วันนี้ up รีวิวแบบทันท่วงทีมาก ถ้าใครยังไม่ได้ดูและตั้งใจจะไปชมขอให้บอกผ่านรีวิวนี้ก่อนนะครับ เพราะนอกจากจะเปิดเผยข้อมูลบางส่วนแล้วอาจจะพาลไม่อยากไปชมกันได้
เอา! เราเตือนคุณแล้วนะจะหาว่าไม่บอก
The Final Destination ซี่รีย์เขย่าขวัญ โกงความตายที่ดำเ้นินมาถึงภาค 5 แล้ว สำหรับแฟนๆซี่รีย์นี้ คงไม่พลาด ที่จะเข้าไปชมแน่นอน และก็ค่อนข้างมั่นใจ ว่าน่าจะตอบรับความพึงพอใจของแฟนๆ ได้ระดับนึง
ทำไมเป็นแบบนั้น ลองดูพล็อตเรื่องภาคนี้กัน
ถ้าคิดว่า ความตาย โกงได้? ก็ลองดู!
ตัวอย่างแรก พร้อมซับไทย
ตัวอย่างล่าสุด พร้อมซับไทย
Final Destination 5 ความตายยังอยู่ในทุกหนทุกแห่งเช่นเดิม โดยครั้งแรกความตายเข้าคุกคามในสภาพที่เหมือนจริง ต่อกลุ่มผู้ร่วมงานที่ headed for a corporate retreat ระหว่างการเดินทางด้วยรสบัส แซม (นิโคลาส ดี’อกอสโต้) ได้เกิดภาพนิมิตว่าเขาและเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่รวมถึงคนอื่น ๆ จบชีวิตลงตรงสะพานพังทลายลง เมื่อภาพนิมิตของเขาหายไป เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มสะท้อนถึงสิ่งที่เขาเห็นมา เขาจึงนำทางเพื่อนร่วมงานจำนวนมาก รวมถึงเพื่อนของเขา ปีเตอร์ (ไมเลส ฟิสเชอร์) และแฟนสาว มอลลี่ (เอ็มม่า เบล) ออกจากหายนะไปอย่างลนลาน ก่อนที่ความตายจะล่าพวกเขาได้
แต่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์เหล่านี้ไม่เคยนึกถึงเรื่องการรอดชีวิตมาได้ และในการแข่งกับเวลาที่น่ากลัว กลุ่มผู้เคราะห์ร้ายนี้ก็พยายามหาทางหลีกหนีหมายกำหนดตาย
มากันถึงตอนที่ 5 แล้วของหนังสยองขวัญแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องนี้
จุดขายและบุคคลิกของภาพยนต์ชุดนี้ ยังคงเหมือนเดิมเช่นที่ผ่านมาๆ ผมลองวิเคราะห์เล่นๆถึงเสน่ห์ ที่ยึดเป็นสูตรสำเร็จไปแล้วก็ได้ประมาณนี้ครับ
- เริ่มต้นที่จะทำยังให้กลุ่มคนกลุ่มนึงรอดชีวิตจากอุบัติเหตุที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากนิมิตของตัวละครเอก และคาดไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นได้(ทุกภาคสำเร็จหมด) มาหนึ่งเหตุการณ์
- โดยที่ตัวเอกที่เริ่มต้นก็เหมือนจะไม่ทราบที่มาว่ารอดเพราะอะไร (เช่นเดียวกับภาค 1,3,4,5)
- ตัวละครเอกกว่าจะรู้ว่าเป็นที่ความตายมาทวงชีวิตคืน ก็ต้องมีคนสังเวยไปแล้วอย่างน้อย 1ถึง 2 คน (ทุกภาค)
- สร้างสาเหตุและสถานการกว่าจะตาย ที่แหวกและแตกต่างให้มากที่สุด เพื่อทำให้คนดูลุ้นระทึกไปกับตัวละครว่าจะตาย จริง(หรือหลอก)กันแน่ (แต่สุดท้ายก็ตายอยู่ดี อิอิ)
- แต่ถ้ายังไม่รู้ตัวว่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดนั้น เป็นผลจากความตาย กลับมาทวงก็จะมี character ลึกลับออกมาช่วยบอกใบ้ให้ทราบ
เพื่อสร้างสถานะการณ์ แข่งกับเวลาให้คนดูได้ลุ้นว่าพระเอกจะกลับไปช่วยคนต่อๆไปให้รอดได้หรือไม่ (ภาค 2,4,5) - และสุดท้าย คือการปิดฉากที่ชวนให้โล่งอกว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนรอดไปอีกสักพัก เพื่อส่งให้คนดูโล่งใจก่อนจะกลับมาปิดท้ายการตายให้กับตัวละครทุกตัว
- อ่อสุดท้ายของท้ายสุดคือมันเป็น 3 d แล้วครับท่าน(ภาค 4,5)เพราะฉะนั้นคนใจอ่อนและเกลียดเลือด อย่าเข้าไปชมเชียวไม่งั้นคุณจะเอียนกันไปข้างเพราะเลือดมันเข้าตาจริงๆนะ
ผมชมfinal ภาคนี้โดยไม่คาดหวังใดๆนอกจากความบันเทิง แต่ก็ได้กลับมาแค่ระดับนึง เพราะภาคนี้ยังเดินตามสูตรด้านบนแบบเป๊ะๆ เรียกว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วละครับ
ยังไงซะหนังก็น่าจะช่วยตอบโจทย์คนดูที่อยากคลายเครียด อยากหาอะไรที่มันจะช่วยลุ้นและตื่นเต้นกว่าดูข่าว ดูละครช่องต่างๆในทีวีได้ระดับนึง
ความสดใหม่ หรือการเล่นกับความกลัวในการตายทุกรูปแบบ เริ่มเก่าไปอย่างเห็นได้ชัด ความซับซ้อนของเนื้อเรื่องก็ไม่มี สิ่งเหล่านี้ ตั้งแต่ภาค 2เป็นต้นมาหนังก็ค่อยๆหืดแห้งลงไปเรื่อยๆ
ดาราแต่ละคนล้วนมาจาก แวดวงทีวีซี่รีย์ของอเมริกาทั้งนั้น ทุกคนเล่นไปเรื่อยๆตามบท ไม่มีใครโดดเด่นชวนให้จดจำไม่ว่าจะเป็นพระเอก หรือนางเอกก็ตาม คงหวังเกิดหรือขอมีเครดิตหนังทำเงินช่วยเป็นบันไดสำคัญ ในการก้าวไปสู่หนังใหม่ๆที่น่าจดจำกว่านี้ต่อไปมากกว่า
สิ่งเดียวที่ยังเห็นได้ถึงความทุ่มเทของผู้สร้างก็คือ ฉากเปิดเรื่องที่ยังตรึงคนดูให้ลุ้นไปกับภาคหายนะตรงหน้า ในช่วง 15 นาทีแรกนั้นละครับ ที่คุณต้องลองชั่งใจกันเอาเองว่า คุ้มไหมกับการเข้าไปชม final 5 ภาคล่าสุด ทีเหลือล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผ่านตาคุณๆมาแล้วทั้งนั้น
แต่จะว่าเป็นเพราะนิสัยหความอยากรู้อยากเห็น ของผมเลยยังทำให้ ผมเดินเข้าไปชมหนังเรื่องนี้เกือบทุกภาค (เว้นภาค 4 ที่ข้ามไปมาตามเก็บตอนเป็น dvd แล้ว)
สิ่งดีๆสิ่งหนึ่งที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้คือผู้สร้างยังคง concept ไม่มีฉากโป๊เปลือย หรือเสียเวลากับการอวดโฉมดาราทั้งหลายให้เราได้เห็นซึ่งก็ดีครับ เพราะผมดูหนังสยองอเมริกันทีไร มันต้องมาพร้อมโชวหุ่นโชวนู้นนิดนี้หน่อยเสมอ ซึ่งเราหาไมไ่ด้จากซี่รีย์นี้แน่นอน
อ่อตอนท้ายๆหนังมีมุขเล็กๆพอจะกระตุ้นต่อมให้เราได้ทบทวนเรื่องราว ความเกี่ยวโยงกับภาคเก่าๆเหมือนจะทิ้งท้ายกลายๆว่า จะเป็นภาคสุดท้ายแล้วนะ แต่ผมว่าถ้าหนังยังทำเงินทั่วโลกได้เท่าๆภาคก่อน รับประกันได้ว่า เรายังคงได้เห็นความตายกลับมาทวงหนี้ชีวิตคนใหม่ๆที่จะพาเหรดมาให้เราได้ดู อีกแน่นอน เรื่องนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ครับ จริงไหม?
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย ‘ment กันด้านล่างเลยจ้าใครไปดูมาแ้ล้วชอบไม่ชอบคุยกันนะ
—————————————————————-
The Final Destination 5 :โกงตายสุดขีด
ผู้กำกับ: สตีเว่น ปาลเคล
ผู้แต่ง: เอริค ไฮเซอเรอร์,เจฟฟรีย์ เรดดิค
วันเข้าฉาย: 18/08/2011
ประเภท: Thriller, Horror
ความยาว: 95 นาที
เรท : น 13+
เว็บไซต์: The Final Destination5