ช่วงตลอดสัปดาห์วันแม่ที่ผ่านมามีโอกาสดูหนังไป 3 เรื่อง คือ Larry Crowne, Bad Teacher,และตำนานสมเด็จพระนเรศวร์มหาราชภาค 4 ฯ เรียกว่าดูจนหายอยากกันเลยทีเดียว
แต่ที่อยากเล่าให้ฟังมาจากหนัง 2 เรื่องแรกแม้แนวหนังจะดูคล้ายๆกันเป็น Comedy ที่เจาะจงเล่าเรื่องในแวดวงอาชีพ” ครู “ของนางเอกทั้ง 2 เรื่อง แต่บุคคลิกของภาพยนต์ก็ดูจะแตกต่างกัน หนังน่าดูทั้งสองเรื่อง และมีดาราระดับแม่เหล็กทั้งคู่ด้วยเป็นไง มาลองดูกัน ใครที่ยังไม่ได้ดูเนื้อหาจะเปิดเผลข้อมูลบางส่วนนะครับ
Larry Crowne รักกันไว้ หัวใจบานฉ่ำ
แลร์รี่ คราวด์ (ทอม แฮงค์ส) ชายที่เข้าสู่ วัยกลางคนที่กำลังไปได้ดีกับอาชีพการงาน เป็นพนักงานขายที่ได้รางวัลพนักงานดีเด่นติดๆกันถึง 8 ครั้ง ในห้าง Super store ยักษ์ใหญ่ แต่จู่ๆเหมือนฟ้าผ่าใส่ แลร์รี่ เค้าถูกปลดกลางอากาศโดยที่สาเหตุมีเพียงเค้าไม่จบปริญญาตรีเพราะสมัครเข้าไปเป็นทหารทำให้ไม่ได้เรียนวิทยาลัยจนจบและนั้นส่งผลให้การพิจารณาจ้างเค้าต่อจึงกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอีกต่อไป (ถ้าเป็นเรื่องจริงผมว่ามันเป็นเหตุผลที่รับได้ยากมากๆ)
ระหว่างที่กำลังหางาน และซึมเศร้าไปกับชีวิตที่กำลังเข้าขั้นวิกฤติของตัวเอง กลับได้คำแนะนำของเพื่อนบ้านเรื่องการกลับไปเริ่มต้นเรียนอย่างจริงจังอีกครั้ง ทำให้เขาตัดสินใจกลับไปเรียนในวิทยาลัยชุมชนอีกครั้ง และได้พบเพื่อนใหม่ คราวลูกหลายคนที่ช่วยเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ และใช้ชีวิตในรั้ววิทยาลัยที่เค้าไม่เคยได้รู้มาก่อน จากคำชักชวนของ อธิการบดีที่่เจอกันโดยบังเอิญ ระหว่างหาวิชาลงเรียน ทำให้ larry ตัดสินใจเลือกเรียนวิชาการพูดในที่สาธารณะ เพราะหลงคำชักชวนที่พูดถึงอาจารย์ผู้สอนคือ
เมอร์เซเดส (จูเลีย โรเบิร์ตส์) ที่ ดูจะหมดอาลัยตายอยากกับการสอน และชีวิตแต่งงานของตัวเองอยู่พอดี เพราะสามีไม่ทำมาหากินแถมยังติดหนังโป๊บนอินเตอร์เน็ตให้เธอเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของสามีจนรับไม่ได้ แต่สุดท้ายการได้พบ Larry ในคลาสของเธอก็นำพาชีวิตให้ค้นพบเป้าหมายของการเป็นครูอีกครั้ง
เนื้อหาจากนี้ก็เป็นอะไรที่คุณๆอาจจะเดาได้ไม่ยากในเรื่องราวการค้นหาความหมายของการใช้ชีวิต และดั่งคำที่โบราณว่าไว้ ไม่มีใครแก่เกินเรียนขอให้คุณๆพร้อมเสมอกับโอกาสที่เข้ามา รวมถึงการก่อตัวของความรักระหว่างครูและนักเรียนโข่งอย่างเค้าจะลงเอยยังไง ต้องไปดูกันเอง เล่าหมดก็หายอยากกันพอดีจริงไหมครับ
หลังจากห่างหายการกำกับภาพยนต์ไปร่วมสิบปี จาก That Think You Do (1996 ) หนังเพลงเก๋าๆ ใสๆ ที่ใครดูก็เดินยิ้มจากโรงหนังกันทั้งนั้น
น้าแฮงค์กลับมาอีกครั้งโดยจับมือผู้เขียนบท ที่ เราหลายคนคงคุ้นเคยชื่อเสียงของ เธอมากกว่างานด้านหลัง อย่างการเขียนบทกับ นีอา วาดาลอส นางเอกหนังตลกอารมณ์ดีจาก My Big Fat Greek Wedding โดยก็ยังคง Concept หนังที่เต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดีสุดๆ สะท้ิอนมุมมอง และทัศนคติต่อโลกของ แฮงค์ในแบบที่เราคุ้นเคยกันดี จากบทบาทของตัวละครที่เค้าเคยรับบทมาตลอด โลกของเค้ามักเป็นโลกที่เต็มไปด้วยคนนิสัยดี สังคมน่าอยู่ จะมีคนแปลกๆ บ้างแต่ก็ไม่ใช่คนเลว หรือ คนที่ไม่มีเหตุผลให้ไม่น่าคบหาแต่อย่างใด ไม่มีเสียงปืนหรือคนตาย(แบบตั้งใจหรือฆาตรกรรม) ในหนัง และ ใน Larry Crowne ก็เป็นเช่นนั้น
ตลอดการชมหนังเรื่องนี้ผมได้แง่คิดดีๆ จากพฤกติกรรมที่หลากหลายของตัวละคร ทั้งนักเรียนที่มาจากความแตกต่างกันของเชื้อชาติ ต่างกันด้วยวัย ไม่ว่าจะเป็น ตัว Larry ที่ต้องปรับตัวปรับใจให้เข้ากับสังคมใหม่ในการศึกษา รวมถึงการเข้าร่วมก๋วน Scooter ด้วยความบังเอิญของที่เข้าใจว่าเค้าเป็นพวกชอบรถเหมือนๆกัน ทั้งๆทีความจริงเป็นเพียงแค่เค้าอยากได้รถที่ช่วยประหยัดน้ำมันให้เค้าซักคันก็เท่านั้น
ตัวละครศาสตราจารย์ของ จูเลีย โรเบิรต์เองหลังจากไมไ่ด้เห็นเธอเล่นหนังรักตลกเบาๆมานาน การมาเจอกันในเรื่องนี้ของทั้งคู่น่าจะไปกันได้ดีแต่ผมกับรู้สึกถึงความไม่ไหลรื่นเท่าไร จะว่ารู้สึกไปเองก็อาจจะได้ครับ รู้สึกเคมีไม่ต้องกันเท่าที่ควร ทั้งๆที่หนังแนวๆนี้เธอและเค้าคือตัวพ่อตัวแม่กันทั้งคู่ เธอรับบทศาสตราจารย์ของ Larry สะท้อนมุมมองของครูที่หมดไฟและแสนจะเบื่อหน่ายได้ดี ดูไปหมั่นไส้ไปตลอดเรื่อง และแน่นอนกว่าค่อนเรื่องเราถึงจะได้เห็นรอยยิ้มบานช่ำเอกลักษณ์ประจำตัวเธอ ก็เกือบท้ายๆแล้ว นี้อาจจะเป็นสาเหตุนึงก็ได้ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ทำเงินเปรี้ยงปร้างเท่าที่ควรทั้งๆที่มีดาราระดับแม่เหล็กมาเป็นจุดขาย ตลอดที่ดูหนังผมลองสมมุติเล่นๆว่าถ้าเรื่องนี้ให้ นีอา วาดาลอส เธอมาเล่นกับทอมแฮงค์ จะเป็นยังไง น่าจะตลกกว่านี้แน่ๆ
บทบาทที่เหลือผมชอบความสดใสน่ารักของ Gugu Mbatha-Raw ในบทเพื่อนต่างวัยที่ช่วยเปิดโลกให้ Larry ได้เข้าใจการใช้ชีวิตในวิทยาลัย เธอทำให้แฮงค์ดูเป็นคุณน้าใจดีเมื่อเวลาเข้าฉากและเป็นธรรมชาติมากๆ แต่แอบขัดใจกับช่วงที่เธอตัดสินใจบางอย่างที่น่าจะเป็นจุดหักเหของชีวิต โดยที่ Larry ไม่ได้ห้ามหรือเตือน ทั้งๆที่เป็นต้นเหตุให้ชีวิตของเค้า ต้องเป็นอย่างเช่นที่เป็น ขอไม่เล่ามากกว่านี้เดี๋ยวคุณๆ เกลียดผมเอา เธอดูเด่นมากๆครับ เข้าฉากกับแฮงค์ได้ทัดเทียมกัน เชื่อสิไม่นานเราคงได้ดูหนังของเธออีกแน่ๆ
Larry Crowne คือหนังรักตลกแฝงมุมมองการมองโลกและการเลือกที่จะเชื่อและใช้ชีวิต มีแง่มุมดีๆเสมอแม้จะอยู่ในยามที่คุณอาจจะทุกข์ใจที่สุด บางทีเรื่องร้ายๆเพียงแค่เราตั้งสติและทบทวน พยายามบอกตัวเองว่ทุกสิ่งไม่ได้แย่ขนาดนั้นถ้าเรารู้จักมองมุมที่แตกต่างออกไปบ้างก็คงช่วยให้ความทุกข์ใจผ่านไปได้โดยง่ายครับ ปัญาอาจจะเป็นเพียงเส้นผมบังตาเอามือปัดออกก็จะได้พบโอกาสเสมอ
—————————————————————————————————–
มาถึงหนังอีกเรื่องที่เล่าเรื่องครูได้เเสบ และเด็ดทีเดียวกับ Bad Teacher ‘จารย์แสบแอบเอ๊กซ์
หนังหวังกลับมาของ คาเมรอน ดิแอซ ที่หนนี้เธอก็ทำสำเร็จซะด้วย รับบทเป็นครูสาว อลิซาเบธ ฮัลซีย์ ที่พยายามจับใครซักคนที่รวยพอจะมีเงินให้เธอใช้ไปทั้งชาติ โดยไม่ต้องทำงานอะไรอีก แต่แล้วหลังจากถูกจับได้จากคู่หมั้นหนุ่มว่า การแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นไปเพื่อหวังจะเอาเงิน สุดท้ายเธอจึงถูกทิ้ง และต้องกลับมาเป็นครูอีกครั้ง โดยที่ยังมีเป้าหมายจับผู้ชายรวยๆซักคนให้ได้และคนๆนั้นเป็นครูหนุ่มมาใหม่ที่ตรงสเป็คทุกอย่างรับบทโดย จัสติน ทิมเบอร์เลค แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นดังนั้นง่ายๆเมื่อเธอยังต้องมาเจอกับคู่แข่งที่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันที่เริ่มต้นก็ไม่กินเส้นกันแล้ว แถมยังมีพฤติกรรมเพี้ยนชวนสงสัย เอมี่ ( ลูซี่ พันช์) และถ้ายังไม่ยุ่งพอ ยังโดนครูสอนพละ รัสเซล (เจสัน ซีเกล) คอยตามจีบเธออย่างไ่ม่ลดละอีกด้วยเช่นกัน เรื่องราวต่างๆจึงเริ่มจะวุ่นวายไปกันใหญ่ปั่นป่วนไปกับพฤติกรรมการหลอกล่อ ของเธอเพื่อไปสู่เป้าหมายการแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อให้จับผู้ชายให้ได้
ตลอดทั้งเรื่องจึงเป็นการติดตามดูพฤติกรรมครูที่ดูไม่น่าจะเป็นครูของเธอ การรับบทบาทของ คาเมรอน เล่นได้มันและแสบสันต์ การใช้เสน่ห์หลอกล่อคนเพื่อไปยังเป้าหมายที่เธอต้องการ มันได้ใจมาก บทเอื้อให้เธอปล่อยมุขได้เต็มที่ ระหว่างที่ดูผมเองสงสัยอยู่บ้างว่า พฤติกรรมแบบนี้ มาเป็นครูได้ไง แต่ด้วยมุขตลก หลุดโลกสอดรับกับพฤติกรรมไม่ธรรมดาของเธอก็พาเราฮาไปกับมุขของหนังได้ จนจบ ดาราประกอบทุกคนทำหน้าที่ได้ดีไม่มีใครแย่งความเด่นไปจากเธอไำด้เลยในทุกๆฉาก แม้แต่ตัวจัสติน เองการแสดงก็ธรรมดาๆไม่ได้โดดเด่นและน่าจดจำเท่าตอนเล่น The Social Network แต่ก็มีอยู่ฉากนึงที่เค้าร้องเพลง ในพับ ที่เหมือนจงใจล้อเลียนความเป็นนักร้องของตัวเองได้ฮาดีครับ
อีกคนที่เฉลี่ยบทกันไปอย่าง เจสัน ซีเกล บทครูพละ คนธรรมดาเรียบๆไม่น่าสนใจการแสดงก็เลยตามบทไปครับกลืนและถูกกลบรัศมีจาก คาเมรอนไปซะหมด
สรุปง่ายๆหนังเรืื่องนี้คือ คาเมรอน โชว์นั้นเองบทเด่นและ สีสันฉูดฉาดที่สำคัญทำเงินในระดับที่สามารถเป็นเฟรนด์ไชน์ได้อีกเรื่อง ถ้าจะทำกันจริงๆ
Link Official Site http://www.areyouabadteacher.com/
ผมดูทั้งสองเรื่องในเวลาไล่ๆกัน เรื่องแรกเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกแสนดีของ ทอมแฮงค์ เรื่องหลังดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นแต่ด้วยบททีเล่นทีจริง ก็ทำให้หนังดูเป็นหนังตลกเสียดสีอาชีพครูได้มันมากๆ ทั้งสองเรื่องต่างบุคคลิก แต่อาชีพของตัวละครหลักในเรื่องก็เป็นอาชีพครูเหมือนกัน สะท้อนภาพหน้าทีแม่พิมพ์ของชาติในอเมริกาในมุมติดลบคล้ายๆกัน ผิดแต่ว่าใครจะเล่นแรงกว่าซึ่ง Bad Teacher เล่นได้แรงสมชื่อจริงๆ
ผมดูเรื่อง Larry Crowne อย่างมีความสุขออกจากโรงฯแม้ตัวบทจะดูกั๊กๆซักนิด แต่ก็มีความสุข และรู้สึกดีกับสาสน์ที่ทอม แฮงค์ พยายามสื่อออกมา
ส่วนเรื่องหลัง Bad Teacher แง่คิดการไม่ยอมให้อะไรมาเป็นตัวกำหนดนอกจากเราเป็นคนกำหนดเอง ความมุ่งมั่นของเธอสื่อถึงชัดแม้จะด้วยเหตุผลที่ดูแปลกๆก็ตาม สุดท้ายด้วยพื้นเพความรับผิดชอบ หนังก็ให้แง่คิดดีๆกลับมาอยู่ดีไม่ต้องเสียดายค่าตั๋วหนังครับถ้าคุณๆคิดจะ ตีตั๋วเข้าไปชมหนังทั้ง 2 เรื่องมีดีมากพอทั้งคู่ ให้เสียตังครับ