วันนี้จั่วหัวรีวิวไว้อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่สำหรับ คนที่เคยผ่านตารีวิวของ one22 มานะครับ ปรกติจะเห็นผมเขียนถึงแต่ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว หรือหนังเท่านั้น
ถือเป็น section เก่าเอามาเล่าใหม่ของ one22 ก็ได้นะครับ สมัยที่เปิดเว็บแรกๆเมื่อหลายปีก่อนเคยเขียนไว้บ้าง และ มีความคิดมานานแล้วว่า เราไปเที่ยวบ่อยๆ พักบ่อยๆ ทำไมไม่เคยแนะนำ บ้านและคอนโดบ้าง คิดเสมอว่าการแนะนำที่อยู่อาศัย น่าจะเป็นความสนใจนึงของหลายๆคน ที่อยากเห็นก่อนตัดสินใจเช่นเดียวกับที่พัก และวันนี้ผมก็มีโอกาสได้กลับมาทำ Section นี้อีกครั้ง ยังไงลองอ่านและพิจารณากันดูครับว่าชอบไม่ชอบอย่างไรติชมกันได้นะครับ หลังบรรทัดนี้เป็นความคิดเห็นแบบบ้านๆ ขอตากล้องบ้านๆ ครับ ^ ^
มีโอกาสไปถ่ายภาพ ของโครงการ IDEO SATHORN-THA PHRA ( ไอดีโอ สาธร-ท่าพระ )มาครับ มองภาพแล้วเลยอยากเก็บมาเล่าให้กันฟัง สำหรับใครที่สนใจคอนโดย่านนี้นะครับ ลองพิจารณากันดูชอบไม่ชอบเป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆจ๊ะ
เอาล่ะมาดูกันสิ
การเดินทาง
คอนโดย่านชานเมืองที่กำลังถูกพัฒนาให้ใกล้เมืองจากโครงการรถไฟฟ้า ที่กำลังก่อสร้างขยายเส้นทางการเดินทางจากรอบนอกเมืองเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น โครงการนี้ก็เช่นเดียวกันครับ สร้างอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม(สีลม-บางหว้า) ที่กำลังเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จทันสิ้นปี แและรอ MRT สายสีฟ้า จากจุดต่อเชื่อมหัวลำโพง ที่มีแผนขยายมาจนถึงสถานีบางหว้าเช่นกัน เรามาเริ่มตั้งแต่การเดินทางนะครับ
ผมเลือกเส้นทางไปโดนรถไฟฟ้า BTS มากกว่าขับรถไป ส่วนนึงคืออยากรู้ว่ามันเร็วจริงไหม เร็วแค่ไหนกับการที่เราจะเดินทางจากค่อนกลางเมืองไปถึงคอนโด จะเป็นจริงตามโฆษณารึเปล่าที่ว่าเร็วๆ
ผมขึ้นจากสถานี อโศก (E4) นั่งรถมาลงสยาม เพื่อต่อสายสีเขียวเข้ม เส้นสีลมเพื่อมาลง ที่สถานีโพธิ์นิมิตร (เส้นสีเขียวเข้มจะมีรหัสสถานี จาก s1-s12 s9คือของสถานีนี้ครับ)
เส้นนี้ ถ้าขยายเสร็จจะไปจบที่สถานีบางหว้า(s12) ตามป้ายเค้าแจ้งไว้ไปตลาดพูล เพราะตอนนี้สุดสายอยู่ที่นั้น สำหรับคนฝั่งธนแล้วที่นี่ถือว่าเป็นเส้นทาง เกือบในฝันที่รอคอยกันเลยทีเดียว ที่บอกว่าเกือบเพราะทำไมไม่ขยายต่อมาจนสุดเส้นราชพฤกษ์เลยก็ไม่รู้อีกไม่กี่กิโลเอง(กรณีที่เค้ามีแผนแต่ผมไม่รู้ อย่าโกรธน่าไม่รู้คือไม่ผิด อิอิ) ถ้าเชื่อมมาถึงแยกถนนปิ่นเกล้าได้ชาวบ้านคงได้ใช้กันเยอะขึ้นกว่านี้แน่ๆเพราะเส้นนี้ไม่มีรถเมล์ รถประจำทาง BRT วิ่งแต่อย่างใด แท๊กซี่กับรถส่วนตัวล้วนๆครับ ไม่นับรถสองแถวที่ออกจากซอยจรัญทั้งหลายนะ คิดแล้วเสียดายจริงๆ..
รวมระยะเวลาที่เดินทาง+รอต่อขบวนทั้งหมดอยู่ที่ราวๆ 25-30 นาที โดยประมาณครับ(ขึ้นอยู่กับการรอต่อรถครับว่าไปต่อทันทีหรือแน่นจนต่อไม่ได้) ถือเป็นเวลาที่ดีทีเดียว สำหรับกรุงเทพฯ
อ่อลืมไปสำหรับช่วงต่อจากสถานีวงเวียนใหญ่เดิม มาโพธ์นิมิตรต้องเปลี่ยนขบวนรถนะครับ เพราะยังเป็นการทดลองวิ่งอยู่สำหรับ 2 สถานีสุดท้าย โพธ์นิมิตร,ตลาดพลู เราต้องเดินลงบันไดข้ามฝั่งรถไฟฟ้ามาต่อ เอาเอง ดูๆเหมือนสะดวกแต่ยังไม่เต็มที่ยังไงไม่รู้นะครับ เพราะเดินขึ้นมาเสร็จก็ต้องมารออีก 5-10นาทีแล้วแต่ว่ารถจะมาเปลี่ยนขบวนกัน
มาถึงสถานีโพธ์นิมิตร โล่งมาก คนยังใช้น้อย
ผมลงด้านทางออกที่2 ฝั่งซ้ายมือ ลงมาเจอวินมอเตอร์ไซต์ รออยู่แล้ว น่าจะสะดวกกับชาวบ้านย่านนี้ดีทีเดียว สนนราคาดูเองจากป้ายราคาตามจุดที่ วินเค้าไปนะครับ
ผมเลือกเดินจากสถานีไประยะทาง 350 เมตรจากโฆษณาของโครงการ เดินเพลินๆครับ ต้นไม้เขียวครึ้มตลอดทาง กลางวันดูปลอดภัยดีแต่กลางคืนไม่แน่ใจนัก สำหรับสาวๆ ถ้ากังวลนั่งวินจะสบายใจกว่านะครับ
แป๊บๆถึงแล้ว รวมเดินไม่ถึง 5 นาทีตามที่โฆษณาเป๊ะๆ เลย สำนักงานขายตั้งอยู่ต่อกับโครงการ The Room ของ Land& House และเลยไปก็เป็นคอนโดของโครงการ Parkland เท่ากับว่าโดนประกบสองข้าง แต่เท่าที่สั่งเกตุทั้งสองโครงการไม่น่าจะขายอยู่นะครับ หรือถึงเหลือก็คงไม่มากแล้วละครับ
เอาละมาดูข้างในบ้าง เค้าว่าดูนางให้ดูที่แม่ ดูคอนโดให้ดูกันตั้งแต่พนักงาน เอ้ย! สำนักงานขาย ( 555 เกี่ยวกันไม๊เนี่ย )
สำนักงานขายที่นี่ก็ตั้งอยู่หน้าโครงการเลยครับ ภายในตกแต่งดีทีเดียว กว้างขวางโล่งโปร่งด้วยกระจกรอบด้าน มองจากภายนอกเห็นหมด
มีเป็นมุมบาร์ไว้รองรับลูกค้า เครื่องดื่มนอกจากน้ำที่มีบริการแล้ว เครื่องดื่มอื่นๆเสียตังนะจ๊ะ แล้วแต่สั่งกันจ้า
ตัวโครงการเพิ่งเปิดตัวยังไม่ได้ขึ้นจริง (แจ้งไว้ว่าจะแล้วเสร็จปี 2558 ) มีห้องตัวอย่างให้ชมได้ ทุก Type ซึ่งก็คือเป้าหมายของวันนี้ที่มาถ่ายงานนั้นเอง
ตัว Model โครงการสร้างเสร็จหน้าตาแบบนี้ละครับ
ตำแหน่งของรถไฟฟ้าจากจุดต่างๆ อย่างในภาพ (S6) สถานี่สะพานตากสิน จนถึงสถานี (S9) โพธิ์นิมิตร ระยะทางแบบจำลองดูๆไม่ตรงเท่าไหร่นักกับระยะทาง 350 เมตรจากสถานี่
แต่ที่เห็นแน่ๆคือห้องฝั่งด้านหลังตึกชั้นบนๆได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ตอนเลือกซื้ออย่าสอบถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ
ทางขึ้นห้องตัวอย่างจ๊ะ
มองกลับมาด้านล่าง วันธรรมดาคนน้อยครับ
มาดูกันเลยดีกว่าห้องแรก STUDIO 21SQM เป็นห้องที่มีจำนวนห้องมากที่สุดของโครงการนี้ และมี Size เล็กสุดด้วย เอา Plan และการจัดวาง Layout ห้องจาก โครงการ ที่ IDEO MOBI ที่เคยได้รางวัล Interior Design ASIA PACIFIC PROPERTY AWARDS มาแล้วมาใช้ต่อ มาดูกันเลย
เข้ามาจากประตูความรู้สึกแรกคือ มองแว๊บเดียวทะลุยาวไปเห็นทั้งหมดของผังห้อง อ่อความสูงทุกๆType คือ 2.5 เมตรเท่ากันหมดนะครับ ถือว่าเป็นความสูงขนาดมาตรฐาน
ห้องนี้ว่ากันตรงๆผมว่าออกจะเหมาะกับคนอยู่คนเดียวแน่นอน ประมาณ นักศึกษาหรือคนทำงานเริ่มต้น ที่ชีวิตอยากสะดวกเดินทางไม่ยากด้วยรถไฟฟ้านั้นละใช่เลย เพราะการตกแต่งทุกอย่างถูกจัดมาให้เหมาะกับ 1-2 คนเท่านั้น ถ้าอยู่กันมากกว่านี้ ผมว่าอึดอัดแล้วล่ะ ไม่ควรอย่างยิ่ง ควรเลือก type อื่นเหมาะกว่าเยอะ
อย่างอะไรที่ขึ้นแขวนในแนวดิ่งกับผนังได้จะถูกจัดวางพื้นที่ผนังทั้งหมด เช่นส่วนของชั้นวาง ตู้เก็บของ จะไว้ส่วน TOPแทบทั้งหมด ประมาณอะไรจะกินที่ยกไว้ติดผนังให้หมดซึ่งก็ดีครับประหยัดได้จริงๆ
ผนังห้องเป็นกระจกเกือบเต็มผนังกั้นไว้มีกันขอบจากพื้นขึ้นมาราวๆ 15 ซม. ได้เรื่องวิวถ้าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณๆ ที่ีนี่เค้าจัดให้เต็มๆกันเลย ดูโปร่งดีครับ
ทั้งห้องครับแยกพื้นเปียกและแห้งออกมีกระจกครึ่งแผ่นกันเปียกไว้เท่านั้น อุปกรณ์ห้องน้ำไม่มีอะไรพิเศษออกจะธรรมดาไปซักนิดด้วยซ้ำนะผมว่า
ส่วนของเตียงและโซฟา ถูกวางไว้ต่อกัน โดยมีดต๊ะเขียหนังสือกับโต๊ะหัวเตียงกั้นไว้ โซฟาเป็นแบบ 2 ที่นั่งดูจะขนาดเหมาะสมกับห้อง size นี้
เตียงขนาด 5 ฟุตจะเหมาะกำลังดีหากใช้ เตียงใหญ่กว่านี้ อาจจะไปเบียดให้โต๊ะข้างเตียงต้องเล็กลง หรืออาจจะวางไม่ลงตัวได้ง่ายๆกันเลย
ห้องครัวมี patition กั้นไว้ ไม่ได้จัดวางให้มีประตูกั้นแต่อย่างใด อุปกรณ์เครื่องครัว มีทั้งซิงค์ล้างจานขนาดช่องเดียว วางอยู่ติดกันกับ เตาขนาด 2 หัว เป็นเตาไฟไร้ควัน สำหรับครัวทั้งหมดเป็นส่วนที่ได้พร้อมห้องนะครับ
ขนาดระเบียงเล็กมากจนไม่น่าจะวางอะไรได้ นอกจากของตกแต่งพวกต้นไม้หรือ โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็ก แต่จากห้องตัวอย่างที่เห็นเค้ายก คอมแอร์ไว้ติดผนังด้านบนประหยัดพื้นที่ด้านล่างไปได้ มองมาจากด้านนอกไม่เห็นเพราะมีระแนงปิดบังตาไว้ ผมว่าถ้าชั้นบนๆก็ไม่เห็นอยู่แล้วละจริงไหมครับใครจะขึ้นไปมองได้ละเนอะ 555 สรุปว่า Work ดีครับ
ห้องน้ำขนาดย่อมๆเลย อุปกรณ์ทุกอย่างยกติดผนังไม่ให้เกะกะพื้นที่ แบ่งส่วนเปียกและแห้งไว้โดยมีกระจกกั้น พื้นกระเบื้องแบบไม่เรียบกันเดินเปียกๆลื่นหัวแตก ใช้ได้จริงๆ อ่อประตูห้องน้ำไม่มีนะจ๊ะ อยู่สองคนใครเข้าห้องน้ำ อีกคนไม่รักกันจริงๆ อย่าอยู่ในห้องเลยจ๊ะ 555 เดี๋ยวหมดรักกันเปล่าๆ แนะนำให้เอาม่านติดหรือไม่ก็แจ้งกันตั้งแต่ก่อนเข้าอยู่เลยกับเซลว่ามีประตูได้ไหมก่อนซื้อครับ
พื้น เป็นลามิเนตลายไม้ทั้งห้อง ยกเว้นพื้นห้องน้ำและพื้นระเบียงที่ปูกระเบื้อง ลายเรียบๆไว้เท่านั้น แต่สะดวกกับเราเวลาเราเดินเปียกๆไม่ลื่น
รวมๆห้องนี้ สรุปได้ว่าเหมาะกับคนหนุ่มสาว วัยเรียนและทำงานมากกว่าจะอยู่กันเป็นครอบครัวแน่นอนครับ น้องๆนักศึกษา หรือวัยเริ่มต้นทำงาน ใช้ชีวิตคนเดียวหรือกับเพื่อน,แฟน ที่ไปมาโดยรถไฟฟ้าน่าจะมองไว้เป็นตัวเลือกที่ น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ จะผ่อนค่าห้องไว้ดีกว่าจ่ายค่าเช่าหอพักก็ไม่เลว ช่วงโปรโมชั่นเปิดตัวที่ผ่านมาเห็นราคาผ่อนดาวน์เริ่มกันที่ 999บาท/เดือนกันเลย ถูกเว่อร์มาก ไม่ทราบว่าตอนนี้โปรนี้หมดรึยังนะครับลองสอบถามกันดูดีกว่า ถัดไปจะพาไปชมห้อง One Bedroom ต่อกันดีกว่า
ของแถมห้องนี้มีชุดครัว Built in มาให้เสร็จอย่างที่เห็นพร้อมพัดลมดูดอากาศ + แอร์ 1ตัว
ห้อง One Bedroom ขนาด 30 SQM. เข้ามาปุ๊บประทับใจกว่าห้อง Studio แรกมาก
ดูโล่งโปร่งตากว่า แยกห้องนอนห้องนั่งเล่นชัดเจน แต่จากที่เห็นไม่มีประตูเปิดปิดกั้นห้องนะครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นห้องตัวอย่างรึเปล่า ก่อนซื้ออย่าลืมถามกันจะดีกว่า
เข้ามาปั๊ปซ้าย-ขวาเป็นครัวทันที มีส่วน ซิงค์และเตาไฟวางอยู่
มีตู้เก็บของเพิ่มขึ้นมาให้ ดูๆวัสดุของครัวดูดีขึ้นกว่าห้องแรกเยอะเลย
มองทะลุเข้ามาในห้องเจอส่วนรับแขกมีโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มีโต๊ะรับแขกพร้อมชั้นวางทีวีอยู่พื้นที่ดูโปร่งตากว่าอย่างเห็นได้ขัด
มองมุมนี้เห็นไปถึงระเบียงด้านในสุด ข้อดีและเป็นสิ่งที่น่าชมของ IDEO คือมีรั้วระเบียงซ้อนกระจกให้ถือเป็นเซฟตี้ที่ดีมากครับ
มีโต๊ะทำงานวางอยู๋ชิดผนังติดกับโซฟา วางเก้าอี้ได้สองตัว แต่ดูๆจะเบียดเกินไปนั่ง 2 คน จริงๆจัดโต๊ะใหม่ดีกว่า หรือเปลี่ยนโต๊ะที่ขาไม่ใหญ่เท่าไหร่และนั่งมุมคนนึงอีกคนนั่งตรงกลางอาจจะ Work กว่านะ
ห้องนี้ใช้ได้สำหรับผังห้อง และการจัดวาง เฟอร์ดูสบายตากว่ามากครับ ส่วนผนังด้านบนทำชั้นวางขอได้เยอะอยู่ แต่จะบอกตรงๆ ของแต่งห้องทั้งหมด ผมติดใจตู้เย็นยี่ห้อนี้สุดเลย ใครซื้อขอเซลเลยครับ คุ้มสุดๆแล้ว อิอิ
มองจากโซฟาออกไปที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้อง
เข้ามาดูห้องนอนกัน หน่อย อยู่ในแนวยาวขนานไปกับห้องรับแขก ผนังร่วมกัน ปลายสุดติดหน้าต่าง กระจกยังไม่เต็มแผ่นเช่นเดียวกับห้องแรก และก็ยกจากพื้นขึ้นมาเช่นกันครับ
เตียงวาง Size 6 ฟุตได้สบาย ปลายเตียงวางชั้นวางทีวีไม่ work ครับ ยกแขวนผนังไปเลยดีกว่าภาพนี้ถ่ายแนวตัดมองออกมาเห็นห้องรับแขก อ่อไม่มีประตูกั้นห้องนะครับ
ฝั่งหน้าต่างว่างโต๊ะทำงานขนาดย่อมๆไว้ ทำงานไปมองวิวไปน่าจะเพลินดี ข้างบนเหนือหัวขึ้นไปวางชั้นเก็บของได้ พอสมควร
มองจากเตียงย้อนไปประตูจะเห็นห้องน้ำและทางเข้าห้อง
มาดูห้องน้ำบ้าง ขนาดใหญ่ขึ้นจากแบบ studio กั้นส่วนเปียกส่วนแห้งไว้มีกระจกกั้น ชั้นวางและก๊อกน้ำวางมาเหมือนกันกับแบบแรกครับ มีช่องวางของพอๆกัน เสียดายน่าจะวางชั้นได้มากกว่าอีกสักนิด พื้นเป็นกระเบื้องแผ่นไม่เรียบ เดินเปียกๆไม่ต้องกังวล
ระเบียงเป็นส่วนที่ดีขึ้นเยอะเลย กว้างขึ้นพอจะจัดวางโต๊ะได้ เย็นๆนั่งจิบกาแฟชมวิวดูจะ Fin ดีทีเดียวจะนั่งทำมิวสิคก็ยังได้นะครับ
รวมๆห้องนี้ดีขึ้นมากกว่าห้องแรกทั้งผังห้องและการจัดวางลงตัวดีทีเดียว แยกส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ได้ด้วย ไม่อึดอัดเกินไป แน่นอนกับราคาที่แพงขึ้นเกิน 2 ล้านพอควร ต้องพิจารณาดูว่ารับได้ไหม และผมว่าห้องนี้ยังเหมาะกับการอยู่กัน 1-2 คนที่สุด ไม่เหมาะกับครอบครัวขนาดเกิน 2 คน จะอยู่กัน 2 คนแบบยังไม่มีลูกก็น่าจะใช่เลย
ของแถมห้องนี้ให้ ชุดครัว ของ mex พร้อมพัดลมดูอากาศและ แอร์2 ตัว สำหรับห้องนอน+ห้องนั่งเล่นครับ
สำหรับ Type สุดท้าย Two Bedroom ขนาด 45 sqm ขนาดนี้ละสะใจสุดแล้วละครับเหมาะกับครอบครัวที่สุด เป็นผมจะเลือกห้องนี้ ตอนถ่ายงานก็สนุกสุดแล้วด้วย ป่ะเข้าห้องกันดีกว่า
มองเข้ามาทะลุโปร่งโล่งตา fin สุดแล้ว มองไปสุดทางห้องนี้กับ one Bedroom วางการตกแต่งเหมือนกันคือมีโซฟาชุดรับแขกวางอยู่ปลายสุด
เปิดประตูมาปุ๊บเจอมุมโต๊ะกินข้าวและครัวเป็นอย่างแรก ห้องนี้ถ่ายงานสนุกครับ จัดวางตกแต่งห้องตัวอย่างได้สวยงาม มีพื้นที่จัดวางโต๊ะกินข้าวแบบ 4 คนได้ มีกระจกติดผนังช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นทันที
หากมีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนมุมนี้รับได้สบายๆ
ผนัง ด้านห้องครัวใช้แบบกระดานช้อคคล้ายพวกร้านอาหาร ร้านกาแฟที่นิยมนำมาตกแต่งกัน รวมๆทำเก๋และสร้างแรงบันดาลใจให้มากกว่าเป็นที่อยู่อาศัยเยอะเลย กระดานนี้ได้ผลนะผมว่า
เครื่องครัวและอุปกรณ์การตกแต่งบนโต๊ะ จัดไว้สวยเชียวละ คุณผู้หญิงที่ชอบทำอาหารดูแล้วน่าจะชอบครับ
ส่วน ครัวอยู่ในแนวเดียวด้านหลังชุดรับแขกให้พื้นที่ใหญ่สุดของทุกๆ Type วัสดุดีใช้ได้แบบเดียวกันกับห้อง One Bed ทั้ง ชุด แต่ต่อขยายตู้และชั้นวางขนาดใหญ่ได้มากขึ้น
ขนาดห้องนี้วางโซฟาเดี่ยวและคู่ได้อย่างละตัว หรือจะเพิ่มเดี่ยวเข้ามาอีกตัวก็ยังได้ รวมๆเค้าจัดวางพื้นที่ใช้สอยดีมาก ด้านหลังมองเห็น ซิงค์ล้างจาน เเบบหลุมเดียว มีเพิ่มเติมคือตู้บานใหญ่ติดผนังและตู้ใต้ ซิงค์
มองจากห้องรับแขกย้อนกลับไป ประตู
ห้องนอนมีเป็นห้อง Master ใหญ่ สำหรับครอบครัวห้องนี้เหมาะกับพ่อแม่แน่นอน ขนาดห้องจัดวางดีทีเดียว ปลายสุดห้องเป็นกระจกบานใหญ่ และเช่นเดียวกับทุกๆห้องกันขอบจากพื้นขึ้นมาไม่เต็มทั้งผนัง ข้อดีของทุกๆห้องคือเค้ามีรั้วกั้นอีกชั้นให้ ด้วยปลอดภัยขึ้นอีก ปลายเตียงจัดวาง Built-in วาง LCD TV ไซต์ตั้งแต่ 32 นิ้ว upได้สบายๆ
ห้องนอน Master ขนาดใหญ่ดี 6 ฟุตเป็นคำตอบสุดท้าย เหมาะสุดๆแล้วครับ
มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ๆ โต๊ะเครื่องแป้ง ให้พร้อมกระจกบานใหญ่ เวลาแต่งตัวส่องได้ทั้งตัวครับ
มาดูห้องลูกบ้าง ห้องขนาดดีทีเดียวไม่อึดอัด ลูกใช้ได้ตั้งแต่เล็กๆไปจนถึงตอนโตได้จริง โครงการตกแต่งแบบโล่งสบายตา เตียงนอนเดี่ยว มีโต๊ะเขียนหนังสืออยู่ข้างๆหัวเตียง พร้อมกระจกแผ่นใหญ่
จัดมาเต็มๆดีครับของตกแต่งสร้างจินตนาการสำหรับได้ดี การตกแต่งเนี่ยละสำคัญมาก เพราะพ่อแม่สามารถจินตนาการการใช้งานแทนเด็กๆได้
มาดูข้างนอกบ้าง ระเบียงให้มากว้างที่สุด จัดวาง โต๊ะเตี้ยเก้าอี้นั่งชิลลชมวิวได้สบายๆ และ Type นี้มีไม่กี่ห้องต่อชั้นและจะอยู่ตรงตำแหน่งห้องริมของทุกๆชั้นเท่านั้น วิวดีแน่นอนครับและแน่อนมีรั้วกั้นตกซ้อนให้ก่อนกระจกตรงนี้ถือเป็นความใส่ใจของโครงการดีมากครับ ขอชม
ประตูริมด้านในสุด มีประตูซึ่งทำเป็นห้องเก็บของ หรือ Com Air ได้ด้วย
ห้องน้ำจัดใหญ่สุดแยกพื้นที่แห้งเปียกเช่นเดียวกันกับทุกๆห้อง ได้เปรียบตรงมีพื้นที่กว้าง มีชั้นวางเสริมมาให้จัดวางของใช้กระจุกกระจิกกันได้ทั้งครอบครัว
สำหรับห้อง Two Bedroom ห้องนี้วัสดุดีที่สุด บางอย่างถอดมาจากห้อง One Bed แต่ขยาย size ให้มากขึ้น ตามขนาดของพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นตามไปด้วย มองไปพื้นที่ตรงระเบียงด้วยแล้วกระจกบานใหญ่ตรงนี้น่าสนใจ เพราะห้องนี้จะเป็นห้องมุมเท่านั้น ชั้นนึงจึงมีแค่ไม่กี่ห้องจากทั้ง 2 ปีก ในพื้นที่นี้จัดตกแต่งได้สบายมากครับ ทุกอย่างเหมาะสมกับครอบครัวที่พ่อแม่ลูก 3 คนกำลังดี มีพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน ห้องรับแขกกว้างกว่าแน่นอน มีโต๊ะกินข้าว และมุมทำอาหารได้ รู้สึกได้ว่าไม่มีความอึดอัดใดๆเลย ตกแต่งห้องตัวอย่างใช้ได้ดี วัสุดโอเค หันมามองที่ราคา 4ล้านกว่า ถือว่าสูงสมกับที่มีแค่ชั้นละ ไม่กี่ห้องเท่านั้น ราคาเปลี่ยนแปลงตามความสูง อันนี้ก็เลือกกันได้ตามวิว วิวมุมด้านที่ติดกับ Park Land ไม่แน่ใจครับว่าโดนบังหมดหรือไม่เพราะใกล้กันขนาดนี้ เวลาชมห้องตัวอย่างสอบถามเซลล์ให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ นะครับ
ของแถม
ห้องนี้ก็มากสุด มีชุดครัว ทั้งหมด พร้อมแอร์ครบทั้ง 3 ห้อง ลองพิจารณาราคาและความคุ้มค่ากันดู
หลังถ่ายงานเสร็จประมาณ 6 โมงเศษๆ ออกมาหน้า Sale Office รถเริ่มติดแล้ว เส้นทางคนฝั่งธนเส้นนี้ใช้กลับบ้านกันจนติดเป็นปรกติ อีกนิดจะเห็นว่าถนนด้านนอกกับด้านในหน้าคอนโด เกาะกลางถนนมีส่วนพอสมควรครับ
ผมเลยเดินเลยขึ้นไปทางแยกท่าพระ สังเกตุได้ว่ายังพอมี 7-11 ให้ฝากท้องได้อีกที่ นอกจาก Max Value ที่จะมาตั้งอยู่ใต้ตึกแล้ว ร้านอาหารข้างทางมีบ้างแต่ไม่เยอะ มีร้านอยู่ 2-3 ร้านให้พอฝากท้องกันได้ พื้นที่โดยรอบยังรอร้านรวงเข้ามารองรับได้อีก เพราะทั้ง 3 คอนโดรวมๆกันคนอยู่อาศัยเกิน 5,000 คนขนาดนี้ยังมีโอกาสเปิดได้อีกหลายธุรกิจสำหรับผู้อยู่อาศัยย่านนี้ในอนาคต
สรุปกันหน่อย
ทั้งสามห้องถือว่ามีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนนะครับ สำหรับห้องเล็ก Studio Size 21.5 sqm เหมาะกับนักศึกษา คนทำงานที่อยู่คนเดียวมากที่สุดหรือเต็มที่ก็สองคน ห้องนี้วัสดุที่ใช้ออกจะธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษนัก ระเบียงอาจจะเล็กไปนิดแต่ด้วยราคาเปิดตัวมา 1.9 ล้าน ยิ่งโปรโมชั่นตอนเปิดตัวกับราคาค่าผ่อนดาวน์ หลักพันด้วยแล้วผมว่าถูกมาก ก็ลองพิจารณาเป็นตัวเลือกกันดูหากจะคิดจะหาหอพักอยู่เอาค่าเช่ามาผ่อนคอนโดเป็นของตัวเองอาจจะน่าสนใจกว่าครับ
สำหรับห้อง One Bedroom 30 sqm ห้องนี้ออกแบบมาลงตัวกับพื่้นที่มากกว่าห้อง Studio มาก มีพื้นที่ของชีวิตที่จัดมุมเล็กๆให้ชิลล์สำหรับพักผ่อนหรือระเบียงที่ไม่เล็กเกินไป
และแน่นอนห้องนี้เหมาะทั้งนั้นสำหรับคนทำงาน นักศึกษา และคนที่มีคู่ จะอยู่กัน 2 คน ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นสัดเป็นส่วนได้อยู่ ราคา 2 ล้านปลายๆเป็นอะไรที่ต้องพิจารณากันดู
ห้องท้ายสุด Two Bedroom อันนี้ละว้าฮูจริง จริ๊ง ขนาด 45 sqm ห้องนอน 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 มีมุมโต๊ะอาหาร และระเบียงขนาดใหญ่ มีพื้นที่มากพอที่ ครอบครัวเล็กๆน่ารักๆจะไม่ต้องยืนเบียดกันชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆได้ 2-3 คนแบบนี้ละ เหมาะมากๆครับ เวลาที่อยากนัดเพื่อนมาเจอกันสังสรรค์ มุมรับแขกและโต๊ะกินข้าวก็ยังมีให้รองรับได้จริงแบบสบายๆ หรือหากคิดว่าเงินเหลือๆจะซื้ออยู่คนเดียว สำหรับห้องราคา 4 ล้านกว่าๆ ที่มีทุกอย่างนี้ ก็จัดให้ตัวเองได้เลยครับ
โครงการ IDEO สาธร-ท่าพระ เป็นอีกโครงการที่ราคาเริ่มต้นน่าสนใจ ด้วยทำเลที่มีศักยภาพการเดินทางจาก concept ของ ideo ที่สร้างคอนโดชิดแนวรถไฟฟ้าเท่านั้นด้วย เรื่องการเดินทางไม่ใช่ประเด็นเพราะสะดวกมาก ระยะทางเดินทางรถไฟฟ้ามาคอนโดไม่ไกล เกินไป 350 เมตรเดินได้สบายๆและหากเวลากลางคืนจะนั่งวินมอไซต์ผมว่าก็ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ใกล้ๆกันมีห้างที่เปิดมานานแล้วอย่าง The Mall ท่าพระอยู่ห่างออกไป ประมาณ 700 เมตร ก็ถือว่าเป็นแหล่งบันเทิงใกล้ๆที่นำมาพิจารณาได้ แต่จะว่าไปด้วยรถไฟฟ้าก็สามารถพาเราเข้าเมืองเส้นสาธร-พระราม 3 ได้ในเวลาไม่ถึง 20 นาที อยู่แล้ว ตรงนี้ถือเป็นข้อดีของทำเลย่านนี้ เดี๋ยวรถไฟฟ้าเสร็จทั้ง BTS และ MRT ที่กำลังจะตามมาก็ยิ่งเพิ่มศักยภาพการเดินทางเข้าไปอีก ลองพิจารณาด้วยตัวเองกันดูทั้งหมดเป็นมุมมองจากผมล้วนๆ อยากได้รายละเอียดกว่านี้ ต้องลองเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองดูครับ ซื้อบ้านยังไงๆ ต้องพิถีพิถันกันมากหน่อย
ก่อนลาเก็บภาพสวยๆของสถานีรถไฟยามโพล้เพล้ มาฝากครับ วิวแบบนี้ในเวลาที่เรารีบๆกัน อาจจะไม่ได้สนใจ…
แต่หากมองดีๆในเวลาที่คุณอยู่บนท้องถนนรถติดๆ จัดใจให้มีเวลาพักสักนิด ในช่วงเวลาอื่นๆมันก็งดงามด้วยตัวมันเองได้เช่นกัน ครับ อันนี้เพ้อๆก่อนลากันนะครับ
หวังว่ารีวิวนี้อาจจะช่วยให้คุณได้มองเห็นภาพรวมของที่นี่ก่อนจะตบเท้า เข้าไปดูด้วยตัวเอง หากชอบฝากกด like กันหน่อยถือเป็นกำลังใจของผมครับ ขอบคุณมากๆเลย
รายละเอียดของโครงการ : ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ คอนโดมิเนียม
ที่ตั้งโครงการ : ราชพฤกษ์ คลองสาน กรุงเทพมหานคร
บริษัทผู้ดำเนินงาน : Ananda Development ., Plc.
จำนวนอาคาร: 1 อาคาร
จำนวนชั้น: 31 ชั้น
จำนวนห้อง: 1,339 ห้อง
จำนวนที่จอดรถ: 454 คัน
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 53 ยูนิต
เนิ้อที่โครงการ : 5-3-19 ไร่
ร้านค้า : 5 ยูนิตชั้นล่าง (MaxValu Supermarket)
ลิฟต์ขนของ : 4 ตัว
บันไดหนีไฟ : 2 ตัว
ราคาเริ่มต้นของแต่ละ Type ตามนี้เลย
Studio ขนาด 21 ตร.ม. เริ่มที่ 1,932,000 บาท
One Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. เริ่มที่ 2,880,000 บาท
Two Bedroom ขนาด 45 ตร.ม. เริ่มที่ 4,365,000 บาท
ราคาต่อตารางเมตร : ประมาณ 100,000
คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558