เผลอแป๊บๆผ่านไปเกินครึ่งปีแล้ว สำหรับ 2555 เวลาผ่านไปเร็วจริงๆเที่ยวกันไม่กี่เดือนก็จะหมดปีแล้วนะครับ
มีโอกาสได้พาคุณๆเที่ยวกันไม่รู้ถูกใจกันมากน้อยแค่ไหน เดี๋ยวไว้ใกล้ๆ สิ้นปีจะทำแบบสอบถามแจกอะไรกันสนุกๆเช่นเคยกันดีไหมเอ่ย …
หน นี้ก็เช่นกัน ได้กลับไปพัทยาอีกครั้งในรอบปี หลังจากที่ไม่ได้แวะเวียนไปมาหลายปีดีดัก …ไปแล้วก็มีที่พักดีๆระดับโรงแรม 5 ดาว. อย่าง Royal Cliff Beach Hotel มาฝากกัน จะเป็นยังไง ลองติดตามกันดูกับครอบครัว one22 เช่นเคยนะครับ และ..มี Gallery มาฝากกันเหมือนเดิม ดูภาพทั้งหมดที่นี้เลย
http://blog.one22.com/archives/8561
การเดินทางของเราช่วงหลังๆ หนนี้ถือเป็นทริบเบาๆ ชิลล์ใช้ได้ ไม่ไกลกรุงเทพฯแค่พัทยา เอาแค่หนูน้อย “ปันปัน”หลับแป๊บๆก็ถึงแล้วละฮับบ ^ ^
ก่อน จะพาเที่ยว เอาแผนที่มาให้ดูก่อนพาเที่ยวของจริงครับ ดูกันแล้วกันว่าของเค้าใหญ่กันจริงๆ ถ้าให้เดินให้ทั่วคงทั้งวันทีเดียว….
ขอบคุณแผนที่จาก เว็บของ Royal Cliff Hotels Group
การ เดินทางมาไม่ยากครับ มุ่งหน้ามาชลบุรีจะมาทางมอเตอร์เวย์ หรือจะโทลเวย์ก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณ ตัวโรงแรมทั้งหมดจะอยู่ระหว่างพัทยาใต้กับหาดจอมเทียน
หลังเข้าสู่ตัว เมืองพัทยา มุ่งหน้ามาทางขึ้นเขาพระตำหนัก โรงแรมจะอยู่ระหว่างทางขึ้นเขาพอดิบพอดีสังเกตุด้านขวามือระหว่างทางขึ้นจะ เจอป้ายบอกตลอดทาง
และ ถ้าพอคุณๆหลุดเข้าสู่ประตูด้านหน้าของโรงแรมก็อย่าแปลกใจที่มันช่างใหญ่โต จริงๆครับ กับเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ผ่านมาปุ๊บเจอศูนย์ประชุมระดับประเทศที่น่าจะรู้จักกันดีในชื่อ “Peach” ก่อน
และสังเกตุดีๆก็มีทุกๆอย่างกันเลย ทั้งสนามกีฬาทั้งในร่มและกลางแจ้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา โรงแรม 4 แห่ง ห้องอาหารนานาชาติ ฯลฯ เยอะเกิ๊นน
เรียกว่ายกเมืองทั้งเมืองมาไว้กันเลยยังไหว
เรา ออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯช่วงเย็นๆหลังเลิกงานไปถึงก็เกือบมืด ทำให้ไม่ได้เก็บภาพใดๆเท่าไหร่ แต่ก็ยังพอได้ภาพยามค่ำจากตรง ระเบียงห้องพัก ที่…
มองไปทางไหนพัทยาก็คือพัทยาที่เต็มไปด้วยแสง สี และเสียง(แต่จุดที่ผมอยู่ไม่ได้ยินครับ)ช่างดูน่าตื่นเต้นเสียจริง…
…………..คืนนั้น…ครอบครัวเราหลับสบายดีตลอดคืน
ตี 5 เศษๆ
เช้าวันใหม่แม้ฟ้าจะยังไม่สว่างดีก็ตาม…
ความ ตั้งใจของผมแต่แรกที่ คิดไว้ว่าจะออกตระเวณเก็บภาพ โรงแรมแบบรวมๆก่อน เพราะที่นี้แบ่งกลุ่มโรงแรมในเครือของ Royal Cliff Group ออกมาเป็น 4 โรงแรมด้วยกัน คือ
1. Royal Cliff Beach Hotel 2. Royal Beach Terrace 3. Royal Cliff Grand Hotel & Spa 4. Royal Wing Suites & Spa
และ วันนี้เราได้เข้าพัก 1 ใน 4 ของโรงแรมนั้นคือ Royal cliff Beach Hotel
สระที่นี้มีหลายสระมากแต่ที่เป็นจุดขายจริงๆเลยคือสระหน้าสุด เป็นสระแบบ infinite edge ที่สวยใช้ได้เลย
เพราะสร้างอยู่ในตำแหน่งปลายแหลมพอดี มองจากด้านบนคุณจะเห็นเป็นสามเหลี่ยมแบบนี้เลย
หลังล้างหน้าล้างตา ผมเดินลงมาเก็บภาพที่แรกๆที่อยากมาเก็บภาพตอนเช้าครับ คือสระว่ายน้ำ
รายละเอียดของสระดูสนุกมากทีเดียวครับ มีมุม stream ที่ให้แขกได้สนุกสนานในการแช่น้ำได้ น่าลงไปนั่งนอนเล่นดีจัง พาปันปันมาเล่นน่าจะถูกใจ 🙂
หรือจะนอนเล่นริมสระก็ไม่เลวเลยทีเดียว มองไปแนวร่ม ไล่ตาม Curve โค้งเว้า ดูสวยดีทีเดียว
หันหน้ามองออกไปตรงๆก็จะเห็นขอบฟ้าตรงหน้าตัดกับขอบน้ำ ยามเย็น พระอาทิตย์ตกตรงหน้าเป็นวิวที่งดงามมาก เดี๋ยวจะพาไปชมตอนเย็นๆกันอีกทีรับรองถูกใจแน่นอนครับ
ถ่ายภาพหมุนไปมาพักใหญ่ก็ได้เวลากลับมารับแม่จ๋ากับปันปันไปหม่ำมื้อเช้ากันแล้วล่ะ
มื้อเช้าของที่นี้ทุกๆคนจะมารวมตัวกันที่ ห้องอาหาร Panorama ซึ่งชื่อห้อง ก็น่าจะบอกบรรยากาศได้อย่างดี…วิวดีทีเดียวละครับ
เช้าๆบรรยากาศดี คนยังไม่เยอะเราก็เลือกหาโต๊ะนั่งได้ไม่ยากเลยและ น้องๆพนักงานก็ต้อนรับขับสู้อย่างดี ได้ที่ Sea View ดีใช้ได้ครับ
เป็นห้องอาหารที่มีทั้งแบบ Indoor & Outdoor ชมวิวทะเลด้านหน้าได้เลย
ไหนๆ พาคุณๆมาแล้วก็ขอเสริฟอาหารกันก่อนดีกว่า อาหารเช้าที่นี้เพื่อรองรับแขกค่อนข้างเยอะก็ มีบุปเฟ่ต์ที่หลากหลายนานาชาติให้เลือกชิมกันได้มากทีเดียว ไลน์อาหารละลานตาดีครับ
อย่างประเภทขนมปังก็ค่อนข้างครบดีทีเดียว
อาหารต่างๆ ก็มีให้เลือกเติมได้ไม่อั้น รสชาติได้มาตรฐานดีครับอย่างในภาพจะเป็น สลัด ต่างๆ
จานนี้ผมชอบเป็นพิเศษ เป็นเป็ดครับอร่อยดีครับ
ปันปันกับแม่จ๋าก็กำลังชุลมุนกันเลยละ
เช้าๆแม่ลูกกิจกรรมเจริญอาหารก็เหมือนสงครามน้อยๆของครอบครัวเราเชียวละครับ ^ ___ ^”
อ่ะ…อ้าว.. ซะงั้น…. ไม่หม่ำข้าวแล้วเหรอลูกกกกก 555
ด้าน ในคนเยอะมากๆ ผมเลยเดินออกมาด้านนอกจะเป็น Terrace ไทยประยุกต์ คนเหงาทีเดียว สงสัยแขกจะขี้ร้อนกันไม่ออกมานั่งกันเลย ได้ถ่ายรูปมุมโล่งๆมาฝากกันแบบนี้
ลองมาดูห้องพักกันบ้างดีกว่า ห้องพักของเราวันนี้เป็น Type Mini Suite Plus Sea View เป็นห้อง ที่ปรับปรุงโฉมใหม่ ขนาดห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ size กลางๆครับ 36.25 SQL มีทุกอย่างดูครบถ้วนสมกับระดับ 5 ดาว
ผม เดินมาที่ระเบียงห้องพักก่อนเป็นอย่างแรก ของเช็ควิวหน่อยเป็นแบบมองเห็นวิว ทะเลสมชื่อห้อง ยิ่งถ้าเป็นยามเย็นจะสามารถชมพระอาทิตย์ตกจากระเบียงหน้าห้องพักได้เลย วิวดีมากๆเลยทีเดียวครับ
ก่อนมาเข้าพักมีภาพในหัวไว้แบบนึง แต่พอมาพักก็ต้องเปลี่ยนภาพนั้นๆออกไปครับ ลองค่อยๆตามผมมาดูกันต่อดีกว่า
ห้อง มีการตกแต่งผสมผสานในแบบ Thai Comtemporary ยกเฟอร์เก่าออกไปใส่ความทันสมัยของวัสดุใหม่ๆ อย่าง LCD TV เตียงขนาด King Size, Couter แบบใหม่
รวมๆ ผมต้องยอมรับว่าแปลกใจกว่าที่คิดไว้ว่าจะออกไทยๆกว่านี้แต่กลับไม่ใช่ครับ อันนี้เป็นข้อดี ที่ทางโรงแรมให้ความสำคัญที่จะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองเสมอ
ปันปันก็ได้ใช้เวลากลิ้งไปกลิ้งไปมาในห้องนี้ตลอดวันเช่นกัน
ห้องน้ำ ก็เป็นแบบมีกระจกกั้น และใช้วัสดุหินอ่อนทำเป็น Couter ดูดีทีเดียวครับ และกระจกก็สามารเลื่อนไปมาซ้ายขวา และสามารถเปิดปิดม่านกันคนมองจากภายนอกได้
แต่..จะให้ดีควรมาเป็นคู่รักจะดีที่สุดครับเพราะมันก็ยังปิดไม่มิดเท่าไหร่ นะผมว่า >_<
เล่นๆกันอยู่ไม่นานแม่จ๋าจับอาบน้ำปะแป้งนอนหลับปุ๋ยซะแล้ว บทจะว่าง่ายก็ง่ายจริงๆเลยลูก…เลยแอบกดภาพตอนหลับซะเลย ^ ^
แดด วันนี้ดีทีเดียวครับ เลยเอาเพื่อนๆปันปัน มาพึงแดดซะหน่อย…ท่านกับปิตัน buzz เองมาทะเลทั้งที ก็คงจะอยากอาบแดดกะเค้ามั่งล่ะเนอะ……. ^ 0 ^
ช่วงเที่ยง หลังปันปันตื่น กิจกรรมยามนี้จะไปอะไรไปได้นอกจากการกินละครับ มาพักผ่อนทั้งที ยังไงๆก็ไม่พ้น อยู่แล้วมื้อนี้ ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาชิม ติ่มซำกันบ้าง เป็นไงไปดูกัน
ยัง คงอยู่ที่ panorama เช่นเดิมครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังดูเมนูเราก็จิ้มมันซะแทบทุกเมนูที่มีมาลองชิมกันดู ไม่ถึง 10 นาทีพาเหรดตี่มซำ แสนน่ากินก็ยกมาเรียงตรงหน้า
นี่ก็น่ากินไหมล่ะหน้าไข่กุ้งนะถ้าจำไม่ผิดนะครับ รู้แต่ว่าอร่อยสุดๆเลย
หน้าจีบปูน่ากินสุดๆ
ควันฉุยๆ ร้อนๆ น่ากินสุดๆ เห็นอีกทีละอยากกินขึ้นมาเลยละครับ
นี้ก็ดูแล้วหิวววว
ปัน ปัน ก็ได้เวลามื้อกลางวันของหนูเหมือนกันนะฮ๊าบบ แต่ไม่ใช่ตึ่มซำกับพ่อจ๋าแม่จ๋านะ เลยสั่งข้าวผัดมาแต่ก็แสนจะน่าหม่ำไม่แพ้กันเลย …จริงไหมล่ะดูรูปสิ
แม่จ๋าก็พยายามป้อนมือเป็นระวิงเลย
กินไปอ่านไป…ฮั่นแน่ตั้งใจอ่านน่าดูนะเนี่ย…แม้จะยังอ่านไม่ออกก็ตาม
และ แน่นอนไม่ลืมจบมื้อด้วยของหวานเย็นๆอย่างไอศครีมรสดีมากๆ ที่สำคัญตกแต่งหน้าตามาสวยเก๋เหลือเกินจริงๆครับ สวยจนเกือบไม่กล้ากินกันเลย
ไม่สวยแต่หน้าตาด้วยสิรสชาติของไอศครีมกับบูลเบอรี่เครบดีมากๆเปรี้ยวอมหวานกำลังดีเลยเชียว…แค่คิดก็อยากกลับไปกินแล้วสิ
อิ่มกันดีแล้วปันปันก็ขอออกกำลังกับแม่จ๋าสักหน่อย
และตามเคยพ่อจ๋าก็เป็น ตากล้องสอดแนมเช่นเคย ความสุขเล็กๆจากครอบครัวเราที่ยินดีแบ่งปันครับ ( ^__^ )
หนูขอออกกำลังสักหน่อย นะฮีาบบบ เล่นกับแม่จ๋าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกันเลย.ดูสิหัวเราะร่วนเชียว
บ่ายๆหลังทานอาหารเสร็จอากาศวันนี้ดีมากๆเลยครับ เลยพาปันปันไปไหว้พระกัน เราไปกันไม่ไกลจากโรงแรมนัก
ขับรถเลยขึ้นไปด้านบนของเขาพระตำหนักเป้าหมายคือไปไหว้พระที่วัดพระใหญ่นั้นเอง
มาก็ต้องเดินกันเล็กน้อยจากที่จอดรถ อากาศวันนี้แดดดี มากมายเหลือเกิน เดินไปพ่อจ๋าแม่จ๋าแวะพักบังแดดไปตลอด
…แม้แต่หนูน้อยตัวเล็กๆ..ยังสามารถ…
ไม่ช้าก็ขึ้นมากันได้สำเร็จ…ได้กราบพระใหญ่สมใจ สังเกตุรอบๆเจอชาวต่างชาติเยอะมากครับ..
ด้านบนเราเลยได้มีโอกาสชมวิวเมืองพัทยาไปพร้อมๆกันๆวิวดีทีเดียว เห็นเมืองพัทยาได้รอบเมือง
มาแล้วก็ต้อได้กราบพระกันหน่อยละพ่อจ๋าก็พยายามสอนปันปันกราบพระ ……ซึ่งสารภาพเลยว่า….ยากมากกกก
ไหว้พระกันดีแม่จ๋าก็พาไปชมรอยพระพุทธบาทต่อ ดูปันปันสนุกสนานกับการเดินทางมากๆ หัวเราะเอื๊กอ๊ากอยู่ตลอดเวลา …เล่นกันน่าดู
กลับ มาจากไหว้พระ ก็ได้เวลาสันทนาการกันต่อแล้วครับ ตั้งแต่มายังไม่ได้ลองสระของที่นี้เลยขอหน่อยแล้วกัน…
เราโชคดีที่ทาง Royal Cliff อนุญาติให้เราข้ามมาลงน้ำกันที่สระฝั่ง Royal Wing Suite
สระฝั่งนี้ค่อนข้างส่วนตัวกว่าทาง Royal Cliff Beach มากครับจะให้เฉพาะแขกของ Royal Wing เท่านั้น
สนุกสนานกันสุดๆ..เลยเชียวล่ะ โดยเฉพาะปันปัน ชอบว่ายน้ำมากๆเลย
ไม่รู้จะฮาไรกันนักกันหนาครับ …ถ่ายไปก็ขำไปด้วย
รูปสุดท้ายก่อนผมจะกระโจนร่วมวงไปกับเค้าด้วยคน …
หลังตะลุมบอนกันในสระอีกพักใหญ่ ผมเลยได้มีโอกาสเก็บภาพต่ออีก จะว่าไปช่วงเย็นๆบรรยากาศสระน้ำดีมากๆนะครับ
แสงตอนเย็นจะคล้อยลงมาแล้วไม่ร้อนลงน้ำตัวไม่ดำดี…ชอบๆ
สระที่นี้นับว่าอลังการใช้ได้เลยครับพื้นที่ใช้สอยเยอะดี ถ่ายรูปก็สนุกมาก
ได้ เวลากลับห้องพักแล้วล่ะครับบรยากาศยามเย็นที่นี้ดีมากๆด้วยสิครับ ใครมีโอกาสมาพักฝั่ง Royal Wing ต้องไม่พลาดมาว่ายน้ำกันนะครับสนุกมาก
มุมจากวิวสูงดูบ้าง สระเค้าใหญ่จริงๆ และวิวก็ดีมากซะด้วย
ยังมีห้องทำสปาอีกแห่งครับที่เสริฟวิวชั้นเลิศแบบนี้ให้คุณได้เช่นกัน ผมมีโอกาสแวะเข้าไปชมเฉยๆนะครับ ไม่ใช้บริการ ดูราคาแล้วไม่น่าจะไหวเลยขอชมวิวอย่างเดียว
และในห้องทำสปาเห็นวิวทะเลได้ด้วย
บรรยากาศดูผ่อนคลายดีมากๆเลย อันนี้ด้านนอกครับสามารถมานวดชมพระอาทิตย์ตกของที่นี่ได้เลย
เดินชมอีกพักก็ขึ้นห้องพักแล้วครับ เพื่อให้ทันได้เก็บวิว Sunset มาอีก…ที่นี้มีเสน่ห์สุดๆก็ตรงนี้ละมั่ง…
ผมว่า นอกจากเรื่องการบริการต่างๆแล้วเรื่องวิว ยามเย็น ที่นี่เป็นโรงแรมอีกแห่งที่ต้องยกให้เลย พระอาทิตย์ตกตรงหน้าแบบนี้.มันเหนือคำบรรยาย
และที่ห้ามพลาด มาเก็บภาพช่วงหัวค่ำก็คือ infinite Pool วิวดีมากๆ
นึกว่าจะไม่ได้ชมพระอาทิตย์ตกสมตั้งใจซะแล้ว …สุดท้ายก็ไม่พลาด
ฟ้าหลังฝนย่อมสวยเสมอ…เชื่อแล้วล่ะ 🙂
โดยเฉพาะที่ขอบฟ้าของวันนี้สวยมากมายครับ
บรรยากาศใกล้ๆอย่าง The Bar ของ Royal Cliff Beach ก็น่านั่งใช่ย่อย
พามาเที่ยวกันต่อ…อีกที่ๆวิวสวยมากเพราะเห็นพระอาทิตย์ตกตรงหน้าก็ที่ห้องอาหาร Breezeo เพราะวิวที่ได้ไม่ธรรมดาเลยเชียวละ
โรแมนติกดีจังหากพาแฟนหรือคู่รักมาที่นี้ผมว่าเหมาะมาก …ยิ่งบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ด้วยแล้ว
วันที่ฟ้าเป็นใจอะไรๆก็ดูดี…จริงไหมครับ : )
ผม ใช้เวลาถ่ายภาพที่นี้สนุกมากๆ ก่อนจะกลับขึ้นห้องพัก เพื่ออาบน้ำแต่งตัวกันลงมาทานมื้อค่ำที่สุดแสนจะอลังการ…จะอลังขนาดไหนไปดูกันต่อ
บุฟเฟ่ต์ มื้อค่ำที่นี้จะมีทุกวันเสาร์เป็นคืนพิเศษ ที่ห้องอาหาร “ลานทอง” ที่ Royal Cliff Grand Hotel เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ทานไม่อั้นที่เสริพอาหารหลากหลายมาก
ไม่ว่าจะเป็นประเภทอาหารทะเลสัญชาติไทยที่ตกแต่งดูดีทีเดียวละครับ
ไปจนถึงอาหารญี่ปุ่นประเภทต่างๆ
จัดหนักจัดเต็มอย่างบาร์บีคิวก็มีให้หยิบปิ้งย่างกันไม่อั้นทีเดียว
แสงสีจัดจ้านเค้าจัดซะสวยมากๆ
สำคัญรสชาติโดยรวมดีมากครับ โดยเฉพาะประเภทtapas ที่ค่อนข้างมีให้เลือกหลายอย่างมาก
เยอะดีครับ ทานกันไม่ถูกเลย
หรือแม้แต่ของหวานก็ยิ่งตกแต่งได้สวยจน…อดอ้วนไว้ไม่อยู่ 55
รวมๆนับว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีให้เลือกเยอะและไม่อั้นใช้ได้เลย
วัน ถัดมาครอบครัวเรามีโอกาสได้สัมผัสห้องอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดอีกแห่งนึงของ Royal Cliff Hotels Group
ที่ว่าขึ้นชื่อเพราะไปคว้ารางวัลระดับโลกจากสมาคม Chaîne des Rôtisseurs กันทุกปี
สำหรับ ห้องอาหาร Grill Room & Wine Cellar ที่น่าจะเสริฟไวน์ระดับนานาชาติ ไว้เยอะที่สุดที่นึงทีเดียวครับ
ที่ สำคัญมีห้องเก็บไวน์ชั้นใต้ดินแห่งเดียวใน ไทยหรืออาจจะเป็นใน South East Asia ด้วยซ้ำไป ที่รักษาอุณหภูมิไว้ 24 ชม.ตลอดเวลา
สีสันในห้องเก็บไวน์ ตอนผมขอเข้าไปถ่ายก็ไม่คิดว่าจะแดงได้ใจขนาดนี้ แต่ก็ถือว่าไม่บ่อยครั้งนักนะครับ
เพราะเค้าไม่ได้ให้แขกทุกๆคนเข้าไปได้ ส่วนใหญ่ต้องเป็นผู้สนใจไวน์จริงๆเท่านั้น ว่าแล้วต้องขอบคุณที่ให้ผมเข้าไปถ่ายภาพนะครับ
ห้องอาหารที่นี้ตกแต่ง สวยงามดีทีเดียวจะเสริฟอาหารเป็นประเภทย่าง ที่เข้ากันกับไวน์เป็นหลักไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรืออาหารทะเลต่างๆ
ค่ำคืนถัดมาเลยได้มีโอกาสทานกันในบรรยากาศหรูๆซักครั้ง มาลองชิมอาหารเคล้าไวน์ไปด้วยกันดีกว่า
เริ่มกันที่ เมนูแรกครับขออภัยที่อาจจะจำชื่อไม่ได้นักดูจากภาพกันดีกว่านะ รู้แต่ว่าปลาทูน่าที่มี topped สีขาวๆนั้นทำจาก Vodka form ครับรสชาติ จะเหมาะกับไวน์ที่เสริฟพร้อมกันดีมากๆ
และถัดมาเป็นเกี้ยวหมูกับเป็ดครับ อร่อยมากๆหนังเป็ดกรอบเชียวละ
อันนี้เป็นปลาครับ กับถั่วpistachio อร่อยเหมือนกัน ทั้งหมดนี้ทานกับไวน์รสชาติดี อย่างผมลิ้นจรเข้ยังรู้สึกได้เลยว่าอร่อยมากๆ
และตบท้ายด้วยไอศครีมอร่อยมากๆครับ จัดสวยจนเกือบไม่กล้ากินกันเลยละ ^ ^
ประทับใจมากๆกับอาหารของ Grill Room & Wine Cellar ไม่เชื่อดูปันปันได้จ๊ะ คึกคักมากๆเลย
วันสุดท้ายครอบครัวเรามีโอกาสได้ทานอาหารกลางวันกันที่ Breezeo บรรยากาศกลางวันก็ชิลล์ใช้ได้เลยครับ และแม่จ๋าลูกจ๋าก็ลั้น ลา มากๆ
บรรยากาศสวยๆของโต๊ะอาหารครับ ถ้ามีแขกจองและแจ้งกับทางร้านอาหารว่าเป็นโอกาสพิเศษต่างๆ ทางโรงแรมก็จะจัดดอกไม้ไว้รับรองแบบนี้ได้เลย สวยเชียวละ
ผมเลยถือโอกาสอาศัยเป็นพร็อบสวยๆก่อนแขกเค้าจะมาซะ …. ^ ^
อาหารมื้อสุดท้ายสั่งลาเราก็ทยอยมาเสริพให้ได้อร่อยกัน อันนี้เป็นปลากระพงขาวย่างเสริฟพร้อมข้าวผัด มีสลัดให้ทานด้วย จำได้ว่าอร่อยมากครับ
อันนี้หน้าตาคล้ายปอเปี้ยแต่กินดูแล้วไม่ใช่นะครับ จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไรแต่รสชาติโอเคอยู่
ตบท้ายมีของหวานให้แม่จ๋าและปันปันชิมด้วยนะ
บรรยากาศ พัทยาที่เราไม่คิดจะได้มาเจอในสไตล์โรแมนติกแบบนี้ ขอทิ้งท้ายกันที่นี้แล้วกันนะครับ เพราะจากนี้เราก็บิึ่งกลับบ้านกันเลย
สรุป
Royal Cliff Beach Hotel ในสุดสัปดาห์สบายๆของครอบครัวเราเป็นอีกที่ๆน่าประทับใจมากครับ โดยเฉพาะอาหารจากห้องอาหารต่างๆ ที่ผมติดใจมากๆก็คง ทั้งที่ Breezeo กับวิวที่น่าจะเรียกว่า สวยที่สุดที่นึงของเมืองพัทยาได้เลย
วิวพระอาทิตย์ตกลงขอบฟ้าในเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีแบบนี้ไม่ใช่จะหาชมได้ง่ายนักนะครับ แต่ที่นี้ก็มีให้ได้ รวมถึงห้องอาหาร Grill Room & Wine Cellar ก็สมแล้วละครับที่ไปกวาดรางวัลระดับใหญ่ๆมาได้ติดต่อกันทุกปีนับสิบปีแล้วแบบนี้ ก็ไม่ธรรมดาโดยเฉพาะไวน์ครับปรกติผมไม่ใช่คนทานไวน์เลย ยิ่งถ้าเป็นอะไรที่ต้องเข้ากับอาหารด้วยแล้ว ถ้าไม่ได้เชพคอยบริการ และแนะนำผมคงจะพลาดอาหารรสเลิศไปแน่ๆ นับเป็นอีกประสบการณ์นึงที่คงไม่ได้มีบ่อยๆสำหรับตัวเองนัก
รวมๆที่นี้เป็นอีกที่ๆมีทุกอย่างให้แขกที่มาพักครบครัน จนนึกไม่ออกว่าว่ามันจะขาดอะไรอีก สมกับที่สะสมประสบการณ์อยู่คู่กับเมืองพัทยามานาน แม้จะไม่สดใหม่เหมือนโรงแรมใหม่ๆที่ทยอยเปิดตัวในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้แต่ Royal Cliff Beach Hotel ก็มีดีกรีความเก๋าที่ยากจะหาโรงแรม 5 ดาวที่ไหนกินกันลงได้ง่ายนัก ผมเองเกือบจะตัดสินจากภายนอกของโรงแรมซะแล้วเพราะความที่ไม่เคยรู้ว่าในนี้มีอะไรบ้าง จนต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เมื่อได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองทีเดียว
ถ้าจะมีอะไรที่อยากให้ปรับปรุงผมว่าคงเป็นในด้านภายนอกอาคารมากกว่า ที่คงต้องมีการตกแต่งให้ดูทันสมัย Modern มากขึ้น หรือปรับปรุงอาคารให้ดูใหม่ขึ้น ให้เหมือนกับที่ทำกับการตกแต่งภายในอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คนอย่างผมคนอื่นๆจะได้รู้จักที่นี้มากขึ้น เพราะก่อนจะเดินทางมาเท่าที่ผมหาข้อมูลจากรีวิวต่างๆหายากเหมือนกันครับ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นแขกต่างชาติที่รู้จักที่นี้ดี และอาจจะเป็นในระดับผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้จักที่ีนี่มานานแล้วนั้นเอง
สำหรับครอบครัวเราแล้วถ้ามีเวลาได้แวะมาพัทยาอีก ที่นี้ก็ยังนับเป็นอีกที่ๆน่ากลับมาพักได้เสมอ หากเราต้องการพักผ่อนสบายๆ อาหารรสชาติดี(โดยเฉพาะบุฟเฟ่ตนานาชาตินะครับ สุดยอดมาก) และอยากใช้เวลาอยู่ในโรงแรมเป็นหลัก เพราะใน Royal cliff Hotels Group ก็คงมีทุกอย่างที่เราต้องการไว้แทบจะหมดแล้วละครับ ถ้ามีโอกาสคงได้กลับไปอีกแน่นอนจ๊ะ ^ ^
ท้ายนี้ ต้องขอบคุณน้องๆพนักงานทุกๆคนตั้งแต่ พนักงานโบกรถกันเลยที่ช่วย Take care เราตั้งแต่ย่างกายเข้ามาที่นี้จนถึง พนักงานต้อนรับทุกๆคนในทุกๆจุดที่เราไปก็ได้รับบริการที่ดีและยิ้มแย้มจากเจ้าหน้าที่ทุกคนเสมอ คุณวิคกี้ และคุณหญิง เจ้าหน้าที่ PR แสนสวยทั้ง 2 คนที่พาเราเข้าเยี่ยมชมในส่วนต่างๆที่บางที่ไม่อาจจะให้คนทั่วไปเข้าได้ และยังให้เราได้ข้ามโซนไปเล่นน้ำในสระของโซน private ของฝั่ง Royal wing อีก และคุณแก็ป Executive Director ของ Royal Cliff ที่ลงมาต้อนรับครอบครัวเราเป็นระยะๆด้วยตัวเอง น่าประทับใจมากๆครับ
ทุกท่านที่สนใจสามารถติดต่อกับโรงแรมได้โดยตรงครับ เพื่อสอบถามราคาและโปรโมชั่นต่างๆ