สวัสดีครับ
รีวิวนี้เป็นตอนพิเศษ กับทริปพาลูกเที่ยวที่ผ่านมา เป็นการพาปันปันไปเที่ยวจนถึงที่รัฐยะโฮร์กันเลย เป้าหมายชัดเจนมากอยุ่แล้วคือเราจะพาเค้าไป เที่ยว Lego Land นั้นเอง
ขอบอกว่าที่นี่มีอะไรดีๆเยอะเลย ทั้งความน่ารัก สวนสนุกและสวนน้ำที่เหมาะสมกับเด็กทุกเพศทุกวัย เอาว่าไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงแล้วดีกว่าไปดูกันเลย
ทริปนี้เราเดินทางต่อจากคราวที่แล้วที่เราแวะไป Visit Melaka กันก่อน 1 คืนใครยังไม่ได้อ่านเชิญแวะเวียนไปเที่ยว Heritage City กับพวกเราก่อนได้นะครับที่นี่เลย http://s.one22.com/1qGeh3N
ตื่นเช้ามาเก็บข้าวของเรียบร้อยพร้อมลุยไปกันต่อยัง เมืองยะโฮร์ เมืองทางใต้ของมาเลเซีย เราต้องกลับมาที่ท่ารถกันก่อน ที่ Melaka Sentral จากที่พักของเราไม่มีรถวิ่งตรงมานะครับ(เท่าที่รู้นะครับ) เลยใช้บริการ Taxi Meter ให้โรงแรมเราเรียกให้ ค่าใช้จ่ายจำไม่ได้แล้วเท่าไหร่แต่ไม่แพงครับเพราะไม่ได้ไกลกันมาก
บรรยากาศในสถานี Melaka Sentral ตอนมาไม่ค่อยได้มีเวลาเดินดูรอบๆเท่าไหร่ ก็ไม่ต่างจากสถานีรถบ้านเราแต่อาจจะเป็นระเบียบกว่านิดหน่อยนะครับ
มาถึงก็เลือกรถที่จะเดินทางไปยะโฮร์ (Johor Bahru )กันเลย เค้าก็แบ่งเป็นช่องๆไม่ค่อยต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ เราเลือกรถนั่งสบายๆ เป็น Super VIP ไปครับ 24 ที่นั่ง ราคาตกคนละ 20.90 rm ภายในก็นั่งสบายจริงๆด้วยรถราที่นี่ถือว่าดีมีเดียวครับ นั่งสบายเก้าอี้ใหญ่มากกก ดูจากภาพเองเลย
ขึ้นปั้บนั่งปุ๊บเจอเก้าอี้ดูดวิญญาณไป หลับกันหมดบ้านเลย ใช้เวลาไม่กี่อึดใจรถบัสก็พาเรามาถึงท่ารถเมืองยะโฮร์แล้ว สถานีรถบัสที่นี่ดูสู้ที่มะละกาไม่ได้นะครับแต่ก็นะเราอยู่ไม่นานต้องหาที่ต่อรถกันไปต่อที่ Lego แล้ว
ที่นี่เป็นที่ๆรวมรถบัสที่จะไปจุดต่างๆหมดเลยยังไงก็ต้องมาต่อรถกันที่นี่ รวมถึงรถที่ไป Lego Land เลยไปถึงของ coaseway ที่ข้ามไปสิงค์โปร์ก็มาจอดที่นี่เช่นกันครับ จะไปต่อเราก็สอบถามจากตรงแถวท่ารถนั้นเลยครับ เห็นพวกเราเกงๆก้างๆกันถามเจ้าหน้าที่แถวๆนั้นได้คำตอบแน่นอน บรรยากาศรถบัสนะครับก็คล้ายๆรถปรับอากาศบ้านเราเลย
สุดท้ายก็นั่งบัสกันต่อบัสจะพาเราลงตรงป้ายหน้า Lego Land กันเลย แต่โชคไม่ดีนักมาถึงก็เจอฝนเลยสิ
แผนที่จากเว็บไซต์ Legoland ครับ
มาดูวิธีการเดินทางมาที่นี่กันหน่อย ตามแผนที่เลยครับ การมา LegoLand ทางที่ดีที่สุดคือมาจากทาง Singapore เพราะมันใกล้กว่ามาจาก KL มากมายนัก ดูจากแผนที่จะเห็นได้ชัดเจน ส่วนวิธีของเราคือเดินทางจาก ท่ารถมาแต่ส่วนใหญ่เค้าจะบินลงที่สนามบินSenai Airport อยู่ไม่ไกลจากเมืองยะโฮร์และต่อรถมาได้ แต่กรณีของเรา มาจากสถานีรถบัสก็ถือว่ามาได้ไม่ยากเช่นกัน
เดินเข้ามาจนเจอตรงCouter ขายแล้วละครับ อย่างที่เคยเกริ่นไปตั้งแต่ตอนแรกว่าทริปนี้เราได้รับการ สนับสนุนจากทางการท่องเที่ยวมาเลเซียประสานงานกับทาง Lego ไว้ให้ทำให้ได้รับการ Support จากทาง Lego โดยตรงในส่วนของบัตรเข้า Park และที่พัก สำหรับใครที่อยากรู้ราคาบัตร จากที่หาข้อมูลมา มีหลายแบบมากนะครับ มีทั้งแบบเหมา 1 day trip, 2 day trip (พักที่ Lego เลย) และยังแยกเป็น ผู้ใหญ่และเด็กอีก แนะนำให้ลองเข้าไปศึกษาดูจากเว็บไซต์เค้าโดยตรงเลยจะดีกว่า ที่นี่ครับ http://www.legoland.com.my/Plan/Prices-and-Tickets/ อ่ออีกนิดจองล่วงหน้าเกิน 7 วันจะดีที่สุดเพราะมีส่วนลดเป็น% ให้ด้วยเพราะงั้นวางแผนเที่ยวกันยาวๆไว้ก่อนดีที่สุดนะครับ
ป่ะรีบเข้าไปดูโรงแรมกันดีกว่า
เข้ามาปุ๊บหากใครรักใครหลงในมนุษย์ตัวต่อทั้งหลาย อาจจะกรี๊ดกันเลย ขนาดแค่ลิฟท์นะเนี่ย น่ารักจริงๆครับ แต่ละชั้นเค้าจะตกแต่งไม่เหมือนกันด้วย
เหมือนวัยเด็กมันย้อนกลับมายังไงยังงั้นเลยครับ ไม่เชื่อดูสินี่แค่ตรง Couter เองนะครับ อลังการงานสร้างสุดๆเลย
หันมาอีกทีเด็กน้อยวิ่งกระโจนไปยังบ่อตัวต่อเรียบร้อยโรงแรม Lego แย้ววสนุกใหญ่เลยครับนั้น
หลัง Check in เรียบร้อยเราก็ขนของเข้าห้องพักกันดีกว่าครับ ได้คีย์การ์ดมาใช้ในการเข้าห้องพักและลิฟท์ด้วย
ดูลิฟท์สิน่ารักไหมสุดๆอ่ะ
อย่างที่บอกไปที่นี่แต่ละชั้นจะมีConcept การตกแต่งที่ต่างกันออกไป อย่างชั้นที่เราพักจะตกแต่งเป็นสไตล์ Egypt ทั้งขำทั้งน่ารักจริงๆ
ห้องที่เราพักเป็น Family Room จึงมีทั้งเตียงของเด็กและผู้ใหญ่ มาดูเตียงเด็กก่อน เค้าจะแบ่งสัดส่วนออกมาได้ค่อนข้างดี ผมชอบไอเดียให้เด็กๆนอนแบบเตียงสองชั้นนะครับ ปันเองก็ชอบมาก
การตกแต่งสนุกมาก อุดมไปด้วย คาแรกเตอร์ Lego มากมายเลย
มาดูเตียงผู้ใหญ่บ้างเป็นแบบ King Size ครับ
บรรยากาศในห้องพักอบอ้วนไปด้วยรายละเอียดของตัวต่อทั้งหลาย
ได้เวลาออกจากห้องไปเที่ยวรอบๆแล้วละครับ หลังออกมาไม่ทันไรตรง Lego Park ปิดหมดแล้ว บรรยากาศตอนพลบค่ำสวยงามมากนะครับที่นี่
บรรยากาศในบริเวณรอบๆจะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่ระลึกอยู่ซึ่งจริงๆ ถ้าให้แนะนำก็ควรมาทานอาหารแถวๆนี้มากกว่า ราคาประหยัดกว่าในโรงแรมเยอะครับ เดินๆอยู่ผมเจอร้านอาหารไทยด้วยนะครับ
คืนนั้นเราพักผ่อนกันด้วยดีหลับยาวครับ อ่อข้อดีอีกอย่างในห้องทุกๆห้องจะมีตัวต่อ Lego ไว้ให้ด้วยนะเอ๊ะอันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะห้องแบบ Family รึเปล่านะครับ แต่ที่แน่ๆปันปันสนุกมากเช็ทนี้สุดท้ายต้องเสียตังกลับบ้านเอากลับมาชุดนึงเลย T^T
มาเช้าวันรุ่งขึ้น เราลงมาทานอาหารที่ห้องอาหารหลักของโรงแรม และแน่นอนบรรยากาศห้องอาหารก็ยังคงอบอวลไปด้วย The Bricks ทั้งหลาย
บรรยากาศห้องอาหารคึกคักมากวันแรกที่มาถึงคิดว่าแขกคงไม่เยอะเท่าไหร่แต่ ที่ไหนได้ นักท่องเที่ยวเยอะมา ทุกๆคนมาเพื่อมาเจอพวกเขาเหล่านี้จริงๆ
อาหารเป็นแบบ บุฟเฟห์ ตักและเลือกกินได้ตามสะดวก พวกเราใช้เวลากันไม่เยอเพราะวันนี้ภารกิจคือเที่ยวแล้วต้องกลับไปขึ้นเครื่องตอนเย็นๆที่สิงคโปร์ด้วย มีเวลาน้อยไปนิดนึงเพราะงั้นต้องรีบแล้ว
ก่อนจะไปแวะลงมาตรง Counter Checkin อีกรอบ มุมมหาชนของที่นี่ก็ตรงกลางเลยครับ บ่อ Lego นี่ดึงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างดี
จำนวนตัวต่อมหาศาลที่มีให้เล่นมากมายถือเป็นบ่อแห่งความสุขของครอบครัวโดยแท้เลย
ได้เวลาไปลุย PARK กันแล้ว ที่ LegoLand จะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Legoland Theme Park กับ Legoland Water Park หากซื้อตั๋วแบบแยกก็จะถูกกว่านิดหน่อย จริงๆถ้ามีเวลาทั้งวัน ซื้อแบบรวมจะดีที่สุดเพราะราคาจะรวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว กรณีของเรา เนื่องจากเวลามีจริงๆครึ่งวัน ไม่เป็นตามแผนเพราะเมือวานมาถึงเย็นเกินไป เลยต้องเลือกสุดท้ายเราเลือกจะเล่นเฉพาะ Legoland Theme Park อย่างเดียว ถือว่าหนหน้าจะได้อยากกลับมาตรง Water Park ใหม่
เข้ามาด้านในจะเจอพวกร้านขายของฝาก ขอผ่านก่อนเดี๋ยวขากลับว่ากัน ไปเล่นกันก่อนดีกว่าเนอะ ก่อนไปขอกอด mascot ของเค้าหน่อยปันชอบมากกก
โซนของที่นี่จะแยกชัดเจนเนื่องจากเราเน้นๆที่เป็น Theme Park เป็นหลัก โซนที่เป็น PARK ทั้งหมดจะซอยออกมเป็นโซนย่อยๆอีก หลายโซนเรามีเวลาครึ่งวันเท่านั้นเลยต้องเลือกกันหน่อย และฝั่ง Theme จะเน้นเครื่องเล่นต่างๆเช่น LAND OF ADVENTURE และพวกเมืองจำลองที่เป็นการใช้ตัวต่อเลโก้ผสมกลไกต่างๆให้เมืองสมจริง หรือเรียกว่า MINILANDชึ่งก็เด็ดๆทั้งนั้นเลย และสุดท้ายตรงปราสาท หรือ ที่เรียกว่า LEGO KINGDOM เอาละไปเล่นกันเลยเนอะ
บรรกาศด้านในจึงเต็มไปด้วย ตัวต่อที่ประกอปและตกแต่งไปทั่วเห็นแล้วก็ทึ่งจริงๆเค้าประกอปเก่งมากกก
โซนแรกคือ MINILAND อย่างที่เกริ่นไปที่นี่จะมีเมืองเด่นๆทั่วโลก และแน่นอนกระแส AEC แรงขนาดนี้ 10 ประเทศหลักๆย่อมต้องมีครบ ผมคงไม่สามารถจะเก็บทั้งหมดมาลงได้เพราะเยอะจริงๆ ขอหยิบที่เราชอบมาให้ดูกันนะครับ เริ่มที่ ประเทศเค้าเลยคือ Malaysia ซึ่งก็ทำได้ครบจริงๆ
หยิบสัญลักษณ์สำคัญๆมาไว้หมด ทั้ง ตึกแฝดที่สูงมาก KL TOWER ตึกรัฐสภา และเมืองราชการที่มาเลย์ฯเน้นจริงๆอย่าง ปุตราจายา และที่เที่ยวเด่นๆจริงๆ อ่อรถเล็กๆที่เห็นนั้นวิ่งได้ด้วยนะครับ เรือในน้ำก็แล่นได้น่ารักมากๆ
ส่วนนี้น่าจะเป็นมะละกาแน่ๆครับดูจากทรงบ้านเรือน สไตล์ชิโน-โปรตุกีสนะครับ
มาต่อกันที่ประเทศต่ไทยเรามั้ง มีมาหมดเลยครับ ในน้ำมีเรือสุพรรณหงส์ บนดินมีวัดพระแก้ว
มาถึงของ Indonesia บ้าง ที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลกมากที่สุดก็คือ บาหลี และ Hilight ที่เค้าไปจำลองมาคือ Tanah Lot ครับ
มาที่บ้านใกล้เรือนเคียงกันอย่างลาวบ้าง Hilight ก็ต้องที่นี่เช่นกันตรงประตูชัย ที่เวียงจันทน์เลย
และอันนี้เป็นของบรูไนครับ
ปราสาทนครวัดครับ กัมพูชา
จริงๆเค้าทำไว้เยอะกว่านี้อีกนะครับแต่เราเก็บภาพมาไม่หมดเยอะจริงๆ ไปดูเครื่องเล่นอื่นๆกันต่อ เค้ามีล่องเรือกันด้วยนะครับ เหมาะกับเด็กๆตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป ทุกๆเครื่องเล่นเค้าจะแจ้งไว้ตรงด้านหน้าแต่ละอันว่าเหมาะกับเด็กตั้งแต่อายุเท่าไหร่ขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถเลือกเครื่องเล่นให้เหมาะกับเด็กๆได้ครับ
เราให้ปันขับเรือเองเลย เป็นการล่องไปตามเส้นทางที่กำหนด มีBrick ที่ประกอปเป็น ตัวต่างๆเรียงรายรอบเลย
เป็นเครื่องเล่นเบาๆที่เหมาะกับเด็กๆครับจะชนจะถูสีกับข้างๆเค้าก็มีตัวกันกระแทกรองไว้หมด ค่อนข้างปลอดภัยกับเด็กเล็กๆขอแค่ผู้ปกครองต้องดูแลเด็กๆไม่ให้ปีนตกน้ำก็พอครับ
ขับเรือแล้วมาขับรถต่อ เป็นสถานีเลย จะให้เด็กๆขับรถไฟฟ้า นั้นเอง มีSponsor ชัดเจน ตัวเจ้านี้ในวงการรถจริงๆเค้าก็มีรถพลังงานไฟฟ้า อย่าง Leaf ที่ขายดีมากๆในญี่ปุ่น จริงๆด้วย
ก่อนขับจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกและสอนให้เด็กๆใช้รถให้เป็น ปันเองก็ขับสนุกชนข้างทางไปทั่วเลย ตัวรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำนะครับเด็กเล็กๆเล่นได้ขอให้เค้าลองดูจะรู้เลย
แป๊บเดียวฉลุยแล้ว บรื้นๆเลย
ขับเรือ ขับรถ แล้ว เหลืออีกอย่างที่เค้ามีให้ขับคือเครื่องบิน ป่ะไปดูกัน
ตัวเครื่องบินเหมาะกับเด็กเล็กๆเลย ตัวเครื่องก็บินขึ้นลงได้อยู่ที่เราบังคับตัวลานของเครื่องก็วนไปรอบๆ เรามีหน้าทีบังคับขึ้นและลงได้สำหรับเด็กเล็กๆแล้ว ถือว่าสนุกแล้วละสำหรับผู้ใหญ่ก็อาจจะเฉยๆไปบ้าง แต่ไม่เหมาะกับคนที่เมารถเมาเรือง่ายๆนะครับเพราะมันวนไปมาหลายรอบอยู่นะ
มาถึงเครื่องเล่นถัดมาอันนี้ถือเป็นอันที่ทำให้แม่จ๋าเค้าเหงื่อตกสุดแล้ว เพราะเป็นเกมส์ดับเพลิงแบบครอบครัว คือเค้าจะมีภารกิจกำหนดให้เด็กๆ กับผู้ปกครอง 1 ท่าน ในแต่ะลครอบครัวมาแข่งกันทำภารกิจดับเพลิงกู้ภัย ซึ่งก็ต้องเป็นแม่จ๋าไปเพราะผมติดถ่ายภาพนั้นเอง อิอิ
แต่ละทีมต้องพยายามปั้มลมเข้ารถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อไปดับไฟ(เป็นเพียงหลอดไฟสว่างเท่านั้นครับไม่ใช่ไฟจริง)ที่ สุดท้ายต้องให้เด็กแต่ละคนช่วยกันเปิดปั้มน้ำดับไฟให้สำเร็จ เกมส์นี้สนุกมากเพราะมีกองเชียร์กันข้างๆช่วยกันใหญ่เลย
ปันก็สนุกสุดๆเลย ถือเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับครอบครัวมาก แต่เห็นแม่จ๋าบ่นว่าเมื่อยใช้ได้เลย 55
มาเปลี่ยนโซนกันมาที่ Adventure Zone ครับ โซนนี้จะเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กโตตั้งแต่ 10 ขวบ ขึ้นซะมากกว่า เพราะค่อนข้างจะโลดโผนตื่นเต้นใช้ได้เลย
มีทั้งรถไฟเหาะตีลังกา ก็มี
รอบๆมีตัวต่อประกอปฉากมากมายเลย น่ารักมากสุดยอดเลย เห็นตัวต่อเหล่านี้ก็ต้องทึ่งในความขยันมากๆครับ ไม่รู้เค้าต่อมือหรือว่าใช้การหล่อพิมพ์เอานะ แต่ที่เข้าไปจับลูบๆคลำ เหมือนต่อประกอปขึ้นมานะครับอันนี้ผมไม่ชัวร์ นะ
มาถึงเครื่องเล่นที่เค้าอนุญาติให้เด็ก 3 ขวบขึ้นในโซนนี้กันครับอันนี้ผมว่าเสียวสุดแล้วสำหรับเด็กๆ แม่จ๋าเค้าก็ว่าเสียวสุดแล้วนะ
สนุกกันดีทั้งแม่ลูกยิ่งเวลาโยกขึ้นๆลงๆด้วยนะเรียกเสียงกรี๊ดกันสนั่นเลย
มาถึงโซนสุดท้ายนะครับ เป็นโซน Kingdom จริงๆ โซนนี้จะมีอยู่หลายๆส่วนแต่เรามีเวลาไม่มากหลักจะเป็นการแสดงหรือโชว์ซึ่งจะมีเวลาโชว์เป็นรอบๆไป ตรงแถวๆปราสาทจะเป็นทั้งจุดขายอาหารและของที่ระลึก สนนราคาก็ไม่ถูกนักนะครับ ตามประสาของฝาก
มาถึงจุดท้ายสุดแล้วครับที่เราได้แวะกันคือซื้อของฝากอย่างที่บอกไป มาถึงเมือง Lego ไม่ซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับเลยก็ยังไงๆอยู่ ราคาของที่นี่ไม่แพงนะครับหากจะซื้อแบบเป็น Set ๆ ไปซื้อข้างนอกจะแพงกว่า เราเลยซื้อ Set ที่ปันเล่นในห้องนอนกลับบ้านกัน ราคาถูกกว่าในประเทศ10-20%ได้ หากซื้อตามห้างทั่วๆไปในบ้านเรานะ
นอกจากแบบ Set ต่างๆ เลโก้เองยังมีแบบให้เราประกอปชิ้นส่วนเองในแบบของเราได้ เป็นราคาแบบ เหมา 3 ตัวตามภาพเลย
แบบนี้ผมชอบมากเพราะเราดีไซน์เองได้หมดในแบบLego เลย
หมดแล้วครับหลังจากนี้ได้เวลากลับกันแล้วอย่างที่บอกเราเลือกกลับออกไปทาง สิงค์โปร์ ก็ต้องรีบกันแล้ว
ดูเวลาเราเลยไม่รอรถเมล์พากลับแล้วเป้าหมายเราตรงดิ่งไปที่สถานีรถเลยใช้บริการ รถ Taxi ที่จอดอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าพอดีเลย
ที่สถานีรถบัสนี้จะมีรถของ Causeway พาเรานั่งกลับไปที่ฝั่งสิงค์โปร์ และเป็นจุดผ่าน ตม.ทั้งสองประเทศด้วย
การผ่าน ตม.ที่นี่ง่ายมากนะครับที่ต้องจำจริงๆก็คือ สายรถที่เรานั่งมา เวลาถึงจุดตรวจผ่านตม.เราก็เดินผ่านไปตามขั้นตอนไม่ต่างจากผ่านที่สนามบิน แต่ที่คนจะงงกันจริงๆก็คือ
ตอนข้ามไปประเทศฝั่งตรงข้ามแล้ว กรณีเรา คือผ่านไปสิงคโปร์ที่จุดผ่านแดน Woodlands ไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Kranji ของสิงคโปร์ หลังผ่านทุกอย่างแล้วก็แค่เดินลงไปรอรถสายเดิมที่นั่งมาแต่ไม่ต้องเป็นคนเดิมนะครับ แค่นี้เอง เช่นเลือก Causeway Link 1 หลังข้ามไปแล้วก็ให้ขึ้น Causeway Link 1 เหมือนเดิมเท่านั้น
หนูน้อยนั่งรถแอร์ไม่นานสลบไปแล้วล่ะ
รวมๆบอกเลยว่าใช้เวลาค่อนข้างเยอะนะครับกรณีนั่งกลับมาเพราะจากสถานีรถไฟฟ้า Kranji ดิ่งไปสนามบินใช้เวลาราวๆ 1ชั่วโมงเศษรวมเวลาเดินทางจาก Lego มาถึงสนามบินร่วม 4 ชั่วโมงได้เพราะงั้นตอนจองตั๋วให้เผื่อเวลาไว้เยอะหน่อยนะครับกันพลาดครับ
และเราทั้งบ้านก็มาถึงจุดสุดท้ายของทริปนี้แล้ว เราใช้สายการบิน Jetstar ที่จองไว้ตอนออกโปรดีๆพอดี จึงทำให้เกิดทริปนี้ขึ้นมาได้
หวังว่าเรื่องราวของเราคงจะช่วยให้คนที่จะไปเที่ยว Lego สามารถใช้ประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ทริปนี้ทั้งเหนื่อยและสนุกเพราะเดินทางเองหมด และเป็นการเดินทางข้ามสองประเทศด้วย สนุกและตื่นเต้นตลอดการเดินทาง มีโอกาส คงจะได้กลับไปเที่ยวสวนน้ำของเค้าอีกสักที
ท้ายนี้ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศมาเลเซียประจำประเทศไทยและ Legoland ที่ชวนและเชิญเราไปเปิดตาเปิดประเทศ มาเลเซีย และสวนสนุกที่น่ารักที่สุดในโลกแห่งนึง ที่ช่วยทำให้ความทรงจำในวัยเด็กโข่งออกมา พร้อมๆกับที่สร้างความทรงจำใหม่ๆให้เด็กน้อยได้รู้จัก เหล่า The Bricks เหล่านี้ได้ดีขึ้นไปอีก
ลากันตรงนี้จนกว่าจะได้พบกันใหม่นะครับ
สวัสดีครับ
4 Comments
BuaBlink Prommool via Facebook
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวตามไปชมนะค่ะ
Nina Nakkaraj via Facebook
หวังว่าต้นปีหน้าจะได้ไปบ้าง
Sutichar Saifar via Facebook
ตามไปชมคร้าบบบ 🙂
Piyanuch Piencharoensub via Facebook
น่าไปมากเลย มีที่พักด้วย