มาถึงรีวิวที่เราอยากแนะนำ จะเที่ยวภูมิภาคคันไซ Kansai ไปโอซาก้า เกียวโต นารา วากายาม่าเฮียวโกะ ใช้พาสอะไรดี รีวิวที่ได้จากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเที่ยวภูมิภาคนี้หลายรอบแล้วละครับ แต่ก็ยังงงกับ พาสที่เยอะมาก ผมว่ามันชวนงงกว่าโตเกียวมาก ก่อนจะลงมาเที่ยวรอบนี้ ผมก็ยังต้องทำการบ้านอยู่ ระหว่างหาข้อมูลไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าสิ่งที่เราหามาน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนได้เลยเข็นเป็นรีวิวนี้ออกมา ทั้งเพื่อตัวเองเวลากลับมาอ่านจะได้ไม่งง และเผื่อคนอื่นๆได้อีกด้วย เอาล่ะ บัตรเหล่านี้น่าจะเป็นบัตรยอดนิยมของภูมิภาคคันไซนี้แล้วละครับ ลองอ่านกันดูนะครับ และแน่นอนจะแนะนำวิธีการซื้อประหยัดๆแบบออนไลน์ซื้อแล้วก็ส่งตรงมาให้เราทางเมล์หรือไปรษณีย์ได้เลย ไม่ต้องออกจากบ้านไปรับที่ไหน
มะมาดูกันเลยครับ
ก่อนเดินทางต้องมีอะไรบ้าง และพาสไหนบ้างใช้มาเที่ยวที่นี่ได้
เรื่องของเรื่องคือปีที่ผ่านมาผมมีแผนไปเที่ยววากายาม่าอยู่ในภูมิภาคคันไซ (Kansai) หลังจากไปเที่ยวโอซาก้าบ่อยๆ แล้วไหนๆแล้วหาข้อมูลมาเยอะมาก เลยเอามาเขียนเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยจะดีกว่าเผื่อคนอื่นๆเองก็อาจจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไปพร้อมๆกันนะครับ
สำหรับการเดินทางเที่ยว วาคายาม่า (Wakayama)ของเรารอบล่าสุดนี้ ผมใช้รถเช่าและรีวิวไว้แล้วด้วยไปตามอ่านจาก 10 สิ่งละอันพันละน้อย ก่อนจะพาครอบครัวขับรถเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง กันนะครับ แนะนำไว้ครบครับ จากนี้เป็นการเดินทางแบบรถไฟบ้าง สำหรับคนไทยแล้วการเที่ยวญี่ปุ่นดูจะเป็นการเดินทางที่นิยมสุดแล้วละครับ มะมาดูไปด้วยกันเลยครับผม
ผมเริ่มต้นจาก โอซาก้า (Osaka) โดยนั่งรถไฟออกมาจาก Kansai International Airport จากตรงนี้เราสามารถเลือกรถไฟได้หลากหลายมาก มีทั้งของ JR , Nankai,Hankyu และสามารถไปลงที่สถานีหลักอย่าง Osaka Station ได้เลยนะครับ(กรณีนอกจาก JR ก็จะลงในสถานีของบริษัทนั้นๆแทน ซึ่งก็อยู่ในบริเวณใกล้ๆกันหมดล่ะ) อยากเร็วหน่อยก็เลือกขบวน Express มา จะแวะน้อยหน่อย กรณีเราจะไปวากายาม่าก็ใช้เวลา 1 ชม.ก็จะถึงสถานี Wakayama Station แล้ว
อ่อ ตอนเราเที่ยวอยู่ในโฮซาก้า เราก็เลือก Pass กันอยู่นาน ว่าควรจะใช้อะไรดี เพราะ พาสที่นี่ช่างเยอะกว่าโตเกียวอีก บาง พาสก็ใช้ไปที่เดียวกันได้ บางพาส ก็ไปไม่เท่ากัน เอาว่า เราแนะนำจากที่เคยมาแล้ว อาจจะไม่ครบหมดแต่ เอาที่ใช้จริงๆ กับทำการบ้านมาบอกแล้วกัน
Kansai Area Pass : พาสเก่าแก่ดังเดิมของ JR มีเป็นอันแรกๆ มีแบบ 1,2,3,4 day ให้เลือกช้อปกันตามวันที่อยากใช้ ซื้อได้ทั้งในไทย และในญี่ปุ่นแต่ราคาจะแพงกว่าซื้อจากไทยไป
แต่ยังใช้ได้ดีมากหากคุณ เที่ยวที่หลักๆในโอซาก้าและ จังหวัดใกล้เคียงอย่าง เกียวโต , นารา, โกเบ , เลยไปสุดป้ายทางเหนือก็ Tsuruka และลงใต้สุดก็ที่เราจะพาไปเที่ยวคือ วากายาม่า นี่เอง สำหรับพาสนี่เราแนะนำสำหรับคนชอบเที่ยวที่หลักๆ ไม่ออกนอกเส้นทางไปไกลๆ มากนัก เพราะตัวพาสจะเน้นสถานีหลักเท่านั้น โปรดดูตาม linkนี้ได้ จะเห็นว่าครอบคลุมสถานีหลักของทุกจังหวัดไว้หมดแล้ว ที่นี่เลย
ข้อดี: ตัวพาสนี้ใช้นั่ง JR เข้าเมืองจากสนามบิน Kansai ได้ โดยเฉพาะ express Haruka วิ่งยาวจากสนามบินเข้าเมืองได้เลย รวมถึง รถไฟใต้ดิน บนดินของ JR ทั้งหมดในโอซาก้า และเมืองอื่นๆได้เช่นกัน
ข้อด้อย: นั่งที่นั่งจองไม่ได้นะครับ ต้องเสียตังเพิ่ม แต่เอาจริงๆก็ไม่ได้ยากอะไร ที่นั่ง None Reserved น้อยกว่าอยู่นะ ผมไปก็หาที่นั่งสบายๆ อีกอย่างนั่ง Shinkansen หรือรถไฟความเร็วสูงก็ไมไ่ด้เช่นกัน อ่อข้อด้อยอีกอย่างพาสนี้ไม่เหมาะหากคุณมีแผนจะใช้ไม่ต่อเนื่องติดๆกัน เพราะเปิดแล้วต้องใช้ต่อกันเลยเท่านั้นเพราะงั้นตอนซื้อให้วางแผนจำนวนวันให้ดีครับ
สรุป เหมาะกับเที่ยวที่หลักๆ ที่ติดกันกับสถานีหลักของ JR ทุกจังหวัด แต่ถ้ามีแผนจะเดินทางลงลึกในพื้นที่จังหวัดใดจังหวัดนึงมากหน่อย(เว้นโอซาก้า เพราะเอาจริงๆ มันก็ครอบคลุมที่นี่เยอะสุดนะ) หรือเน้นสถานีเล็กๆ ต่อบัสด้วย อันนี้ไม่แนะนำเพราะต้องเสียตังเพิ่มแน่นอนครับ
*** Hilight
– รถไฟขบวนท้องถิ่น JR (local JR trains)ภายในภูมิภาคคันไซ ได้แบบไม่จำกัดรอบ ครอบคลุมพื้นที่ โอซาก้า นารา เกียวโต โกเบ สนามบินคันไซ และฮิเมจิ
– ใช้ขึ้นรถบัส local JR เดินทางระหว่างสถานีเกียวโต ทาคาโอะ และ Shuzan
– จากสนามบินคันไซ ไปเเกียวโตด้วยรถไฟ Haruka Kansai Airport Express
ราคา: เริ่มที่ 1 day 2,200 Yen ไปจนถึง 4 day 6,300 yen อ่านรายละเอียดและเงื่อนไขได้ที่นี่นะครับ ซื้อได้ทั้งในไทย และในญี่ปุ่นแต่ราคาจะแพงกว่าซื้อจากไทยไป
———————————————————————–
รายละเอียดและราคานะครับที่นี่เลย >>> http://bit.ly/2De5cuX
———————————————————————–
Kansai Wide Area Pass : พาสที่ตามออกมาสำหรับคนที่เน้นเที่ยวจุดเล็กจุดน้อย ออกมาไกลขึ้นกว่า โอซาก้า เพิ่มจำนวนสถานีย่อยๆของ JR เข้าไปและชอบอยู่นานๆในจังหวัดใดจังหวัดนึง
ข้อดี: หากอยากนั่ง Shinkansen Pass นี้เป็นคำตอบสุดท้าย และเที่ยวลงสถานีย่อยๆได้มากขึ้นจากการเดินทางใช้ Local Train ได้มากขึ้นเหมาะสำหรับคนเที่ยวนาน เพราะพาสนี้มีแบบเดียวเท่านั้นคือ 5 day และเป็นแบบใช้ต่อเนื่องเท่านั้น เหมาะมากหากจะมาเที่ยว Wakayama แบบเจาะลึกเพราะมันลงมาได้ลึกจริงๆนั้นละ ครอบคลุมสถานีหลักของ JR ไว้หมดแล้วในจังหวัดนี้ หรือจะไป จังหวัดอื่นๆ ก็เข่นกันทั้ง เกียวโต,นารา,โกเบ,วากายาม่า อ่อและยังใช้นั่งมาเที่ยว นอกเมืองหลักไกลๆอย่าง Okayama ได้ด้วย ซึ่งพาสแรกมาไม่ได้จบแค่แถวปราสาท Himeji เท่านั้นจ๊ะ
ข้อด้อย: เที่ยวระยะสั้นไม่เหมาะเพราะมันมีแบบ 5 วันเท่านั้นแพงกว่าแบบแรก แถมยังต้องใช้ต่อเนื่องกันอีกแยกวันใช้ไม่ได้ด้วย
สรุป: เหมาะกับสายเที่ยวนาน เจาะลึกจังหวัดนั้นๆ หรือย้ายเมือง ย้ายจังหวัดบ่อยก็ได้แต่ต้องใช้ Local Train เยอะเช่นกัน
*** Hilight
– เดินทางอย่างไม่จำกัดด้วยรถไฟในเครือ JR รวมไปถึงที่นั่งประเภทไม่จองล่วงหน้าบนรถไฟชินคันเซ็น Sanyo
ระหว่าง Shin-Osaka และ Okayama (รวมรถไฟ Nozomi และ Mizuho)
– สำรวจเมืองนารา, โกเบ, และโอซาก้า ไปจนถึงโอคายาม่า
– เที่ยวที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น เช่น ปราสาทโอซาก้า, ศาลเจ้าอิคุตะ, สวนสนุก Universal Studios Japan
ราคาเดียวเลย 5 day 9,000 yen ใช้แบบต่อเนื่องเท่านั้นเว้นวันไม่ได้
รายละเอียดและราคาที่นี่เลยครับ >>> http://bit.ly/2EswwXz
———————————————————————————-
มาถึง Pass สุดท้าย Kansai Thru Pass .
คำถามสุดฮิตสำหรับ pass นี้คือ kansai thru pass นั่งรถไฟอะไรได้บ้าง? มะมาลองอ่านกันดูนะครับ
ข้อดี:บัตรนี้สำหรับเราขอเรียกว่าบัตรพระเอก (นอกสายตา) คือเพราะคุณสมบัติมันคือ ไปได้ทั่วทุกภูมิภาคคันไซแถมมีจังหวัดอื่นๆเพิ่มเติมมา (Osaka , Hyogo , Kyoto , Nara , Wakayama และ Shiga) แต่ต้องไม่ใช่รถไฟของ JR นั้นเอง แต่ก็ใช้ของเอกชนทั้งหมดได้แทน รวมถึง รถไฟใต้ดินของ บ.เอกชนนั้น บัสที่ร่วมด้วยก็ได้หมด รถรางก็ยังได้ เลยไปถึงบัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยวก็ได้ด้วย เห็นไหน พระเอ๊ก พระเอก เนอะ ฮ่า ฮ่า
จะบอกว่าภูมิภาคนี้ รถไฟหลัก อย่าง JR ถือว่าด้อยกว่าของเอกชนรวมกันเพราะหลายๆ ที่มันใช้ร่วมการเดินทางกับบัสแล้วไม่เสียตังด้วยนั้นเอง เส้นทางเอาจริงๆ ก็ครอบคลุมหมดแล้ว เว้นก็แต่บางจุดในเมืองใหญ่ มันต้องเดินอ้อมหรือไกลขึ้นบ้าง แต่ขอแนะนำให้เราวางแผนการเดินทางก่อนจะไปจะได้เช็คได้ว่าจุดที่ไปรถไฟอะไรใกล้สุดครับ อ่อ อีกอย่างมันไม่ต้องใช้ต่อเนื่องกันได้ด้วยอันนี้ดีจริงๆ
ข้อด้อย:มันใช้ JR ไม่ได้ Shinkansen ไม่ได้นั้นเอง (เอาจริงๆซื้อพาสนี้ก็แสดงว่าเราไม่ได้จะใช้กับ jr นั้นเองจ๊ะ)
สรุป เป็น พาสที่มีข้อดีกว่าข้อเสียในสายตาเรา เพราะสถานที่เที่ยวหลักๆ ไปได้บางจุดเดินไกล แต่บางจุดก็เดินใกล้ และยังใช้เป็นส่วนลดเข้าไปได้อีกนะ ที่สำคัญไม่ต้องใช้ต่อเนื่องก็ได้ด้วย
*** Hilight
– สามารถเดินทางทั่วภูมิภาคคันไซ ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่โอซาก้า ไปถึงเกียวโต โดยสารรถบัสและรถไฟได้เกือบทุกสายแบบไม่จำกัดเที่ยว
– ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรติดต่อกัน เลือกวันใช้ได้ภายในอายุการใช้งานของบัตร ไปเที่ยวสถานที่ขึ้นชื่อของเกียวโตและโอซาก้าได้ง่ายๆ เช่น วัดคินคะคุจิ และวัดคิโยมิสึเดระ เป็นต้น
ราคา: มี 2,3 day เริ่มต้น 4,000 – 5,200 yen ซื้อได้ทั้งในไทยและสนามบินร่วมถึงสถานีรถไฟหลักๆทั้งหมดที่มี office
————————————————————————————-
ดูรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมรวมถึงราคาได้ที่นี่เลย >>> http://bit.ly/2MemYBj
————————————————————————————-
Osaka Amazing Pass บัตรเบ่งใบเดียวทั้งรถไฟใต้ดิน บัส รถราง เข้าสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ส่วนลดเข้า อควอเรี่ยม เดินห้างรับส่วนลดซื้อของ เอาว่าใบเดียวเที่ยวโอซาก้าโคตรคุ้มเลย
ปราสาทโอซาก้าเข้าฟรีจ้า
เราใช้เข้า Lego Land ที่โอซาก้าได้ด้วยนะเออ คุ้มมากบอกเลย
ข้อดี: อย่างที่บอกไปใบเดียวเที่ยวเช้าจรดค่ำในโอซาก้าได้หมด คุ้มมากหากใช้การเดินทางสาธารณะในโอซาก้า แบบไม่เลือกค่ายด้วย จะ JR หรือเอกชน ก็ได้หมด ยิ่งสมมุติถ้าคุณเลือก พาส ของ JR การใช้คู่กันประกบกับ Amazing Pass ในโอซาก้าคือการปิดจุดอ่อนของบัตร JR ทันที!!
ข้อด้อย: ไม่มีอ่ะ อย่างที่บอกเว้นแต่คุณเลือกใช้ Thru Pass ก็อาจจะซ้ำซ้อนกันในหลายๆมุมนะ แต่มีมันไว้แค่ขึ้นรถไฟใต้ดินซัก 5 เที่ยวไปกลับก็คุ้มแล้ว ราคารถไฟใต้ดินในโอซาก้าจะเริ่มที่ 120 yen โดยประมาณ จะไม่คุ้มก็คือเราไม่ได้ใช้เลย
สรุป เหมาะกับคนมี JR แล้วอยากเที่ยว กิน ช้อปฯ ในโอซาก้า เดินทางสะดวก มีส่วนลด แถมมีให้เลือกตั้งแต่ 1 วัน ถึง 2 วัน
ราคา: มีแบบ 1 day-2 day pass ราคาเริ่มต้น 2,500 yen-3,300 Yen
สถานที่แนะนำให้ไปใช้ ได้ฟรีๆ
– ปราสาทโอซาก้า
– พิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Museum)
– พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์โอซาก้า (Osaka Science Museum)
– ชิงช้าสวรรค์ HEP Five (HEP Five Ferris Wheel)
– ชิงช้าสวรรค์ เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel)
– หอคอยซึเท็นกะกุ (Tsūtenkaku)
– อาคารอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building)
– บ่อน้ำร้อนออนเซ็น ซูมิโนเอะ (SPA SUMINOE)
– เลโก้แลนด์ (Lego Land)
รับส่วนลดและสิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ เช่น
– หอคอยฮารุคัส
– Pirate of Osaka
– เรือครูซ
– หอศิลป์ และ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ
•ใช้รถไฟ รถราง และรถประจำทางได้ไม่จำกัดเลยครับ คุ้มสุดๆ
————————————————————————————-
สามารถดูรายละเอียดและราคาปัจจุบันได้ที่นี่เลย >>> http://bit.ly/2Sc9ic8
————————————————————————————-
กำไรสายรัดข้อมือแบบ VIP เข้า USJ ก่อนใครแถมด้วยได้ขึ้นตึก Abeno Harukas 300 ด้วย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
แถมท้ายสักนิดครับ เราซื้อบัตร USJ (Universal Studio Japan) จากที่นี่เช่นกันราคาก็ไม่ต่างกับเจ้าดังๆ แต่ๆ ข้อดีเลยคือเค้าขายพร้อมกับบัตรขึ้นไปชมวิวตึกที่สูงสุดของญี่ปุ่น
เรื่องของเรื่องเกิดจากที่เราหาบัตรพาสแบบรวมเครื่องเล่นที่ต้องการไว้ไม่ทัน ทำให้เราต้องซื้อบัตรเข้าแบบเครื่องเล่นที่เราเฉยๆ (คือตัวที่ทุกคนอยากเล่นกันแน่นอนต้องมี Harry Portter ด้วยแต่เราหาไม่ได้) ทำให้เราต้องมองหาวิธีการเข้าไปเล่นให้ไวที่สุดแทนและบังเอิญเราก็มาเจอบัตรนี้ใน KKDAY ตอนสอยมาก็คิดนะมันจะเข้าก่อนได้จริงไหม
แต่พอสุดท้ายเราไปถึงกันราวๆ 8 โมง แค่ลงรถไฟก็ตกใจแล้ว คนมายืนรอกันก่อนหน้าเราอีกจนแถวยาวมาก เล่นเอาใจแป้วเลย สุดท้ายพอเราสังเกตุแล้วโชว์ Wrist Band สายรัดข้อมือที่ได้จากเว็บส่งมา เค้าจะแยกแถวออกมาต่างหากเลย เป็นแถวแบบ VIP ครับ สั้นกว่ากัน 3 เท่า!!
และยังได้เข้าก่อนทุกคนที่ซื้อบัตรปรกติมาเพราะประตูจะเปิด 9.00 น. เราเข้าไปรอชั้นประตูด้านในได้ตั้งแต่ 8.30 น. และสุดท้ายก็สามารถเดินกึ่งวิ่งไปเข้าคิวเล่น Harry ได้เป็นชุดแรกเลย เอาว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
โชว์ต่างๆทั้งวันใน USJ ก็เป็นอะไรที่ห้ามพลาดหากจะเข้าไปเล่นแล้วนะครับ มีแจ้งเป็นรอบๆไว้ด้วย
ตึก Abeno Harukas 300 Observatory ตึกสูงที่สุดในญี่ปุ่นและเราขึ้นไปเที่ยวได้จาก VIP Wrist Band & Ticket
แถมสุดท้ายตกเย็นๆ เรากลับมาโอซาก้า เพื่อไปชมวิวบนยอดตึกที่ว่ากันว่าสูงสุดแล้วในญี่ปุ่นคือ ตึก Abeno Harukas 300 Observatory ที่มีหอชมวิวสูงถึง 300 เมตร ขึ้นไปนี่ประทับใจผมสุดๆเลย ปันก็ชอบมากทีเดียวละ
คือราคาปรกติถ้าเราซื้อออนไลน์จะขายกัน 1500 yen ก็ราวๆ 350-370 บาทขึ้นอยู่กับค่าเงินช่วงเวลานั้นล่ะ แต่ตัวกำไร VIP ตัวนี้ไม่มีขายแยกทั่วๆไปนะครับ เท่าที่หาเองมาสุดท้ายเราเลยเลือกซื้อทั้งคู่ตกอยู่ราวๆ 800 บาทนิดๆ ก็คือคุ้มค่าจริงจังเลย โดยรวมต้องบอกว่าประทับใจกับ KKDAY มากครับ
————————————————————————————-
>> ดูรายละเอียดและซื้อได้ที่นี่นะครับ http://bit.ly/2sxEtDD
————————————————————————————-
สำหรับเว็บที่เราเกริ่นะแนะนำมาตั้งแต่แรก และเราก็ใช้ในการหาซื้อบัตรต่างๆเหล่านี้คือ เว็บ kkday.com เว็บที่รวมตั๋ว Package Tour และสารพัดบัตร ของถูกไว้มากมายมหาศาลทั้งหมดที่เราแนะนำเหล่านี้เราก็ซื้อจากเว็บนี้ทั้งหมดและก็ซื้อมาหลายปีแล้ว เพราะงั้นการันตีว่าดีจริงครับ เมื่อก่อนจะยากหน่อยที่เค้าไม่มีเว็บภาษาไทย ปัจจุบันเค้ามาเปิดทำการในเมืองไทยมีภาษาไทยเรียบร้อยก็ทำให้สื่อสารกันง่ายหน่อย หลักๆ ข้อเสียมีนิดเดียวคือไมเหมาะหากเป็นการซื้อแบบกระชั้นชิด เช่นจะเดินทางพรุ่งนี้ มะรืน มาซื้อวันนี้ แบบนี้ไม่แนะนำครับ ให้เวลาตามที่เค้าระบุมาจะดีสุด และบางช่วงเวลาเค้าจะมีโปรโมชั่นออกมาทำให้เราลดราคาลงได้อีก 10-15% ยังได้เลย กับบัตรรถไฟบ้าง หรือบัตรเข้านู้นนี่ต่างๆ รวมๆเราประทับใจดีครับ
อีกอย่างเว็บเค้าเราว่าเค้าทำดีนะ ด้วยข้อมูลประกอปที่สามารถเอามาใช้ได้ในการวางแผน และเขียนแนะนำเส้นทางต่างๆได้ดีทีเดียว สนใจก็เข้าไปดูกันนะแนะนำครับ
จบแล้วนะ บทความแนะนำจากประสบการณ์จริงการใช้ Pass ต่างๆในโอซาก้า และจังหวัดในภูมิภาคคันไซ จริงๆมันมีพาสเยอะกว่านี้มากชวนงงกว่านี้อีก แต่เนื่องจากไม่ได้ใช้หรือไม่ได้หาข้อมูลไว้เลยยากจะตอบได้ชัดๆนะครับแต่เฉพาะสามตัวนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับทริปคันไซแล้วละครับ