ปีใหม่ทุกๆปีของผมจะมีโอกาสเที่ยวเหนือเสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ ลมเย็นชื่นๆพัดมาแตะจมูกให้ฟุตฟิต จนรู้สึกได้ว่า “หน้าหนาวมาแล้ว”….
2 ปีหลังมานี้ผมก็มักจะลงเอยที่จังหวัดเชียงราย เหมือนต้องมนต์เสน่ห์จังหวัดนี้ ติดใจมากมายครับ
ขึ้นเหนือเมื่อไหร่เป็นต้องหาทางพาตัวเองมาเชียงรายให้ได้ และจะว่าไปก็แปลก ที่2ปีหลังผมกลับมาพักที่ สวนทิพย์วนา รีสอร์ท ทั้ง2 ปี
ที่นี้มีดีอะไร ลองตาม one22 มาชมกันดูครับ
ภาพถ่ายทั้งหมดเก็บไว้ที่นี้นะครับชอบไม่ชอบยังไง ‘ment กันให้รู้จะขอบคุณมากๆเลย ถือว่าช่วยพัฒนาทักษะผมนะครับทุกคน ^_^
http://blog.one22.com/pics/relax/north/suanthipvana_resort
…กว่าจะได้เขียนถึงที่นี้ผมต้องใช้เวลากว่า 2 ปีถึงจะเขียนออกมาได้ นับเป็น Entry ที่ทิ้งเวลายาวนานจริงๆของผมเลยครับ ^_^’
ทั้ง 2 ปีพาคนมาไม่ซ้ำ แต่แอบหวังผลเลิศหรูไว้ในใจ เพราะอยากให้คนที่มาด้วยเค้าประทับใจเหมือนผมเพราะคนทั้งคู่คือ “คนสำคัญกับชีิวิตผม” นั้นเอง
ปีแรกผมพาแม่มาทำบุญ เพราะแม่อยากมาไหว้พระองค์ที่แม่ศรัทธามากๆ จะด้วยแรงศรัทธาทั้งชีวิตนี้ที่แม่มีให้กับพุทธศาสนาก็อาจจะใช่..
ทุกๆครั้งที่ผมมีโอกาสพาแม่เที่ยว จึงเต็มไปด้วยความสุขที่ได้บุญไปพร้อมๆกัน เรียกว่าจากแม่ส่งต่อถึงลูกจนเกิดเป็นทัวร์บุญไปโดยปริยายครับ
ใครสนใจทริบพาแม่เที่ยวของผม แวะเข้าไปอ่านกันได้ที่นี้ครับ ทั้งหมดคือการพาแม่อันเป็นที่รักยิ่งเที่ยวนั้นเอง ^_^
การพาแม่เที่ยวหนนี้จึงเป็นอีกครั้งที่เราทั้งคู่ต่างก็ประทับใจ เป็นทริบแม่ๆลูกๆที่ไปไหนไปกันแค่ 2 คนซึ่งช่วงหลังๆห่างหายไป
ด้วยเหตุผลที่ผมเองมักอ้างกับตัวเองว่า ไม่ค่อยได้มีเวลาให้แม่มากเหมือนเก่าก่อน
ทริบนี้จึงเป็นทริบที่มีเวลา”ให้” และเติม “ความสุข” ให้แก่กันและกัน ตลอด 3 วันนั้น
แถมยังเป็นทริบชมทะเลหมอกที่สวยงามจริงๆ เดี๋ยวไว้จะเล่าแยกเป็นอีกตอนดีกว่านะ….
แต่ที่น่าเสียดายจริงๆคือทริบปีนั้นคนข้างกายมาไม่ได้มาด้วยกัน เพราะย้อนไปตอนนั้นเธอยังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญกับการฟูมฟักชีวิตน้อยๆ ในท้องใหญ่ๆกลมๆของเธอ
จนไม่อยากให้เสี่ยงขึ้นลงเครื่องบิน
ผมใช้เวลาอีก 1 ปีผ่านจึงสามารถพาเธอมาอีกครั้ง ทั้งสองครั้งไม่ต่างในแง่ใดๆเพราะประทับใจทั้งคู่
ที่สวนทิพย์ฯ มองจากข้างนอกแบบผ่านๆคนจะเข้าใจว่าเป็นที่พักข้างทาง แต่อยากบอกว่าอย่าให้ความรู้สึกน้้นพาคุณๆเขว่เป็นอันขาดครับ
เพราะเมื่อเข้ามาแล้วมันก็เหมือนคุณเปิดกล่องของขวัญให้ตัวเองครับ
พื้นที่ 70 กว่าไร่ไม่เล็กเลยครับสำหรับรีสอร์ทที่มองผ่านๆ เวลาขับรถจากเส้นเชียงใหม่เชียงรายดูๆเหมือนไม่มีอะไร แต่พอสัมผัสแล้วก็ทำให้อยากกลับไปอีกเสมอๆ แปลกใจตัวเองจริงๆ
มาเชียงใหม่เชียงรายทีไรข้ามที่นี้ทุกที
เพราะชอบในบรรยากาศ และความร่มรื่นภายในรีสอร์ท ผมจึงพาตัวเองมาที่นี้ติดๆกัน และได้เข้าพักห้องพักทั้ง 2 แบบเราลองไปดูกันดีกว่าครับ
เริ่มกันที่แบบแรกที่ผมประทับใจก่อน แบบ pkakeryor Villa ถือเป็นห้องพักที่แยกตัวออกมาต่างหากจากแบบอื่นๆซึ่งก็มีอยู่เพียงแค่ 6 ห้องเท่านั้น
บ้านปากะญอ ชื่อบ้านบอกความหมายด้วยตัวมันเองถึงไอเดียและที่มาในการตกแต่งของชาวเขาให้เข้ากับบ้านในแบบชาวเหนือพื้นราบเข้าด้วยกัน
อย่างตัวบ้านก็สร้างเป็นบ้านดินดูเข้ากันมากๆกับธรรมชาติรอบๆ
และไม่หลงลืมที่ใส่อุปกรณฺอำนวยความสะดวกต่างๆ แบบค่อนข้างครบถ้วนจะขาดก็คงเป็น internet นะครับ บ้านโซนนี้ทั้งหมดเน็ตเข้าไม่ถึงนะครับจะใช้ต้องไปแถว Front เท่านั้นที่มี wifi จ้า
ผม ชอบเตียงนอนของที่นี้มากครับ หลักสบายไม่พอแถมยังดูอบอุ่นด้วยผ้าห่มทอมือ สวยและอบอุ่นดีมาก หมอนก็เยอะใช้ได้นอนแล้วโอบรับหัวได้ดีจังหลับสบายครับ
ห้องน้ำก็กว้างขวางมีแยกส่วนต่างๆชัดเจนดี
อุปกรณ์ต่างๆมีให้ครบถ้วน ไม่ขาดใดๆ
หลังจากสังเกตุห้องพักหลายๆห้อง การตกแต่งจะต่างกันเล็กน้อย บริเวณเฉลียงในห้องจะทำหน้าต่างไม่เหมือนกันเป๊ะๆแต่ที่เหมือนกันคือ ทุกๆห้องจะวางที่นอนไว้ให้นั่งให้นอนเล่นได้
อย่างห้องนี้เห็นไหมครับ จะต่างจากห้องบนเล็กน้อยตรงเฉลียงนั่งเล่น และกรอบหน้าต่าง ดูๅก็เท่ดีครับความเหมือนที่แตกต่าง ^_^
มา ดูบรรยากาศรอบๆกันหน่อยในวันที่อากาศเย็นได้ที่ หากใครที่มาพักและไม่ขี้เกียจตื่นเช้าเกินไปอยากให้ลองตื่นเช้าๆ ออกมาสัมผัสทะเลหมอกที่พร้อมเสริฟคุณถึงหน้าห้องหักพักเลยครับ
ผมตื่นมาถ่ายรูปแต่เช้าจึงได้สัมผัสทะเลหมอกอย่างใจคิด สวยมากๆจริงๆ
บรรยากาศ วันหมอกหนาตา และความหนาวที่ทำให้เราหยิบเสื้อกันหนาวออกมาใส่ ยิ่งได้อยู่กับใครที่มีความหมายด้วยกันด้วย มันรู้สึกดีจริงๆใช่ไหมเอ่ย ?
ตัวบ้านเองก็สร้างได้บรรยากาศ เพราะทำเลที่ตั้งของทุกๆหลังอยู่บนเนินเขามองไปเห็นทิวเขาเป็นสันเป็นแนวอยู่ตรงหน้าเราได้เลย
บ้านพักมองจากภายนอกเหมือนตกอยู่ในวงล้อมของสวนพันธ์ไม้นานาพันธ์
จะเรียกว่าเป็น ข้อดีๆมากๆที่แขกเองจะสัมผัสบรรยากาศได้แบบไม่ต้องเลือกที่รักมักที่ชัง เพราะทุกๆห้องได้บรรยากาศเหมือนๆกันหมดนั้นเอง
อย่างวันที่ผมไปครั้งแรก ก็ได้สัมผัสหมอกหนาๆที่พามาเยี่ยมเยือนแขกทุกหน้าห้องกันเลย บรรยากาศยามเช้าตรู่ ในวันที่หมอกลงจัดบริเวณทุกๆส่วนของ สวนทิพย์วนา เองก็ถูกทะเลหมอกปกคลุมไปหมด มองกันแทบไม่เห็นทีเดียว
แถมยังวางตัวเองอยู่ในบรรยากาศกลางไร่กลางนาด้วยแปลงนาและแปลงสวนผักแบบขั้นบันได ลดหลั่นกันไปใน กลางหุบเขาหน้าห้องพัก ผมชอบมากๆ
ด้านหน้าห้องเวลาที่เดินขึ้นมาจากบันได้ทุกๆห้อง จะทำเป็นเฉลียงให้นั่งหย่อนใจสบายๆ
บางห้องอาจจะตกแต่งมีเป็นชุดเก้าอี้พร้อมร่มสนามให้บังแดด อย่างห้องนี้
หรืออย่างห้องผมก็ได้บรรยากาศชาวเหนือจริงๆ โดยนั่งกับพื้นมีเบาะรองนั่งให้ชิวๆชมวิวภูเขาให้สบายใจ
ยิ่งใครมากับแฟนมุมนี้เหมาะจะเจรจาคำหวานๆให้กันดีนะครับ ( ^o^ )
มาชมห้องน้ำกับบ้าง เป็นแบบ out door อย่างที่บอกเป็นการผสมผสานหลายๆอย่างก็จริง แต่ความสะดวกสบายไม่ตกหล่น มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ชมดาวได้เก๋ๆ ประยุกต์จากถังไม้ครับ
แต่ผมก็ไม่ได้ใช้ครับ เพราะหน้าหนาวใครจะอยากแช่น้ำนานๆจริงไหม
อีกอย่างตกกลางคืนความที่ต้นไม้เยอะๆแบบนี้ยุงมันก็เลยเยอะตามไปด้วย นอนแช่น้ำจะพาลยุงรุมซะเปล่าๆ
มาชมห้องอีกหนึ่ง type กันบ้าง ที่ถือเป็นห้องส่วนใหญ่ของที่นี้ครับ Deluxe Suite จะอยู่ด้านหน้าของรีสอร์ท
นับเป็นห้องพักที่กว้างขวางดีทีเดียวสร้างเป็นอาคารสองชั้นแยกเป็นชั้นละห้องปลูกติดกันเรียงกันไป จุดเด่นคือมีประตู Connecting ที่ถ้ามากันหลายๆคนสามารถเปิดหากันได้เลย
เตียงจะมีให้เลือกทั้งแบบ Two bed และ Double bed ด้วยขนาดห้องที่ไม่เล็ก นอนสบายไม่อึดอัน อย่างวันที่เข้าพักกับแม่ ผมก็เลือกเป็น Two Bed room เตียงนอนสบายหลับดีตลอดคืน
ห้องน้ำในห้องพักแบบนี้ดูเรียบๆแต่ก็ใช้งานน้ำร้อนน้ำเย็นได้ครบและมีอ่างอาบน้ำให้
ด้านหลังมีชานเรือนยื่นออกไปด้านหลังมีชุดเก้าอี้ให้นั่งชมสวนกันได้
ด้านหลังห้องพักโซนนี้จะติดสระน้ำที่ใหญ่มากๆครับ ผมไปในช่วงหน้าหนาวไม่กล้าฝ่าลงไปจริงๆได้แต่เก็บภาพมาฝากกันนะ
มาชมส่วนอื่นๆต่อกัน บริเวณหน้า Front ครับกว้างและดูโอ่โถ่งดี ทีเดียว
ตรงนี้ผมมาเล่นเน็ตอยู่พักนึงเพราะต้องใช้ส่งงานพอดีครับ
มาดูตรงส่วนห้องอาหารกันบ้าง ห้องอาหารที่นี้จะใช้รับรองแขกทุกๆมื้อ อย่างมื้อเช้าจะเป็นบุฟเฟ่ต์ แม้จะมีให้เลือกไม่มากนักแต่ก็อร่อยมากๆครับ
ผมมีโอกาสได้ใช้บริการห้องอาหารอยู่ 2 ครั้งเป็นมื้อค่ำวันแรกและมื้อเช้าวันถัดไปซึ่งให้บรรยากาศที่ต่างกันออกไป
มาดูเมนูอาหารค่ำกันบ้าง ค่ำคืนนั้นผมมีโอกาสได้รองขันโตกชาวเหนือขนานแท้ อาหารมาเป็นเซ็ตและเยอะทุกๆอย่าง
ทั้ง น้ำพริกอ่อง ไส้อัว น้ำพริกเหนือ ฯเมนูอาหารเหนือต่างๆมีโอกาสได้ลองเกือบหมด และก็อร่อยซะด้วยเรียกว่ามื้อนั้นจำได้ว่าอิ่มจนจุกทีเดียว
รสชาติก็อร่อยมากๆด้วยสิครับ แถมมีมาให้ครบเลยทีเดียว
ลองดูกันเองว่ายั่วน้ำลายของคุณๆได้บ้างไหมนะครับ
จบอาหารค่ำต่อกันด้วยอาหารเช้าในแบบบุฟเฟ่ต์ แม้จะไม่เยอะแต่รสชาติอร่อยดีทีเดียวครับ
เมนูอาจจะดูเรียบๆอย่างข้าวผ้ดผมจำได้ว่าเติม 2 รอบทีเดียวอร่อย
ของผมสั่งมาเป็น ABF เพิ่มเติมน่ากินดีไหมครับ ^___^
รวมๆบรรยากาศในการทานอาหารตอนเช้าชิวมากๆครับ ทานข้าวไปฟังเสียงนกร้อง ไก่ขันได้อารมณ์ที่กรุงเทพฯหาไม่ได้ง่ายนัก
สรุป
การเข้าพักทั้ง 2 ครั้งของผมแม้เวลาต่างกันแต่การบริการไม่แตกต่าง โดยเฉพาะรอยยิ้มพิมใจที่ได้รับจากพนักงานทุกๆท่านตั้งแต่ recevtion ,พนักงานยกกระเป๋า,พนักงานต้อนรับที่ห้องอาหารรวมถึงทุกๆคน ผมเจอแต่รอยยิ้มดีๆที่มีให้แขก มารวมเข้ากับวิวงามๆของโซนบ้านพักแบบ Pkakeryor Villa ด้วยยิ่งประทับใจเข้าไปใหญ่ ที่พักในทะเลหมอกอยู่ท่ามกลางหุบเขาแสนงามวิวทิวเขาและแปลงนาขั้นบันไดน่าประทับใจและเพลินหูเพลินตาจริงๆครับ
การเข้าพักครั้งแรกเหมือนทำความรู้จักกันฉันท์มิตร์แต่กับการเข้าพักครั้งที่ 2 เก็บความประทับใจใส่ตัวจริงๆ จะมีที่อยากให้ปรับปรุงเพิ่มเติมอยู่ก็คงบ้างก็มี เรื่อง Internet ที่บ้านพักใน โซนอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ Lobby จะไม่สามารถใช้ เน็ตได้เลยอันนี้น่าเสียดายครับ เพราะตัวผมเองชอบใช้เวลาส่วนนึงเล่นเน็ตในห้องพักพอควร มากกว่านั่งดูทีวีด้วยซ้ำไป ยิ่งถ้าในบรรยากาศงามๆในบริเวณบ้านพัก Pkakeryor ด้วยแล้วยิ่งน่าเสียดาย
ส่วนอื่นๆไม่มีอะไรให้ต้องปรับปรุงแล้วครับ ขอเพียงรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีๆให้คงอยู่นานๆ เท่านี้ก็จะทำให้ สวนทิพย์วนารีสอร์ท เป็นอีกๆทีผมอยากแวะกลับไปเสมอครับ และเชื่อได้เลยผมคงไม่หยุดอยู่แค่ 2 ครั้งแน่ๆ มีโอกาสจะขอกลับไปชารต์แบตให้เต็มอีกแน่ๆ
สุดท้ายต้องขอขอบคุณโด่ง sale ที่ดูแลกันตั้งแต่การจองที่พักจนเรื่องการเดินทางมาเข้าพักจนแม้แต่เรื่อง อาหารต่างๆรู้สึกดีมากๆครับที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดดีมากๆ น้องเปิ้ล Reservation ที่ต้อนรับด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจเสมอๆ ทั้ง 2 ครั้งที่เข้าพักยังจำกันได้พี่ละแสนดีใจจริงๆ ^___^ รวมถึงน้องๆพนักงานทุกๆคน ที่เจอหรือเดินผ่านก็ทักทายด้วยภาษาเหนือหวานกันตลอด
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บของรีสอร์ท ที่ http://www.suanthipresort.com/ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี้เลยครับ 02 619 0363-4, 02 619 0368-9
ในวันแห่งความรักนี้ผมขอส่งต่อรีวิวนี้แทนความหมายในใจของคนที่มีความหมายกับคุณๆทุกๆคนครับ สำหรับผมแล้วการได้มีโอกาสพาคนที่เรารักไปเที่ยวนั้นจะใกล้หรือไกลก็ได้ครับขอให้มีคนที่คุณรักไปด้วยที่ไหนๆก็มีสุขแล้วจริงไหมครับ
ขอให้วาเลนไทนนี้เป็นอีกวันที่คุณได้บอกรักคนๆนั้นของคุณครับ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ ( ^ __ ^ )