รีวิวที่เที่ยวแรกของปีจาก one22 ไม่ใช่ที่ไหนแต่….
เป็นการกลับไปยังที่ๆ เคยไปย่ำทรายที่ขาว และละเอียดเหมือนผงแป้งเอาไว้เมื่อ 3 ปีก่อน …
ที่ๆเคยต้องร้องว้าวววว ดังๆ เมื่อเงยหน้ามอง จากเรือไปที่เกาะ ว่าอะไรมันจะใสและขาววได้แบบนั้นน้อ ….
ใช่แล้วครับจะมีเกาะไหนที่ร้อนแรง เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดของทะเลใต้บ้านเราเท่า “เกาะตาชัย” เป็นไม่มีอีกแล้ว
นับจากครั้งแรกที่ไปมา ใครที่เคยอ่านผ่านตารีวิวผม ( http://blog.one22.com/archives/4552 )มาอาจจะยังจำกันได้ว่ามีเกาะๆนึง ที่ทำเอาผมเพ้อไปเลยว่าทะเลไทยสวย งดงาม ไม่แพ้ใครในโลก
หนนี้เป็นการกลับไปอีกครั้ง กลับไปหนนี้ได้เจอและค้นพบที่เที่ยว มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนร่วมทาง พร้อมการบริการที่สุดแสนประทับใจไม่แพ้เมื่อ 3 ปีที่แล้วเลย จะเป็นไงไปชมกันดูดีกว่า
สำหรับการเดินทางหนนี้ของเรา ยังใช้บริการสายการบินประจำบ้านของ one22 เช่นเคย Air Asia ที่พาเราบินลัดฟ้าโดยทำเวลาได้ดีทีเดียว
หนนี้เป็นการเดินทางครั้งแรกหลังจากห่างหายจากสนามบินเก่าแก่ที่สุดของบ้านเราอย่างดอนเมือง มาหลายปี กลับมาอีกครั้งรู้สึกตื่นเต้นมากครับ ภาพจากอดีต ผุดขึ้นมาผสมไปมาบวกกับบางจุดที่ไม่คุ้นชินตาเพราะมีการตกแต่งที่ปรับปรุงใหม่ของอดีตสนามบินแห่งชาติ แห่งนี้
วันนี้เราเลือก Hot Seat ครับ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วดีทั้งเวลาขึ้นและลงเครื่อง นั่งสบาย และที่ชอบมากๆคือได้ขึ้นเครื่องได้ก่อนใครเลยขึ้นมาก็โล่งดีนะครับ
หนนี้ทีม one22 เราพักกันที่นี่ Ramada Resort Khao lak หลังเครื่องแตะรันเวย์ที่สนามบินภูเก็ต ทางโรงแรมส่งรถมารับถึงที่ เดี๋ยวไว้จะแยกรีวิวออกมาเป็นที่พักอีกที ตอนนี้ขอพาไปเที่ยวกันต่อก่อนนะครับ
การเดินทาง(ขอบคุณแผนที่นำเที่ยวจากเว็บไซต์ Love Andaman ครับ)
สำหรับการเดินทางมาต้องซื้อ package ทัวร์เท่านั้นซึ่งก็มีบริการอยู่หลายบริษัททั้ง ที่พังงา และภูเก็ต แต่ที่อยากแนะนำมากกว่าคือให้มาขึ้นที่พังงาเพราะใกล้และจะประหยัดทั้งค่าทัวร์และเวลาที่เสียไปครับ
โดยสามารถมาขึ้นเรือได้ทั้งที่ ท่าเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 70 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายพังงา-ตะกั่วป่า และเป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้อุทยานหมู่เกาะสิมิลันมากที่สุด ซึ่งจากท่าเรือทับละมุใช้เวลาในการเดินทางไป เกาะตาชัย ประมาณ 3-4 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 93 หมู่ 5 บ้านทับละมุ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา 82210 โทรศัพท์ 0 7642 1365 สำนักงานบนฝั่ง โทรศัพท์ 0 7659 5045
หรือที่เราพึ่งมากับทาง Love Andaman Tour ก็จะมีท่าเรือของตัวเองอยู่แถว บ้านน้ำเค็ม ซึ่งก็จะใกล้ขึ้นมาอีกนิดร่นระยะเวลาเดินทางบนเรือได้สั้นลงถ้าจำไม่ผิดจะชื่อ “ท่าเรือเลไทย” ยังไงหากสนใจจะไปกับที่นี่ลองสอบถามรายละเอียดการเดินทางและข้อมูลต่างได้ที่นี่เลยครับ Love Andaman ในภาพเป็นเรือใหม่กิ๊กที่พึ่งประเดิมวันนี้วันแรก กรุ๊บเราคือกรุ๊บแรกที่ได้สัมผัสกันเลยทุกๆอย่างจึงใหม่และปลอดภัยดีทุกอย่าง
ก่อนจะเดินทางก็มีการแนะนำให้รู้จักตัวเกาะที่จะไปกันและแจกอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงข้อควรปฎิบัติเมื่อเวลาจะขึ้นเกาะและการเล่นน้ำทะเลให้ถูกวิธีไม่เป็นการทำลายธรรมชาติโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการ ตรงนี้มีประโยชน์มากครับ ทางทีมงานของ Love Andaman เองเป็นกันเองและตั้งใจอธิบายตอบข้อซักถามได้ดีมากๆเลย
และหากใครอยากรู้จักเกาะตาชัยมากกว่านี้จะขอไม่อธิบายเพราะเคยบอกกันแล้วตั้งแต่รีวิวแรกเมื่อ 3 ปีก่อน สามารถตามกลับไปชมและอ่านกันได้ที่นี่เลยนะจ๊ะ http://blog.one22.com/archives/4552
หนนี้แม้จะเป็นครั้งที่ 2 แล้วก็ตาม ก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้ว่า อะไรๆ จะยังคงสวยงามและคงสภาพเหมือนเดิมไว้ทุกอย่างหรือไม่
ยิ่งใกล้เกาะก็ยิ่งตื่นเต้น เลยถ่ายรูปเล่นกันบนเรือซะงั้นละครับ ^ ^
ไม่นานเกาะที่แสนงามที่สุดตั้งแต่เคยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยก็มาปรากฎตรงหน้าผม และทีมงานที่ไปด้วยกัน
……จะว่าไปยังจำได้ดีถึงประสบการณ์ครั้งแรกที่มาเยือน
หนนี้ภาพเก่าๆก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับทริบนี้มีดำน้ำชมปะการังรอบๆ เกาะด้วย ถึงเวลาลงน้ำกันจริงๆแล้วละครับ ก่อนลงก็มีการซักซ้อมกันอีกครั้ง และแต่งตัวชุดชูชีพ เพื่อให้สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยจริงๆ
พร้อมทุกอย่างก็ชูนิ้วแม่โป้งกันแบบนี้ละ ^___^
น้องสองคนนี้เค้ามันมาก แบกกระดานโต้คลื่นมาเพื่อการถ่ายงานโดยเฉพาะ ก็หวังว่าจะได้ภาพประทับใจงามๆกลับไปครับ เพราะวันนี้ทะเลเป็นใจเหลือเกินทีเดียว ^ ^
ดำน้ำกันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาขึ้นเกาะจริงๆแล้วแดดวันนี้ร้อนแรง ยังดีที่มีเมฆบ้าง แต่แค่นี้ก็ทำให้ทะเลตรงหน้าสวยงาม ทั้งหาดทรายและน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจกยังไงยังงั้นกันเลย
เกาะอะไรก็ไม่รู้ทั้งขาว ยาว สวยเสียนี้กระไร…..แฮ่มที่เขียนไปหมายถึง ชายหาดนะอย่าคิดมาก >_<
จุดขายสำคัญของเกาะนี้คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ชายหาดขาวเนียน ที่ยาวสุดสายตาราวๆ 700 เมตร สวยงามท้าทายสายตาจนต้องหรี่ตามองกันเลย
ขึ้นฝั่งมายังมีชาวกรุ๊บทัวร์เดียวกันยังแอบหลบเงาไม้ นั่งคุยเป็นเพื่อนกับคนที่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย จากที่ไม่ทันระวังดำน้ำเพลินจนไปโดนใบเรือบาดเอาเล็กน้อย
ทางทีมงานของทัวร์ ก็กุลีกุจอหายูกยามาช่วยทำแผลให้ แต่น้องเค้าก็ยังใจสู่สุดๆประกาศจะดำน้ำต่อให้ได้ สุดๆเลยล่ะ
สุดท้ายทิ้งทวนก่อนจะเดินเข้าด้านในไปหาอาหารอร่อยๆที่ทางทัวร์เค้าเตรียมไว้รอแล้ว
อาหารพร้อมได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ทัวร์เป็นอย่างดีครับ
อิ่มกันดีก็ได้เวลาสำรวจเกาะ ถึงตรงนี้จะมีการแตกออกเป็น 2 กลุ่ม สำหรับใครที่สนใจอยากไปดำน้ำต่อก็ลงเรือต่อเลย ส่วนใครที่ไม่อยากดำน้ำแล้ว จะมีทีมงานออกพาไปสำรวจเกาะกัน เส้นทางจะแบ่งออกเป็น 2 เส้นทาง คือจะพาไปชมจุดชมวิวที่อยู่หลังเกาะและ อีกอีกเส้นทางคือเข้าไปในทางเดินสำรวจป่าเพื่อดู “ปูไก่” ปูที่อาศัยอยู่ชุกชมบนเกาะนี่อันหลังนี่จะรอกลุ่มที่ไปดำน้ำกลับมาแล้วไป พร้อมๆกันอีกที
แน่นอนผมเลือกจะอยู่บนฝั่งเพื่อไปชมจุดชมวิวดีกว่าเพราะยังไม่เคยไปเลย ป่ะตามผมมากันต่อเลย
ระหว่างทางยัง(อุตส่าห์)เก็บภาพแก้เมื่อยกันเล็กน้อย ถือเป็นกิจกรรมพักเหนื่อยไปในตัว >_<
เดินขึ้นเขาไปด้านหลังเกาะ เดินกันพอเมื่อยๆก็ถึง จะบอกว่าเดินไม่ยากครับแต่ก็มีเสียเหงื่อกันบ้างได้ออกกำลังกายดี
ถึงแล้วครับ ทีมนักสำรวจรวมรุ่นกันหลายรุ่น แต่ก็แสนสนุกสนานได้บรรยากาศเสียงหัวเราะมาตลอดทางกันเลย ….เชื่อแล้วล่ะครับว่าความลำบากทำให้มิตรภาพเกิดจริงๆ ^__^
วิวตรงท้ายเกาะสวย ดูยิ่งใหญ่ดีทีเดียว ตรงนี้จะเป็นจุดที่นักดำน้ำ Scuba จะต้องแวะเพื่อดำน้ำชมปลาฉลามกัน และก็มีโอกาสได้เห็นกันตลอด
เสียดายผมดำน้ำไม่เป็นไม่งั้นก็คงมีโอกาสลงไปสัมผัสโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิดกับเค้าบ้าง
วิวงดงามจนไม่คิดว่าเรายืนอยู่ในเมืองไทยกันเลยครับ
เก็บภาพกันเพลิน ประทับใจตรงนี้มาก อาจจะเพราะได้เหนื่อย มากันถูกกลุ่ม ครื้นเครงกันตลอด หรืออาจจะรวมๆทั้งหมดและแน่นอนธรรมชาติตรงหน้าก็ยิ่งใหญ่จริงๆ
ผ่านไปซักพักอยู่ๆก็เจอ แจ๊คสแปโรว์ ตัวเป็นๆ มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง ออกไปยืนรับแดดกางสองมืออย่างที่เห็นนั้นละครับ พี่เค้าเป็นคณะทัวร์อีกที่ๆแวะมาชมจุดชมวิวตรงนี้เช่นกัน
ชื่นชมวิวตรงหน้าจะช่ำอุราก็ได้เวลาย้อนกลับไปแล้วละครับ ก่อนกลับไม่ลืมชักภาพกันอีกเช่นเคย สนิทกันเร็วมากกับพี่ๆกลุ่มนี้ สนุกสนานเฮฮากันมากมายเลย
ก่อนกลับหากใครมีโอกาสไปจะสังเกตุกองหินตั้งซ้อนๆ กันอยู่เรียงราย อย่าได้แปลกใจครับ มีเรื่องเล่าที่บอกต่อๆกันมาหากใครได้มาจุดนี้แล้ว ต่อหินกองให้สูงที่สุด แล้วอธิฐานขออะไรจะสำเร็จ จึงมีคนพยายามต่อหินให้สูงๆกันขึ้นไปเยอะเลยเชียว ยังไงลองไปทำกันดูครับ เพราะที่แน่ๆคือทำให้บริเวณนี้มีเสน่ห์สวยขึ้นเชียวล่ะ
ได้เวลาเข้าป่าหา “ปู” กันแล้วล่ะ ทางเดินสำรวจธรรมชาติจะเป็นการเดินเข้าในป่าเพื่อไปทะลุยังอีกฝั่งของชายหาด ระยะทางไม่ไกลราวๆไม่ถึง 300 เมตรเดินง่าย อ่อลืมบอกไปการเดินบนเกาะนี้ใช้เท้าเปล่าล้วนๆ ทางทัวร์จะเก็บรองเท้าของเราไว้ให้ก่อนจะลงเกาะเพราะงั้นสบายใจได้ว่าจะสะอาดและสามารถเดินไปมาได้ทั้งเกาะ
เดินไปตามโคนต้นไม้ใหญ่ๆต้นไหนก็เจอครับ เจ้าปูไก่ จะแอบหลบผู้คนรวมถึงพักผ่อนก่อนจะออกมาหากินในยามค่ำ ที่มาของชื่อปูไก่ เพราะเวลาหากินมันจะส่งเสียงเล็กๆฟังคล้าย ลูกเจี๊ยบร้องจิ๊บๆฟังจากที่ไกด์อธิบายแล้วก็เลยเข้าใจถึงชื่อของมัน
ปูไก่เป็นปูน้ำจืด ที่จะพบเห็นในป่าและตามแหล่งน้ำ หาได้ง่าย แต่ส่วนตัวผมบนเกาะของฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ผมเคยเดินทางกันมา หาเจอมีแค่ที่นี่เท่านั้นด้วย นับเป็นเสน่ห์ของเกาะตาชัยจริงๆ
นี่ก็ใช่และหากคุณโชคดีอาจจะได้เจอกับพี่ปูก้ามโตออกมาทักทายกันแบบนี้ก็เป็นได้
สำคัญที่ลูกทีมกรุ๊ปเราต่างก็เฮฮากันตลอดทาง เสมือนรู้จักกันดีมาแต่ไหนกันขำกันตลอดทาง
นี่ก็รุมกันถ่ายปูกันสุดๆ ดูๆไปชักสงสารปูขึ้นมาตงิดๆจะรู้ตัวไหมเนี่ยว่าตัวเองเป็น เซเล็บฯ มากขนาดไหน ^_^”
ออกทะลุป่ามาเจอชายหาดขาวใส น้ำทะเลใสและเป็นสีฟ้าที่ฟ้าจริงๆ สวยงามจนแทบเพ้อกันเลย
สุดหาดเป็นหินก้อนใหญ่ให้เราๆปีนป่ายขั้น
อยู่กันสักพัก ไม่นานทางไกด์ก็มาตามแล้ว เวลาแห่งความสุขบนสรวงสวรรค์ช่างสั้นซะจริงๆ
เราเดินกลับกันอย่างอ้อยอิ้ง บางคู่เค้าก็ลั้นลาจนออกนอกหน้ากันเลย (อิจฉา >< )
แต่ก็ยังไม่วายเก็บภาพประจำทะเลที่มากันเยอะแบบนี้จะให้ไม่ JUMP กันได้ไงเนอะ
โดดกันสุดเลย ( ^___^ )
สนุกสนานกันได้ที่ ก็ถึงเวลากลับจริงๆแล้วละครับ
ผมเองมาครั้งนี้ก็ยังแอบเสียดาย อยากมีเวลาเก็บภาพยามเย็นของที่นี่ซักครั้ง แต่ก็คงยากเพราะทุกๆกรุ๊บทัวร์ก็จะพานักท่องเที่ยวกลับให้ถึงฝั่งก่อนเย็นทั้งนั้น
กลับมาอีกครั้งหนนี้สิ่งที่พบใหม่จริงๆ ก็เป็นธรรมชาติ และต้นไม้ที่เจริญเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างม้านั่งที่เคยผูกติดกับต้นไม้ริมหาดตอนนี้ก็หายไป นั้นเพราะกิ่งก้านของต้นออกดอกออกใบจนเต็มต้นไปหมด บ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่เจ้าหน้าทีป่าไม้บนเกาะ รวมถึงบริษัททัวร์ที่จะคอยแนะนำลูกทัวร์ทุกคนให้เข้าใจ และเอาใจใส่ไม่ไปทำลายธรรมชาติทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวก็ตาม อันนี้เห็นได้ชัดจาก ทัวร์ของ Love Andaman ที่จะคอยบอกและแนะนำพวกเราตลอดเวลานับเป็นความใส่ใจที่เติมเข้าไปพร้อมๆกับใจที่รักการบริการอย่างแท้จริง
มาถึงบรรทัดนี้ก็คงต้องบอกว่าหากใครยังไม่เคยไปและอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ได้โปรดอย่าถามว่าน่าไป จะไปดีไหม ที่คุณควรถามจริงๆ คือ จะจองตั๋วเครื่องบินไปเร็วที่สุดเมื่อไหร่ต่างหาก(จริงๆจ๊ะเชื่อสิไม่ได้โม้!!! ) เพราะไม่ว่าจะถามยังไง สุดท้ายผมก็ยังยืนยันนอนยัน ได้เลยว่าเป็นเกาะที่ one22 ต้องยกนิ้วแม่โป้งให้เลยว่ามีชายหาด และน้ำทะเลสวยที่สุดณ.ชั่วโมงนี้แล้วของประเทศไทย
หากใครไปมาหมดแล้วและยังไม่เชื่อสิ่งที่ผมบอก ขอให้มาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองดีกว่าเพราะสุดท้าย คุณและผมก็คงจะคิดเหมือนๆกันว่า ….. ทะเลไทยเราสวยไม่แพ้ที่ใดในโลก จริงๆ ก่อนลาจาก ต้องขอบคุณ ทาง Love Andaman ที่จัดพาเราและทีมให้กลับไปอีกครั้งกลับไปสวรรค์น้อยๆบนดินแห่งนี้ที่ชื่อ ” เกาะตาชัย “