหนนี้
จะมีอุปสรรค์เกิดขึ้นบ้างกับห้องพักแต่การแก้ปัญหาของรีสอร์ท ก็ทำด้วยความรวดเร็ว และมืออาชีพมาก
ทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าพักใน Type ที่ดีขึ้นอย่าง One Bed Room Pool Villas
แม้จะเป็นห้องพักโซนแรกๆของ Type นี้ที่เปิดมานานแล้ว นับตั้งแต่มี Sripanwa ขึ้นมา ทางรีสอร์ทก็ยังดูแลสภาพต่างๆให้พร้อมใช้งานได้อย่างดี
สำหรับห้องพัก One Bed room Pool Villas No. 4 ที่ผมได้เข้าพักดูจะค่อนข้างดีทุกอย่าง
คงมีแค่ตรงอ่างน้ำจากุชชีด้านนอกห้อง ที่ค่อนข้างจะดูเก่า และไม่น่าลงแช่เท่าไหร่ครับ
ถ้ามีการ Renovate ห้องนี้ใหม่เมื่อไหร่ทาง รีสอร์ทก็คงจะดูแลส่วนนี้ได้เช่นกัน
การมาเยือน ศรีพันวาครั้งนี้ นับเป็นโอกาสพิเศษส่งท้ายกับการพาสมาชิกใหม่ของครอบครัวเราได้มาเที่ยวพร้อมๆกัน
เพราะหลังจากทริบนี้เราทั้งครอบครัวก็ต้องเก็บตัว และเตรียมความพร้อมต้อนรับ สมาชิกใหม่ที่จะลืมตาออกมา เจอหน้ากันแล้วครับ
นับเป็นความมหัศจรรย์ของชีวิตเราทั้งคู่มากๆครับ จากนี้ไปการเดินทางท่องเที่ยวของเราคงเปลี่ยนไป และแตกต่างจากที่เคยๆมาแน่นอน
สมาชิกใหม่ตัวน้อยๆ คงจะสร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยวของเราให้เปลี่ยนไปมากแน่ๆทีเดียว
————————————————————————————————-
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีอย่าง ททท.ที่สนับสนุนของรางวัลเป็นที่พัก 3 วัน 2 คืนจาก การประกวดกินเที่ยวทั่วไทยสไตล์บล็อกเกอร์ , รีสอร์ท Sripanwa Phuket ที่ทำให้ผมมีวันดีๆกับคนรู้ใจที่ไปไหนไปกันเสมอมา
ขอบคุณสำหรับ น้อง butler ทั้ง 2 คน ที่มาดูแลกันทุกครั้งที่ต้องการความช่วยเหลือ ผู้จัดการที่ผมไม่ทันได้สอบถามชื่อในวันที่ห้องพักมีปัญหาและเข้ามาดูแลด้วยตัวเองอย่างดี
เรื่องราวยังไม่จบ ยังมีที่พักและการท่องเที่ยวเมืองภูเก็ตมาฝากกันอีก เพราะนอกจาก Sripanwa แล้ว ผมยังมีโอกาสไดักลับไปเยือนที่พักอีกแห่ง ที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน
แต่แตกต่างกันในอีกสไตล์อย่างชัดเจน ตอนหน้าจะพาไปชมกันครับ ตอนนี้คงต้องลากันตรงนี้จนกว่าเราจะพบกัน