รีวิวแรกของทริป ยุโรปแฟมิลี่ทริปตอนแรก ขอวีซ่าเช้งเก้นท่องเที่ยวเยอรมันยังไงได้ 2 ปี อย่างที่จั่วหัวไว้เลยครับ ปีนี้เป็นอีกปีที่ผมกลับมาเที่ยวยุโรปใน Big Trip ประจำปีของตัวเอง รอบนี้เป็นการไปถึง 3 ประเทศเป็นครั้งแรกด้วย คือ เยอรมัน ออสเตรีย อิตาลี (ประเทศประทับใจทั้งดีและร้ายของผมเอง ต้องพ่วง อิตาลี ด้วยเสมอ อารมณ์คือไม่เข็ด ฮ่า ฮา)
ผมอาจจะต้องขอออกตัวก่อนว่า ตัวเองไม่ใช่กูรูนะครับ และอาจจะไม่บอกครบแบบจับมือกรอกที่ละสเต็ปขนาดนั้น เพราะคิดว่าวิธีการทำละเอียดมีในเว็บไซต์ของ VFS และ สถานกงศุลเยอรมันแล้วนะครับ
ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะทำหลังจากกลับมาก่อนและไล่ขียนเป็นตอนๆ ไปแต่รอบนี้เห็นว่าเป็นกรณีที่น่าจะทำให้คนอื่นๆ ได้ประโยชน์ด้วย เลยตัดสินใจเขียนเล่ากันฟังก่อนนะครับ อ เพราะพึ่งได้วีซ่ามาหมาดๆ รอบนี้ตั้งใจเขียนเพื่อต้อนรับครั้งล่าสุดที่ได้วีซ่านานถึง 2 ปี เกินคาดไปเยอะเลยทีเดียว ผมจะไม่อารัมภบทมากนัก แต่จะเข้าเรื่องให้ทุกคนเลยดีกว่า
ทำวีซ่าเช้งเก้นกับเยอรมันปี 2019 ได้ที่ไหน ?
หลังจากขอวีซ่ามาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เคยหยิบมาเล่าเลย และทั้งสามครั้งก็เป็นการขอ กับประเทศไม่ซ้ำด้วย ปีนี้ไปลงเครื่องเยอรมันเป็นที่แรกและกลับเยอรมัน ก็ไม่มีประเด็นที่จะไม่ขอประเทศนี้ ปัจจุบันนี้ การทำวีซ่าของเยอรมัน ได้ย้ายจากสถานกงศุลเยอรมัน มาเป็นศูนย์รับยื่นวีซ่า VFS Global ที่ตึกจามจุรีสแควร์ ที่แยกปทุมวัน ชั้น 4 ครับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2019 แล้วเรียบร้อย
เวลาทำการ: จ-ศ 08.00-17.15 น.
เว้นวันหยุดและวันหยุดนักขตฤกษ์
ทำวีซ่าเช้งเก้นแบบท่องเที่ยวใช้เงินเท่าไหร่ (ปี2019)
ผมยื่นเอกสารแบบทำเองทั้งหมดนะครับ ไม่ใช้ตัวช่วยใดๆ ทั้งนั้น แบบพรีเมี่ยมก็ไม่ได้ใช้ สรุปแบบนี้ได้ครับ
ค่าธรรมเนียมยื่นเอกสารวีซ่า
ผู้ใหญ่ 2200
เด็ก 1300 บาท
ค่าธรรมเนียม VFS 550 บาททั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่
ค่ารับ SMS 60บาท
ค่าส่ง EMS (ผมไปรับเองเลยไม่ได้ถามไว้ครับ)
เท่ากับว่า เราจะเสียเงิน ต่อคน 2750 บาท/ผู้ใหญ่ และ เด็ก 1850 บาทนั้นเองครับ
ส่วนค่าอื่นๆเช่นบริการพรีเมี่ยมสำหรับการจัดการเอกสาร ผมจะไม่ทราบเลยครับ เพราะไม่ได้ใช้
ยื่นแล้วใช้เวลานานไหม จะ 15 วันทำการตามที่ระบุไหม ?
เอาจริงๆ ทีแรกคิดว่า สัก 1 สัปดาห์ได้ก็ดีใจแล้ว แต่นี่ 3 วันได้เลย ตกใจมาก ผมยื่นวันอังคาร พอวันศุกร์บริการ sms ส่งมาแจ้งว่าให้ไปรับเอกสารได้ ทั้งดีใจทั้งลุ้นเลย
ก่อนจะยื่นวีซ่า ต้องนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้นไหม ? และต้องยื่นล่วงหน้าเร็วสุดกี่วัน?
ใช่เลยครับ ไม่สามารถ WALK IN เข้าไปทำที่ศูนย์รับเรื่องดื้อๆ ได้เลยนะครับ และสามารถยื่นล่วงหน้าได้ก่อนไม่เกิน 90 วันนับจากวันเดินทางครับ
เช่น เดินทางวันที่ 30 ตุลาคม นั้นแปลว่าเราสามารถยื่นได้เร็วสุดคือวันที่ 1 สิงหาคมนั้นเองครับ นับไปนะครับ
สำหรับทางไปกรอกข้อมูลนะครับ ทางนี้เลย
กดเข้าไปแล้ว เราต้องสมัครให้เรียบร้อยก่อน จะเจอหน้าตาแบบนี้ละครับ .
จากนั้นพอสมัครแล้วเรียบร้อย เว็บจะพาเราเข้าไปสู่การกรอกเอกสารส่วนตัว จนครบนั้นเอง หน้าตาจะประมาณนี้เลยครับ
สำหรับเมนูด้านซ้ายจะเป็นการจัดการ เราสามารถมาเปลี่ยนแปลง,แก้ไข,ยกเลิก, ตารางนัดหมายทั้งหมดได้เอง
กรณีสมัครแล้ว สามารถLOGIN เพื่อเช็คสถานะเองได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับการกรอกข้อมูลเพื่อยื่น ผมมีทริคนิดนึง อันนี้อ่านวิธีการมาอีกทีนะครับเลยทดลองทำหนนี้
คือการกรอกตรงประเภทการเดินทาง ให้เรากรอกไปเลยว่า การเดินทางเข้าออกหลายครั้ง (แม้จะเป็นการไปแค่ครั้งเดียวก็ตาม)
กรณีไปเที่ยวแค่ประเทศเยอรมันแค่ประเทศเดียว แต่ถ้าอยากได้มากกว่าแค่ระยะเวลาที่เราไป ก็ยิ่งต้องกรอกตรงนี้เข้าไปด้วยเช่นกันครับ
ในฟอร์มเค้าจะระบุไว้แค่ไม่เกิน 3 ปี สำหรับการกรอก visa ครั้งสุดท้าย แต่ถ้าเราเกินไปแล้ว ผมก็ยังแนะนำให้กรอกไว้ดีกว่า
เพราะสุดท้ายก็เป็นหลักฐานว่าเราเคยมาแล้ว อาจจะมีผลกับคนพิจารณาได้อยู่ดีครับ
กรณีเคยขอวีซ่าเช้งเก้นมาแล้ว เค้าจะให้เราระบุ วันที่ได้ยื่น วันที่เริ่มและวันสุดท้ายของที่ได้รับการอนุญาติ เข้าและออกจากประเทศนั้นๆ
ส่วนนึงที่ทำให้เราได้วีซ่าเยอะก็น่าจะเป็นข้อนี้ด้วย
มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้วครับ สำหรับ ขอวีซ่าเช้งเก้นท่องเที่ยวเยอรมันยังไงได้ 2 ปี ตามเรามาเลยครับ
เอกสารประกอปการยื่นขอทำวีซ่า
ก่อนอื่นให้เราเข้าไป Print ที่หน้านี้นะครับ รายการตรวจสอบเอกสาร – วีซ่าเชงเก้นท่องเที่ยว
ทุกอย่างที่อยู่ในหน้านี้สำคัญหมด มีทั้งหมด 15 ข้อที่เราต้องรู้ กดโหลดจากlink ด้านบนนะครับ
ผมขอไม่เอาทุกข้อมาบอกกันนะครับเพราะสามารถอ่านกันเองได้อยู่แล้ว อีกอย่างเอกสารอาจจะมีการอับเดตข้อมูล ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าเพราะงั้นอาจจะไม่ตรงกับที่ผมกำลังเล่าในอนาคต เพราะฉะนั้นกดไปดูกันเองจะชัดเจนกว่า ผมแค่อยากไกด์ให้ทราบเฉยๆ แต่จะเน้นข้อที่คิดว่าเป็นจุดที่ทำให้เราได้วีซ่าจากการประเมินของตัวเองล้วนๆ แล้วกันครับ
หลังจากหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้ว มีหลากหลายคำตอบมาก มีทั้งที่ตรงกับผม และไม่ตรงกัน สรุปง่ายๆเองเลยว่า “ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกงศุลครับ” อันนี้เป็นคำตอบจากเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ VFS ตอบผมเอง ซึ่งถือว่าเป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือสุดแล้วครับ เพราะจริงๆ มันก็เป็นแบบนั้นละครับ เราไม่สามารถไปกะเกณฑ์ใดๆได้เลย
***เอกสารที่ใช้ยื่นไม่ต้องแปล มีให้อ่านเป็นภาษาไทยแทบทั้งหมด และสามารถกรอกเป็นภาษาไทยได้ เว้นตรงข้อ 2 ครับ จึงง่ายมากสำหรับเยอรมัน
ข้อ 2 ตรงฟอร์มข้อมูล:
เอกสารที่เราจำเป็นต้อง พิมพ์ไปยื่นนะครับ พร้อมเซ็นให้ตรงกันกับลายเซ็นในพาสปอร์ต
2.1 ข้อกฎหมายที่ต้องทราบในการยื่นวีซ่าตามมาตรา 54 วรรค 2 ข้อ 8 และมาตรา 53 :
ส่วนเอกสารที่เค้าแค่แจ้งไว้เพื่อทราบ จะพิมพ์มาอ่านให้เข้าใจก็ทำได้แต่ไม่ต้องพิมพ์ไปยื่น ก็คือ
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูล:
2.3 ใบเสร็จที่ลงนาม: ข้อมูลเกี่ยวก ับกฎหมายคุ้มครองข้อมูล:
ข้อ 3. รูปถ่าย2 ใบขนาด 3.5 ซม x 4.5 ซม:
ตรงนี้มีผิดกันหลายคน ทางเจ้าหน้าที่ VFS เองก็บอกกับผมเองตรงๆ ว่า เค้าใช้เครื่องแสกนใบหน้าในการตรวจพิจารณา บางครั้งก็ผ่าน บางครั้งไม่ผ่าน เพราะฉะนั้น ให้เราแจ้งตอนไปถ่ายรูปเลยว่าขอรูปตามนี้เลย เพราะเป็นเอกสารที่ออกมาโดยตรงจากตัวสถานกงศุล ล้วนๆ ครับ ให้หน้าใหญ่ และขอบล่างรูปแค่ตรงคอเท่านั้น ชัดใหญ่มากครับ ตอนไปทำที่ร้านถ่ายรูป แจ้งว่าเป็นวีซ่าเยอรมันร้านจะทราบ แต่เพื่อความไม่ประมาทเปิดขนาดให้ร้านดูด้วยจะดีกว่ากันพลาดครับ เพราะ ขนาดของรูปในการยื่นวีซ่าก็จะเท่ากัน ต่างกันตรงขนาดใบหน้าของเราเท่านั้น เพื่อความชัดเจนครับ
ข้อ 5.หนังสือเดินทางฉบับสำเนา:
- สำเนาหนังสือเดินทาง(หน้าที่มีข้อมูลส่วนบุคคล) 2 ชุด
- สำเนาวีซ่าเชงเก้นที่เคยไดร้ับคร้ังก่อน 1 ชุด
ตรงข้อหลังนี้ละครับ ที่อยากให้ทำเพื่อให้แน่ใจว่าเราเคยได้มาแล้ว ให้ถ่ายสำเนาหน้า VISA ที่เราเคยได้มาก่อนแม้ว่าจะเกินกำหนดเวลาขั้นต่ำ 3 ปีที่ทางศูนย์กำหนดมาก็ถ่ายไปเถอะครับแนบไปเลย ผมเคยได้ 2 ครั้ง ผมแนบทั้งสองครั้งเลย ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงว่าชั้นอยากได้จริงๆ นะ 55
ข้อ 7. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ:
จริงเค้าระบุไว้ในเอกสารว่า” เอกสารการจองตั๋ว เครื่องบินจะต้องระบุชื่อผู้สมัคร (ตรงตามหนังสือเดินทาง) หมายเหตุ:กรุณาอย่าซื้อตั๋วเครื่องบินจนกว่าจะ ได้รับวีซ่า สถานกงสุลประจาภูมิภาคกรุงเทพฯ จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินทุกรณี”
เอาจริงๆนะไม่ซื้อตั๋วไว้ก่อนเราก็ไม่มียื่นสิ อันนี้ดูย้อนแยงมากครับ ผมแนะนำแบบนี้ดีกว่า ให้เราเลือกจองเครื่องบินกับสายการบินที่สามารถยกเลิกได้ หรือคืนเงินให้กรณี visa ไม่ผ่านไว้ก่อนหรือ ให้ซื้อประกันเดินทางที่ครอบคลุมกรณีเราไม่ได้เดินทางไว้ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ประกันเดินทางจะไม่มีประกันกรณีเราวีซ่าไม่ผ่าน แต่ถ้ามีเจ้าไหนระบุไว้ให้เราซื้อเจ้านั้นไว้เลยครับ
กรณีผมบินไปต่อเครื่องกับสายการบิน Oman Air ผมจะแนบไปด้วยทั้งหมดและใส่ในแผนเดินทางชัดเจนเพื่อให้เค้ารู้เลยครับ
ข้อ 8. แผนการเดินทางโดยละเอียด
ลองดูของผมนะครับ การระบุเที่ยวบินไปและกลับ สมควรใส่ไป ผมหาในเน็ตบางคนที่เอามาแจกกัน ไม่ได้ใส่แต่ก็ผ่าน อันนี้ผมระบุเพราะผมมีบินต่อเครื่องที่ ฝั่งประเทศอาหรับ และเคยตอนยื่นวีซ่าครั้งแรกที่อิตาลี ไม่ระบุ เจ้าหน้าที่ให้กลับมาแก้ และยุ่งยากมากเพราะอิตาลีต้องแปลเอกสารทั้งหมดด้วย ยากสุดแล้วตั้งแต่เคยยื่นมาครับ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเพราะประเทศอื่นๆ ดูง่ายกว่าไปเลย 55
ข้อ 9.หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม:
ตรงนี้ก็เช่นกัน. ผมสอบถามทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ก่อนไปยื่น, เค้าแจ้งว่า ถ้าเราจองเอง, จำเป็นมากต้องมีชื่อของทุกคนในใบจองที่พัก เพื่อระบุชัดเจนทุกคนนะครับ.
ไม่สามารถเอาชื่อคนจองคนเดียวแล้วเอามาอ้างอิงว่าเราไปทริปเดียวกันได้ ต้องมีชื่อทุกคนที่ต้องการยื่นใส่ไว้ในใบจองที่พักเท่านั้นครับ ตัวเอกสารการจองห้องพัก แม้จะเป็นเด็ก ก็ต้องมีแยกกันเรียกว่า 1 คนต่อ ทุกอย่าง 1 ชุดไม่เว้นแม้แต่เด็กด้วยเช่นกัน ผมจองผ่าน BOOKING.COM ข้อดีคือสามารถใส่ชื่อคนพักเข้าไปที่ห้องพักแต่ละห้องได้เลย แต่ต้องให้ตรงกันกับจำนวนที่ห้องๆนั้นรองรับนะครับ เช่น ห้องสำหรับ 2 คน เราไม่สามารถยัดชื่อ 3 คนเข้าไปได้ ปรกติระบบของเค้าจะให้ใช้ตัว , เป็นตัวเว้นวรรคชื่อคนเข้าพักครับ
ข้อ 10.เอกสารจากบริษัทนำเที่ยว:กรณีนี้เป็นการไปแบบทัวร์นะครับ ไม่ต้องกังวล ทัวร์เค้าจัดการให้ครับ
ข้อ 11. หลักฐานการจ้างงานและหลักฐานทางการเงิน:
ก่อนอื่นเอาคำอธิบายของทางเยอรมันมาแปะให้อ่านกันให้เข้าใจก่อน
กรณีลูกจ้าง:
– หนังสือรับรองการทำงานที่ออกโดยหน่วยงานหรือบริษัทต้นสังกัดของผู้สมัคร ระบุวันลาพักร้อน ตำแหน่งในบริษัท และ เงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือน
– ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
กรณีนักเรียน/นักศึกษา:
– หนังสือรับรองจากทางสถาบันที่ศึกษาอยู่ โดยแสดงเอกสารฉบับจริงและยื่นเอกสารตัวสำเนา
กรณีเจ้าของกิจการ:
– ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ/ใบทะเบียนพาณิชย์ ที่ระบุชื่อของผู้สมัคร
เอกสารที่ผู้สมัครทุกคนจะต้องยื่น: หลักฐานทางการเงินที่เพียงพอในการเดินทาง เอกสารแจ้งยอดเงินฝากจากธนาคาร (Bank statement) โดยแสดงรายการเดินบัญชีอย่างน้อย 3 เดือน และมีตราประทับจาก ทางธนาคาร กรณีที่มีผู้อุปถัมภ์ทางการเงินในการเดินทาง ให้ยื่นจดหมายแสดงความประสงค์ที่จะอุปถัมภ์การเงิน และยื่น เอกสารแจ้งยอดเงินฝากจากธนาคาร (Bank statement) ของผู้อุปถัมภ์ โดยแสดงรายการเดินบัญชีอย่างน้อย 3 เดือน มีตรา ประทับจากทางธนาคาร และสำเนาหนังสือเดินทางของผู้อุปถัมภ์ ในบางกรณีท่านอาจจะยื่น สำเนาของอสังหาริมทรัพย์ (โฉนด ที่ดิน) เพิ่มเติม
สำหรับกรณีของผมเป็นแบบ กรณีเจ้าของกิจการ หรือกรณีเป็นอาชีพอิสระก็ข้อนี้เช่นกัน
ผมยื่นทั้งหมด 4 อย่างครับ
- Statement บัญชีย้อนหลัง 3 เดือน
- statement บัญชีบริษัทย้อนหลัง 3 เดือน (เจ้าหน้าที่แนะนำให้ยื่นรวมกันกับข้อ 1)
- Statement กองทุนที่ซื้อไว้ หรือ จะเป็น บัญชีหลักทรัพย์ (อันนี้ผมคิดเองว่า เค้าจะได้รู้ว่าเราไม่ได้จะไปทำงานอะไรทั้งนั้น ชั้นจะเที่ยวจริงๆ)
- ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ/ใบทะเบียนพาณิชย์ คือใบ DBD หนังสือรับรองที่เราขอจากธนาคารนั้นเองครับ หรือขอจากกรมธุรกิจการค้า สำหรับคนทำร้านค้าก็ใช้เป็นใบอนุญาต หรือใบทะเบียนพาณิชย์ก็ได้ครับ
แล้วถ้าชั้นเป็นเจ้าของธุรกิจแบบไม่จดทะเบียนละ จะยื่นได้ไหม ?
กรณีเป็นเจ้าของบริษัทหรือธุรกิจ ข้อ 2,4 คงไม่มีปัญหาใดๆ แต่ถ้ากรณีเป็นแบบไม่ได้มีเอกสารทั้งสองข้อ เท่าที่ผมหาข้อมูลมาคือ กรณีเพื่อนผมเป็น FREELANCE ช่างภาพนะครับ สิ่งที่เค้ายื่นประกอปนอกจากข้อ 1 แล้ว เค้ายื่น Portfolio ครับ แนบไปให้รู้ว่าเราไปเพราะต้องการท่องเที่ยว แนบผลงาน ซึ่งในนั้นก็จะมีชื่อบริษัท ที่เค้าทำงานให้ หรือกรณีเราเป็นแม่ค้าออนไลน์ อย่างแฟนเค้านะครับ ก็ยื่นหน้าร้านออนไลน์นั้นๆไปด้วยเลย ให้เห็นว่าเราทำอาชีพอะไร (กรณีนี้เค้าบอกว่ายื่นไปกระทั่งยอดออเดอร์หลังบ้านเลยครับ ให้รู้ว่าชั้นทำอาชีพนี้จริงจังนะเออ) สรุปง่ายๆ สำหรับผมคือ ทำยังไงก็ได้ให้เค้ารู้ว่าเราไม่ได้แอบจะไปทำงานไม่ยอมกลับประเทศนั้นเองครับ
ข้อ 13. ประกันการเดินทาง:
ผมยื่นแบบรายปีครับ เนื่องจากผมเดินทางบ่อย แต่ก็มีเพื่อนๆ ในกลุ่มเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง บางคนยื่นแบบรายครั้งก็ได้นานเหมือนกัน ทั้งนี้ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักในการพิจารณาแต่อาจจะเป็นตัวช่วยเสริมให้คนพิจารณาเค้ารู้สึกว่าเราจริงจังกับการเดินทางนั้นเอง ซึ่งสำหรับคนที่เก็บตังเที่ยวไม่บ่อย ปีนึงครั้งเดียว ก็ไม่จำเป็นหรอกครับทำรายครั้งไปได้เลย
ข้อ 14. เอกสารที่เกี่ยวข้องของผู้เยาว์(เด็ก):
กรณีของผมพาปัน อายุ 8 ขวบ ไปด้วย นอกจากใบเกิด ใบเปลี่ยนชื่อ แล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วยคือ เอกสารการเงินของพ่อหรือแม่ หรือทั้งคู่ (เอกสารตัวเดียวกันกับข้อ 11 นั้นเอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่รู้ว่าเราจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับลูกนั้นเองครับ ทีแรกอันนี้ไม่เตรียมไปแต่สุดท้ายก็ไป PRINT เพิ่มที่นั้นอยู่ดีครับ
สรุปกันนิดนึงอะไรที่น่าจะเป็นตัวทำให้ได้วีซ่านานๆ
ต้องออกตัวก่อนว่าอันนี้มาจากการหาข้อมูลส่วนนึง แบบเร็วๆ กับการประเมินด้วยตัวเองล้วนๆนะครับ อย่างที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ VFS เค้าบอกผมไว้ตอนไปยื่นคือ ทั้งหมด “ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกงศุลครับ”
ผมขอแนะนำสรุปไว้เป็นแนวทางที่ตัวเองคิดเอาเองล้วนๆ สำหรับการขอให้ได้ มากกว่าจำนวนวันเดินทาง แล้วทำได้ผลนะครับ
- ผมขอเป็นครั้งที่ 3 แล้วนี่อาจจะเป็นข้อที่ทำให้ได้นานขนาด 2 ปีครับ
- ถ้ายังไม่เคยยื่นมาก่อน โอกาสยากมากครับจะได้มากกว่าวันที่เราระบุจะเดินทางไปและกลับ เช่น ไป 15 วัน เราอาจจะได้เต็มที่ก็ 30 วันเท่านั้นเป็นต้นครับ ส่วนใหญ่ทุกๆประเทศเค้าจะไม่ให้มากเพราะเรายังไม่เคยเดินทาง มาก่อน ให้ทำใจไว้เลย แต่ยังไงโอกาสได้ก็สูงครับ ถ้าทำเอกสารครบตามที่เค้าระบุไว้
- กรณีเคยยื่นมาแล้วอย่าลืมแนบไปนะครับแบบข้อ 5 ที่ผมยกมาให้อ่านกัน
- แผนเดินทางละเอียด ที่ระบุเที่ยวบินไปและกลับไว้ในแผนด้วย อันนี้ผมคิดเองว่ามันสำคัญที่เค้าจะรู้ว่าเราจะไปและกลับแน่ๆ อาจจะดูดื้อๆ ไปหน่อยแต่มันชัดเจนดีครับ และอีกอย่างผมจองรถเช่าเพื่อขับรถเที่ยวผมก็แนบไปให้เค้าดูด้วยเพื่อให้รู้ว่าเรามีแผนการแล้ว และมีตังจะจองรถขับนะจ๊ะ 555 อันนี้คิดเองล้วนๆ เพราะปรกติคนไปเที่ยวก็ล้วนเช่ารถขับทั้งนั้น แต่ถ้าเราไม่ใช่รถเช่าก็ไม่ต้องกังวลนะครับ อันนี้เป็นเพียงเหตุผลแวดล้อมล้วนๆ
- เอกสารสำหรับเด็กต้องครบเหมือนผู้ใหญ่ ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่แผนการเดินทาง หลักฐานการเงิน(ของพ่อแม่ประกอบไปด้วยกันเลย) ที่พัก เอาว่าผู้ใหญ่มีอะไรเด็กก็ต้องมีครบเหมือนกันนะครับ อย่าลืมนะ
- หลักฐานแวดล้อมทางการเงินเช่น กรณีผม ใช้หน้าใบกองทุนที่ซื้อไว้ ใบหน้ารวมซื้อขายหลักทรัพย์ ผสมเข้าไปด้วย กรณีเราเป็นเจ้าของที่ดิน จะแนบอันนี้ไปก็ได้ครับเค้ามีให้ระบุอยู่แล้ว
- ประกันเดินทางรายปี ผมว่าเค้าเห็นถึงความจริงจังว่าเราเดินทางบ่อยครับ ใครไม่บ่อยไม่ต้องทำก็ได้นะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมกรณียื่นกับอิตาลี & สวิตเซอร์แลนด์
ครั้งแรกสมัยไป ฝรั่งเศส อิตาลีครั้งแรก ประสบการเตรียมตัวก่อนเดินทางเช่นกัน อ่านกันได้ที่นี่เลยครับ
ทั้งสองประเทศผมยื่นครั้งแรกและครั้งที่สอง อาจจะเป็นข้อมูลไม่อับเดตหากท่านใดมีอับเดตกว่าผมยินดีมากที่จะแก้ไขให้ถูกต้องนะครับ
ของอิตาลี เราต้องแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะครับ แม้แต่ทะเบียนบ้าน ใบรับรองเงินเดือน เอาว่าทุกอย่างที่ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับเราต้องแปลหมด และเพราะเป็นครั้งแรกผมได้แบบพอดีเลย ไป 13 วัน ได้ 15 วันครับ
ผมเคยเขียนรีวิวการเตรียมตัวก่อนไปทริปยุโรปไว้ตอนนั้นเป็นตอนไป สวิตเซอร์แลนด์นะครับ สามารถอ่านกันได้ที่นี่เลย
สำหรับสวิตฯ ไม่ต้องแปล แต่ต้องกรอกทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด คล้ายๆกับของเยอรมันครับ แต่ก็ได้วันมาแค่ 30 วันอยู่ดี เพราะงั้นตอบยากมากครับจะได้นานกว่านั้นไหม
สรุปกันหน่อย
จบแล้วนะครับสำหรับ ขอวีซ่าเช้งเก้นท่องเที่ยวเยอรมันยังไงได้ 2 ปี
หวังว่ารายละเอียดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังขอเช้งเก้นกับเยอรมันนะครับ ส่วนตัวบอกก่อนว่าประทับใจตั้งแต่วันที่ไปยื่นแล้ว น้องๆทุกคนตั้งใจบริการดีมาก อาจจะเพราะเป็นเด็กใหม่ไฟแรงกันแทบทั้งนั้น สถานที่ก็ดี แต่แนะนำให้จองเวลาอย่าเป็นวันที่เพิ่งเริ่มต้นสัปดาห์เช่นวันจันทร์ หรือเพิ่งหยุดยาวมา แล้วเปิดมาวันแรก อย่างของผมยื่นวันที่ 13 สิงหาคมหลังวันแม่ 1 วัน แบบนี้ครับ คิวจะยาวมาก เคสผมจองเวลาไว้ตอน 16.30 น. กว่าจะเสร็จก็เกือบ 4 ทุ่มเลย นานมาก จนน้องๆที่ทำให้เค้ายังบอกเลยว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์มาวันนี้นานที่สุด
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะยื่นขอวีซ่าเยอรมันนะครับ หากสงสัยอะไร สามารถไปถามกันต่อได้ที่เพจผมก็ได้นะ หรือที่comment ด้านล่างนี้ก็ได้ครับผมจะพยายามแวะมาตอบเรื่อยๆครับ
ขอให้โชคดีไว้วีซ่า 2-3 ปีทุกคนนะคร้าบบบ
————————————-
ของแถมนะครับ
ส่วนลดการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ได้เงินคืน ผ่าน แอพ/เว็บ Shopback เช่น วันที่ 20 สิงหาคมนี้ ถ้าเราจองที่พักจาก booking.com ผ่าน Shopback จะได้รับเงินคืนถึง 12% ทันทีครับ เป็นโปรวันเดียวนะครับ ลองดูครับเป็นตัวช่วยประหยัดเงินดีครับ กดสมัครครั้งแรกรับเงินคืน 100 บาท นะครับ